เมื่อคนสองคนตัดสินใจมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน หรือตัดสินใจแต่งงานกัน
จุดนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการมีชีวิตครอบครัว
ซึ่งจุดหมายปลายทางของแต่ละครอบครัวจะเป็นแบบใดนั้น
คงไม่สามารถคาดการณ์หรือบอกได้ว่า
คุณสองคนจะเดินทางไปด้วยกันจนถึงจุดหมายปลายทางดังที่ผู้เฒ่าผู้แก่ได้อวยพร
ไว้ในวันสมรสว่า“ขอให้ถือไม้เท้ายอดทองกระบอง
ยอดเพชร” ได้หรือไม่เพราะการที่คนสองคนต้องมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
ในช่วงระยะข้าวใหม่ปลามันอะไรๆ เราก็พอจะยอมได้
แต่เมื่อชีวิตคู่เดินทางไปซักระยะหนึ่ง ความเป็นตัวตน
นิสัยที่แท้จริงของแต่ละคนก็จะแสดงออกมา การจะให้เรามีนิสัยที่ถูกใจ
ดีพร้อมสำหรับอีกคนคงเป็นเรื่องที่ยาก
ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้คนสองคนที่มาจากต่างครอบครัว
ต่างการเลี้ยงดูสามารถมีชีวิตคู่ที่มีความสุข
หวานชื่นได้อย่างยืนยาวได้นั้น
ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งสองฝ่ายที่จะเรียนรู้และปรับตัวเข้าหากัน
หลักสำคัญที่จะช่วยรักษาความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ให้เข้มแข็งและมั่นคงยาวนาน
คือ
1. การยอมรับกันและกัน เป็นสิ่งสำคัญเบื้องต้นของการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
เพราะการที่คนสองคนต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันตลอดชีวิต ต้อเห็นหน้ากันทุกวัน
ต้องมีกิจกรรมทุกวันร่วมกัน ต้องปรึกษาหารือกันทุกวัน
แก้ปัญหาร่วมกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การยอมรับกันในทุกแง่มุมจะช่วยให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันโดยไม่ขัดแย้งทางความ
คิดและอารมณ์ ไม่รำคาญกัน ไม่เบื่อกัน ไม่ดูถูกกัน ไม่เกลียดกัน
ลักษณะการยอมรับกันและกันได้ มีเครื่องบ่งบอกต่างๆ เช่น
การมองอีกฝ่ายในแง่ดี พอใจในคู่ชีวิตทั้งรูปร่างหน้าตา สติปัญญา
ความคิดเห็นและจิตใจ จะช่วยทำให้ทั้งคู่สื่อสารกันได้อย่างราบรื่น
แม้ต่อการตอบสนองทางเพศสัมพันธ์ที่คู่สมรสมอบหมายให้
ยอมรับในตัวตนรวมไปถึงค่านิยมต่างๆ ของอีกฝ่ายหนึ่ง
2. อย่าคาดหวังว่า “คู่ครองของคุณ” จะสมบูรณ์แบบ
เพราะไม่มีใครที่จะสมบูรณ์แบบไปทั้งหมด
แม้แต่ตัวของเราเองยังมีทั้งจุดที่ดีและไม่ดี
การมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันจำเป็นต้องเรียนรู้
ที่จะพึงพอใจกับข้อดีของกันและกัน ยอมรับข้อเสียของกันและกัน
เราไม่สามารถคาดหวังว่าเราจะเข้ากันได้กับคู่ครองของเราทุกๆ เรื่อง หรือ
จะไปคาดหวังให้เขาทำในสิ่งที่เราต้องการ แต่ต้องอาศัยวิธี “การปรับตัว”
เข้าหากัน
ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเองและ/หรือปรับตัวให้ยอมรับสิ่งที่อีก
ฝ่ายเป็นบ้างเพื่อให้อยู่กับเขาอย่างไม่ต้องเป็นทุกข์
เพราะนิสัยบางอย่างไม่สามารถปรับกันได้
จึงอย่าคาดหวังให้มองส่วนที่ดีซึ่งกันและกัน
3. รู้จักที่จะสื่อสารกัน
ในทางจิตวิทยาถือว่าเป็นการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญอันหนึ่งของชีวิตคู่
เพราะการสื่อสารเป็นการใช้ภาษาเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจความคิด ความรู้สึก
และความต้องการของกันและกัน แต่ในความเป็นจริงที่พบในชีวิตคู่
ยิ่งอยู่กันนานคู่สามีภรรยาก็ยิ่งจะสื่อสารกันน้อยลงและคิดเอาเองว่าอยู่กัน
มาตั้งนานน่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดและต้องการอะไร
ซึ่งถ้ามาองแล้วเข้าใจถูกก็ดีไปถ้าแปลความหมายผิดก็อาจทำให้ครอบครัวมีปัญหา
ได้ ทางที่ดีควรเรียนรู้ที่จะพูดและแสดงออกว่าคุณรู้สึกอย่างไร
เพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าคุณกำลังรู้สึกอย่างไร ต้องการอะไร
4. การรู้จักขออภัยจากกัน
หากคู้สมรสยอมรับซึ่งกันและกันเท่าทีสามารถยอมรับกันได้และพยายามปรับตัวให้
มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ก็ยังมีเรื่องที่คู่ของเราทำในสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียใจขึ้นในความ
สัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งคู่ควรรู้จักให้อภัย
ไม่เก็บความโกรธแค้นขุ่นเคืองไว้ใจ สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีมากในชีวิตสมรส
5. การมีเวลาอยู่ร่วมกัน
หลังแต่งานคู่สมรสควรมีเวลาให้กัน เพื่อใช้เวลาในการอยู่ร่วมกัน
สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตคู่
เพราะการมีเวลาอยู่ร่วมกันยอมรับทำให้คุณสามารถสื่อสารกับคู่ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ต่างคนต่างต้องทำงานนอกบ้าน
เวลามีให้กันอาจจะไม่มากนัก
แต่คุณทั้งสองสามารถทำให้เวลาที่มีอยู่ในแต่ละวันมีคุณภาพอย่างแท้จริง
โดยการทำกิจกรรมที่พอใจและมีความสุขร่วมกัน
ตลอดจนคุณควรให้ความสนใจต่อสิ่งที่คุณชอบด้วยเช่น
อย่างไรก็ตามการมีช่องว่างในความสัมพันธ์ระหว่างกันบ้างย่อมเป็นเรื่อง
ธรรมดาและอาจเป็นสีสันในการใช้ชีวิตคู่
6. เพศสัมพันธ์ในชีวิตคู่
การสร้างความสมดุลในเรื่องเพศสัมพันธ์ ย่อมนำมาซึ่งความพึงพอใจของคู่สมรส
และถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ชีวิตคู่ราบรื่นและเป็นสุข
คู่สมรสจำเป็นต้องเรียนรู้ความต้องการของกันและกัน
รู้ว่าคู่ของเราชอบหรือไม่ชอบอะไร แบบไหนกันที่ทำให้คู่ของเรามีความสุข
เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงความสัมพันธ์ทางเพศให้พึงพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
7. เรียนรู้และทำความเข้าใจธรรมชาติความแตกต่าง ระหว่างเพศชายเพศหญิง
เพราะความแตกต่างระหว่างเพศส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมต่างกัน
ธรรมชาติผู้ชายจะชอบใช้เหตุผล
ไม่สนใจเรื่องความรู้สึกมีความสุขุมนิ่งและแข็งแรงมากกว่า
ต้องการความเป็นส่วนตัว กลัวการขาดอิสระ แต่ต้องการดูแลเอาใจใส่ ถืออำนาจ
เกียรติและศักดิ์ศรี ต้องการเป็นผู้นำ ไม่ชอบพูดเรื่องไร้สาระ
ไม่ชอบการถูกตำหนิ การบ่น ในขณะที่ผู้หญิงจะ
มีลักษณะตรงกันข้าม แต่หากมองว่านี่คือธรรมชาติที่แตกต่างกัน
และพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากันได้และรู้จักใช้ส่วนดีของแต่ละฝ่ายที่
ธรรมชาติสร้างมา เมื่อนั้นชีวิตคู่จะมีความสุข
8. รู้จักภาระหน้าที่ในครอบครัวและช่วยเหลือกัน สามี
ภรรยาจะมีบทบาทและหน้าที่ของตนเอง
โดยทั่วไปทั้งคู้จะมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการเป็นสามีภรรยา การหาเลี้ยงชีพ
ทำงานบ้าน และเลี้ยงลูก
ดังนั้นจึงควรคุยกันว่าแต่ละฝ่ายมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวมากน้อยเพียงใดและ
อย่างไร
9. การจัดการกับความขัดแย้ง
ความขัดแย้งถือเป็นเรื่องปกติของการใช้ชีวิตคู่
ดังนั้นเมื่อเกิดความขัดแย้ง
การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น
เพราะจะนำไปสู่การหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน จุดสำคัญในการพูดคุย
ไม่ควรพูดคุยกันในขณะที่อารมณ์โกรธ เพราะจะนำไปสู่การโต้ถียงกันมากกว่า
ควรรอให้ต่างฝ่ายต่างอารมณ์เย็นแล้วมาพูดคุยปรับความเข้าใจและร่วมกันแก้ไข
ปัญหาที่เกิดขึ้น
10. เสริมความรักให้เติบโต
เมื่อคู่สมรสต้องการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทั้งสองต่างก็ต้องการความรัก
ความเข้าใจ การดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ดังนั้นการแสดงออกว่ารัก
และเห็นคุณค่าของกันและกันอย่างสม่ำเสมอถือเป็นเรื่องสำคัญ
เพราะจะเป็นสิ่งที่จะช่วยในการหล่อเลี้ยงจิตใจของทั้งสองฝ่าย
11. บริหารจัดการเรื่องการเงิน
เพราะปัญหาเรื่องการเงินมักเป็นปัญหาใหญ่กับคู่สมรสใหม่เนื่องจากกำลังอยู่
ในช่วงสร้างครอบครัว และมีภาระที่ต้องใช้จ่ายมากกว่าชีวิตโสด ดังนั้น
คู่สมรสไม่ควรปิดบังกันในเรื่องการเงิน
ต้องการวางแผนร่วมกันเกี่ยวกันการใช้จ่ายเพื่อครอบครัว
โดยควรประหยัดและใช้เป็นเรื่องจำเป็น
ส่วนหนึ่งต้องกันไว้เป็นเงินออมสำหรับสมาชิกในอนาคต
ไม่ควรให้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นสาเหตุของปัญหาอื่น ๆ
ที่จะสร้างความขัดแย้งให้ชีวิตไม่มีความสุข
12. มีชีวิตที่เป็นของตนเองด้วย
เพราะถึงแม้ว่าทั้งคู่จะแต่งงานกัน
แต่ต่างฝ่ายต่างก็ยังมีความเป็นตัวของตัวเอง ดังนั้น
จึงไม่ควรรักหรือใส่ใจคนรอบข้างจะละเลยตนเองไปให้ระลึกไว้เสมอว่า
ไม่มีใครอยากรักหรือผูกผันกับคนที่ไม่รักแม้แต่ตนเอง
ไม่ดูแลตนเองเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากท่านรู้จักดูแลตนเอง
ท่านก็จะมีความพร้อมที่จะดูแลคนรักได้ดีเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น