คอลัมน์ คุยกับหมอพิณ โดย พ.ญ.พิณนภางค์ ศรีพหล
รู้ไว้ใช่ว่า! ประโยชน์จากการจดและนับ "ประจำเดือน"
คอลัมน์ คุยกับหมอพิณ
พ.ญ.พิณนภางค์ ศรีพหล
email:doctorpin111@gmail.com
สวัสดีค่ะ ผ่านพ้นวันหยุดยาว (เฟื้อย) กันไปแล้วนะคะ
ได้เวลากลับสู่ชีวิตจริง งานประจำ แล้วก็ได้แต่เฝ้ามองปฏิทินให้ถึงวันหยุดยาว (ไม่เฟื้อย) ในเดือนถัดไป
พูดถึงเรื่องปฏิทิน หลาย ๆ ท่านมักจะจดตารางนัด หรือสิ่งที่ต้องทำ เช่น
จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ บัตรเครดิต ลงในปฏิทิน สมุดเล่มเล็ก ๆ
หรือมือถือกันใช่ไหมคะ
วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง การ "จดประจำเดือน" กันค่ะ ว่าจะจดอย่างไร นับอย่างไร และจะจดไปทำไม จดแล้วมันดียังไงนะคะ
ก่อนอื่น
จะจดยังไงดี : ให้จดว่าเริ่มมาวันไหน ถึงวันไหนค่ะ
โดยปกติแล้ว คุณผู้หญิง จะมีประจำเดือนมา เป็นระยะเวลา 1-8 วัน ถ้ามากกว่า 8 วันถือว่าผิดปกติค่ะ ควรพบแพทย์
นับยังไงดี : การนับรอบเดือน
คือนับวันที่ประจำเดือนมาวันแรก เป็นวันที่ 1 ค่ะ นับไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งประจำเดือนรอบถัดไปมา ก็เริ่มนับ 1 ใหม่ โดยรอบเดือนปกติ
จะมีระยะเวลา อยู่ที่ 21-35 วันค่ะ
ดังนั้น น้อยกว่า 21 วัน หรือยาวนานกว่า 35 วัน ก็นับว่าผิดปกติเช่นกันนะคะ
จดไปทำไม จดแล้วมันดียังไง
1.รู้ทันรอบเดือน รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ และรอบเดือนสั้นยาวปกติหรือไม่ :
ในคุณผู้หญิงที่รอบเดือนมาสม่ำเสมอ การจด ก็จะสามารถทำให้คาดการณ์ได้ว่า
เดือนหน้ารอบหน้า ประจำเดือนจะมาประมาณวันไหนค่ะ เวลาจะออกไปเที่ยวไหน
หรือจะออกไปทำงาน จะได้เตรียมผ้าอนามัยใส่กระเป๋าไปด้วย
จะได้ไม่เกิดอาการประจำเดือนเล็ดราด วิ่งหาผ้าอนามัยให้วุ่นวายค่ะ
และอย่างที่กล่าวไปข้างต้น การจดก็จะทำให้เรารู้อีกด้วยว่า รอบเดือนเรา เป็นรอบเดือนที่ปกติหรือเปล่า ยาวไปหรือสั้นไปรึเปล่าค่ะ
2.รู้วันปลอดภัย : ในสตรีที่มีเพศสัมพันธ์
และชอบนับระยะปลอดภัยทั้งหลาย การนับระยะปลอดภัย ตามหลักการ คือควรจะ "จด"
ประจำเดือน มาอย่างน้อย 6 เดือน และเลือกเอารอบเดือนที่สั้นที่สุด
และยาวที่สุด มาคำนวณค่ะ
โดยเอารอบที่สั้นที่สุดมาลบ 18 รอบที่ยาวที่สุดมาลบ 11 เช่น
ถ้ารอบเดือนยาว 28-31 วัน ก็จะลบได้ 10, 20 จะได้ระยะอันตราย นั้นคือวันที่
10-20 (นับจากประจำเดือนที่มาวันแรกเป็นวันที่ 1)
ซึ่งนอกเหนือจากระยะนี้ก็จะนับว่าปลอดภัยค่ะ ใครสับสน งงงวย
จะหันกลับมาสูตรที่คุ้นเคย
"หน้าเจ็ด หลังเจ็ด" ก็ได้ค่ะ ก่อนอื่นต้องขอเตือนก่อนนะคะ
ว่าวิธีนี้ไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่ดีและชัวร์นัก
จะค่อนข้างดีในคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ (ดังนั้นจะรู้ว่าสม่ำเสมอหรือไม่
ก็ต้องจดใช่ไหมคะ)
ดังนั้น ถ้ายัง "ไม่พร้อม" จะเป็นแม่คน ไม่แนะนำวิธีนี้ค่ะ
และหน้าเจ็ดหลังเจ็ด ที่สาว ๆ นิยมจะนับกัน ส่วนใหญ่จะนับ "ผิด" นะคะ
เพราะชอบไปนับวันหมดประจำเดือนเป็นวันที่ 1 ดังนั้น เราก็จะได้
คุณแม่วัยรุ่น (ผู้นับวันพลาด) มาที่หน่วยฝากครรภ์กันมากมาย
ดังนั้นถ้าจะให้ถูก "หน้าเจ็ด" คือ ก่อนมีประจำเดือน 7 วัน ส่วน "หลังเจ็ด" คือ 7 วัน โดยนับวันที่ประจำเดือนมาวันแรก เป็นวันที่ 1
3.คาดเดาวันไข่ตกได้ :
สำหรับคนที่พร้อมอยากจะเป็นแม่คนเราสามารถคาดเดาวันไข่ตกได้ค่ะ โดยไข่จะตก
14 วันก่อนที่รอบเดือนครั้งถัดไปจะมาค่ะ ดังนั้น คนที่จดอย่างสม่ำเสมอ
ยิ่งเดาวันประจำเดือนครั้งถัดไปแม่นเท่าไหร่
โอกาสจะคาดคะเนวันไข่ตกก็จะแม่นยำตามไปด้วย เช่น ถ้ารอบสม่ำเสมอที่ 28 วัน
ไข่ก็จะตกวันที่ 14 ถ้ารอบเดือนสม่ำเสมอที่ 30 วัน ไข่จะตกวันที่ 16 ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น