วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ลาก่อนพุงน้อยๆ ฉันจะไม่ทนฟังคำว่า “ดุ่ย” อีกต่อไป

         ก็คนมันอยากจะใส่เอวลอย อยากจะโชว์หน้าท้องแบนราบทั้งวัน แบบไม่ต้องกังวลใจ
แต่ทำไม๊ ทำไม !! เหตุการณ์นี้มันถึงเกิดขึ้นซ้ำๆ... !!!

*REPLAY*
เมื่อหญิงสาวกลับเข้ามาถึงบ้าน ก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ วางมือทั้งสองลงบนซิงก์ มองเงาสะท้อนตัวเองในกระจกอย่างเจ็บปวด
“……เฮ้อออออออออออออออออ แฮ่กๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ว่าแล้วก็ปล่อยลมและหอบออกมาอย่างรุนแรง เนื่องจากกลั้นหายใจและแขม่วพุงมาอย่างต่อเนื่อง
หญิงสาวก้มลงมองผลงานของตัวเองในซิงค์น้ำ….
บร๊ะเจ้า… พุงกองเต็มซิงค์…
ต้องขอเกริ่นก่อนนะคะ
ว่าส่วนตัวพลอยเป็นคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่เนื่องจากปีที่ผ่านมาเรียนหนักมาก ><
จึงละเลยเรื่องอาหารการกิน รู้ตัวอีกทีกลายเป็นคนท้องอืด !!! คือพุงหญ่ายเมวิ๊กกกกก
เป็นวัฏจักรที่งดงามค่ะ เช้าตื่นมา พุงขนาดปรกติ มีย้อยบ้าง แต่พอตกเย็น..นี่มัน!!!คนท้องรึเปล่าาาาา!!
คือมันเป็น: ลมบวกไขมัน ในส่วนผสมที่พอดี๊ พอดี และเหมือนจะขยายต่อไปได้ไม่สิ้นสุด

และแล้วหลังจากที่ทนทรมานมาแรมปี (มันอึดอัดจริงๆ นะเฮ้ย!)
พลอยก็ค่อยๆ ลองผิดลองถูก อะไรดีไม่ดี กินอะไรอืดไม่อืด
ทำอะไรแล้วย้วย ป่อง เป็นพิเศษ
จนค่อยๆ หาย ตอนนี้บวกกับการออกกำลังกาย(ตามปรกติ ไม่โหม) ท้องกลับมาเหมือนเดิมแล้วจย้าาา !!!
เห็นว่าหลายๆ คนมีปัญหาคล้ายๆ กันเลยอยากจะมาแชร์วันนี้ ยังไงก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ ^^
นิดนึงก่อนอ่าน*
- เนื้อหาในนี้ อาจมีผิดหลักวิทยศาสตร์ไปบ้าง เนื่องจากตัวเองลองเอง เป็นประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ จ้า
- รูปภาพมีติดเครดิต เนื่องจากมีคนนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต หากทำให้ใครรำคาญอย่างไร พลอยต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
- สาเหตุที่ทำกระทู้นี้ เพราะอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ได้อ่านกัน อาจได้ผลไม่เหมือนกันในบางท่าน ยังไงก็ต้องขอความกรุณาทุกท่านให้ใช้วิจารณญาณด้วยนะคะ ^^ ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ
1. “จิบ”น้ำ ทีละน้อยๆ บ่อยๆ ตอนท้องว่าง

ดิฉันเข้าใจค่ะ..ว่าเมืองไทยมันร้อน ! เข้าใจถึงความกระหาย(น้ำนะจ๊ะ)ที่อาจเกิดขึ้นได้
อย่าเข้าใจผิด! ดิ้มน้ำดีจริงค่ะ แต่พลอย ดื่มแบบไม่ลิมหูลืมตา ไม่ดูหน้าดูหลัง ดื่มไม่บันยะบันยังกันเลยทีเดียวค่ะ
จาก ประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว เมื่อไหร่ที่เราดื่มน้ำแบบเยอะๆรวดเดียว หรือดื่มทันทีหลังอาหาร หน้าท้องจะออกมาเซย์ฮัลโหลทั้งวันเลยทีเดียว T T ตัวจะบวมอืดขึ้นมาทันที
เพราะฉะนั้นนะคะ .. การดื่มน้ำ ขอให้ดื่มทีละน้อยๆ บ่อยๆ เอาเป็นว่าจิบๆพอ ถ้าจะให้ดี ดื่มก่อน-หลังอาหารครึ่ง ช.ม. ได้จะดีเมิ๊กกก อย่ากระซวกเข้าไปทันทีหลังทานข้าวนะคะ
ออกกำลังกายเสร็จ อย่ากระดกดื่ม เอื๊อกๆๆๆๆๆๆๆ เก๊าลองมาแล้ว มันไม่เวิร์ค!!!
จิบแบบ อิ๊กๆๆ ทีละจิ๊ด ไปเรื่อยๆ จนหายอยาก ดีกว่ากระซวกทีเดียวหมดขวดนะเคะ !
ลองทำไปเรื่อยๆ แล้วจะเริ่มชินเองค่ะ จิบๆๆๆๆๆน้ำ ให้ได้วันละ2 ลิตร ^^
2. ผลไม้..ตอนท้องว่าง


ขนมหลังอาหาร..ดิฉันงดค่ะ กลัวอ๊วนนน! ทานผลไม้จานเล็กสวยๆ แทนดีกว่า → ผิดค่ะผิด !!!!!!
เป็นความคิดที่ดีและน่าชื่นชมมากค่ะที่จะลดขนมและหันมาทานผลไม้..แต่!
เมื่อผลไม้ถูกย่อย จะเกิดกระบวนการfermentation พูดง่ายๆทคือมันปล่อยแก๊สออกมาเยอะ!
เมื่อท้องมีแก๊สเยอะ มันก็อืดสิคะ! นี่รวมถึงอาหารกากไยสูง และโยเกิร์ตด้วยค่ะ
จากประสบการณ์ส่วนตัว ทานผลไม้ตอนท้องว่าง หรือก่อนอาหารครึ่งชั่วโมงจะดีที่สุดค่ะ ท้องไม่อืดเท่าไหร่
หรือไม่ก็ทานก่อนอาหาร ให้มันได้ย่อยก่อนสักนิด แล้วค่อยตามด้วยข้าว
อย่าให้ทั้งผลไม้ทั้งอาหารเข้าไปแออัดกันในท้อง แข่งกันปล่อยแก๊ส แข่งกันอืดเลยนะคะ
ทานผลไม้รสไม่หวานจัดแบบพอดีๆ ตอนท้องว่างกันดีกว่านะคะ ^^
3. เกลือ น้ำตาล = บวม

น้ำตาล เครื่องเทศ สารพัดของกุ๊กกิ๊ก ทั้งหมดคือส่วนผสมในการสร้างสาวน้อยสมบุรณ์แบบ
แต่เกลือ กับน้ำตาล คือส่วนผสมในการสร้างพุงบวมน้ำสมบูรณ์แบบนะจ๊ะ จงท่องไว้
เกลือมันสามารถดูดเก็บน้ำได้ น้ำตาลก็เหมือนกันค่ะ
เพราะ ฉะนั้น หากเราทานอาหารที่ปรุงพวกนี้หนักๆ หรือทานขนมอย่างเลย์ พุงน้อยๆ ของเราก็จะมีความสามารถในการขยายตัวได้ยิ่งกว่าลงเวทมนตร์อีกค่ะ ^^;;
4. หม่ำมื้อสุดท้าย 4 ชั่วโมงก่อนนอน

ถ้าอยากตื่นมาแบบหน้าท้องแบนราบ ไม่อึดอัด เราควรจะให้ท้องของเราได้พักบ้าง
กล่าวคือ 4 ชั่วโมงก่อนนอน หลีกเลี่ยงการทานอาหารหนักๆ ทางที่ดีดื่มแต่น้ำ หรือนม จะดีมากค่ะ
ด้วยความที่พลอยเป็นคนอยู่เพื่อกิน หิวขนมตลอดเวลา
จึงเป็นอะไรที่ทำยากมากกกก ^^” ตื่นมาพุงจะป่องๆ เหมือนมีข้าวของวันที่แล้วค้างอยู่ อึดอัดดีเชียว
พอลองทำวิธีนี้ต่อเนื่องสักอาทิตย์ ท้องก็เริ่มยุบค่ะ
พุทโธ ธรรมโม ท่องไว้ กินไปท้องจะไม่ยุบหนออออออ !!
สี่สเต็ปที่พูดมา.. ทำไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ^^
พลอยเห็นว่าตอนนี้ทุกคนกำลังฟิตมากๆ ออกกำลังลังกายกันอย่างสม่ำเสมอ
(มี T25 ที่เห็นคนเล่นเยอะมาก อยากจะไว้ลองบ้างเหมือนกัน ><)
เลยกำลังชั่งใจอยู่ ว่าจะลงท่าออกกำลังกายหน้าท้องง่าย ๆสัก 2-3 ท่าไว้ดีไหม ยังไงคอมเม้นบอกไว้นะคะ

สุดท้ายแล้วพลอยขอฝากไว้ว่า
ตัวเราเป็นอะไรก็ได้ที่เราอยากเป็น อย่างที่เขาว่า..ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว*
หากเราอยากจะเป็นคนที่ดีขึ้น มีสุขภาพที่ดีขึ้น ขอให้ตั้งใจทำ
เริ่มตอนนี้เลยค่ะ หากเราไม่ท้อถอย วันนั้นที่เราพูดว่า “ฉันทำได้แล้ว” ต้องมาถึงแน่ๆ
ขอให้ทุกคนมีสุขภาพกายใจที่ดีขึ้นๆ มองหาแต่สิ่งดีๆ ให้ตัวเองนะคะ


ความสวย ความดูดี แล้วแต่ใจเรามอง*
ไม่ต้องเอาตัวเองไปเทียบกับใคร แต่หันมาเป็นเวอร์ชั่นดีที่ที่สุดของตัวเองกันดีกว่านะคะ ;)

ใส่ใจเรื่องสี… สุขภาพก็ดีขึ้น

          เคยมองสีบางสีแล้วอยากอาหารมากขึ้นมั้ย? เคยหลับสบายขึ้นแค่เปลี่ยนสีห้องนอนหรือเปล่า? คุณไม่ได้มโนไปเองหรอก งานวิจัยหลายชิ้นคอนเฟิร์มแล้วว่าสีมีอิทธิพลต่อสุขภาพของคุณจริงๆ

รอบตัวของเราเต็มไปด้วยสีสันมากมาย ทุกครั้งที่เรามองสีสักสีหนึ่ง ความยาวคลื่นและความถี่ของสีนั้นๆ ก็จะเข้าไปกระตุ้นให้ต่อมไพเนียลที่สมอง ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์บัญชาการต่อมและอวัยวะต่างๆ อารมณ์ ความรู้สึก ตลอดจนฮอร์โมนในร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงไปเมื่อได้สัมผัสกับสีที่แตกต่าง กันนั่นเอง เรามาดูกันหน่อยมั้ยล่ะว่า สีอะไรดีกับเรื่องไหนกันบ้าง
สีเขียว สดใส ออกกำลังกายได้มากขึ้น
เคยมั้ย? เวลาออกกำลังกายในสวน คุณจะรู้สึกว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องง่ายขึ้น เหนื่อยช้าลง สภาพอากาศที่ดีกว่าในห้องแอร์ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนก็คืออิทธิพลของสีนี่แหละ งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Environmental Science & Technology พบว่า นักปั่นจักรยานส่วนใหญ่รู้สึกว่าปั่นได้สบายขึ้นเมื่อมองไปแล้วเห็นสีเขียว ทั้งนี้ เป็นเพราะสีนี้คือสีของธรรมชาติ ดึงดูดความสนใจของเราไปที่บรรยากาศ ไม่จดจ่ออยู่ที่การออกกำลังเพียงอย่างเดียว
Try This ถ้าคุณชอบเล่นฟิตเนส หรือไม่อยากเผชิญอากาศร้อนๆ ในสวนก็ไม่เป็นไร ลองเพิ่มสีเขียวเข้ามาในบริเวณที่คุณไปออกกำลังกายเป็นประจำสิ อาจจะเป็นเสื่อโยคะสีเขียว หรือถ้าชอบออกกำลังกายในห้องก็ปูพรมสีเขียวเข้าสักมุมหนึ่งก็ได้
สีส้ม อาหารจะอร่อยขึ้น
ระวัง! บางทีคุณอาจจะสวาปามมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะว่าพลังจากสีก็ได้ นักวิจัยชาวสเปนได้ตีพิมพ์ ผลงานลงในวารสาร Sensory Studies พบว่า อาหารที่เสิร์ฟในจานสีส้มจะมีรสชาติหวานและอร่อยขึ้น และช็อกโกแลตที่เสิร์ฟในถ้วยสีส้มและสีเหลือง ก็มีรสชาติอร่อยกว่าช็อกโกแลตแบบเดียวกันที่เสิร์ฟในถ้วยสีอื่น จึงมีความเป็นไปได้ว่าอิทธิพลของสีก็มีผลต่อต่อมรับรสของเราด้วย (นี่อาจเป็นสาเหตุที่ร้านอาหารส่วนใหญ่มักจะใช้ไฟสีเหลืองและตกแต่งในโทนสี ส้มก็เป็นได้!)
Try This ถ้าคุณรู้สึกเบื่ออาหาร หรือ อาหารเพื่อสุขภาพที่ปรุงรสไม่จัด ใส่น้ำตาลน้อยๆ รวมไปถึงพวกเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพต่างๆ มันไม่ถูกปากไม่อร่อยลิ้น งั้นก็เปลี่ยนจาน ชาม แก้วน้ำในบ้านให้เป็นสีส้มดูสิ คุณอาจจะรู้สึกว่าอาหารพวกนี้อร่อยขึ้นก็ได้
สีเหลือง สีแดง สมาธิดี สมองแอ็กทีฟ
ทั้งๆ ที่เส้นตายวันส่งงานใกล้เข้ามาทุกที แต่คุณก็ยังรู้สึกว่าสมองช่างว่างเปล่าคิดอะไรไม่ค่อยออก อย่างนี้ต้องดึงสติและสมาธิกลับมาด้วยสีโทนร้อนซึ่งเป็นสีแห่งพลัง อย่างเช่น สีเหลือง สีแดง (รวมทั้งสีส้ม) ซึ่งในบรรดาสีเหล่านี้ Leatrice Eiseman กรรมการผู้จัดการของสถาบัน Pantone Color สหรัฐอเมริกา บอกว่า “สีแดงจะกระตุ้นการหลั่งอะดรีนาลีนและสีส้มที่มีสีแดงผสมเหลืองก็เป็นสีที่ มีพลังกระตุ้นสมองมากที่สุด เพราะชวนให้เรานึกถึงดวงอาทิตย์”
Try This ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องจัดชุดสีส้มทั้งตัวไปทำงานทุกวัน แค่เลือกใช้เครื่องประดับสีส้มบางชิ้น แต่งหน้าในโทนสีส้ม ใช้โพสต์อิตสีส้ม หรือตกแต่งโต๊ะทำงานด้วยสีส้มก็โอ.เค. อ้อ! ติดส้มไว้ที่โต๊ะทำงานสักผล เป็นของว่างกระตุ้นสมองอย่างดีเลยล่ะ
สีชมพู เป็นมิตร อารมณ์ดี
สีชมพูนี้ไม่ได้เป็นแค่สัญลักษณ์สากลที่สื่อถึงความรักเท่านั้น แต่อิทธิพลของสีเกี่ยวข้องกับการผูกมิตรเช่นกัน หากคุณรู้สึกว่าอารมณ์แปรปรวน ตื่นเต้น วิตกกังวล หรือพร้อมจะปรี๊ดแตก ลองมองไปที่สีชมพูใกล้ตัวดู พลังของสีชมพูจะแผ่เอาความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ และอารมณ์ในด้านบวกออกมา นอกจากนี้งานวิจัยจาก American Institute for Biosocial Research ยังพบว่าแม้แต่ในนักโทษ สีชมพูก็สามารถช่วยลดพฤติกรรมก้าวร้าวลงได้… ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ
Try This หากคุณเพิ่งเข้าทำงานใหม่หรือเปิดบ้านต้อนรับใครสักคน ลองหาของสีชมพูมาประดับหรือไว้ใกล้ตัวดูสิ แล้วบรรยากาศแห่งความเป็นมิตรจะอยู่รอบๆ ตัวคุณ
สีฟ้า หลับสบาย ตื่นอย่างสดชื่น
ไม่มีอะไรดีต่อสุขภาพมากไปกว่าการได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ หากคุณนับแกะเป็นร้อยก็ยังนอนไม่ค่อยหลับ เปลี่ยนที่นอน หมอน ผ้าห่ม ให้นอนสบายก็ยังรู้สึกหลับไม่สนิท หรือทั้งที่นอนเกินแปดชั่วโมงแต่พอตื่นขึ้นมา ตอนเช้าก็รู้สึกอยากล้มลงไปนอนต่อ ถ้าอย่างนั้นลอง
เปลี่ยนสีห้องนอนเป็น สีฟ้าหรือสีน้ำเงินดูดีมั้ย? สีโทนนี้จะช่วยให้ระบบประสาทของคุณผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล คุณภาพการนอนของคุณก็เลยดีขึ้นนั่นเอง
Try This หากคุณรู้สึกว่าการทาสีห้องใหม่เป็นเรื่องยุ่งยากวุ่นวาย ถ้าอย่างนั้นก็ใช้การติดวอลเปเปอร์สีฟ้า หรือเลือกปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม เป็นสีในโทนนี้แทนดูสิ
”92% คือจำนวนของคนที่ยอมรับว่าสีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าสักชิ้นหนึ่ง”
Note: สำหรับสาวๆ ที่มีคู่ ถ้าคุณรู้สึกว่าช่วงนี้ชีวิตรักไม่ค่อยซู่ซ่าเท่าไหร่ ผลสำรวจจากแดนผู้ดีแนะนำให้คุณเพิ่มแอ็กเซสซอรี่ สีม่วง เข้าไปในห้องนอน แล้วเรื่องบนเตียงจะแฮปปี้ขึ้นด้วยนะ
Did You Know?

สาว แว่นทั้งหลายจ๋า รู้มั้ยว่าสีของกรอบแว่นตามีผลต่อภาพลักษณ์ของคุณในสายตาของคนอื่นด้วยนะ งานวิจัยพบว่าหากใช้กรอบแว่นตาสีดำจะดูมีความมั่นคง น่าเชื่อถือ ส่วนสีที่ใครๆ ก็โหวตโนไม่แนะนำให้ใส่เลยก็คือ สีเขียว

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สามี หนีหน้าที่ได้หรือ? : คอลัมน์ ฎีกาชีวิต

คอลัมน์ ฎีกาชีวิต
โดย พิศิษฐ์ ชวาลาธวัช
 
คู่สมรสอาจเกิดปัญหารุนแรงถึงขั้นแตกหักจนยากจะทนอยู่ร่วมชีวิต กันได้อีกต่อไปทางเลือกที่ไม่อื้อฉาวคือพูดคุยกันเสียก่อนถ้ายอมรับเหตุและ ผลกันได้ก็ไม่ต้องมีความจำเป็นยื่นคำขาดขอหย่าหรือใช้สิทธิทางศาลชายหรือ หญิงฝ่ายใดขาดความซื่อสัตย์ไม่เคารพหน้าที่ที่มีต่อกันจะพบชะตากรรมเดียวกัน
ความซื่อสัตย์ของชีวิตคู่พึงรักษากันไว้ให้มั่นคงคือรากฐานสำคัญของครอบ ครัวฝ่ายใดไม่ซื่อสัตย์ไม่เคารพหน้าที่คือต้นเหตุแห่งปัญหาจะเป็นผลร้ายแรง ต่อชีวิตครอบครัวอาจเกิดจากสามีจะไปติดพันหญิงอื่นภริยาปากร้ายใจดีชอบดู หมิ่นเหยียดหยามสามีเลยเถิดไปถึงบุพการี หรือเข้าบ่อนติดการพนัน เป็นอาทิ
เพียงแต่ว่าถ้าฝ่ายใดพอมีสติกันอยู่บ้างอาจเตือนสติฝ่ายก่อเหตุให้รีบ แก้ไขเสียและขอให้คิดถึงความรักความดีงามการเสียสละและชีวิตของลูกๆซึ่ง กำลังเติบใหญ่มีพ่อแม่อยู่กันพร้อมหน้าปัญหาใดเข้ามาก็แก้ไขกันได้ถ้าพ่อแม่ แยกกันอยู่เพราะหย่ากันแล้วจะเกิดผลร้ายตามมาต่ออนาคตของลูกได้
เมื่อมีเหตุจะเชื่อเช่นนั้นก่อนหย่าให้แยกกันอยู่กันชั่วคราวจะด้วยวาจา หรือจะเป็นลายลักษณ์อักษรให้รีบทำเถิดเพื่อให้โอกาสคนก่อเหตุมีเวลาแก้ไข ปัญหาก่อนที่จะตัดสินใจหย่ากัน
ข้อตกลงแยกกันอยู่สามีอยู่บ้านหนึ่ง ภริยาอยู่อีกบ้านหนึ่งถือว่ามีผลบังคับกันได้ไม่ขัดต่อศีลธรรมและกฎหมายแต่ สิ่งที่ต้องตระหนักทั้งสามีภริยาต่างมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูต่อกันอย่า ลืม..แกล้งลืม...
ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา(ยังไม่ได้มีการหย่า) ต่างต้องอยู่กินด้วยกัน (อาจแยกกันอยู่ชั่วคราวได้) ต่างต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐานะของตน (มาตรา 1461) ค่าอุปการะเลี้ยงดูจึงผูกพันเสมือนหนึ่งเงาตามตัวทั้งสามีและภริยาไม่อาจ หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบต่อกันได้
สิ่งที่คู่สมรสควรตระหนักไว้ว่า "ตราบใดที่การสมรสไม่สิ้นสุดลงด้วยความตายก็ดี การหย่าก็ดี หรือศาลพิพากษาให้เพิกถอนการสมรสก็ดี สามีภริยาต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันไป"
เพราะถือว่าสามีภริยาคู่นั้นยังไม่หย่าขาดจากกันตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ในมาตรา1501ต่างต้องมีหน้าที่ต่อกันจนกว่าจะหย่า(ดูคำพิพากษาฎีกาที่ 2627/2530)
มีหลายกรณีเกิดขึ้นในศาลขณะที่สามีภริยาแยกกันอยู่ชั่วคราวเพื่อแก้ไข ปัญหาที่ยังไม่ลงตัวระหว่างนั้นเกิดปัญหาตามมาถึงขั้นมีการฟ้องร้องต่อศาล และสู้คดีกันถึงสามศาลจึงขอนำมาเป็นตัวอย่างเทียบเคียงกับชีวิตจริงดั่ง อุทาหรณ์สองเรื่องอ่านแล้วจะรู้เข้าใจถึงหน้าที่ของสามีภริยาที่มีต่อกัน
ศาลพิพากษาให้สามีต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูภริยาเป็นรายเดือนเหตุเพราะ โจทก์หรือสามีมีฐานะดีกว่าจำเลยคือภริยา(คำพิพากษาฎีกาที่3822/2534) หรือ
ภริยาสมัครใจแยกกันอยู่กับสามีชั่วคราวทั้งๆ ที่เธอไม่ได้เป็นฝ่ายก่อเหตุสร้างปัญหา เธอกระทำด้วยความสุจริตใจแม้ใจจะขมขื่นเพียงใดก็ตาม ภริยาอาจอยู่ในฐานะพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งหลังแต่งงานถูกสามีขอร้องให้ออกจากงานมาทำหน้าที่ดูแลบ้านเรือนและรับภาระเลี้ยงลูก
ครั้นมีเหตุแห่งปัญหาสามีอาจไปติดพันหญิงอื่นหรือเหตุใดก็ช่างเถอะแต่จำ ต้องแยกกันอยู่ชั่วคราวหลังจากนั้นสามีปฏิเสธจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูทั้งๆ ที่มีความสามารถอุปการะเลี้ยงดูภริยาได้
คิดว่าแยกกันอยู่ชั่วคราวตัวใครตัวมันหาได้ไม่ ความรับผิดชอบยังติดตามตัวสามี
สามีมีงานการทำเป็นปึกแผ่นมีรายได้แน่นอนเป็นรายเดือนหรือมีอาชีพค้าขาย ก็ได้ครั้นเกิดปัญหาไม่อาจลงตัวอาศัยเวลาช่วยคลี่คลายแก้ไขเหตุสามีจะ ปฏิบัติกับภริยาตนเองเสมือนหนึ่งเธอมีรายได้จากงานประจำแต่ความเป็นจริงเธอ ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านมีหน้าที่ต้องเลี้ยงลูกและไม่มีรายได้เหมือนก่อน
ไม่ใช่สิ่งถูกต้องยุติธรรมกับภริยาและแม่ของลูก สภาพความเป็นจริงบังคับให้เธอไปหยิบยืมเงินคนอื่นได้นานเท่าใดกัน สามีอยู่ใกล้ชิดรู้อยู่แก่ใจดีกว่าคนนอกและควรตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ยกมา กล่าวไว้ว่าเธอยังอยู่ในสถานะของภริยาและสามีจะปฏิเสธหน้าที่อุปการะเลี้ยง ดูภริยาได้อย่างไรกัน
หน้าที่ของสามีที่ดีต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบเสมอ
เรื่องทำนองนี้หากมีคดีขึ้นสู่ศาล คิดหรือว่าชายผู้เป็นสามีจะหนีหน้าที่ที่มีต่อภริยาได้กระนั้นหรือ? คำตอบคือไม่อาจหนีพ้นความรับผิดชอบต่อภริยาได้ครับ (ดูคำพิพากษาฎีกาที่ 5627/2530)

วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

แคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ

แคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Calcium Score)
แคลเซียม หรือหินปูนมาจากไหน


แคลเซียม หรือหินปูนที่หัวใจนี้ อาจเกาะอยู่ที่ผนังหลอดเลือด ที่ลิ้นหัวใจ หรือที่เยื่อหุ้มหัวใจ ที่ควรระวังคือหินปูนที่เกาะที่ผนังหลอดเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ หัวใจ ซึ่งเกิดจากการเสื่อมสภาพของหลอดเลือดแดง และจะเกิดขึ้นก่อนเกิดอาการของโรคหัวใจนานหลายปี จากการศึกษาพบว่าปริมาณแคลเซียมนี้สามารถทำนายโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือดได้ นอกเหนือจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือการสูบบุหรี่ ภาวะแคลเซี่ยมเกาะที่หลอดเลือดนี้ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากหลอดเลือดอุดตันเฉียบพลัน

ใครคือผู้ที่ควรตรวจแคลเซี่ยมในหลอดเลือดหัวใจ
สมาคมโรคหัวใจแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้แนะนำว่าผู้ที่สมควรได้รับการตรวจแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ คือ
- ผู้ป่วยทั่วไปที่อายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป
- ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงระดับปานกลางของการเกิดโรคหัวใจ
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคไตวาย

จาก คำแนะนำของสมาคมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษาเบาหวานในสหรัฐอเมริกา ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยที่มีอายุมาก และผู้ป่วยโรคไตวายที่ไม่สามารถตรวจหัวใจด้วยการเดินสายพานตามวิธีมาตรฐาน ได้นั้น การตรวจแคลเซียมในหลอดเลือด ถือว่าเป็นมาตรฐานการตรวจหัวใจที่ดี
ตรวจแล้วได้ประโยชน์อะไร
เนื่องจากผลการตรวจ แคลเซียมจะช่วยให้เราทำนายโอกาสเกิดและการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ และยังช่วยเป็นข้อมูลประกอบการเลือกมาตรการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ตีบในผู้ป่วยแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม คะแนนแคลเซี่ยมที่หัวใจสูงหมายความว่ามีความเสี่ยงมาก ซึ่งต้องพิจารณาให้ยาทันที

ทำไมต้องค้นหาคนที่มีความเสี่ยง
เพราะ การป้องกันโรคนี้ สามารถทำได้ง่ายๆ และทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะเสี่ยงมากหรือน้อย เช่น การงดบุหรี่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดอาหารไขมัน พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด งดสูบบุหรี่ โดยเฉพาะถ้าเป็นความดันเลือดสูงและเบาหวานก็จะได้ปรับพฤติกรรมและดูแลตัวเอง มากขึ้น โดยควบคุมความดันโลหิตให้ไม่เกิน 140/90 มม.ปรอท และไขมัน LDL ต่ำกว่า 130 mg%
การตรวจวัดปริมาณแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ ใช้เวลาตรวจรวดเร็ว ด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ ความเร็วสูง 128 slice และไม่ต้องฉีดสีสวนหัวใจ ภาพที่ได้จากการตรวจวิธีนี้จะมีความคมชัดเนื่องจากเครื่องมีความเร็วใน การจับภาพสูงมาก สามารถจับภาพขณะที่หัวใจเต้นได้ดี และจะบอกถึงปริมาณหินปูนที่สะสมอยู่ในผนังหลอดเลือดหัวใจได้ แม้ในปริมาณที่น้อย จึงเป็นการตรวจที่หาภาวะความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเริ่มต้นในคน ปกติได้เป็นอย่างดี
เครื่องเอ็กซ์เรย์ นี้ จะวัดปริมาณหินปูนเป็นตัวเลข เด็กแรกเกิด ที่มีหลอดเลือดปกติ ค่าจะเป็นศูนย์ เมื่ออายุมากขึ้น ก็อาจจะพบหินปูนได้บ้าง แต่ ไม่ควรเกิน 200 – 400 ถ้าเกิน 400 จะยิ่งมีความเสี่ยงสูงมากๆ
นายแพทย์ประพนธ์ ดิษฐ์รุ่งโรจน์
อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ

หนัง ความรัก อกหัก (มะเร็ง) จุดเปลี่ยน “โดนัท มนัสนันท์“

เมื่อเอ่ยชื่อ "โดนัท มนัสนันท์" หลายคนรู้จักเธอในฐานะนางเอกละคร แต่ใครจะรู้ว่าอีกหนึ่งบทบาทที่สาวร่างเล็กคนนี้เธอทำได้จริงและทำได้ดีกับ การเป็น "ผู้กำกับ" โชคไม่ได้ช่วยให้เธอเดินมาสู่จุดนี้ มีแต่ความตั้งใจและพรแสวงล้วนๆ ที่นำพาฝันเล็กๆ ของเธอให้ก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง

ก้าวแรก บนความฝัน สู่เก้าอี้ผู้กำกับ
"โดนัทเริ่ม ทำงานเบื้องหลังมาหลายปีแล้วทั้งงานโฆษณา ทำหนังสั้น ทำมิวสิกวีดีโอ แต่ช่วงนี้จะชัดเจนมากเพราะได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง 3-4 เดือนที่ผ่านมาทำไม่หยุดเลย มีหนังเฉลิมพระเกียรติ หนังยาวเป็นของตัวเองคือ Love Sucks รักอักเสบ"
"ที่เริ่มทำงานเบื้องหลังเกิดจากความเบื่อของเราเองที่ก่อนหน้านี้เรา เล่นละครมาเกือบครบทุกบทบาทแล้วทั้งเป็นคนดี คนบ้า เป็นผีก็เล่นมาแล้ว พอเริ่มเล่นละครไปเยอะๆ เหมือนคนหมดแรงบันดาลใจ ในการทำงาน มันเลยต้องหาพื้นที่ในการขยับไปทำอย่างอื่น ไม่อย่างนั้นเราจะเบื่อหรือทำในสิ่งที่เราทำอยู่ได้ไม่ดี"

คำถามวัดใจ ทำได้จริงไหม"ตอนเรียนโดนัทเลือกเอกการ แสดงและกำกับ แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะไปทางไหนดี และไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะกำกับหนังได้แต่เรารู้ตัวว่าเราสนใจสิ่งนี้มาโดย ตลอด ดูหนังมักจะมีคำถามถึงมันว่าเราทำได้ไหม เราจะทำหนังเรื่องนี้ ละครเรื่องนี้ได้หรือเปล่า อยากรู้ขั้นตอนการทำงานของมัน พอเริ่มเกิดคำถามเยอะเลยตัดสินใจไปเรียนคอร์สสั้นๆ เลือกเรียน Digital film Marketing ที่ New York Film Academy การเรียนของโดนัทไม่ได้ทำให้เราเก่งขึ้น แต่ทำให้เราเข้าใจวิธีการขั้นตอนการทำงานให้เป็นระบบมากขึ้น "
ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักหมดใจ"ไม่เคยคิดเลยว่างานกำกับ จะทำให้เราหลงรักมากขนาดนี้ ความรู้สึกมันค่อยเป็นค่อยไป การกำกับงานแต่ละอย่างของโดนัทคือบทต้องเสร็จ นักแสดงต้องมี โอกาสมาซ้อมทั้งหมด มีการทดลองเล่นว่าเขาเล่นได้กี่ระดับ ถ้ามีเลิฟซีนเขาต้องเคยจูบกัน ต้องจับมือกัน ต้องมีแบคกราวด์ตัวละครด้วยกัน ก่อนที่จะไปถึงหน้าฉาก บางทีหน้าฉากทุกอย่างถูกบีบด้วยเวลา เราเลยต้องทำตรงนี้ไว้ให้เขาก่อน เพื่อทำให้เขามั่นใจกับการแสดง"

ชั่วโมงบินสูง สู่ความเป็นมืออาชีพ"จากประสบการณ์ โดนัทว่าการแสดงมันเป็นเรื่องแปลกจะมีวันที่ดีและไม่ดี วันที่เราแสดงได้ดีที่สุดคือวันที่เราไม่คิดอะไรเลย เราจึงหยิบข้อสังเกตนี้และให้ความสำคัญมาก นักแสดงต้องมีการซ้อม ต้องมีแอคติ้งโค้ช เพราะบางทีการเป็นผู้กำกับเราดูภาพรวมทั้งหมด หรือบางทีอยู่หน้าฉากเราไม่ได้ใจเย็นมานั่งอธิบายความลึกซึ้งของบทบาทด้าน อารมณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เลยอยากให้ข้อมูลเขาตรงนี้ให้ได้มากที่สุด
ชิมลางการสู่การเป็นผู้จัดละคร
"โดนัทไม่รู้ว่าคน อื่นมองภาพผู้จัดละครยังไงนะคะ แต่เรายังมองภาพผู้จัดเหมือนเป็นคนทำงานคนหนึ่ง งานนี้เกิดขึ้นปีที่แล้ว หลังจากเรียนจบคอร์สและกลับมาเมืองไทย คุยกับเพื่อนว่าเราอยากทำละคร เพื่อนเลยพลอตเรื่องขึ้นมาและเอามาผสมกัน จึงตั้งชื่อว่า "เดือนประดับดาว" จากนั้นได้ไปคุยกับช่อง 3 รออยู่ประมาณ 2 เดือน พี่สมรักษ์ถึงติดต่อกับมาและถามว่ามีเรื่องอื่นไหม โดนัทบอกมีเรื่องเดียวแต่นำเสนอในอีกมุมนึง วันรุ่งขึ้นพี่สมรักษ์ โทรมาบอกว่าเขาเลือกเรื่องนี้ ตกใจมากเพราะมันเป็นสิ่งที่เราไม่คิดมาก่อน หน้าที่คือต้องกลับมาทำงานกันหนักมาก ตอนนี้บทเสร็จแล้ว 24 ตอน มีแพลนจะเปิดกล้องเดือนเมษายนนี้"

แรงบันดาลใจ...ต้นแบบแห่งศรัทธา"โดนัทชอบดูหนัง ฝรั่งที่เป็นเนื้อหาเป็นเรื่องจริงของคน หลายเรื่องที่เราชอบและได้ดูโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นหนังของเขาคือ โซดา เบิร์ก คือเราดูงานเขาเยอะจนอยากเป็นแบบนั้น แต่ไม่อยากให้คนมองว่าเราอินดี้ เป็นอาร์ทิสต์ คุยไม่รู้เรื่อง จะบอกว่าเราคุยรู้เรื่องมากและเราโตมาในธุรกิจทำให้เราเข้าใจตรงนี้ อย่างตอนทำ #NuvoLoveStory พี่โจจะย้ำเสมอว่าทำให้มันดูรู้เรื่องนะ ซึ่งเมื่อเราย้อนไปดูผลงานเก่าๆ ถึงเข้าใจมุมที่คนอื่นไม่เข้าใจ หนัง ละคร มิวสิก หนังสั้น มันคือการสื่อสารเราจะสื่อสารอะไรกับคนดู โดนัทรู้สึกว่าถ้าเราเปิดได้มากเท่าไหร่ จะยิ่งเป็นผลดีกับเราเอง"
ไม่อยากเท่แล้ว จุดเปลี่ยนความคิด"โตขึ้นความคิด เลยเปลี่ยนไป ถามตัวเองก่อนว่าจะเท่ไปไหน มันต้องเท่เหรอ! ไม่แปลกใจว่าคนอื่นจะตั้งคำถามกับเราว่าทำเพราะอยากเท่หรือเปล่า ทีมงานด้วยกันยังถามเลย แต่อยากจะบอกว่าเป็นงานไม่เท่หรอก เหนื่อยมาก และไม่ได้อยากทำเองทุกอย่าง อย่างเรื่องตัดด้วยความเรื่องมันมาจากเรา และเรายังหาคนที่จะมาตัดต่อแล้วเข้าใจและซิ้งค์ไปกับเรายังไม่ได้เท่านั้น เอง

หนัง ความรัก อกหัก (มะเร็ง)"หนังที่อยากทำได้ทำ แล้วคือ Love Sucks เขียนบทเอง เราได้เห็นตั้งแต่ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน สุดท้ายถ่ายเสร็จ ตอนนี้เหลือตัดต่อเท่านั้น เนื้อเรื่องเป็นหนังของผู้หญิงอายุ 30 ที่อกหัก มันเกิดจากความกวนของโดนัทที่อยากรู้ว่าทำไมอกหักแล้วต้องเศร้า และคนชอบรู้สึกว่าเหมือนคนอกหักกำลังจะตาย ช่วงที่เราเลิกกับแฟนคนจะมองว่าเราป่วยคล้ายเป็นมะเร็ง เราก็คิดตามว่าเอ๊ะ!!หรือเราเป็นแบบนั้นหรือเปล่า คือไม่อยากอกหักและร้องไห้ อกหักแล้วเราตลกได้มั้ย? อยากทำอะไรให้ผุ้หญิงดูแล้วรู้สึกภูมิใจกับตัวเองและรู้สึกรักตัวเองมากขึ้น ค่ะ"
อีกหนึ่งผลงานของสาวคนนี้ที่เราจะได้เห็นฝีมือการกำกับผ่านหนังสั้น #NuvoLoveStory ที่เธอได้เขียนพลอตขึ้้นเองโดยได้แรงบันดาลใจมาจากบทเพลงนูโว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ตครอบรอบ 25 ปี #Nuvo LoveStory ติดตามได้ที่ www.music.sanook.com/nuvolovestory ทุกวันจันทร์ที่แรกก่อนใคร
นี่แหละคือบทบาทใหม่ของ "โดนัท มนัสนันท์ ในฐานะคนเบื้องหลังที่ใช้ความชอบเติมความฝัน รังสรรค์ความเชื่อก่อร่างเป็นแรงบันดาลใจ กลั่นออกมาเป็นฝีมือ สู่ผลงานที่ฝากไว้ให้หลายช่วยจดจำ..

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

9 เคล็ดลับ เปลี่ยนรักสะดุดให้ หวานสะเด็ด

          เป็นธรรมดาที่ความรักมักจะมีทั้งขาขึ้นและขาลง เมื่อแรกรักอะไรๆ ก็ดูหวานแหววเป็นสีชมพูไปหมด แต่นานวันเข้า อะไรที่เคยดีก็หมดโปรโมชั่นไปเสียดื้อๆ Secret ฉบับนี้ จึงขออาสาทำหน้าที่เป็นกามเทพ มาช่วยเปลี่ยนรักที่กำลังสะดุดของคุณให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง

6 สัญญาณบอกว่ารักเริ่มสะดุด
- คุณและคนรักเริ่มออกไปหากิจกรรมหรือความตื่นเต้นนอกบ้านแทนการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน หรือเริ่มมีข้ออ้างที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
- คุณและคนรักเริ่มหงุดหงิด วิจารณ์ หรือตำหนิ ในเรื่องที่เคยให้อภัย อีกฝ่าย
- คุณและคนรักเริ่มรู้สึกว่าการกินข้าว หรือทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นเพียงการทำไปตามหน้าที่หรือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
- คุณและคนรักเริ่มไม่ยินดียินร้ายกับเรื่องราวของอีกฝ่าย ทั้งเรื่องการงาน ญาติพี่น้อง เรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความรู้สึก
- คุณและคนรักไม่อยากทำอะไรที่ตัวเองเป็นฝ่ายเสียผลประโยชน์
- คุณและคนรักเริ่มขี้เกียจตอบคำถามของอีกฝ่ายและไม่อยากพูดคุยสื่อสารกันเหมือนเดิม
Tip 1: รักนั้นสำคัญแค่ไหน การจะเปลี่ยนรักเฉาๆ ให้กลับมาดีเหมือนเดิมได้นั้น อันดับแรก คุณจะต้องให้ความสำคัญกับความรักของคุณเสียก่อน ลองเขียนสิ่งที่คิดว่าสำคัญที่สุดในชีวิตในเวลานี้มา 3 เรื่องถ้า “ความรัก” ไม่ได้อยู่ใน 3 อันดับนั้น แนะนำให้คุณขีดฆ่าข้อใดข้อหนึ่งที่ไม่ค่อยจำเป็นทิ้ง แล้วจับความรักไปใส่ไว้แทนก่อนที่อะไรๆ จะสายเกินแก้

Tip 2: ถึงเวลาถอดนวม เมื่อไหร่ที่ชีวิตคู่เริ่มตึงเกินไป นั่นอาจเป็นสัญญาณร้ายของการทะเลาะกัน ลองเปลี่ยนตัวเองใหม่ ด้วยการลดความเป็นคนระเบียบจัดและจุกจิกจู้จี้ของตัวเองลง คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้ได้เป๊ะตามตารางมากนักหรอก ลองหัดเล่นมุกตลก หรือทำอะไรขำๆ เพี้ยนๆ บ้าง เพราะการหัวเราะจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้กับคู่รักได้เป็นอย่างดี

Tip 3: คุย คุย และคุย การสื่อสารคือกุญแจดอกสำคัญของความสัมพันธ์ที่ราบรื่น ลองวางโทรศัพท์ ปิดไลน์ ปิดเฟซบุ๊กสักพัก แล้วหันมาเปิดใจพูดคุยกันต่อหน้า แลกเปลี่ยนสิ่งที่ทำให้ตัวคุณและคนรักรู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจในแต่ละวัน

Tip 4: หาที่ว่างให้ตัวเองบ้าง เมื่อไหร่ที่คุณต้องการจะสื่อสารพูดคุย หรือเปิดใจกับคนรัก คุณควรพาตัวเองออกมาสงบจิตสงบใจเสียก่อน ลองทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นให้ดี แล้วทำให้ตัวเองแน่ใจว่าทุกคำที่จะพูดออกไปเกิดจากการไตร่ตรองที่ดีแล้วและ เกิดขึ้นในขณะที่ตัวคุณผ่อนคลายแล้วจริงๆ ไม่ใช่พูดเพราะโมโห

Tip 5: กำจัดความผิดพลาดให้สิ้นซาก คู่รักหลายคู่ เมื่อมีปัญหาทีไร ก็มักจะขุดคุ้ยความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายขึ้นมาเป็นปมทะเลาะเสมอ แนะนำให้ลองเขียนความผิดพลาดของคนรักลงบนกระดาษเปล่าทุกๆ วัน จากนั้นแลกกันอ่าน โดยมีข้อแม้ว่าคุณทั้งคู่ต้องยอมรับว่าคุณคือต้นเหตุของปัญหานั้น และเรียนรู้ที่จะพูดคำว่าขอโทษ และอภัยให้แก่กัน...จากนั้นก็ฉีกมันทิ้งถังขยะซะ

Tip 6: ก่อเองต้องแก้เอง ในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับมรสุมชีวิต เช่น ตกงาน ล้มละลาย หรือสูญเสียญาติพี่น้อง เรามักจะคาดหวังว่าคนรักจะต้องอยู่ร่วมทุกข์ไปด้วยกัน แต่พอไม่เป็นดั่งใจ หลายคู่จึงจบปัญหาด้วยการเลิกรากัน แต่ความจริงแล้วตัวคุณเองนั่นแหละ ที่ต้องออกไปหางานใหม่ ไปพบจิตแพทย์ ไปปฏิบัติธรรม หรือวิธีใดก็ตามที่จะช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้น เพราะปัญหาเกิดจากตัวคุณก็ต้องแก้ที่ตัวคุณ

Tip 7: จัดทริปสัปดาห์สวีท ลืมดอกไม้ช่อโต อาหารมื้อพิเศษในโรงแรมหรู เทียนประดับตามทางเดิน หรืออ่างจากุชชี่ไปก่อน สัปดาห์สวีททำได้ง่ายกว่านั้น เพียงแค่ คุณทำแซนวิช หรืออาหาร โปรดของคนรักไปนั่งปิคนิคกันในสวนสาธารณะ เล่นกีฬาด้วยกัน ไปเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือเด็กยากไร้ หรือให้อาหารน้องหมาน้องแมวในช่วงวันหยุดก็เพียงพอแล้วล่ะ

Tip 8: กฎเหล็ก 3 ประโยค คำบางคำ ประโยคบางประโยค แม้จะสื่อความหมายได้เหมือนกัน แต่ทำให้รู้สึกต่างกันมากมาย ลองใช้กฎเหล็ก 3 ประโยคทุกครั้งที่คุณต้องการขอร้องให้คนรักช่วยทำอะไรสักอย่าง โดยคุณจะต้องอธิบายเหตุผลและคำขอร้องหวานๆ ให้ครบ 3 ประโยค เช่น เมื่อไหร่ที่คุณต้องการให้คนรักช่วยเก็บโต๊ะกินข้าว แทนที่จะพูดห้วนๆ ว่า “ทำไมไม่ช่วยกันเก็บโต๊ะ!” ก็เปลี่ยนเป็นพูดว่า “คุณคะ บ้านเรารกมากและฉันก็ยุ่งจริงๆ คุณช่วยฉันเก็บโต๊ะกินข้าวหน่อยได้ไหมคะ ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณจริงๆ ค่ะ”...ฟังดูดีกว่ากันเยอะไหมล่ะ

Tip 9: อย่าลืมคำว่า “รัก” คำนั้น ทุกครั้งที่ความสัมพันธ์เริ่มสั่นคลอน คุณต้องอย่าลืมเด็ดขาดว่า อะไรที่ทำให้คุณสองคนตกหลุมรักกันในวันแรก ช่วงเวลาไหนที่คนรักทำให้คุณหัวเราะ ทำให้คุณใจเต้นตูมตาม หมั่นชื่นชมคนรักด้วยสิ่งที่เขาหรือเธอทำให้กับเรา แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย และอย่าลืมบอกด้วยว่า ขอบคุณที่ทำตัวน่ารักแสนดีกับเราเสมอ

เพียงเท่านี้คุณและคนรักก็จะกลับมาจี๋จ๋ากันเหมือนเดิมอย่างแน่นอน!

5 ชุดเจ้าสาวสุดเลอค่าในงานแต่งงานเจนนี่ อั๋น

          ฉลองงานวิวาห์กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับนักร้องสาวหน้าสวยหุ่นเป๊ะ เจนนี่ เจนนิเฟอร์ โปลิตานนท์ กับอดีตพระเอกหล่อคงที่ อั๋น ศราวุธ นวแสงอรุณ คู่รักมาราธอนที่คบกันมากว่า 19 ปี
หลังจากแถลงข่าวงานแต่งงานพร้อม บอกข่าวดีเรื่องการตั้งท้อง 3 เดือน ซึ่งเป็นความตั้งใจของทั้งคู่ งานนี้ทำเอาเพื่อนสวยในแก๊งค์เจนนี่และคนในวงการต่างพากันแสดงความยินดีใน การแต่งงานที่เฝ้าถามมานานหลายปี

ฤกษ์ยามงามดีวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558 ณ ห้อง Park ABC โรงแรม สวิสโซเทล ปาร์ค นายเลิศ กรุงเทพฯ กับพิธีวิวาห์ตามประเพณีไทยและจีน กับ 5 ชุดแต่งงานสุดเลอค่า สวยสะกดทุกสายตา ซึ่งทุกชุดล้วนเป็นฝีมือการออกแบบของ นักออกแบบชุดแต่งงานระดับประเทศ คุณเกสินี กล่ำอยู่สุข และคุณสุดจิตร์ สุดจิตต์ แห่งแบรนด์ ฟินาเล่ เวดดิ้ง สตูดิโอ งานคุณภาพขนาดนี้ ถ้าอยากเห็นความงดงามตามมาส่องความสวยของชุดแต่งงานแต่ละชุดกันได้เลยค่ะ

ชุดแรก ชุดไทยจักรพรรดิสีฟ้าประกายเทา โดดเด่น ผ้าไหมทอยกใหญ่สอดดิ้นสีเงิน พร้อมตัวสไบวาดที่มีลวดลายสุดสง่าอันแสนวิจิตร สวยตั้งแต่เดินย่างก้าวสู้สายตาผู้ร่วมงามเมื่องานปักที่มีความระยิบระยับ ส่องแสงแวววาว ซึ่งเป็นฝีมือการออกแบบและตัดเย็บของทีมงานฟินาเล่ เวดดิ้ง สตูดิโอ

ชุดที่ 2 พิธียกน้ำชาแบบประเพณีจีน ชุดไหมสีแดงเข้ารูปทรงเมอร์เมด สง่างาม สุดโดดเด่น ด้วยการวาดลวดลายคัตติ้งสุดเนี้ยบ บวกกับการแยกเกล็ดอันอ่อนช้อยในสไตล์เมอร์เมด ปลายกระโปรงปล่อยชายลากยาวจรดปลายพื้น พร้อมเวลคลุมผมตะข่ายสีแดงสุดอลัง

ชุดที่ 3 งานแถลงข่าว เป็นชุดแต่งงานสไตล์เจ้าหญิง อ่อนหวาน น่ารัก แต่ก็ยังแฝงความหรูหรา ด้วยเกาะอกรูปหัวใจ ผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสสีไอเวอรี่ แต่งแต้มความหรูหราด้วยการตกแต่งคริสตัลสวาร๊อฟสกี้ พร้อมฝีมือการปักอันคุณทรงคุณค่า ด้วยปล้องอ้อยแบบละเอียดยิบ เพิ่มความโดนเด่นด้วยกระโปรงขนาดยักษ์เล่นเรเยอร์สลับผ้าลูกไม้ฝรั่งเศส สองชั้น สวยอลังการงานสร้างจริงๆ ค่ะ

ชุดที่ 4 ชุดที่สี่โก้หรูสุดพลัง ด้วยการวางผ้าซีทรูบนตัวเสื้อ ตกแต่งลูกไม้ฝรั่งเศสสุดคลาสิก บริเวณด้านหลังว้าวลึกสุกสง่างาม ตัวกระโปรงบอลกาวน์ขนาดยักษ์สวยสุดหรูหรา ถือว่าเป็นชุดแต่งงานที่ดูสวย และคลาสสิก งดงามทุกมุมมองเลยทีเดียว

ชุดที่ 5 ในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ชุดนี้จะเป็นชุดที่มีความเปรี้ยวแฝงความเท่ แต่ยังคงความหรูหรา ระยิบระยับวับวาว โดยมีความต้องการให้เห็นความเท่ของสาวเจนนี่ มีความโดดเด่นและสะดวกต่อการปาร์ตี้ยามค่ำคืน
จัดเต็มสมการรอคอยเลยนะคะ สำหรับงานแต่งงาน เจนนี่ อั๋น ที่ทุกคนเฝ้ารอคอย ต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ สาวๆ คนไหนอยากเห็นบรรยากาศความอบอุ่นในงานพร้อมความสวยประดั่งเจ้าหญิงของ เจนนี่ ตามมาดูกันได้เลยจ้า

เพิ่มไซส์หน้าอกให้ใหญ่ เด้ง แบบไม่เจ็บตัว

          หยุดกรี๊ดร้องได้แล้ว หากคุณสาวๆ มี "หน้าอกหน้าใจ" ที่มีขนาดไม่ตรงตามความต้องการ จะใส่เสื้อผ้าอะไรก็แยกแทบไม่ออก ว่าไหน ด้านหน้า ไหนด้านหลัง เวลานี้มีเทคนิค เพิ่มไซส์หน้าอกให้ใหญ่ เด้ง แบบไม่เจ็บตัว ทำศัลกรรมมา เสียเงินแพงๆ มาแอบกระซิบบอกกันแล้วค่ะ

เทคนิคนี้ เป็นเทคนิคของ "Scarlet Envy" เมคอัพอาร์ทติสขั้นเทพ จากประเทศนิวยอร์ก ที่สามารถเปลี่ยนสาวหน้าอกเล็ก เป็น สาวหน้าอกใหญ่ได้ในพริบตา เป็นทริคง่ายๆ ไม่ต่างอะไรมากมาย กับการแต่งหน้าในชีวติประจำวันของคุณสาวๆ แต่รับรอง ว่า "หน้าอก" ของคุณ จะดูใหญ่ ไม่หย่อนยาน เด้งดึ๋งดั๋งแน่นอนค่ะ


อุปกรณ์ช่วยเสริมอึ๋ม มีดังนี้ค่ะ
1 คอนซีลเลอร์หลากสี
2 แป้งอัดแข็งแบบโปร่งแสง
3 แปรงหัวแบน
4 แปรงขนฟูนุ่ม
5 ฟองน้ำแต่งหน้า
วิธีเปลี่ยน หน้าอกแบน เป็นหน้าอกตูม!!!

ขั้นตอนที่ 1 เลือก "คอนซีลเลอร์" ที่เข้มกว่าสีผิวจริงสองเฉด จากนั้นใช้แปรงหัวแบนแต้มเนื้อคอนซีลเลอร์ แล้ววาดโครงเต้านม เพิ่มเนินอก โดยวาดขนาดตามความต้องการของคุณได้เลยค่ะ


ขั้นตอนที่ 2 ทำอีกข้างหนึ่ง ด้วยวิธีเดียวกัน


ขั้นตอนที่ 3 ใช้แปรงแต้มคอนซีลเลอร์สีเข้ม แล้ววาดบริเวณร่องอกส่วนลึกที่สุด เพื่อทำให้เกิดเงาอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าชุดของคุณไม่คว้านผ่าลึกจนถึงสะดือ วิธีนี้ก็ข้ามไปได้เลยนะคะ


ขั้นตอนที่ 4 เกลี่ยสีที่วาดไปให้เข้ากัน จะได้ดูไม่หลอกตา โดยใช้แปรงและฟองน้ำแต่งหน้าช่วย โดยค่อยๆ แตะเบาๆ ให้สีกลมกลืมกันที่สุด


ขั้นตอนที่ 5 ใช้แปรงขนฟูนุ่ม ปัดแป้ง แล้วค่อยๆ คอนทัวร์ ตามเนินอก เพื่อให้สีเนียน มีมิติ เพิ่มแสงและเงายิ่งขึ้นค่ะ


ขั้น ตอนเพียงแค่นี้ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจ มั่นหน้า และมั่นหน้าอก ยามที่คุณสาวๆ ใส่เสื้อผ้าโชว์ทรวงทรงได้แล้วค่ะ ลองไปทำดูนะคะ รับรองไม่ยากย่างที่คิดแน่นอน ^^

ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.buzzfeed.com/

วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เตรียมผิวขาวออร่าให้เริ่ดกว่าใคร รับเทศกาลวาเลนไทน์

          ช้าไม่ได้แล้วล่ะ เรามาดูวิธีเตรียมผิวขาวออร่า สะกดทุกสายตารับเทศกาลแห่งความรักกันเลย

อีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลวันแห่งความรักกันแล้ว เดาว่าสาวๆ หลายคนคงกำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวเลือกเสื้อผ้า หน้าผม สำหรับออกเดทกับคนพิเศษกันอยู่ใช่มั๊ยล่ะ? แหม! ก็วันพิเศษทั้งที สาวๆ ทุกคนคงบอกเหมือนกันหมดว่า..ไม่ขอเป็นสองรองใคร! และแน่นอนว่านอกจากเสื้อผ้า หน้าผมที่ต้องพร้อม ว่าแต่ผิวสวยของคุณล่ะพร้อมอวดความขาว โดดเด่น สะดุดตากันหรือยัง? นับถอยหลังอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันวาเลนไทน์แล้ว....ช้าไม่ได้แล้วล่ะ เรามาดูวิธีเตรียมผิวขาวออร่า สะกดทุกสายตารับเทศกาลแห่งความรักกันเลย
หลบเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดจัดจ้าอากาศร้อนๆ บ้านเรา ทำให้สาวๆ ต้องเจอกับแสงแดดแทบจะทุกวัน ดังนั้น ก่อนออกจากบ้านทุกวัน สาวๆ ควรจะทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF15 ขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวีที่เป็นตัวทำลายเซลล์ผิว แต่ถ้าสาวๆ จำเป็นที่จะต้องออกไปเจอแดดจัดๆ ก็ควรปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชม. และพยายามหลบเลี่ยงแสงแดดแรงๆ ในช่วงเวลา 10.00 - 14.00 น. ส่วนสาวๆ ที่ต้องออกไปท้าแดดท้าลมกันบ่อยๆ ก็ควรสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หรือสวมหมวกปีกกว้างเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดอีกทางหนึ่งด้วยค่ะ มาเริ่มต้นปกป้องผิวสวยจากรังสียูวีกันตั้งแต่วันนี้ รับรองว่าผิวขาว ออร่า อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วล่ะค่ะ
ออกกำลังกายเพื่อผิวเปล่งปลั่ง

การ ออกกำลังกายมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ผิวคุณสวยเปล่งปลั่ง ทั้งนี้ก็เพราะการออกกำลังกายช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งประกาย และแน่นอนว่าคุณจะได้หุ่นแบบฟิตแอนด์เฟิร์มจนใครๆ ต้องอิจฉา เรียกได้ว่าหุ่นเริ่ดแถมยังสุขภาพดีอีกต่างหาก ขอบอกเลยว่างานนี้ใครได้ควงสาวหุ่นดี ผิวขาวออร่าไปดินเนอร์ในวันวาเลนไทน์ คงจะปลื้มจนยิ้มไม่หุบอย่างแน่นอน
เคล็ดลับบำรุงผิวขาวออร่าจากภายในสู่ภายนอก
นอกจาก สาวๆ จะต้องทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดร้อนๆ ในบ้านเรา และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว ทราบหรือไม่ว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากเปลือกสน ฝรั่งเศส สามารถช่วยป้องกันการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ ได้ ทั้งนี้เพราะสารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศสมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ และยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินในเซลล์ผิวหนัง นอกจากนี้ยังช่วยปรับการไหลเวียนของเส้นเลือดและเส้นเลือดฝอย ช่วยส่งเสริมการลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงที่ผิว ทำให้ผิวของคุณขาวออร่า สวยสุขภาพดี มีเลือดฝาด

แค่ขั้นตอนดูแลผิวเพียงง่ายๆ เท่านี้ ผิวของคุณก็จะขาวออร่าอย่างเป็นธรรมชาติ โดดเด่น สะกดทุกสายตา พร้อมอวดผิวสวยต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์กับคนพิเศษของคุณ
ใส่ใจดูแลสุขภาพผิวของคุณจากภายในสู่ภายนอกตั้งแต่วันนี้ รับรองเลยว่าคุณจะมีผิวขาวออร่า สะกดทุกสายตา ไม่ใช่แต่เฉพาะเทศกาลแห่งความรักเท่านั้น แต่คุณจะโดดเด่นในสายตาของเค้าในทุกๆ วัน

Valentine’s Alert! เป็นโสด โปรดอย่าแคร์ เพราะปากคุณสวยแซ่บเว่อร์!

Valentine’s Alert! เป็นโสด โปรดอย่าแคร์ เพราะปากคุณสวยแซ่บเว่อร์!

ใบหน้า ตาวิ๊ง ปากก็ต้องปิ๊งสะดุดตา! Valentine’s นี้สาวโสดไม่ต้องเศร้าอีกต่อไป! โสดแล้วไง?
เมื่อคุณมี คัลเลอร์ ริช!

เตรียมตัวมาโสดปากแซ่บกับ คัลเลอร์ ริช ลิปสติกจากแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำระดับโลก ลอรีอัล ปารีส เมคอัพ ดีไซน์เนอร์ พร้อมกันทั้งเดือนกุมภาพันธ์นี้! สำหรับวันวาเลนไทน์ ลอรีอัล ปารีส ขอนำเสนอเฉดสีที่เหมาะกับ สาวโสดสุดแซ่บอย่างคุณโดยเฉพาะ!

ลิปสติกสีโทนอ่อนสวยสดใส
คัลเลอร์ ริช สีดิววี้ เบช สีสาวโสดสดใส ยามเช้า สำหรับสาวโสดที่ต้องการลุคแบบสดใส เป็น ธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติของเนื้อครีมกับสัมผัสอันเนียนนุ่ม สีสันสดชัด หรูหรา น่าหลงใหล ช่วยเติมเต็มความอวบอิ่มให้ริมฝีปากให้ดูเย้ายวน


ลิปสติกสีโทนเข้มสวยอินเทรนด์
คัลเลอร์ ริช มอยซ์ แมทท์ สีเรท วาเลนไทน์ สีสาวโสดปาร์ตี้สุดแซ่บ สำหรับสาวโสดที่ต้องการลุคสวยแซ่บ โดดเด่น พร้อมออกไปปาร์ตี้ ด้วยคุณสมบัติเนื้อแมทท์ที่เนียนนุ่มดุจกำมะหยี่ และสีสันสดชัดพร้อมคงความชุ่มชื่นเนียนเรียบไร้ที่ติให้กับริมฝีปาก
ลอรีอัล ปารีส คัลเลอร์ ริช คัลเลอร์ ริช มอยซ์ แมทท์ และ คัลเลอร์ ริชเลส์ นู้ด ชิ้นละ 299 บาท จากปกติ 399 บาท จำหน่ายที่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต และที่เคาน์เตอร์ของลอรีอัล ปารีส ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป โปรดตรวจสอบระยะเวลาโปรโมชั่น ณ จุดขาย
พิเศษสุด !!! ลอรีอัล ปารีส เมคอัพ ดีไซน์เนอร์ยังได้จับมือกับ Jay The Rabbit เจ้าของการ์ตูนลายเส้นกระต่ายสุดฮอตในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กขวัญใจสาวออฟฟิศ ที่ได้กล่าวไว้ว่า “โสดก็ไม่แคร์ ปากต่ายแซ่บเวอร์!” สร้างสรรค์ Color Riche Jay The Rabbit Limited Edition เพื่อให้คุณสวยแซ่บขึ้นกว่าเดิม!

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ชุดวิวาห์เฉียดล้าน!! เจ้าสาวกระเป๋าหนัก

หากจะมีช่วงเวลาดีๆ ในชีวิตที่หนุ่มสาวจะเลือกเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ อะไรจะดีเท่ากับช่วงวาเลนไทน์ที่บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรักสีชมพู
แต่กว่าจะเป็นงาน "สมรสสมรัก" สักงาน นอกจากจะต้องหาฤกษ์งามยามดีไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้ชิงจองโรงแรมกันล่วงหน้ากว่า 6 เดือน - 1 ปีแล้ว ยังจะต้องพิมพ์การ์ด เชิญแขกอีกนับร้อย นับพันคน
ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ "ชุดเจ้าสาว" ที่สมัยนี้ใช่ว่าจะมาเรียบง่ายเหมือนในอดีต แต่หรูหราอลังการกันสุดสุด แบบที่ว่า "ครั้งเดียวในชีวิต"
หรูหราไฮโซขนาดที่ว่า "ราคาของชุดเดียว" ก็นำไปจัดงานแต่งงานได้อีกหลายงานเลยทีเดียว
กูรูเรื่องเวดดิ้ง ของนิตยสาร WE ให้ข้อมูลว่า ปกติแล้วคนไทยมักจะไม่ค่อยบอกราคาของชุดแต่งงานมากนัก ทำให้ยากที่จะรู้มูลค่าจริงๆ ของชุด ต้องดูที่แบรนด์ของชุดนั้นๆ
"หากเป็นเซเลบริตี้ หรือดารา นักร้องไทยส่วนใหญ่ มักจะมุ่งเข้าหาไทยดีไซเนอร์ อย่าง ไข่ บูติก หรือ วาทิต อิทธิ แบรนด์ชุดเจ้าสาวยอดนิยม หรือหากเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า อย่างน้อยก็จะมีตัดชุดเจ้าสาวใส่เอง"
แต่สำหรับ "เจ้าสาวกระเป๋าหนัก" ชุดเจ้าสาวในประเทศไทยอาจจะไม่ถูกใจ หลายคนจึงบินไปเลือกชุดแต่งงานเองถึงต่างประเทศ ไม่ว่าจะอเมริกา อังกฤษ หรือใกล้บ้านเราอย่างฮ่องกง

"แบรนด์ฮอตที่สุด ต้องยกให้ แบรนด์ เวร่า แวง ที่ได้รับความนิยมจากเจ้าสาวคนไทยเสมอต้นเสมอปลาย"
แม้จะได้ชุดสวยสมใจ แต่ข้อเสียก็มี โดยเฉพาะเรื่อง "ต้นทุนการเดินทาง"
"ข้อเสียของการบินไปเลือกซื้อเองที่ต่างประเทศ คือ ถ้าไม่กระเป๋าหนักจริง สู้ยาก เพราะชุดเจ้าสาวไม่เหมือนชุดอื่นๆ ที่บินไปเลือก ถูกใจ และซื้อกลับมาใส่ได้เลย แต่ต้องบินไปเลือกแบบ แล้วเย็บใหม่ให้พอดีกับรูปร่างของเจ้าสาว ปรับแก้ และลองใหม่อยู่หลายครั้ง กว่าจะเสร็จก็กินเวลาร่วมเดือน เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ต้องบินไปกลับต่างประเทศไม่รู้กี่ครั้ง แค่ค่าตั๋วเครื่องบินก็อาจจะแพงกว่าชุดไปแล้ว" กูรูเรื่องเวดดิ้งเผย
จึงเป็นที่มาของการนำเข้า "ชุดเจ้าสาวไฮแบรนด์" ยอดฮิตของโลกกว่า 10 แบรนด์มาเป็นตัวเลือกให้กับบ่าวสาวที่จ่ายไหว กับ ร้านโซล แอนด์ กราวิธ ไบรดัล บูติก ที่นำเข้าชุดเจ้าสาวราคาแพงระยับมาเปิดที่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี มีจำหน่ายตั้งแต่หลักแสน ไปจนถึงหลักล้าน แล้วแต่ความยากง่ายของชุด อาทิ
แบรนด์ โมนิค ลุยลิเย่ร์ (MONIQUE LHUILLIER) จากอเมริกา ที่แบ่งเป็นไลน์ต่างๆ 3 ไลน์ ทางร้านก็นำเอาไลน์ระดับกลางและแพลตินั่มเข้ามา ราคาตั้งแต่ 2 แสน ไปจนถึง 7 แสนบาท ต่อเนื่องด้วย ซูแอร์ มูราจ (ZUHAIR MURAD) ที่จะจำหน่ายที่ 6 แสนบาทไปจนถึงหลักล้าน หากชอบชุดเจ้าสาวแบบเจ้าหญิง แบรนด์ มาร์เซียรา (MARCHESA) ก็เป็นตัวเลือกที่ดี อยู่ที่แสน ถึง 3 แสน
หรือจะเป็นแบรนด์ เจนนี่ เพคแฮม (JENNY PACKHAM) จากดีไซเนอร์ชาวอังกฤษ ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่คนนิยมใส่กัน ชุดที่สร้างชื่อเสียงให้ร้านชนิดที่ดังไปทั่วโลก ก็ไม่ใช่ชุดใครที่ไหน เป็นชุดเจ้าสาวสุดหรูของ เจ้าหญิงแคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายาใน เจ้าชายวิลเลียม ที่ทรงสง่างามในพิธีเสกสมรส ซึ่งทั้งหมดสามารถปรับแก้ชุดได้โดยมีช่างประจำของร้านคอยดูแลให้ รับได้ภายใน 1 เดือน

"ส่วนทำไมถึงได้ราคาสูงเช่นนี้ เพราะเป็นชุดนำเข้า ทั้งยังใช้ลูกไม้ที่ดีมาก ไม่ว่าจะฝรั่งเศสหรืออิตาลี แตกต่างกันแต่ละแบรนด์ ทุกชุดต้องเย็บมือทั้งหมด บ้างก็ต้องเย็บด้วยทักษะมาก อย่างการปัก 3 มิติ เย็บแพทเทิร์นซ้อนกันไปมา รวมถึงความอลังการของชุด ที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งค่าแรงต่างประเทศก็ขึ้นชื่อว่าสูงอยู่แล้ว ราคาชุดก็เลยไปตามคุณภาพ ทำให้ชุดแต่งงานเหล่านี้ขายขาด ไม่มีเช่าซื้อ เพราะจะไม่คุ้มนั่นเอง"
เมื่อเป็นครั้งเดียวในชีวิต ก็ต้องเฟอร์เฟ็กต์ที่สุด

9 ประเทศที่รวมผู้หญิงสวยไว้มากที่สุดในโลก

เว็บไซต์ต่างประเทศ drprem.com ได้มีการรายงานถึงประเทศที่รวมผู้หญิงสวยไว้มากที่สุดในโลก หนึ่งในประเทศเหล่านั้น มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย!
"ผู้หญิง" คือสิ่งสวยงามที่พระเจ้าทรงสร้างมา และ "ผู้หญิง" จะสวยเสมอไม่ว่าอยู่ที่ใด หากคุณสงสัยว่าสามารถหาสาวงามดุจนางฟ้าได้จากประเทศไหนบ้าง มาดูรายชื่อ 9 ประเทศที่มาวิน รวมความงามของผู้หญิงไว้มากที่สุดในโลกเหล่านี้กันเลยค่ะ

ประเทศสวีเดน
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามแล้ว สวีเดน ยังถูกมองว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยผู้ชายและผู้หญิงหน้าตาดี ที่คนเห็นแล้วต้องหลงเสน่ห์ เพราะผู้หญิงแต่ละคน รูปร่างดี สูงยาว นัยน์ตาสีฟ้า ฉลาดเป็นมิตร และการศึกษาสูงด้วย

ประเทศอาร์เจนติน่า
หากบอกว่า อาร์เจนติน่า คือประเทศที่มีผู้หญิงสวยที่สุดแห่งซีกโลกตะวันตกก็ไม่น่าจะผิดอะไร เพราะสาวๆ ประเทศนี้สูงเด่น มีความโรแมนติก พวกเธอจะพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงที่หนักแน่นซึ่งจะทำให้คุณตกหลุมรักทันที

ประเทศยูเครน
ผู้หญิงประเทศนี้ สามารถดึงดูดหนุ่มๆ ให้มาหลงใหล ได้อย่างไม่น่าเชื่อ สถานที่ที่เหมาะที่สุดในการไปเหล่มองสาวๆ ต้องที่นี่เลย เมืองหลวงเคียฟ, โอเดสซ่า และชายฝั่งทะเลดำ

ประเทศรัสเซีย
ผู้หญิง รัสเซีย จะมีหุ่นเพรียวบาง ขาว ตาสีฟ้า และมีความฉลาด เธอเหล่านี้ไม่ได้อยู่แค่เฉพาะในเมืองหลวงเท่านั้นนะคะ ตลอดทางตั้งแต่ไซบีเรียไปจนถึงมอสโคว์ จะเต็มไปด้วยสาวสวย และยังสามารถพบสาวลูกครึ่งเอเชียหรือยุโรปที่พูดภาษา รัสเซียได้ตลอดทางที่ไปไซบีเรียเลย

ประเทศบัลแกเรีย
บัลแกเรียเป็นเมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา สกีรีสอร์ทและชายหาดอันน่าประทับใจ เหมาะแก่การเป็นสถานที่พักร้อนของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย สาวๆ บัลแกเรียก็สวยเลิศเช่นกัน ทั้งสูง ขาว ดวงตาสีอ่อนและผมดำสลวย เป็นมิตรสุดๆ

ประเทศไทย
ประเทศไทยขึ้นชื่อในเรื่องของธรรมชาติ, วัฒนธรรม ความมีน้ำใจ ที่สำคัญยังมีผู้หญิงขี้อายแต่ใจดีอยู่มาก สาวไทยจะมีสีผิวค่อนข้างเข้ม หน้าคม มีเสน่ห์ให้คุณหนุ่มๆ หลงรักได้ไม่ยากเลย

ประเทศเนเธอแลนด์
สาวๆ ชาวดัตช์เป็นมิตรและมีน้ำใจมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว นอกจากความเป็นมิตร ผู้หญิงประเทศนี้ยังโดดเด่นในเรื่องความสวย และสูงสุดๆ โดยเฉลี่ยแล้ว สูงประมาณ 1.80 เมตรเลยทีเดียว

ประเทศเลบานอน
ผู้หญิง เลบานอน มีดวงตาเปี่ยมเสน่ห์ ผอมเพรียว สัดส่วนโค้งเว้า และผิวสีแทนดึงดูดใจ รับรองมองแล้วไม่มีเบื่อ

ประเทศอินเดีย
ผู้หญิงอินเดียส่วนมากจะซ่อนเรือน ร่างของตัวเองอยู่ในผ้ายาว 6 หลา แม้จะมองเห็นได้ยาก แต่ยังดูสวยเซ็กซี่เสมอ ต้องยอมรับเลยว่า พวกเธอสวยเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพยายามแต่งอะไร

แล้วคุณละคะ คิดว่าผู้หญิงประเทศใดสวยที่สุด!

ขอบคุณข้อมูล : http://drprem.com/