วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ประโยคยอดฮิต พูดบ่อยๆ ความรักยืนยาว


ประโยคยอดฮิต พูดบ่อยๆ ความรักยืนยาว

ประโยคยอดฮิต พูดบ่อยๆ ความรักยืนยาว

ความรักจะ ยืนยาวยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งก็มีอิทธิพลมาจากคำพูดเหมือนกัน ซึ่งในบทความนี้เราก็ได้รวบรวมประโยคยอดฮิต ที่คู่รักควรพูดให้ชินปาก เพราะคำพูดเหล่านี้นี่แหละ ที่จะทำให้พวกคุณมีความเข้าใจกันมากขึ้น และทำให้ความรักระหว่างคุณยืนยาวดั่งใจต้องการอีกด้วย มาดูกันดีกว่าว่ามีประโยคไหนบ้างที่คุณจะต้องหัดพูดให้ชินตั้งแต่วันนี้
เป็นห่วงเสมอนะ
หลายคนอาจคิดว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด จึงไม่ใส่ใจที่จะพูดคำบางคำออกมา เพราะคิดว่าคนรักจะสื่อรู้ถึงความหมายของมันได้ด้วยตัวเอง แต่ความจริงแล้ว คำพูดก็สำคัญไม่น้อย อย่างคำว่า “เป็นห่วงเสมอนะ” แค่พูดออกมาด้วยความจริงใจ ก็จะทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งและอบอุ่นในหัวใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

อยู่เคียงข้างเสมอ
ในเวลาที่เธอกำลังรู้สึกเหนื่อยล้า หรือมีปัญหา แค่คุณเอ่ยออกไปว่า “อยู่เคียงข้างเสมอ” ก็ให้ความหมายที่จะทำให้เธอรู้สึกตื้นตันเป็นอย่างมาก และสัมผัสได้ว่าคุณจะอยู่เคียงข้างเธอทุกครั้งที่มีปัญหาจริงๆ ทั้งยังเป็นคำพูดที่ทำให้คนที่ได้รับฟังรู้สึกสบายใจขึ้นมากอีกด้วย

ขอโทษ
“ขอโทษ” คำสั้นๆ แต่เป็นคำที่มีความหมายกินใจสุดๆ และแสดงถึงความรู้สึกผิดได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าหากคุณทำผิดแล้วเอ่ยคำว่าขอโทษมาเพียงคำเดียว เธอก็พร้อมที่จะให้อภัยคุณแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นเมื่อคุณเป็นฝ่ายผิด อย่าปล่อยให้ผ่านพ้นไปโดยที่ยังมีเรื่องค้างคาใจกันอยู่ แค่เอ่ยคำว่าขอโทษคำเดียว มันไม่ยากเกินไปหรอก แล้วความสัมพันธ์ระหว่างคุณจะกลับมาราบรื่นดังเดิมแน่นอน

มีอะไรให้ช่วยไหม
ในขณะที่เธอกำลังยุ่งอยู่กับงานหรืออะไรหลายๆ อย่าง ลองเอ่ยคำพูดสื่อรัก อย่างคำว่า “มีอะไรให้ช่วยไหม?” ดูสิ เพราะนั่นจะทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก แบบว่าบางทีเธอก็อยากให้คุณช่วยอยู่บ้างแหละ เพียงแต่ไม่กล้าเอ่ยออกไปเท่านั้นเอง และการที่คุณเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อน ก็จะทำให้เธอลดความเกร็งลงและกล้าที่จะเอ่ยปากบอกคุณ

เมื่อมีความรัก ก็อย่ากั๊กคำพูดเด็ดๆ เอาไว้ เพียงเพราะความอายและไม่กล้าพูดออกไป คำพูดสื่อรักบางคำน่ะ เอามาใช้บ้างก็ดีเหมือนกันนะ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณดีขึ้นมาอีกด้วย ใครที่ขี้อาย เลือกเอานะจ๊ะ ว่าจะอายแล้วปล่อยให้ความสัมพันธ์แย่ลง หรือทิ้งความอายแล้วเพิ่มเติมความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันดี

5 สูตรความงามจากมันฝรั่ง อยากผิวหน้าสวยกระจ่างใส ต้องไม่พลาด!


5 สูตรความงามจากมันฝรั่ง อยากผิวหน้าสวยกระจ่างใส ต้องไม่พลาด!

5 สูตรความงามจากมันฝรั่ง อยากผิวหน้าสวยกระจ่างใส ต้องไม่พลาด!

มันฝรั่ง เป็นพืชที่ไม่ได้มีดีแค่บำรุงสุขภาพเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีประโยชน์ในด้านความงามอีกด้วย สำหรับใครที่ซื้อมันฝรั่งติดบ้านไว้ทำอาหารบ่อยๆ วันนี้เราขอแนะนำ 5 สูตรความงามด้วยมันฝรั่งมาฝาก หรือจะหันมาใช้น้ำมันฝรั่งก็ได้ มาดูกันเลยค่ะว่ามีสูตรใดบ้าง

1.ลดความคล้ำของผิวรอบดวงตา
หากผิวรอบดวงตาสาวๆ มีปัญหาคล้ำก็สามารถใช้มันฝรั่งช่วยแก้ปัญหานี้ได้ค่ะ เพราะมันฝรั่งมีคุณสมบัติที่จะช่วยให้ผิวขาวใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ วิธีใช้ เพียงจุ่มน้ำมันฝรั่งด้วยสำลีจากนั้นนำมาวางบนดวงตาประมาณ 20-30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด หมั่นทำสูตรนี้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ผิวรอบดวงตาที่ดำคล้ำเหมือนหมีแพนด้าจะค่อยๆ จางลงได้อย่างแน่นอน

2.ลดรอยสิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส
เพราะมันฝรั่งมีคุณสมบัติปรับสภาพผิวให้ขาวกระจ่างใสได้นั่นเอง เราจึงสามารถนำมันฝรั่งมาใช้ทำมาส์กบำรุงผิว และหากสาวๆ คนไหนมีปัญหารอยสิวดำๆ แนะนำให้ใช้มันฝรั่งบดหรือน้ำมันฝรั่งมามาส์กหน้า ทำเป็นประจำ รอยสิวจะค่อยๆ จางลงได้ นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันริ้วรอยและบำรุงผิวให้สวยสุขภาพดีได้อีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งสูตรหน้าใสที่สาวๆ ต้องลอง!

3.เยียวยาผิวแสบร้อนจากแสงแดด
สาวๆ ที่ตากแดดจนผิวมีอาการแสบร้อนไหม้แดด ก็สามารถจัดการได้ด้วยน้ำมันฝรั่งเช่นกันนะคะ เพียงใช้น้ำมันฝรั่งเย็นมาทาบำรุงผิวที่มีปัญหาไหม้แดดก็จะช่วยบรรเทาอาการ แสบร้อนดังกล่าวให้หายไปได้ เพราะน้ำมันฝรั่งมีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมผิวและยังช่วยลดอาการระคายเคือง ผิวจากแสงแดดได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

4.ต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย
นอกจากน้ำมันฝรั่งจะนำมามาส์กหน้าเพื่อทำเป็นสูตรหน้าใสแล้ว สำหรับสาวๆ ที่กลัวแก่หรือมีริ้วรอยแห่งวัยเร็ว คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำมันฝรั่งนี่แหละที่จะช่วยชะลอริ้วรอยได้ เพียงนำน้ำมันฝรั่งมาผสมให้เข้ากันกับโยเกิร์ต แล้วนำมามาส์กหน้าไว้ ผิวหน้าก็จะนุ่มชุ่มชื้น มีสุขภาพดีและยังช่วยต่อต้านริ้วรอยแห่งวัยได้ ไม่เพียงเท่านั้น หากนำมาผสมกับน้ำมันมะกอกแล้วนำมานวดผิวหน้าเป็นประจำก็จะยิ่งช่วยต้านริ้ว รอยตีนกาได้ด้วยเช่นกัน งานนี้ผิวหน้าอ่อนเยาว์ ห่างไกลจากความแก่อย่างเห็นได้ชัดแน่นอนค่ะ

5.ทำให้ผิวหน้าขาวใส
สาวคนไหนผิวหน้าหมองคล้ำ อยากมีผิวหน้าขาวใส เรามีอีกหนึ่งสูตรหน้าใสจากน้ำมันฝรั่งมาฝาก เพียงแค่นำน้ำมันฝรั่งผสมกับโคลนพอกหน้า เติมน้ำมะนาวลงไปผสมอีกเล็กน้อย คนให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้าจนทั่ว ปล่อยไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาด ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้ขาวใสขึ้นได้ ที่สำคัญสูตรนี้ยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำและช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ด้วย

เห็นหรือยังคะว่าสูตรสวยด้วยมัน ฝรั่งนั้นมีให้เลือกทำหลายสูตรทีเดียว โดยเฉพาะสาวๆ คนไหนอยากได้สูตรหน้าใสไร้สิวกวนใจ แถมยังมีผิวหน้าขาวและอ่อนเยาว์กว่าวัย แนะนำให้ทำตามสูตรเหล่านี้เป็นประจำเลยค่ะ

5 สูตรพอกหน้าใส เอาใจสาวผิวมันโดยเฉพาะ !


5 สูตรพอกหน้าใส เอาใจสาวผิวมันโดยเฉพาะ !

5 สูตรพอกหน้าใส เอาใจสาวผิวมันโดยเฉพาะ !

ปัญหาหน้ามัน.. มันมาพร้อมรูขุมขนกว้าง และตามด้วยสิวที่บุกขึ้นมากวนผิวสวย ทำให้ผิวหน้ามีตำหนิได้ง่ายๆ วันนี้เราเลยหยิบสูตรพอกหน้าสำหรับสาวผิวมันมาฝาก สาวคนไหนหน้ามันโดยเฉพาะ ห้ามพลาดสูตรหน้าใสเหล่านี้เด็ดขาด

1.สูตรสตรอว์เบอร์รี + โยเกิร์ต
วิธีทำ บดสตรอว์เบอร์รี 1 ลูกให้ละเอียด จากนั้นผสมกับโยเกิร์ตจนเข้ากัน แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เสร็จแล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น สูตรนี้จะช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ แถมโยเกิร์ตยังบำรุงผิวหน้าให้นุ่มชุ่มชื้นอีกด้วย ในขณะที่วิตามินซีจากสตรอว์เบอร์รีจะบำรุงผิวหน้าให้ขาวเนียนใส

2.สูตรโยเกิร์ต + เลมอน + ข้าวโอ๊ต
วิธีทำ ปั่นข้าว โอ๊ต 1 ถ้วยเล็กจนละเอียด จากนั้นนำมาผสมกับโยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะและน้ำเลมอน 1 ช้อนชา คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน แล้วนำมาพอกหน้าจนทั่วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น เลมอนมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลงได้ และช่วยลดเลือนความมันบนใบหน้าได้ผล ส่วนข้าวโอ๊ตก็จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกให้หลุดออกไป ผิวจะยิ่งสะอาดใสเกลี้ยงเกลา

3.สูตรน้ำมะนาว
วิธีทำ บีบน้ำมะนาว 1/2 ผล ผสมกับน้ำสะอาดให้กรดจากน้ำมะนาวเจือจางเล็กน้อย จากนั้นชุบด้วยสำลีแล้วนำมาทาผิวหน้าจนทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาด สูตรพอกหน้าด้วยน้ำมะนาวนี้เป็นสูตรหน้าใสที่จะช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินออก จากผิว และยังช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวออกจากใบหน้า ทำให้ผิวหน้าขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ปัญหาผิวมันก็จะค่อยๆ ลดลง แถมยังช่วยลดเลือนรอยสิวได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ

4.สูตรโยเกิร์ต + แตงกวา
วิธีทำ ปั่นแตง กวาครึ่งลูกผสมกับโยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นนำมาพอกหน้าแล้วปล่อยไว้ 15 นาที เสร็จแล้วล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น แตงกวามีคุณสมบัติเติมเต็มน้ำหล่อเลี้ยงผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำและสดชื่นเปล่งปลั่ง ไร้ปัญหาผิวหยาบกร้าน แถมยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำและช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ด้วย

5.สูตรแอปเปิล + น้ำผึ้ง
วิธีทำ ให้นำแอ ปเปิลมาล้างให้สะอาดและปอกเปลือกออก 1 ผล หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เอาเมล็ดออกให้หมด แล้วนำไปปั่นผสมกับน้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ เมื่อปั่นจนกลายเป็นส่วนผสมเดียวกันแล้ว ก็นำมาพอกหน้าปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด สูตรพอกหน้านี้จะทำให้ผิวหน้าสะอาดใสเรียบเนียนขึ้น ผิวจะสดชื่นและเต่งตึงขึ้นด้วย และแน่นอนว่าปัญหาผิวมันก็จะค่อยๆ ลดลงเช่นกัน

ว้าว.. ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าหากอยากมีผิวหน้าสวยใส ไร้ความมัน เราจะสามารถหยิบสูตรหน้าใสเหล่านี้มาพอกหน้าได้แบบไม่ยุ่งยาก นอกจากทำให้ผิวหน้าสวยใสดั่งใจแล้ว สาวผิวมันทั้งหลาย คราวนี้บอกลาปัญหาผิวหน้ามันเยิ้มไปได้เลย

5 เรื่องที่อาจจะยังไม่รู้ ขวัญ อุษามณี ผู้หญิงที่สวยไม่เคยเปลี่ยนแปลง


5 เรื่องที่อาจจะยังไม่รู้ ขวัญ อุษามณี ผู้หญิงที่สวยไม่เคยเปลี่ยนแปลง

5 เรื่องที่อาจจะยังไม่รู้ ขวัญ อุษามณี ผู้หญิงที่สวยไม่เคยเปลี่ยนแปลง

    มีประเด็นเด็นร้อนแรง #ทีมขวัญ มากมายล้นโซเชียลจริงๆ ค่ะ สำหรับสาว ขวัญ อุษามณี ที่เกิดมีปัญหาเรื่องครอบครัวขึ้นมา (ขวัญ พูดแล้ว! แม่ใครใครก็รัก อำนาจเงินทำลายครอบครัว) แม้เรื่องราวจะเป็นยังไง ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายนะคะ
        แต่สิ่งหนึ่งที่จะมาพูดถึงในวันนี้ ก็คือ พัฒนาการความสวยของสาวขวัญ ที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า สวยเสมอต้นเสมอปลาย ไร้ศัลยกรรมจริงๆ และสิ่งที่สาวๆ อาจจะไม่รู้ในตัวเธอ จะเป็นยังไงนั้น เรามาย้อนดูกันค่ะ
1. ขวัญเข้าวงการตั้งแต่อายุ 3 ขวบ โดยเริ่มจากการเดินแบบ เล่นละคร ขวัญจะชอบส่องกระจก ฝึกบุคลิกภาพตั้งแต่เด็กๆ และมีผลงานโด่งดัง เป็นนางเอกเต็มตัว และมีคุณแม่เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้

2. ขวัญเป็นเด็กเลี้ยงยาก ตอนเด็กๆ เปลี่ยนพี่เลี้ยงมาแล้ว 11 คน เพราะไม่สบายบ่อย ต้องให้คุณแม่เลี้ยงถึงหาย

3. ขวัญเคยหกล้มมีรอยตรงช่วงดั้ง แต่ก็ยังสวยเป็นแบบธรรมชาติ ขวัญไม่เคยทำศัลยกรรม แต่เคยมีความคิดที่จะทำ แต่พอได้ปรึกษาคุณพ่อ ก็ได้คำตอบที่ว่า "พ่อแม่ให้ขวัญมาครบ 32 แล้ว ถ้าจะต้องเปลี่ยนพ่อกับแม่จะรู้สึกยังไง " หลังจากนั้นมา เธอก็ไม่คิดที่จะทำศัลยกรรมอีกเลย เพราะทุกอย่างมันคือของพ่อและแม่ของเธอ

4. ขวัญมีหุ่นที่เป๊ะ ซิกแพคแน่น ไม่ธรรมดา ด้วยการออกกำลังกาย และดูแลตัวเอง

5. ขวัญเคยคบกับกอล์ฟเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนกันมาก่อน โตและผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ จนจุดๆ นึงต้องถอยห่างจากกัน และปัจจุบันก็ตัดสินใจกลับมาคบหาดูใจกันอีกครั้ง

       ปัญหามีไว้เพื่อสอนให้เราเติบโต และผ่านไปได้ด้วยดีจริงๆ ค่ะ ยังไงก็แล้วแต่ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^

วิธีออกกำลังกายรักษาโรคซึมเศร้า อยาก happy และหุ่นดี ต้องลอง!


วิธีออกกำลังกายรักษาโรคซึมเศร้า อยาก happy และหุ่นดี ต้องลอง!

วิธีออกกำลังกายรักษาโรคซึมเศร้า อยาก happy และหุ่นดี ต้องลอง!

โรคซึมเศร้า เป็นโรคที่ไม่มีใครอยากเป็น เพราะเป็นแล้วมักสร้างความรู้สึกย่ำแย่และทุกข์ทรมานได้อย่างไม่น้อย หลายคนเป็นโรคนี้ และเผชิญกับอาการของมันบ่อยๆ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นอกจากการใช้ยารักษาโรคซึมเศร้าแล้ว คุณรู้มั้ยคะว่าการออกกำลังกายไม่เพียงแค่จะช่วยลดน้ำหนักได้แต่เพียงเท่านั้น หากแต่ยังสามารถรักษาโรคซึมเศร้าได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะวิธีออกกำลังกายดังต่อไปนี้
เล่นโยคะ
ผลการศึกษาเมื่อปี 2007 ที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine ได้ระบุไว้ว่า นักเรียนในคลาสโยคะมักมีแนวโน้มที่ร่างกายจะสามารถลดความเครียด ความกดดัน ความกังวลต่างๆ และยังช่วยลดอาการทางประสาทได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ทางด้านนักวิจัยยังยกให้การออกกำลังกายด้วยโยคะเป็นหนึ่งในรูปแบบการออก กำลังกายที่สามารถช่วยบำบัดรักษาอาการของโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย

วิธีออกกำลังกายรักษาโรคซึมเศร้า อยาก happy และหุ่นดี ต้องลอง!
วิธีออกกำลังกายรักษาโรคซึมเศร้า อยาก happy และหุ่นดี ต้องลอง!
ออกกำลังกายแบบเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งได้ให้การเปิดเผยข้อมูลไว้ว่า ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า 45 คนที่เข้าคอร์สออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อเป็นเวลา 10 สัปดาห์ มักมีอาการป่วยของโรคซึมเศร้าลดน้อยลง และการออกกำลังกายแบบสร้างกล้ามเนื้อยังช่วยกระตุ้นให้สุขภาพของ ผู้ป่วยดีขึ้นมากมายอีกด้วย โดยให้การอธิบายไว้ว่า การออกกำลังกายด้วยการเล่นกล้ามในแต่ละครั้งนั้น จะมีผลทำให้ผู้ป่วยมีสมาธิมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ทำให้มีใจจดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับการเล่นเวทมากกว่าใส่ใจเรื่องอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ ความรู้สึกย่ำแย่หรืออาการเครียดกังวลต่างๆ จึงหายไปได้อย่างชั่วคราว เมื่อหมั่นออกกำลังกายรูปแบบนี้เป็นประจำ จึงย่อมส่งผลทำให้สุขภาพผู้ป่วยดีขึ้น มีความแข็งแรงขึ้นตามลำดับ ที่สำคัญยังทำให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้นด้วยค่ะ

วิธีออกกำลังกายรักษาโรคซึมเศร้า อยาก happy และหุ่นดี ต้องลอง!
วิธีออกกำลังกายรักษาโรคซึมเศร้า อยาก happy และหุ่นดี ต้องลอง!
วิ่ง
ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิ่งจากสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยว่า การวิ่งออกกำลังกายจะช่วยดึงสารแห่งความสุขที่ชื่อ เซโรโทนินและนอร์อะดรีนาลินให้หลั่งออกมา สารเหล่านี้เป็นสารช่วยกระตุ้นความสุขและยังสร้างความรู้สึกสดชื่นกระปรี้ กระเปร่า หลายครั้งที่เราวิ่ง เราจึงรู้สึกสดชื่นขึ้นได้อย่างง่ายดายทันที นอกจากนี้ นิตยสาร Psychiatry & Neuroscience ยังได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาทางจิตวิทยาในปี 2016 ที่ระบุไว้ว่า การออกกำลังกายจนมีเหงื่อขึ้นนั้น ทำให้ร่างกายมีศักยภาพเพียงพอในการบำบัดรักษาโรคซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับการใช้ยารักษาโรคซึมเศร้า

วิธีออกกำลังกายรักษาโรคซึมเศร้า อยาก happy และหุ่นดี ต้องลอง!
วิธีออกกำลังกายรักษาโรคซึมเศร้า อยาก happy และหุ่นดี ต้องลอง!
จ๊อกกิ้ง
การวิ่งจ๊อกกิ้งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยกระตุ้นสมองให้ผลิตสารเอ็นดอร์ฟินจน หลั่งออกมา สารนี้เป็นสารเคมีทางธรรมชาติที่ออกฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดและส่งผลทำให้ รู้สึกสบายผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดลงได้อีกด้วย เพราะการที่เราเอาใจจดจ่ออยู่แต่กับการวิ่งจ๊อกกิ้งนั้น จะทำให้เกิดการปลดปล่อยความคิดออกไปพร้อมกันในระหว่างทางที่วิ่ง จึงทำให้เรารู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
สำหรับสาวๆ คนไหนที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก และหากคุณเองก็เผชิญกับโรคซึมเศร้าอยู่ แนะนำให้ออกกำลังกายตามวิธีเหล่านี้เลยค่ะ หมั่นออกเป็นประจำ นอกจากหุ่นสวยแล้ว ยังทำให้อาการโรคซึมเศร้าดีขึ้น และทำให้คุณมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นอย่างแน่นอน ไม่เชื่อต้องลอง!

รีวิวลดความอ้วน ไม่ต้องอดของหวาน ก็หุ่นสวยได้


รีวิวลดความอ้วน ไม่ต้องอดของหวาน ก็หุ่นสวยได้

รีวิวลดความอ้วน ไม่ต้องอดของหวาน ก็หุ่นสวยได้

เรื่องราวของสาววัย 33 ปี สมาชิกจากเว็บไซต์พันทิป ดอทคอม เธอบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง ว่าเคยมีน้ำหนักเกือบ 100 กิโลกรัม แต่ด้วยความที่อยากมีสุขภาพร่างกายดี เธอจึงพยายามตั้งใจลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เธอจะมีวิธีลดน้ำหนักอย่างไรบ้าง มาดูประสบการณ์จากเธอเลยค่ะ
การกลับมาอีกครั้งของหมูสตรองที่ชีวิตนี้ขาดหวานไม่ได้...
สวัสดีค่ะทุกคน
เราพิสูจน์แล้วว่าติดขนมหวานก็มีหุ่นที่ฟิตกระชับได้ถ้ามีวินัยและอดทน ผ่านมาแล้ว 1 ปีกว่าๆ กับการเอาชนะใจตัวเองในครั้งนี้ จากน้ำหนักเกือบ 100 กิโล มาวันนี้เราได้บอกลาเสื้อผ้าไซส์ 3XL-4XL ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ และก่อนหน้าเราได้เขียนบอกเล่าประสบการณ์การลดน้ำหนักไว้ในพันทิป ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ช่วง ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ
http://pantip.com/topic/35251594/desktop
เราเป็นอีกคนที่ศึกษาและอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการลดน้ำหนักมาเยอะมากแต่ก็ ไม่สามารถทำได้ทั้งหมด ด้วยวัย 33 ปีแล้ว แถมระบบการเผาผลาญยังพังยับเยินจากการกินยาลดความอ้วนมาตลอด เราเลยขอเลือกและนำมาปรับใช้ในแบบฉบับของตัวเอง ออกกำลังกายเองที่บ้านไม่ ได้เข้าฟิตเนสและไม่มีโค้ชส่วนตัวค่ะ เราแค่หาจุดที่เราทำแล้วมีความสุขเพราะเราจะอยู่กับมันได้นาน อีก 2 ปีก็จะอายุ 35 เราจะขอปั้นหุ่นใหม่ ต้นขาแน่นๆ ก้นเด้งๆ มีกล้ามท้องนิดหน่อยพอค่ะ อยากมีหุ่นแซ่บๆ เหมือนคนอื่นๆ บ้าง

และวันนี้มาตามสัญญาที่ให้ไว้จากกระทู้ที่แล้ว ว่าจะเอาพุงมาให้ทุกคนดูกัน เราสูง 167 เซนติเมตร ตอนนี้หนัก 58 กิโลกรัม ได้แค่นี้ก็ภูมิใจแล้วค่ะแต่ก็ต้องสู้ต่อไปเพื่อเป้าหมายที่ตั้งไว้ เราจะมาต่อช่วงที่ 5 กัน ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่มีอะไรแตกต่างจากช่วงที่ 4 มากนัก และกับข้าวฝีมือแม่ก็ยังอร่อยน่ากินเหมือนเดิมโดยเฉพาะเมนูมื้อเย็น 555
เราไม่ใช่สายคลีนเพราะพ่อกับแม่ไม่คลีนด้วย แต่พยายามเลือกกินอาหารแบบลีนๆ เช่นแกงกะทิก็ตักแค่ชิ้นเนื้อและผัก ของทอดก็เอากระดาษซับๆ น้ำมันออกหน่อย ถ้าวันไหนกินมื้อเย็นวันรุ่งขึ้นก็อาจจะเปลี่ยนจากข้าวมาเป็นขนมปังแทน ตอนนี้น้ำหนักยังคงเดิมขึ้นๆ ลงๆ อยู่ที่ 58-60 กิโล แต่ที่เปลี่ยนไปคือได้พุงที่ฟิตกระชับขึ้นมาก ทั้งๆ ที่กินข้าวครบ 3 มื้อแล้วตามด้วยขนมหวานตลอด แต่เราก็พยายามเลี่ยงมื้อเย็น เปลี่ยนจากข้าวเป็นน้ำผัก-ผลไม้รวมปั่น หรือไม่ก็ขนมปังแผ่นกับโยเกิร์ต
ช่วงที่ 5 เป็นช่วงที่ไม่กดดันตัวเองแล้วค่ะ กินอิ่มนอนอุ่น เพราะแม่แฮปปี้กับหุ่นของเราแล้ว ที่เหลือคือเป้าหมายของตัวเองที่จะไปให้ถึง 48 กิโลให้ได้ แต่เราก็ยังไปไม่ถึงสักทีเพราะแวะปั้มซื้อขนมกินกลางทางตลอด 555




*รูปก่อนลดน้ำหนักอาจจะดูน่ากลัวแต่อย่ากลัวกันเลยนะคะ เราผ่านจุดนั้นมาแล้ว
ยอม รับว่าไปไกลมากไม่คิดว่าจะหมดสภาพได้ขนาดนั้น สิวก็เกรอะกรังเต็มหน้ามาก ทั้งๆ ที่อยู่ในความดูแลของคุณหมอมาตลอด แต่มันไม่หาย พอหยุดหาหมอแล้วรักษาด้วยวิธีของตัวเองตอนนี้สิวหายเกลี้ยงหน้าเนียนแล้วค่ะ
*รูปก่อนลดน้ำหนักใครๆก็ทักว่าท้อง 555 ลูกแฝดคงอยู่ในนั้นค่ะ พุงใหญ่มากประมาณ 44 นิ้ว ตอนนี้ลดเหลือ 27 นิ้วค่ะ เอวยังหนาอยู่และมีความโลภอยากได้ 24 นิ้ว สู้ต่อไปค่ะ
ส่วนอาหารที่เน้นมากขึ้นในช่วงที่ 5 จะเป็นพวกกราโนล่า อโวคาโด ไข่ต้ม ปลา อกไก่ ขนมปังแผ่นธัญพืช 12 ชนิด น้ำมันปลา ตระกูลถั่วทุกชนิด
ส่วนเมนูอื่นๆ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะไม่ได้จัดจานสวยงาม อยากกินอะไรก็ใส่ๆ ไปค่ะ



ส่วนการออกกำลังกายก็เหมือนเดิมคาร์ดิโอ 45 นาที ออกกำลังมากกว่านี้วันรุ่งขึ้นจะเหมื่อยล้า เอาเท่าที่เราไหวและทำอย่างมีความสุข เราจะสนุกกับมันค่ะ บางวันก็เป็นเวทบ้าง หลุดบ้างก็มีสลับกันไป แต่ทุกวันช่วงเช้าจะหมุนจานทวิสต์และถือดัมเบลเหวี่ยงแขนซ้ายขวาหมุนตามรอบ จานทวิสต์ มีกระโดดเชือกบ้างแต่แค่เซตละ 50 ทำ 2-3 เซต เราทำตามคลิปที่ 2 จบแล้วต่อด้วยคลิปที่ 1 ส่วนคลิปที่ 3 ทำสลับวันกับคลิปที่ 2 ค่ะ