วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559

จะควบคุมน้ำหนักไว้ใจแตงโม! ผลไม้ดีๆ หาทานง่าย


จะควบคุมน้ำหนักไว้ใจแตงโม! ผลไม้ดีๆ หาทานง่าย

จะควบคุมน้ำหนักไว้ใจแตงโม! ผลไม้ดีๆ หาทานง่าย

        ถือเป็นผลไม้ที่หาทานได้ง่าย แถมมีประโยชน์มากมายเลยนะ สำหรับ เจ้าแตงโม ที่นอกจากเวลาเรารู้สึกร้อนๆ หิวน้ำ คิดไม่ออกบอกไม่ถูกก็อยากกินแตงโม สั่งน้ำแตงโมปั่นหน่อย แต่รู้ไหมคะว่า นอกจากจะช่วยคลายความร้อนในร่างกายแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อผู้หญิงอย่างเราด้วยนะ
        เพราะความจริงแล้ว แตงโม สามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้ค่ะ แตงโม เป็นผลไม้ที่เหมาะกับคนที่ต้องการลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะมีแคลอรี่ต่ำ ป้องกันการสะสมของไขมันที่เป็นอันตรายกับร่างกาย ลดปริมาณไขมันที่จับอยู่ภายในเลือด นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงผิวพรรณ บำรุงสายตาได้อีกด้วย
       เห็นแบบนี้แล้ว อย่าลดช้า ไปหาแตงโมมากินแทนช่วงเวลาที่อยากขนมหวาน หรือช่วงที่หิวๆ กันเลย ^^

จิตแพทย์ ชี้หญิงไทยเสี่ยงเกิดความเครียดมากขึ้น


จิตแพทย์ ชี้หญิงไทยเสี่ยงเกิดความเครียดมากขึ้น

จิตแพทย์ ชี้หญิงไทยมีความเสี่ยงเกิดความเครียดมากขึ้น แนะหาเวลาพักผ่อน เข้าร้านเสริมสวย พบปะเพื่อนฝูง
แพทย์หญิง พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ใช้โอกาสวันสตรีสากล ว่าควรให้ความสำคัญกับผู้หญิง โดยพบว่า หญิงไทยมีความเสี่ยงเกิดความเครียดมากขึ้น เนื่องจากต้องออกไปทำงานนอกบ้าน และทำงานหนักเพิ่มขึ้นเพื่อหารายได้เสริมให้ครอบครัว
ทั้งๆ ที่โดยธรรมชาติ ผู้หญิงมีแนวโน้มคิดเล็กคิดน้อยอยู่ตลอดเวลา มีความกังวล และอารมณ์เศร้ามากกว่าผู้ชาย ตลอดจนมีช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ที่มีผลต่อภาวะอารมณ์ เช่น ช่วงที่มีรอบเดือน ตั้งครรภ์ และเข้าสู่ถึงวัยทอง
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต แนะให้หญิงไทยหาเวลาพักผ่อน ออกกำลังกาย เข้าร้านเสริมสวย ดูหนังฟังเพลง พบปะเพื่อนฝูง และนั่งสมาธิ เพื่อช่วยเพิ่มพลังในการดำเนินชีวิต และลดความเครียดลง รวมทั้งบอกเล่าปัญหาให้คนที่ไว้ใจได้รับฟัง และเมื่อเกิดปัญหาต่างๆ อย่าโทษตัวเอง เพราะผู้หญิงไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ ที่สำคัญต้องฝึกเป็นนักแก้ปัญหา หัดวางแผน จัดลำดับก่อนหลัง หรือปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สาววัย 30 อัพ ควรทานอะไรบ้าง ถึงจะดี มาดูกัน!


สาววัย 30 อัพ ควรทานอะไรบ้าง ถึงจะดี มาดูกัน!

สาววัย 30 อัพ ควรทานอะไรบ้าง ถึงจะดี มาดูกัน!

        อายุวัย 30 ปีขึ้นไป ถือเป็นช่วงวัยที่ต้องใส่ใจดูแลตัวเองมากกว่าแต่ก่อนเยอะเลยนะคะ เพราะจะปล่อยให้ตัวเอง แก่ ริ้วรอยมาตามวัยคงไม่ดีแน่สำหรับผู้หญิงอย่างเราๆ ถ้าอย่างนั้นแล้ว เรามาดูกันว่าอาหารอะไรบ้างนะ ที่อายุวัยทั้งก่อน 30 และ 30 ไปแล้วควรทานบ้าง
         นอกจากการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ลดดื่มแอลกอฮอล์ เราควรทานอาหารพวกนี้ค่ะ
- ผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
      ไม่ว่าจะเป็น แครอท มะเขือเทศ ฟักทอง กล้วยไข่ มะละกอสุก
- น้ำพริก
      ไม่ว่าจะน้ำพริกปลาทู ทานพร้อมกับผักที่ปลอดสารเคมี และข้าวที่ไม่ขัดขาวจะทำให้อิ่มเร็วและได้คุณค่าทางอาหารสูง
- ธัญพืชและถั่ว
      ทั้งข้าวกล้อง เมล็ดผักต่างๆ ถั่วลิสง เมล็ดเจีย งาทั้งขาวและดำ ผสมคู่ไปกับอาหาร ทั้งสวยและไม่อ้วน
- น้ำขิงผสมน้ำผึ้ง
      อย่างที่รู้กันว่าน้ำผึ้งถือเป็นยาอายุวัฒนะอยู่แล้ว ส่วนน้ำขิงก็มีฤทธิ์ร้อนช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี
- เลี่ยงทานของหวานให้น้อยลง
      เพราะการทานน้ำตาลเยอะๆ จะทำให้เกิดอนุมูลอิสระสูงเกิดไปภายในร่างกาย พวกเซลล์ต่างๆ มันจะถูกทำลาย ทำให้แก่เร็ว แถมยังเกิดเซลลูไลท์อีกด้วย
- ดื่มไวน์แดง
      ดื่มไวน์แดงวันละ 1 - 2 แก้ว เพราะในไวน์แดงจะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
- กาแฟสด
      ดื่มได้แต่ไม่ควรเกินวันละ 1 แก้ว เพราะจะเป็นการไปช่วยในเรื่องของหัวใจ ทำให้หัวใจเราทำงานได้ดีขึ้น
- เลี่ยงอาหารฟาสต์ฟู้ด
      เลี่ยงได้ควรเลี่ยงนะคะ อาหารจำพวกทอดๆ มันๆ เพราะอาหารเหล่านี้ไม่ดีต่อสุขภาพ เป็นการสะสมไขมัน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
- ดื่มน้ำเยอะๆ
      ร่างกายของเราต้องการน้ำมากที่สุด เพราะเช่นนั้นต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 8-10 แก้ว จิบระหว่างวัน ดีต่อทั้งสุขภาพและผิวพรรณเลย
       รู้แบบนี้แล้ว ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันแล้วล่ะจะได้ไม่แก่ก่อนวัย เอาล่ะค่ะมาเริ่มกันเลย ^^

Acai Berry ผลไม้จากป่าอเมซอน เคล็ดลับของความอ่อนเยาว์


Acai Berry ผลไม้จากป่าอเมซอน เคล็ดลับของความอ่อนเยาว์

        Celeb Hollywood ชื่อดัง ได้ทวีตข้อความผ่าน Twitter ส่วนตัวว่า “Obsessed with Acai berries! Native Brazilian Super food" หรือ ชั้นกำลังหลงใหลในอาซาอิเบอร์รี่ สุดยอดผลไม้ท้องถิ่นของชาวบราซิล เนื่องจากเธอรู้สึกว่าผลไม้ชนิดนี้ช่วยให้ผิวเธอสุขภาพดี ขึ้น ปราศจากปัญหาผิวในอดีตที่เธอมักต้องเผชิญเป็นประจำ เช่นเดียวกับนางแบบชื่อดัง ที่ประกาศตัวเป็นแฟนตัวยงของอาซาอิเบอร์รี่ นั่นเพราะคุณค่าทางโภชนาการที่แสนมหัศจรรย์ และคุณประโยชน์ด้าน Anti-Aging ของอาซาอิเบอร์รี่ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงด้านการชะลอความชรา ผู้ค้นพบทฤษฏีการอักเสบ และผู้แต่งหนังสือขายดีหลายเล่ม ได้กล่าวถึง Acai Berry ไว้ในหนังสือ “The Perricone Promise” ที่ติดอันดับขายดีทั่วโลก ที่บอกถึงวิธีการย้อนวัย 10 ปี ใน 28 วัน ไว้ว่า “Acai Berry คือ สุดยอดอาหารจากธรรมชาติที่ดีที่สุดในโลก การทาน Acai Berry ทุกวัน เป็นหนึ่งในวิธีย้อนวัยในระดับเซลล์”
รวมถึงพิธีกรชื่อดังของอเมริกาก็ได้กล่าวถึง Acai Berry ในรายการของเธอว่า “ผลไม้เล็กๆลูกนี้เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและทรงประสิทธิภาพมากที่ สุดในโลก” เช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์ New York Times ที่ได้เขียนถึงประโยชน์ที่แสนมหัศจรรย์ของอาซาอิเบอร์รี่เช่นกัน
          Acai berry อาซาอิเบอร์รี่ เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลเล็กกลมสีม่วงเข้ม เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดและขึ้นอยู่เฉพาะบริเวณปากแม่น้ำในป่าอเมซอน แถบตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศบราซิล ถือเป็นผลไม้ที่น้อยคนในโลกจะรู้จัก แต่มีความสำคัญกับคนพื้นเมืองในแถบป่าอเมซอนมาอย่างยาวนาน ในสมัยโบราณ ก่อนออกรบทุกครั้ง นักรบชาวอาแมเนี่ยน จะไปเก็บผลไม้อาซาอิเบอร์รี่มาทานร่วมกัน เพราะเชื่อว่าสามารถเพิ่มพละกำลังในการรบได้
          อาซาอิเบอร์รี่ถูกจัดให้ให้เป็น Nature’s Perfect Food เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุ และกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี1, บี2, บี3, วิตามินซี, วิตามินอี ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม เบต้าแคโรทีน เส้นใยอาหาร กรดไขมันที่จำเป็นอย่าง โอเมก้า 3, 6, 9 กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย และยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีอีกด้วย ที่สำคัญ คือ ผลอาซาอิเบอร์รี่ มีประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants)ในระดับสูง ทาให้อาซาอิเบอร์รี่ ส่งผลที่ดีกับร่างกายหลายประการ
          ด้านผิวพรรณ อาซาอิเบอร์รี่มีคุณสมบัติในการ Anti-Aging ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ สาเหตุของความชรา มีประสิทธิภาพในการลดเลือนและต่อต้านการเกิดริ้วรอย เปรียบเสมือน Botox จากธรรมชาติ ช่วยรักษาโครงสร้างของชั้นผิว ให้ผิวเนียนละเอียด แน่นกระชับดูอ่อนเยาว์ และเปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ
            ด้านการเสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกายด้วย คุณค่าทางโภชนาการที่อุดมอยู่ในอาซาอิเบอร์รี่ทำให้อาซาอิเบอร์รี่ช่วยเพิ่ม อัตราการเผาผลาญพลังงานให้กับร่างกายได้ ช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ความสดชื่น ลดความเมื่อยล้า และเพิ่มพละกำลัง ในการออกกำลังกาย
          ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำในการเลือกรับประทาน อาซาอิเบอร์รี่ว่า “ปัจจุบันมีอาหารที่อ้างว่ามีคุณสมบัติในการชะลอวัยหลากหลาย ทำให้กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา หรือ USDA จัดมาตรฐานสำหรับการตรวจวัดความสามารถในการชะลอวัย หรือการต่อต้านอนุมูลอิสระในอาหารต่างๆ เรียกกันว่า ค่า ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) โดยอาซาอิเบอร์รี่ จัดเป็นผลไม้ที่มีการต่อต้านอนุมูลอิสระสูงเป็นลำดับต้นๆ คุณต้องทานมะเขือเทศถึง 188 ผล เพื่อให้ได้ค่าการต่อต้านอนุมูลอิสระ เท่ากับ Acai Berry 10 g

           แต่การเลือกรับประทานอาหารที่มีค่าการต่อต้านอนุมูลอิสระสูงๆ เพื่อการชะลอวัย ก็มีสิ่งสำคัญที่ควรคำนึกถึงอย่างมาก นั่นก็คือ กระบวนการเพื่อให้ได้มาของอาหารนั้นๆ โดยเฉพาะพวกผักหรือผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ สารออกฤทธิ์เหล่านี้จะสูญสลายได้ง่ายจากกระบวนการเก็บตลอดจนการผลิตต่างๆ อาซาอิเบอร์รี่ก็เช่นกัน ดังนั้นเราควรเลือกรับประทานอาซาอิเบอร์รี่ที่ผ่านเทคโนโลยีการสกัดแบบ Freeze Dried ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถคงประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระได้
           ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารเสริม เพื่อเสริมความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระให้เพียงพอกับความต้องการของ ร่างกาย ก็เป็นทางเลือกนึงของการชะลอวัยที่ดี”

เทคนิคของเตรียมตัวลูกให้พร้อม ก่อนพบหมอฟัน…


เทคนิคของเตรียมตัวลูกให้พร้อม ก่อนพบหมอฟัน…

เทคนิคของเตรียมตัวลูกให้พร้อม ก่อนพบหมอฟัน…

ภาระกิจมนุษย์แม่.. พาลูกสาวไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็คสุขภาพฟัน จะเล่าให้ฟังว่าจริงๆ แล้วแม่แอร์จะต้องพาลูกไปพบทันตแพทย์ก่อนหน้านี้ตั้งนานละ แต่พอนัดคุณหมอทีไรมีเหตุให้ต้องเลื่อนนัดทุกที จนกระทั่งวันนี้… จะบอกว่าครั้งนี้เป็นการพบทันตแพทย์ครั้งแรกของลูกสาวแม่แอร์ (2 ขวบ 4 เดือน) การไปพบคุณหมอวันนี้คือดีมาก ลูกสาวไม่ร้องเลยแม้แต่นิดเดียว นางให้ความร่วมมือดีมาก ไม่ร้องไห้ซักแอะ (ลูกสาวแอบหน้าบึ้งนิดหนึ่ง นางไม่กล้าอ้าปากหลังจากทำฟันเสร็จ ยังงงๆ)
lovelyair-detist-2
อายุเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมต่อการพามาพบทันตแพทย์หรือหมอฟัน
แม่แอร์จะบอกว่า จริงๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่สามารถ พาลูกๆ มาพบทันตแพทย์ได้ตั้งแต่ในช่วงขวบปีแรกค่ะ  หรือช่วงที่ฟันน้ำนมของลูกเพิ่งขึ้น จะบอกว่าการที่พาลูกไปพบทันตแพทย์ ในช่วงขวบปีแรกไม่ได้หมายความว่าจะต้องให้ลูกมาทำฟันเสมอไปนะคะ แต่เป็นการมาเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากของลูกว่ามีความผิดปกติไหม เพื่อให้ ทันตแพทย์แนะนำวิธีการดูแลสุขภาพฟันที่ถูกต้อง และเป็นการปลูกฝังสุขนิสัยที่ดีตั้งแต่เด็กๆ การที่ลูกมีสุขภาพฟันที่ดีเป็นเรื่องที่สำคัญมากนะคะ คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแลเอาใจใส่
เทคนิคของแม่แอร์เตรียมตัวลูกให้พร้อม ก่อนพบหมอฟัน…
ก่อนที่แม่แอร์จะพาลูกไปพบหมอฟัน  แม่แอร์เตรียมความพร้อมให้ลูก ดังนี้
  • หาหนังสือหรือหนังสือนิทานที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับหมอฟัน นำมาอ่านหรือเล่าให้ลูกฟัง (เล่าเรื่องราวให้ฟังก่อนไปพบคุณหมอโดยประมาณ 1 อาทิตย์ พูดคุยและคอยบอกเล่าให้ลูกๆ อยู่เรื่อยๆ)
  • พูดคุยกับลูกอธิบายว่าทำไมเราต้องไปทำฟัน และอธิบายถึงข้อดี ข้อเสียของสุขภาพปากและฟันให้ลูกฟัง
  • แม่แอร์จะสร้างทัศนคติที่ดีให้ลูกในเรื่องที่เกี่ยวกับการไปทำฟัน เลือก ใช้คำพูดที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงที่จะพูดในสิ่งที่น่ากลัวให้ลูกฟัง เช่น จะพาหนูไปฉีดยา ไปถอนฟัน
  • เลือกเวลาในการไปพบหมอฟัน เช่น ไม่เลือกช่วงเวลาทานอาหารกลางวัน หรือช่วงเวลานอนกลางวัน
  • ในวันที่ไปพบคุณหมอคอยทำให้ลูกรู้สึกว่าการมาหาหมอฟันนั้นสนุก
1st-dentist
ผลตรวจสุขภาพฟันวันนี้ โดยรวมมีฟันขึ้น ทั้งหมด 20 ซี่ ไม่มีฟันผุเลย เยี่ยมและคุณหมอชมว่าสุขภาพฟันดีมาก (อิแม่นิฟิน ก็เราดูแลมากับมือ) วันนี้คุณหมอแนะนำให้เคลือบฟลูออไรด์ (ค่าเคลือบ 850 บาท รพ.วิชัยยุทธ) ข้อดีของการเคลือบฟลูออไรด์ จะทำให้ผิวเคลือบฟันต้านทานการผุ คือประมาณว่าฟันผุยากขึ้น ไม่ใช่ไม่ผุเลยนะ และคุณหมอก็บอกให้แม่ดูแลฟันลูกต่อไปเรื่อยๆโดยต้องแปรงฟันทุกวันเช้าเย็น หรือก่อนนอน ตอนแปรงฟันถ้าใช้ยาสีฟันก็ต้องคอยดูไม่ให้ลูกกลืนยาสีฟันเข้าไป ทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เพราะถ้ากลืนเข้าไปคุณหมอบอกว่า พอฟันแท้ขึ้นอาจจะทำให้ฟันเป็นรอยด่างหรือเป็นจุดฝ้าขาวๆ และเจ้าจุดนี้แก้ไม่ได้เลย มันจะอยู่ถาวร (ลูกต้องบ้วนน้ำคล่องแล้ว) แล้วถ้าลูกทานขนมเป็นไปได้ก็ต้องให้ทานน้ำตามทุกครั้ง และคุณหมอแนะนำว่าผู้ปกครองก็ควรพาลูกมาตรวจเช็คสุขภาพฟันและเคลือบ ฟลูออไรด์ทุก 6 เดือนค่ะ
Q: ทำไมเด็กกลืนยาสีฟัน แล้วทำให้ฟันมีรอยด่าง ฟันตกกระ?
A: สาเหตุที่ทำให้ฟันตกกระ เพราะเด็กๆ ได้รับ fluoride (ฟลูออไรด์) มากเกินไปในช่วงวัยที่ฟันกำลังจะสร้างตัวหรือช่วงวัยที่ฟันกำลังขึ้น คือ ช่วงอายุก่อน 6-7 ปี เมื่อเด็กๆ ได้รับฟลูออไรด์ที่มากเกินไป จะทำให้เปลือกฟันมีการสะสมของเกลือแร่ผิดปกติ ทำให้ฟันมีรอยด่าง ดังนั้นผู้ปกครองต้องระวัง เพราะเด็กจะได้รับปริมาณฟลูออไรด์มากกว่าปกติ ทันตแพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ คุณพ่อคุณแม่บีบยาสีฟันให้ลูกๆ ขนาดแค่เม็ดถั่วเขียว และต้องกำชับสอนลูกทุกๆ ครั้งที่แปรงฟันแล้ว ให้บ้วนยาสีฟันออกทุกครั้ง ไม่ให้กลืนลงไปค่ะ
คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลฟันลูกกันตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นเลยนะคะ
ฟันเป็นเสน่ห์ของทุกคนและทุกเพศทุกวัย… มาดูแลฟันให้ลูกๆตั้งแต่วันนี้กันเถอะค่ะ ฟันขาว ยิ้มสวย ช่วยเพิ่มเสน่ห์รอยยิ้มบนใบหน้า…

เอเพ็กซ์เปิดตัว CoolMini กำจัดคาง 2 ชั้นโดยไม่ต้องฉีดหรือผ่าตัด

เอเพ็กซ์เปิดตัว CoolMini กำจัดคาง 2 ชั้นโดยไม่ต้องฉีดหรือผ่าตัด

เอเพ็กซ์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำการกำจัดไขมันลดสัดส่วนอีกครั้งด้วยการนำเทคโนโลยีกำจัดไขมันคาง 2 ชั้น CoolMini ซึ่ง เป็นเทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยความเย็นค้นพบโดยคณะแพทย์จากมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดเข้ามาให้บริการเป็นรายแรกและรายเดียวในเมืองไทยและอาเซียน
CoolMini เป็นนวัตกรรมล่าสุดในการกำจัดไขมันที่ได้ รับ U.S.FDA approved ในการกำจัดคาง 2 ชั้นโดยจะส่งความเย็นในระดับต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ที่ -5 องศาเซลเซียสลงไปแช่แข็งเฉพาะเซลล์ไขมันโดยไม่ต้องใช้เข็มไม่ต้องผ่า ตัดและไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดทำให้เซลล์ไขมันเกิดภาวะตาย (Apoptosis) และ ถูกขับออกตามระบบไหลเวียนของร่างกาย กระบวนการนี้จะเกิดเฉพาะที่เซลล์ไขมันโดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ข้างเคียง ที่อยู่โดยรอบแต่อย่างใดและเป็นการกำจัดไขมันแบบถาวรเช่นเดียวกับการดูด ไขมัน โดยสามารถลดไขมันลงได้ 1 ใน 3 ตั้งแต่การทำครั้งแรกโดยจะเห็นผลลัพธ์ ใน 3 สัปดาห์และจะเห็นผลชัดเจนในระยะเวลา 1-3 เดือน CoolMini เป็น เทคโนโลยีจากคณะแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด (Harvard Medical School) ที่พัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีกำจัดไขมัน Coolsculpting โดยมีการออก แบบหัวเครื่องมือ(Applicator) ให้สามารถกำจัดไขมันเฉพาะในพื้นที่เล็กๆ อย่างมีประสิทธิภาพเหมาะสำหรับการกำจัดไขมันสะสมในพื้นที่เล็กๆ ของร่างกาย เช่น คาง คอ ต้นแขน ต้นขาและรอบเข่า
ข้อมูลจากสมาคมศัลยแพทย์ผิวหนังอเมริกาหรือ The American Society for Dermatologic Surgery (ASDS) รายงานว่าประชากรมากถึง 68% มีความกังวลเกี่ยวกับไขมันที่คอและคาง ของตัวเองโดยตัวเลขนี้เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ทุกๆ ปี


พญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ ผู้ก่อ ตั้งเอเพ็กซ์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ กล่าวว่า "สาเหตุของการสะสมไขมันในบริเวณคางมีได้หลายสาเหตุทั้ง ไลฟ์สไตล์อายุที่มากขึ้นและกรรมพันธุ์แต่ที่เป็นปัญหาหนักใจของคนมี คาง 2 ชั้นก็คือมันไม่เหมือนพื้นที่อื่นๆ ในร่างกายที่เราสามารถปกปิดซ่อนเร้นได้แต่งหน้าเพื่อปกปิดก็ไม่ได้หรือถ้า ยุคนี้ที่ใช้แอปช่วยก็ยังช่วยไม่ได้จึงเป็นเรื่องหนักใจและกวนใจทั้งหญิงและ ชายเป็นจำนวนมาก CoolMini เป็นเทคโนโลยีล่าสุดในการกำจัด ไขมันที่คางโดยไม่ต้องผ่าตัดไม่ต้องฉีดสะดวกสบายไม่เจ็บสามารถใช้เวลาช่วง พักเที่ยง 1 ชม. มาทำแล้วกลับไปทำงานต่อได้ตามปกติจึงเป็นที่นิยมอย่างมากใน ต่างประเทศ สำหรับในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบันก็มีเฉพาะ ที่เอเพ็กซ์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ เท่านั้น"
 
จากผลการวิจัยพบว่าผู้ที่มีไขมันที่คางหรือคอจะสามารถกำจัดไขมันลง ได้ 20% ในระยะเวลา 6สัปดาห์หลังการรักษาในแต่ละครั้งและในการ รักษา 1-2 ครั้งก็จะกำจัดไขมันส่วนเกินที่คางหรือคอได้อย่างถาวรพบ ว่า 83% ของผู้รับการรักษารู้สึกพึงพอใจในผลลัพธ์ที่ได้ CoolMini จึง เป็นวิธีที่ปลอดภัยสะดวกสบายและเห็นผลจริงในการกำจัดคาง 2 ชั้นมีผลลัพธ์ที่ เชื่อถือได้ในระดับสากลผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาด้วย เหตุนี้จึงเป็นที่คาดหมายว่า CoolMini จะเป็นนวัตกรรมที่มาแรงและเป็นที่นิยมของหนุ่มสาวยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องภาพลักษณ์ว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อหน้าที่การงานความสำเร็จและการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน

สูตรกุ้งถังง่ายๆแค่ 2 ขั้นตอน อร่อยจนต้องร้องหูยดังมาก!


สูตรกุ้งถังง่ายๆแค่ 2 ขั้นตอน อร่อยจนต้องร้องหูยดังมาก!

สูตรกุ้งถังง่ายๆแค่ 2 ขั้นตอน อร่อยจนต้องร้องหูยดังมาก!

Hot ซะเหลือเกินกับเมนูกุ้งถัง ที่เสิร์ฟแบบเทมาบนโต๊ะ วันนี้ชุ้งชิ้งเอาสูตรมาฝากจ้า จะได้สนุกสนานกันทั้งครอบครัว วิธีการทำนั้นก็สุดแสนง่าย รับรองว่าดูเสร็จจะต้องกระตุกต่อมอยากทำของใครหลายคนแน่นอน วันนี้ชิ้งใช้แค่กุ้ง แต่ถ้าเพื่อนๆจะยกมาทั้งทะเล เราก็ไม่ว่ากันค่ะ อิอิ

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม

image003

1 กุ้งไม่ปอกเปลือก

2 ข้าวโพดต้ม (ถ้าซื้อแบบดิบมาก็ต้มในน้ำผสมเกลือเล็กน้อย)

วัตถุดิบสำหรับซอส

1 น้ำพริกเผา (วันนี้ชิ้งใช้ม้าบิน)

2 มันกุ้งเสวย ที่เค้าขายเป็นกระปุกตามซุปเปอร์

3 น้ำจิ้มไก่ (วันนี้ชิ้งใช้ม้าบิน)

4 ซอสพริก (วันนี้ชิ้งใช้ม้าบิน)

5 กระเทียมสับละเอียด

6 กะทิ

7 เนยเค็ม

8 เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำ

1 ทำซอส ตั้งกระทะ ใส่มันกุ้งเสวยลงไป ตามด้วยกระเทียมสับ น้ำพริกเผา น้ำจิ้มไก่ กะทิเล็กน้อย เกลือ ตบท้ายด้วยเนยเพิ่มความหอมถึงขีดสุด ถ้าใครอยากเผ็ดสามารถเพิ่มพริกปาปริก้าหรือพริกป่นก็ได้ค่ะ ชิมแล้วปรับจนได้รสชาติที่ชอบ

image005

image007

2 ใส่กุ้งและข้าวโพดลงไปคลุกเคล้ากับซอสจนกุ้งสุก

image009

image011

image013

อุ๊ยตาย! ง่ายไปมั้ยคะเนี่ย 555 มาชมผลงานของเรากันอีกซักครั้งค่ะ

image015

image017

image019

image021

image023

“อั้ม ชิ้งป้อน...”

แชร์เมนูง่ายๆ ทำอาหารกินเองหุ่นไม่พังด้วย

        สวัสดีค่า วันนี้มาแนวเฮลตี้อีกแล้วหลังจากที่แชร์ปสก.ลดหุ่นแบบสุขภาพดี ไป ก็มีหลายคำถามเข้ามามากมาย โดยเรื่องหลักๆจะเป็นเรื่องอาหาร และ เรื่องท่าออกกำลังกายที่เน้นเฉพาะส่วน แต่บล๊อกนี้ตูนจะมาแชร์ในเรื่องของอาหารกันก่อนค่ะ ส่วนเรื่องท่าออกกำลังกายใจเย็นๆนะฮะ ขอเวลาแพ๊พพพพเดียวววว
อย่างที่ตูนเคยบอกไปตั้งแต่แรกว่า การที่เราจะมีหุ่นสุขภาพดี ไม่ย้วย ไม่ย้อยนั้น อาศัยปัจจัยหลายๆอย่างค่ะ ซึ่งอย่างที่สำคัญที่สุดๆๆๆๆ ก็คือ การกิน นั่นเอง เพราะจริงๆแล้วเราคุมการกิน 80% โฟกัสที่การออกกำลังกาย 20% แค่เท่านี้เราก็สามารถมีหุ่นเฟิร์มได้ แต่มันทำได้ง่ายซะที่ไหนเล่า ในเมื่อมันมีแต่ของน่ากินๆทั้งนั้น ซึ่งหลายๆคนก็อยากจะมีหน้าท้องที่แบนราบ ซึ่งก็มุ่งแต่จะซิทอัพวันละเป็นสิบเป็นร้อย แต่ไม่คุมการกินอาหาร โดยเฉพาะขนม ของหวาน บอกได้เลยว่า เป็นไปได้ยากมากกกกกกค่ะ แต่ก็ไม่ต้องกังวลนะคะ จริงๆแล้วเราก็ไม่ต้องจริงจังอะไรขนาดนั้น (เว้นแต่คนไหวเนาะ) อาทิตย์นึงก็อนุญาติให้ทานขนมได้สัก 2-3 ครั้งในปริมาณที่น้อยๆค่ะ
และครั้งนี้ตูนจะมาแนะนำเมนูอาหารที่ตูนทำกินเองบ่อยๆ เพราะมันสะดวกและง่าย โดยจะเน้นที่เครื่องปรุงเป็นหลักค่ะ คือตูนจะเลือกปรุงน้อยๆ เลือกวัตถุดิบที่ลดโซเดียมลง มีขายทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าค่ะ อย่างเช่น น้ำมันหอย น้ำปลา ซีอิ๊วขาว และเกลือ ที่ลดโซเดียม ซึ่งจะลดโซเดียมลงได้ถึง 60% เลยนะ ต่อมาก็จะเป็นน้ำมันค่ะ น้ำมันที่ตูนเลือกปรุง จะเป็นน้ำมันรำข้าว น้ำมันมะพร้าว น้ำมันพวกนี้จะมีไขมันดีประกอบอยู่ค่ะ และอีกอย่างนึงที่ช่วยให้อาหารกลมกล่อมทั้งในเมนูของคาวและของหวานก็คือ น้ำตาล โดยตูนจะเลี่ยงน้ำตาลทรายขัดขาวค่ะ จะใช้เป็นน้ำตาลทรายไม่ขัดขาว น้ำตาลจากหญ้าหวาน ที่สะดวกสุดและหาซื้อง่ายมากๆจะเป็น ตัวช่วยให้ความหวาน Equal Gold ตัวนี้จะต่างจากสารให้ความหวานทั่วไปนะคะ เพราะเค้าจะมีเกล็ดเหมือนน้ำตาล หวานเหมือนน้ำตาล ตูนเทออกมาจากซองยังงงว่า เหมือนน้ำตาลเดี๊ยะ ต้องเอากล่องมาอ่านให้แน่ใจว่าไม่มีน้ำตาลจริงๆ ใช้ปรุงอาหารแทนน้ำตาลได้แต่จะเห็นว่าสูตรอาหารต่างๆ ของตูนไม่ได้ปรุงหวานมาก แต่บางทีก็ต้องมีรสหวานมัน เปรี้ยว ครบรสถึงจะอร่อยนะคะ
นอกจากนี้แล้ว ยังพกพาง่าย ซองนึงจะมีความหวานเท่ากับน้ำตาลทราย 2 ช้อนชา แต่แคลอรี่เป็น 0 หากใครที่สนิทกับตูน จะเห็นว่าตูนชอบพกน้ำตาลเสมอๆ เพราะบางครั้งอยากปรุงก๋วยเตี๋ยวแต่ไม่อยากปรุงด้วยน้ำาลทราย ก็หยิบตัวนี้ ฉีกซองมาแล้วเทได้เลย เบากระเป๋า และเบาหุ่นด้วยค่า
equalS
ซึ่งตูนก็มีเมนูของหวานมาให้เพื่อนๆได้ลองทำทานกันดูค่ะ โดยหลักๆแล้วตูนจะเลือกวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ เลือกวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติอย่างน้ำตาลอ้อย น้ำตาลมะพร้าว แต่ถ้าช่วงไหนที่ตูนควบคุมน้ำหนักก็จะตัดน้ำตาลเลยค่ะ แล้วเปลี่ยนเป็นอิควล โกลด์แทน หวานเหมือนน้ำตาลแต่ไม่ทำให้อ้วน หรือที่หาซื้อง่ายๆเลยก็จะเป็นตัวช่วยให้ความหวาน Equal Gold โดยจะใช้แทนน้ำตาล ที่หวานเหมือนกัน แต่ส่งผลกับหุ่นน้อยกว่า หวานในแบบสุขภาพดีค่ะ
โอเคเนาะ อธิบายกันมายืดยาว มาดูเมนูที่ตูนชอบทำกันค่าว่ามีเมนูอะไรที่น่ากินบ้าง แบ่งเป็นคาว 5 หวาน 4 นะคะ

1. เส้นบุกผัดกระเพราไก่

วัตถุดิบ
- เนื้ออกไก่ลอกหนัง
- เส้นบุกลวกสุก
- พริก
- ใบกระเพรา
- น้ำมันหอยลดโซเดียม Good Life
- น้ำมันรำข้าว
- Equal Gold
ผัดกระเพราบ้านบ้านกับเส้นบุก อิ่มท้องไปได้นานหลายชั่วโมง
equalA
เริ่มจากตั้งน้ำมันให้ร้อน ตูนใช้น้ำมันรำข้าวค่ะ แล้วใส่พริกลงไป จากนั้นใส่เนื้ออกไก่ลอกหนังลงไปผัดให้สุกค่ะ
equalB
ปรุงรสด้วยน้ำมันหอยแบบลดโซเดียมและ Equal Gold ใส่เส้นบุกลวกสุกลงไป คลุกให้เข้ากัน จากนั้นตักใส่จานพร้อมทานค่ะ

2. ผัดผัดรวมมิตร

วัตถุดิบ
- บล็อกโคลี่
- เห็ดหอม
- ข้าวโพดอ่อน
- น้ำมันหอยลดโซเดียม Good Life
- น้ำมันรำข้าว
เมนูที่แสนง่ายแต่ให้ประโยชน์สุดๆ :)
equalC
ล้างและหั่นผักเตรียมไว้ ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน เทผักลงไป และปรุงด้วยน้ำมันหอย
equalD
เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ผัดผักแห้งเกินไป ตักใส่จานพร้อมเสิฟ :)

3. มาม่าต้มยำเกษตรอินทรีย์

วัตถุดิบ
- เครื่องต้มยำเกษตรอินทรีย์
- อกไก่ลอกหนัง
- มาม่าผักแบบไม่ทอด
- มะนาว
- Equal Gold
เมนูมาม่ายอดนิยม แต่จะรู้มั๊ยว่าโซเดียมเยอะแค่ไหน ลองมาทำทานเองโดยเปลี่ยนมาม่าเป็นบะหมี่ผักดีกว่าเพราะใช้การอบแทนการทอด ปลอดภัยไร้น้ำมัน
*วัตถุดิบบางอย่างอาจจะหาซื้อยากหน่อย อย่างเส้นมาม่าจะเลือกที่ผสมผักและใช้การอบแทนการทอด หาซื้อได้ในซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไปค่ะ ส่วนตัวเครื่องต้มยำเกษรอิรทรีย์นี้จะหาซื้อได้ตามร้านขายของเพื่อสุขภาพค่ะ กล่องละ 55 บาทค่ะ
equalE
เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ตั้งน้ำให้เดือดใส่ใบมะกรูดลงไป(มากับเครื่องต้มยำ) แล้วนำไก่ลงไปต้มให้สุกจากนั้นตักไก่ขึ้นพักไว้ แล้วใส่เครื่องต้มยำลงไปในน้ำเดิม ต้มจนเดือด
equalF
ใส่เส้นมาม่าลงไปต้มจนเส้นสุก ปรุงรสให้กลมกล่อมด้วย Equal Gold จากนั้นตักใส่ชาม ตกแต่งให้สวยงามน่าทาน ใส่ไข่แดงดิบลงไป มาม่าเจ้อูชิดซ้ายเลยทีนี้ 555

4. โจ๊กข้าวโอ๊ตไก่สับ

วัตถุดิบ
- เกลือลดโซเดียม
- อกไก่สับ
- ข้าวโอ๊ต
- ไข่ไก่
- พริกไทย
เมนูมื้อเช้าอย่างโจ๊กใครว่าไม่หนักท้อง แถมยังเป็นข้าวขาวอีกต่างหาก เปลี่ยนเป็นใช้ข้าวโอ๊ตดีกว่ามีประโยชน์สูงอยู่ท้องเหมือนกัน
equalG
ต้มน้ำให้เดือดเติมเกลือลดโซเดียมลงไป ใส่ไก่สับเป็นก้อนๆลงไปต้มให้สุก แล้วพักไก่ไว้ เทข้าวโอ๊ตลงไปในน้ำเดือด
equalH
ต้มจนข้าวโอ๊ตสุก แล้วเจียวไข่เทลงไป คลุกให้เข้ากัน ตักใส่ชาม พร้อมใส่ไก่ลงไป โรยพริกไทยเป็นอันพร้อมทาน

5. แซนวิชทูน่า

วัตถุดิบ
- ขนมปังโฮลวีท
- ผักสด
- ทูน่า
เมนูนี้ทำง่ายและเร็ว เพราะไม่ต้องใช้เตาเลย (ใครมีเวลาจะอบก็ได้ค่า) เหมาะกับมื้อเช้า เป็นของว่างมื้อบ่าย หรือจะทานก่อนออกกำลังกายก็ยังได้
equalI
วางขนมปังใส่ผักตามใจชอบ ตูนใส่แครอทด้วยเพื่อสีสันที่สวยงามน่าทาน
equalJ
ใส่ทูน่าลงไปเยอะๆๆๆ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนแน่ ปิดทับด้วยขนมปังอีกแผ่น หั่นครึ่งพร้อมเสิร์ฟค่า บอกแล้วว่าง่ายและเร็วมากๆ

6. ไอติมกล้วยหอม

วัตถุดิบ
- กล้วยหอม
- Equal Gold
มาดัดแปลงกล้วยหอมแทนไอติมในตู้แช่กันค่า ทำง่ายมากเลยขอบอก
equalK
บดกล้วยหอมแล้วเติม Equal Gold คลุกให้เข้ากัน จากนั้นนำไปแช่ฟรีซจนแข็ง แล้วนำมาทานเป็นไอติมได้เลยค่า บอกแล้วว่า ง่ายมากๆๆๆๆ

7. โยเกิร์ตมิกซ์เบอร์รี่

วัตถุดิบ
- โยเกิร์ต
- เบอร์รี่
- สตอเบอร์รี่
ของหวานนี้ดีต่อระบบขับถ่าย แช่เย็นไว้กินชื่นใจยามบ่ายหรือยามว่าง
equalL
เทเบอร์รี่กับโยเกิร์ตสลับกันจนเกือบเต็มแก้ว ตูนใช้เบอร์รี่ของวีต้าค่า
equalM
หั่นสตอเบอร์รี่วางไว้ด้านบน นำไปแช่เย็นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการทาน

8. ชาน้ำเต้าหู้

วัตถุดิบ
- ชาถุง
- น้ำเต้าหู้แบบไม่ใส่น้ำตาล
- Equal Gold
- เมล็ดเชีย
อยากดื่มชา แต่ไม่อยากหุ่นพัง ลองประยุกต์มาทำชาน้ำเต้าหู้กัน
equalN
เตรียมชาที่เราชอบ จะชาเขียว ชานม อะไรก็ได้ค่ะ แล้วเทน้ำร้อนลงไปเล็กน้อย เติมความหวานด้วย Equal Gold จากนั้นเทนมถั่วเหลืองที่ไม่ผสมน้ำตาลลงไป
equalO
คนให้เข้ากัน เติมเมล็ดเชียลงไป จะดื่มแบบเย็นโดยนำไปแช่เย็นหรือจะนำไปอุ่นให้ร้อนก่อนดื่มก็ได้ค่ะ

เกาะเทรนด์ผมตรงสวย ปังทุกยุค ด้วยตัวช่วยที่บิวตี้บล็อกเกอร์จากทั่วโลกแนะนำ

  ผู้หญิงอย่างเราแต่งหน้าสวยเป๊ะแล้ว จะปล่อยให้ผมเสีย ทรงไม่ปังไม่ได้นะคะ ยิ่งพอมองดูเวลาในแต่ละวันของเราจะมานั่งหนีบใช้ความร้อนอยู่ทุกวัน เส้นผมของเราต้องเสียแน่ๆ ครั้นจะให้เข้าร้านทำผมบ่อยๆ ก็เกรงว่าในแต่ละเดือนคงต้องหมดไปมากมายหลายร้อยชัวร์! วันนี้ขวัญเลยมีตัวช่วยดีๆ ที่จะช่วยล็อคผมให้ตรง ไม่ชี้ฟูได้ยาวนานถึง 7 วัน เพียงแค่เราทำการหนีบใช้ความร้อนแค่ครั้งเดียว แถมหลังจากนั้นอยากสระผมก็สระได้เลย โดยผมก็ยังตรงอยู่ด้วย อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่าตัวช่วยที่ขวัญพูดถึงคืออะไร ตามขวัญมาดูกันเลย
สภาพเส้นผม: ผมชี้ฟู จัดทรงยาก ไม่มีน้ำหนัก ผมหยักศก
          หลังจากที่เราสระผมให้สะอาด ลงครีมนวดทิ้งไว้สัก 5 นาที แล้วล้างทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เช็ดผมเบาๆ อย่าขยี้แรงๆ นะสาวๆ เพราะการขยี้ผมแรงๆ ในขณะที่ผมเปียกถือเป็นการทำร้ายสุขภาพเส้นผมเราอย่างหนึ่ง ระหว่างที่รอผมหมาดก็เตรียมเครื่องมือของเราได้เลย นั่นก็คือ ไดร์เป่าผมกับเครื่องหนีบผม และสำคัญที่สุดตัวช่วยที่จะล็อคเส้นผมของเราให้ตรงสวยภายใน 7 วัน ก็คือ เทรซาเม่ เคราติน สมูท ฮีท แอคติเวเตท ทรีทเมนต์ ที่กำลังเป็นที่พูดถึงในหมู่เซเลบและบิวตี้บล็อกเกอร์ทั่วโลกตัวนี้เลย

          หลังจากนั้นก็ทำการฉีดตัวสเปรย์บำรุงเส้นผมลงไปก่อน ต่อด้วยใช้เทรซาเม่ เคราติน สมูท ฮีท แอคติเวเตท ทรีทเมนต์ ประมาณ 8 - 10 ปั๊ม แล้วชโลมให้ทั่วเส้นผม เน้นตรงช่วงกลางจนถึงปลายเส้นผม หวีให้ทั่ว




          ขั้นต่อมาไดร์ผมให้แห้งก่อนเลย เห็นชัดเลยว่าผมขวัญดูไม่มีน้ำหนัก ไร้ทิศทาง แถมฟูอีกด้วย แต่! ขั้นตอนของเรายังไม่เสร็จ เตรียมเปิดเครื่องหนีบผมรอได้เลย




          เราจะใช้เครื่องหนีบผม รีดผมให้ตรง เริ่มด้วยการแบ่งผมเป็นชั้นๆ จับเป็นช่อๆ แล้วใช้เครื่องหนีบผม ค่อยๆ หนีบย้ำๆ ทำไปให้ครบทุกชั้น





          เสร็จแล้วเรียบร้อย พอเราใช้ทรีตเมนต์ที่มีคุณสมบัติในการช่วยให้ผมตรง ไม่ชี้ฟู ชัดเลยว่าผมที่เราล็อคความตรงด้วยความร้อนจะดูมีน้ำหนัก ดูเงากว่าแค่ไดร์เพียงอย่างเดียว และที่พิเศษไปกว่านั้นก็ตรงที่ทรีตเมนต์ตัวนี้ จะล็อคความตรงแบบนี้เอาไว้ได้ถึง 7 วัน และไม่ทำให้ผมเสีย (มันก็สบายตรงนี้นี่ล่ะเนอะ)





            เรามาดูประสิทธิภาพใน 7 วันกันค่ะ

          หลังจากหนีบเสร็จเรียบร้อย



          วันที่ 3 สระผมไปแล้ว 1 ครั้ง



          วันที่ 7 สระผมเป็นครั้งที่ 2



          ครบ 7 วันแล้ว ขวัญสระผมไปทั้งหมด 2 ครั้ง หลายคนอาจะมองว่า อุ๊ย! ใน 7 วันสระผมไปแค่ 2 ครั้งเองล่ะ จริงๆ แล้ว ขวัญ เคยได้ยินมาว่าการสระผมบ่อยๆ จะทำให้ผมยิ่งแห้ง และขวัญ เป็นคนผมแห้ง ชี้ฟูอยู่แล้ว เลยจะไม่สระผมทุกวันค่ะ แต่เมื่อได้สระ ขวัญก็จะเลือกใช้แชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผมและ ช่วยเติมเคราตินให้เส้นผมอย่างเทรซาเม่ เคราติน สมูท แชมพู และเทรซาเม่ เคราติน สมูท คอนดิชันเนอร์ ที่เมื่อใช้ร่วมกับตัวทรีทเมนต์แล้วก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการลดผมชี้ฟูได้ดียิ่งขึ้น

          สำหรับเจ้าทรีตเมนต์ตัวนี้หลังจากขวัญได้ลองใช้แล้วบอกเลยว่า ชอบนะ เหมือนมีตัวช่วยดีๆ ที่ทำให้ผมตรงไม่ชี้ฟูจนเกินไป เพราะจะเห็นได้เลยว่าผมก็ยังคงตรงประมาณนึง แต่ที่สำคัญไม่ฟูเลยแม้เวลาจะผ่านไปจนครบ 7 วัน ความตรงในที่นี้คือตรงใกล้เคียงกับที่เราทำการหนีบไว้ในครั้งแรกที่ลงตัว ทรีตเมนต์ไป โดยส่วนตัวแล้วขวัญเป็นคนผมไม่มีน้ำหนัก จัดทรงยาก พอใช้ตัวนี้ในการช่วยทำให้ผมตรง เลยสังเกตตัวเองได้ว่าเวลาจัดทรงง่ายขึ้น ผมชี้ฟูน้อยลงค่ะ

          มีตัวช่วยดีๆ แบบนี้ สำหรับสาวๆ คนไหนที่อยากมีผมตรงสวย แต่ไม่อยากโดนความร้อนบ่อยๆ ขวัญแนะนำตัวนี้ให้ไปหามาลองใช้กันดูนะคะ ถือว่าเป็นการประหยัดเวลา เหมาะกับชีวิต busy แบบเราๆ และยังเป็นการถนอมเส้นผม ช่วยทำให้มีผมที่สวย สุขภาพดี หน้าเป๊ะ ผมปังไปด้วยในตัวเลย เพราะพอได้ลองใช้เองแล้ว ขวัญไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบิวตี้บล็อกเกอร์กว่า 1,000 คนถึงติดใจทรีตเมนต์ตัวนี้กันเพียบ  โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tresemmethailand.com