วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558

ดูแลสุขภาพสตรี เริ่มที่ระบบประจำเดือน

ดูแลสุขภาพสตรี เริ่มที่ระบบประจำเดือน
ในทางการแพทย์ไทยรวมทั้งการแพทย์ตะวันออกเชื่อว่าการมีประจำเดือน คือการขับเลือดเสียที่คั่งค้างออกจากร่างกาย ซึ่งเลือดจะต้องมีการไหลเวียนที่ดี ไม่มีการคั่งค้าง เพราะถ้ามีการคั่งค้างหรือผิดปกติ จะมีผลต่อสุขภาพของผู้หญิง ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ตามมา
หลักการดูแลสุขภาพสตรี ต้องให้ความสำคัญกับความสมดุลของธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ในร่างกาย การมีประจำเดือนและการคลอดลูกของผู้หญิงจำเป็นต้องใช้การทำงานของธาตุไฟ ดังนั้นยาสตรีส่วนใหญ่มักเป็นตำรับยาที่เข้าสมุนไพรรสร้อน รสสุขุม ส่วนน้ำเย็น ของเย็น หรือสมุนไพรรสเย็นจึงเป็นของแสลงของผู้หญิงในขณะมีประจำเดือน รวมไปถึงระยะก่อนและหลังคลอด
แต่ถ้ามีธาตุไฟในร่างกายมากเกินก็จะไปมีผลต่อธาตุลมก่อนเป็นอันดับแรก ต่อเนื่องไปสู่ธาตุดิน ธาตุน้ำ ทำให้เกิดความผิดปกติ จนอาจทำให้เกิดภาวะมีประจำเดือนมากเกินไป การรู้จักรสและคุณสมบัติของยาสมุนไพร จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดูแลสุขภาพสตรี ซึ่งคนในสมัยก่อนมีความรู้กันเป็นอย่างดีและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
วัฒนธรรมของคนในสมัยก่อน จะมีการอบ "โจลมะลบ" เมื่อมีประจำเดือนครั้งแรก โดยการใช้สมุนไพรทาตัวให้กับลูกสาวที่มีประจำเดือนครั้งแรก เชื่อว่าจะทำให้ลูกสาวไม่เครียด ไม่หวาดกลัวการมีประจำเดือน เพราะถ้ามีความกลัว ความเครียด จะทำให้มีการปวดประจำเดือนในชีวิตสาวภายภาคหน้า ตำรับยาสมุนไพรทาตัว คือ ให้นำไพล ขมิ้น เปราะหอม ใบเล็บครุฑ และผิวมะกรูด ตำผสมกันทาตัว
การที่ประจำเดือนมามาก เชื่อว่าเกิดจากร่างกายมีธาตุไฟมากเกินไป มีผลต่อธาตุลมให้กำเริบขึ้น ทำลายธาตุน้ำและธาตุดิน จึงเกิดประจำเดือนมามากกว่าปกติ และมีความร้อนกว่าปกติ หน้าซีด อ่อนเพลีย ตาพร่า มึนงง หิวน้ำมากกว่าปกติ ร้อนวูบวาบ อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับ สิ่งที่ควรงด คือ การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูง กินอาหารที่ร้อนจัด การมีเพศสัมพันธ์ การเดินทางที่ยาวนาน การทำงานหนักหักโหม ความเครียด การกินอาการที่มีรสจัด สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ ให้อยู่ในที่ที่ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี รับประทานอาหารรสเย็น หวาน ฝาด นอกจากนี้ การมีประจำเดือนมากเกินไป ในระยะเวลาที่นานเกินไป ควรไปพบแพทย์เพราะอาจเกิดการเสียเลือด ซีด จนเป็นอันตราย

ตำรับยาสำหรับคนที่ประจำเดือนมามาก
-นำใบทับทิม 7 ใบ ตำกับข้าวสารกล้องเจ็ดเม็ด ให้เข้ากันดี กินวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น ก่อนอาหาร เป็นเวลา 1 เดือน
เป็นได้ทั้งยารักษาและป้องกัน
-นำก้านสะเดาสด 30 ก้าน พับทบแล้วใช้ตอกมัด 3 เปลาะ ต้มน้ำประมาณ 3 แก้ว เคี่ยวให้เหลือ 3 ถ้วยชา กินครั้งละ 1 ถ้วยชา วันละ 3 ครั้ง โดยกิน 1 ถ้วยให้แก้มัด 1 เปลาะ
-นำไมยราบ 1 กำมือ พันด้วยด้ายสีดำ 3 เปลาะ (แทน พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง) ต้มดื่ม ประมาณ 2 - 3 วัน ยาจะค่อยๆ ปรับสมดุลภายในให้ดีขึ้น

ส่วนประจำเดือนมาน้อย ประจำเดือนขาด หรือประจำเดือนไม่ปกติ มีสาเหตุมาจากธาตุไฟ ธาตุลมที่น้อยและผิดปกติ ในช่วงมีประจำเดือน โดยจะมีอาการตัวบวม มีอาการเย็นที่แขนขา หนาวใน ปวดเมื่อย เซื่องซึม ปวดหัว ท้องอืด หัวใจอาจจะเต้นช้า เล็บซีด ความดันต่ำ อ่อนเพลีย มึนงง สิ่งที่ควรงด คือ อาหารที่เย็น หวาน ฝาด การดื่มน้ำเย็น การอยู่ในห้องแอร์ที่นานเกินไป การอาบน้ำเย็นโดยเฉพาะหลังการมีเพศสัมพันธ์ สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ รับประทานอาหารที่มีคุณสมบัติเผ็ดร้อน ออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่อย่างเพียงพอ และรับประทานยาสมุนไพรในตำรับต่อไปนี้
-นำรากเจตมูลเพลิงแดง 1 - 2 กรัม ต้มกับน้ำ 2 ถ้วย (200-250 มิลลิลิตร) รับประทานครั้งละ 1/4 ถ้วย จะช่วยขับประจำเดือน
-ยอจิ้มเกลือ ตำส้มตำ หรือยอกวนกับพริกไทยตามตำรับกุลกา
-นำยอดไผ่ป่าหรือไผ่สีสุก ต้มกับน้ำ 3 เอา 1 กินครั้งละครึ่งแก้ว ก่อนอาหารวันละ 2-3 ครั้ง
-นำแก่นขี้เหล็ก แก่นฝาง อย่างละ 1 กำมือ ต้มกับน้ำพอท่วมยา ประมาณ 10 นาที กินครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3 ครั้ง
-ยาตำรับสำหรับสตรีซึ่งส่วนใหญ่มีรสร้อน เช่น ประสะไพล ยาไฟประลัยกัลป์ ยาไฟห้ากอง ยาเลือดงาม

ให้การเดินทางเป็นเรื่องแสนง่ายด้วยผลิตภัณฑ์อิโวลี่

evoli (อิโวลี่) เข้าใจถึงความรักและความห่วงใยในการดูแลลูกเล็กคนสำคัญ จึงพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นสื่อกลางให้พ่อแม่ส่งผ่านสัมผัสแห่งรัก สายใย และทุกๆความหมายอันมีค่า ด้วยการมอบความสุขจากการให้สิ่งที่ดีที่สุด ผ่านผลิตภัณฑ์น่าใช้ที่คัดสรรและพร้อมดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ สู่ลูกคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต

ในการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเดินทางไกลไปเที่ยวพักผ่อนต่างประเทศ ต่างจังหวัด หรือแม้แต่ไปเยี่ยมคุณตา คุณยายที่บ้านใน ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ การเตรียมตัวสำหรับคุณแม่ คุณพ่อ คงไม่มีอะไรมากเท่ากับการจัดเตรียมของเครื่องใช้สำหรับตัวเล็ก เป็นเรื่องที่ลำบากใจและยุ่งยากไม่น้อย เนื่องจากสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้สำหรับน้องมีจำนวนมากและจุกจิก ขนาดค่อนข้างใหญ่ ยากแก่การขนย้ายเดินทาง เช่น ที่นอน รถเข็น หรือ อ่างอาบน้ำ อีกทั้งยังต้องกังวลเรื่องความสะอาด และความปลอดภัยของน้องด้วย
อิโวลี่เข้าใจถึงปัญหาดังกล่าว และอยากช่วยคุณพ่อคุณแม่แบ่งเบาความยุ่งยากนี้ จึงขอแนะนำ อิโวลี่ เบบี้ ทราเวลเลอร์ บาธธับ (Evoli Baby Traveler Bathtub) ถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นอ่างอาบน้ำแบบพับได้เหมาะสำหรับเดินทางไปทุกๆที่ ทำจากผ้าคอตตอนเคลือบพลาสติกกันน้ำอย่างดี พร้อมท่อระบายน้ำด้านข้างตัวอ่าง อีกทั้งยังมีผ้าใบชิ้นในที่แยกชิ้นออกจากตัวฐานอ่าง ช่วยให้คุณแม่ คุณพ่อหมดกังวัลเรื่องความสะอาด และความปลอดภัยต่อตัวน้อยได้แม้ไกลบ้าน นอกจากนี้ยังมีขนาดเล็กกระทัดรัดและน้ำหนักเบาทึ่ไม่ถึง 1 กิโลกรัม สามารถกางพร้อมใช้ภายในไม่กี่วินาที มาพร้อมกับซองบรรจุเพื่อความสะดวกในการเดินทางหยิบใช้และจัดเก็บ เหมาะกับการพกพา
และสำหรับตัวเล็กนักเดินทาง ขอแนะนำ อิโวลี่ เบบี้ ออล โอเวอร์ โฟมมิ่ง วอช (Evoli Baby All Over Foaming Wash) ผลิตภัณฑ์เนื้อโฟมทำความสะอาดเส้นผมและผิว ที่ตั้งใจคิดค้นขึ้นเพื่อผิวและผมที่บอบบางของตัวเล็กโดยเฉพาะ ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ให้ผิวสะอาดเนียนนุ่ม และรู้สึกผ่อนคลายสบายผิวทุกครั้งหลังการใช้ อิโวลี่เอาใจคุณแม่ คุณพ่อของตัวเล็กนักเดินทางโดยเฉพาะด้วยขนาดพิเศษเหมาะสำหรับเดินทาง (ขนาดบรรจุ 100 มล.) ขวดโฟมมีขนาดกระทัดรัดเหมาะแก่การพกพา ขวดเป็นทรงกลมฐานกว้าง ช่วยให้สามารถกดหัวปั๊มโฟมได้อย่างง่ายดายแม้ใช้มือเดียว และหัวปั๊มที่มีวิธีการทำงานที่ง่าย สะดวกสบาย ล๊อคได้ในตัว จึงเหมาะมากในการพกไปด้วยในการเดินทางของตัวเล็ก ให้รู้สึกผ่อนคลายสบายผิวได้ทุกทริป

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

ดิ โอนลี่ ซัน สปริง ซัมเมอร์ 2015

สปริง ซัมเมอร์ 2015 – ไมล์ ลอง ดรอว์อิ้ง

แรงบันดาลใจ:
ย้อน กลับไปในยุค 60’s ยุคสมัยที่แนวร่วมจิตวิญญาณเบ่งบานถึงขีดสุดในประเทศสหรัฐอเมริกา การหลั่งไหลเข้ามาอิทธิพลศิลปะและความเชื่อจากฝั่งตะวันออกได้นามาลัทธิการ ออกแบบสุดเรียบง่ายอย่างแนวร่วมเซ็น (ZEN) เข้ามามีส่วนในการพัฒนาจิตใต้สานึกของเหล่าผู้เสพศิลปะในยุคนั้น เช่นเดียวกันศิลปินจากอเมริกันนาม วอลเตอร์ ดิ มาเรียส์ (Walter De Maria’s (October 1, 1935 – July 25, 2013)) ที่จับเอารูปสามเหลี่ยม, วงกลม และจตุรัส ที่พบเห็นในศิลปะพุทธเซ็นไกจากศตวรรษที่ 18 มาเป็นองค์ประกอบหลักของการสร้างสรรค์งานหลากหลายตั้งแต่ดนตรี, การแสดง และงานเขียน ไปจนถึงงานปฏิมากรรมอันแสนเรียบง่ายต่างๆ โดยถึงแม้ว่างานของดิ มาเรียส์จะถูกจาแนกไว้ในหมวดศิลปะมินิมัลลิสต์ด้วยการใช้รูปทรงเรขาคณิตซ้า ไปมาจนเกิดรูปแบบงานที่แตกต่างกัน แต่นอกเหนือจากการรับรู้ได้ถึงสุนทรียศาสตร์สุดสงบนี้ การต่อยอดทางจากจินตนาการและความคิดต่างหากที่ดิ มาเรียส์สร้างจิตกระตุ้นให้เกิดในสมองของแต่ละคน ดังที่เขาได้กล่าวว่า “หนึ่งงานศิลปะที่ดีต้องต่อยอดจินตนาการได้หลากหลาย”

นอกเหนือจากงาน ของดิ มาเรียส์แล้ว สปริง/ซัมเมอร์นี้ เอกบุตร อุดมผล ยังศึกษาถึงแนวร่วมศิลปะลวงตา (Op Art) นาทีมโดยศิลปินชาวฮังการี วิคเตอร์ วาซาลีย์ (Victor Vasarely April 9, 1906 – March 15, 1997)) สไตล์การสร้างงานอันเป็นเอกลักษณ์ของวาซาลีย์เกิดจากการใช้รูปเรขาคณิตหลาก สีมาจัดเรียงไล่โทน เรียงขนาดให้เป็นมิติลวงตา ดังที่ปรากฏในการใช้ลายพิมพ์และเทคนิคเสื้อผ้า

คอลเลคชั่น
สี: ครีมงาช้าง, ชมพูนู้ด, แดงดินเผา, น้าเงินเข้ม, เขียวมินต์, เทา, ฟ้าจาง และดา

ผ้าและวัตถุดิบ:

- ผ้าคอตต้อนสองหน้าสีขาว-ดา
- ผ้าซาตินสองหน้าตัดด้วยเลเซอร์
- ผ้ายืดเจอร์ซีย์เนื้อแน่นพิมพ์ลายเรขาคณิตด้าน
- ผ้ากลางคืนผิวมัน ตกแต่งด้วยเข็มกลัด
- ผ้าตาข่ายสีขาว-ดา

เทคนิค: ลายพิมพ์เรขาคณิตบนชิ้นผ้าทอ การใช้รูปกลม, สีเหลี่ยม และสามเหลี่ยมในการสร้างโครงเสื้อและตัดต่อ เสื้อแจ๊คเก็ตใส่ได้สองด้านสีขาวดา การปักตกแต่งโลหะบนผ้าซาติน

5 เหตุผลสุดเลิศ! ที่คุณอ่านแล้วจะต้องตกหลุมรัก การปีนเขากลางกรุง

5 เหตุผลสุดเลิศ! ที่คุณอ่านแล้วจะต้องตกหลุมรัก การปีนเขากลางกรุง

ใครที่คิดว่าการปีนเขาเป็นเรื่องยาก และเป็นกิจกรรมสุดโหดสำหรับเหล่าคนมีเงินและสำหรับคนมีเวลาเท่านั้น ถึงจะเล่นได้ ต้องลองฟังทางนี้ ! เพราะความจริงแล้วการปีนเขานั้นไม่ได้โหดอย่างที่คิด ทั้งยังไม่ต้องลงทุนเสียเงินหลายหมื่นเพื่อซื้ออุปกรณ์แพงๆมาเซฟตัวเอง หรือใช้เวลาในการขับรถออกไปไกลถึงต่างจังหวัดอีกด้วย สมัยนี้คนเมืองสามารถหาที่ปีนเขาได้ง่ายๆ ใกล้บ้าน อย่างเช่นที่ Virgin Active ฟิตเนสสุดล้ำระดับเวิลด์คลาสกลางกรุงฯ ก็มีหน้าผาจำลองเปิดให้บริการกับเหล่าสมาชิก เรียกว่าทั้งสะดวกและปลอดภัยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองสุดๆ

มาดู 5 ข้อดีของการปีนเขากลางกรุงที่จะทำให้คุณเกิดอาการตกหลุมรักกิจกรรม Adventure สุดมันส์นี้กันดีกว่า

1. หัวใจเต้นแรงสุดๆ แม้ว่าคุณจะไม่ได้อินเลิฟอยู่ก็ตาม

การ ปีนเขาจัดเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หรือถ้าจะเรียกง่ายๆก็คือแบบแอโรบิกนั่นเอง กิจกรรมนี้จะช่วยให้ระบบหัวใจของคุณสูบฉีดเลือดได้ดีขึ้น (คล้ายๆกับตอนที่คุณกำลังเริ่มตกหลุมรักใครสักคนเลยล่ะ) สำหรับคนที่เหนื่อยง่ายควรเริ่มปีนเบาๆในครั้งแรกเพียง 5 นาที จากนั้นจึงค่อยเพิ่มเวลาอีก 5 นาทีในแต่ละสัปดาห์จนกว่าจะปีนได้ถึง 30 นาที โดยสมาคมแพทย์อเมริกันยังระบุอีกด้วยว่าการปีนเขาในระยะเวลานี้นี่แหละ ที่ดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดมากที่สุด แต่จริงๆแล้วเราก็ยังสามารถปีนได้นานถึง 1 ชั่วโมงเลยนะ
2. ทางเลือกใหม่สำหรับคนที่อยากผอมเร็ว เบิร์นไว!

ใคร ที่อยากหผอมไวๆแต่เบื่อออกกำลังกายแบบเดิมๆ ลองมาปีนเขาดูสิ รู้มั้ยว่าการปีนเขา 1 ชั่วโมงสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 900 kcal เลยนะ ถ้าจะเทียบพลังงานดูก็ประมาณข้าวมันไก่เกือบๆสองจานเลยล่ะ เพราะการปีนเขาต้องนั้น ต้องใช้พลังงานและออกแรงมาก ใครที่เพิ่งเริ่มปีนแล้วรู้สึกเหนื่อยก็อย่าเพิ่งท้อ ท่องไว้เลยว่า “นี่แหละ เรากำลังจะผอมแล้ว!”
3. สร้างกล้ามเนื้อให้เฟิร์มทุกส่วนแบบ All in one

คน ที่อยากออกกำลังกายทุกส่วนแต่ไม่มีเวลา งานนี้แหละคุณจะได้บริหารกล้ามเนื้อทั้งแขน ขา หลัง ไหล่ และหน้าอก ไปพร้อมๆกันแบบครบทุกส่วน เพราะการปีนเขานั้นต้องใช้ความแข็งแรงมากในการดึงตัวขึ้นไปข้างบน รวมทั้งความยืดหยุ่นและคล่องตัว ใครที่เคยลองปีนจะรู้เลยว่ากิจกรรมนี้เรียกเหงื่อได้ดีแบบสุดๆ แถมร่างกายช่วงบนของคุณก็ยังจะฟิตขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยทีเดียว

4. ช่วยให้สมาธิดี เพิ่มสกิลในการวางแผนและตัดสินใจ

การ ปีนเขาก็เหมือนกับเกมๆนึง กว่าที่จะปีนขึ้นไปบนยอดสูงสุดได้ นอกจากความอดทนแล้ว ยังต้องใช้สมองในการวางแผนและการตัดสินใจอยู่ตลอด เพื่อที่จะจัดตำแหน่งแขน-ขา เลือกเหยียบหินในทิศทางที่จะทำให้ไปถึงยอดได้เร็วที่สุด แถมยังต้องมีสมาธิอยู่ตลอดเวลาไม่ให้หลุดโฟกัส ใครที่อยากหากิจกรรมฝึกสมาธิแบบท้าทายสุดๆ ปีนเขานี่แหละคือคำตอบ!

5. เป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับคอ Adventure ที่ไม่อยากขับรถไปไกล

สำหรับ คนที่รักกิจกรรมแอดแวนเจอร์แบบเข้าเส้น แต่ไม่อยากเดินทางไกล เพราะที่ Virgin Active ฟิตเนสล้ำกลางเมือง มีเทรนเนอร์คอยดูแลและอบรมเบื้องต้นให้กับสมาชิก รวมไปถึงมีอุปกรณ์และระบบความปลอดภัยต่างๆที่ได้มาตรฐาน ไม่เสี่ยงเหมือนการไปปีนหน้าผาจริงๆ เหมาะสำหรับมือสมัครเล่นที่อยากลอง ไปจนถึงมืออาชีพระดับแอดวานซ์เลยทีเดียว
เห็นมั้ยว่าการปีนเขาเนี่ยให้ประโยชน์มากกว่าที่เราคิด แถมยังได้ครบทุกชาติไม่ว่าจะเป็น โหด มันส์ และเฟิร์ม ใครที่ยังไม่เคยปีนเขาคงจะต้องหาเวลาไปลองกันซักครั้งแล้วล่ะ

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

นางแบบท้อง ก็มีโอกาสขึ้น แคตวอล์ก แล้วนะ!!!

          ถือเป็นการช่วยสนับสนุน ช่วยกันสร้าง "ความหลากหลาย" ให้กับวงการแฟชั่น ที่ปัจจุบันมีกระแสส่งเสริม ผลักดัน ให้มีการนำเสนอความสวยงามให้หลากหลายรูปแบบ โดยที่ผ่านมาก็มีหลายแคตวอล์กที่นำเสนอนางแบบที่มีรูปร่างเหมือนชาวบ้านทั่ว ไป ไม่จำเป็นต้องมีรูปร่างผอมเพรียวเหมือนนางแบบเท่านั้น หรือแม้แต่เด็กสาวที่ป่วยเป็นอัมพาต แต่สามารถต่อสู้กับโรคร้ายได้อย่างกล้าหาญ ก็มีโอกาสได้รับเชื้อเชิญให้ขึ้นแคตวอล์กกันมาแล้วเมื่อเร็วๆ นี้

แล้วล่าสุด ดอลเช่ แอนด์ แกบาน่า (Dolce and Gabbana) แฟชั่นแบรนด์เนมดังของอิตาลี ก็ขอร่วมด้วยช่วยกันอีกแรงหนึ่งในการสร้างความหลากหลายให้กับวงการแฟชั่น ด้วยการนำนางแบบที่กำลังตั้งครรภ์มาเป็นส่วนหนึ่งของเหล่านางแบบ ที่ขึ้นโชว์เสื้อผ้าของดอลเช่ แอนด์ แกบาน่า ในคอลเล็กชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2015 ในงานสัปดาห์แฟชั่นที่เมืองมิลาน อิตาลี เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ในแฟชั่นโชว์เซตนี้ ดอลเช่ แอนด์ แกบาน่า ใช้ชื่อโชว์ว่า "Viva la mamma" หรือ "ไชโย สำหรับคุณแม่ทั้งหลาย" ที่ต้องการนำเสนอความงามของผู้หญิงที่ เป็นแม่หลากหลายช่วง ทั้งช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือช่วงที่มีลูกเล็กๆ แล้ว ซึ่งในแฟชั่นโชว์ก็มีนางแบบที่จูงลูกเล็กขึ้นบนเวทีด้วย
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการนำเสนอนางแบบที่กำลังตั้งครรภ์บนแคตวอล์ก ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว คาร์ล ลาเกอร์เฟลด ก็ปิดฉากแฟชั่นโชว์ของชาแนล ด้วยการเดินควงแขนนางแบบที่กำลังจะเป็นคุณแม่ขึ้นเวที
หรือย้อนไปเมื่อปี 2553 มิแรนด้า เคอร์ ซุปเปอร์โมเดลชาวอเมริกันก็สร้างความตื่นตะลึงในงานสัปดาห์แฟชั่นที่กรุง ปารีส ฝรั่งเศส เมื่อเธอขึ้นโชว์เสื้อผ้าให้กับบาเลนเซียก้า หลังจากคลอดลูกชายได้เพียง 3 เดือน
หรือย้อนไปในงานสัปดาห์แฟชั่นที่นครเซา เปาโล ประเทศบราซิล เมื่อปี 2555 ที่อเลสซานดร้า แอมโบรซิโอ้ นางแบบสาวสวยชาวบราซิล และนางแบบของวิคตอเรีย′ส ซีเคร็ต ที่ขึ้นแคตวอล์กให้กับเสื้อผ้าแฟชั่นของ Colcci ขณะกำลังตั้งท้อง 5 เดือน
จากกระแสความเปลี่ยนแปลงที่มีให้เห็นกันเรื่อยๆ เราเชื่อว่า ในวงการแฟชั่นยังจะมีอะไรดีๆ ออกมาให้เห็นกันอีกแน่นอน

ต้อนรับซัมเมอร์กับเทรนด์สีผมสุดแซ่บ

          ใกล้ช่วงซัมเมอร์แบบนี้ เราจะมาติดอยู่กับลุคเดิมๆ ก็คงจะไม่จะสวยแซ่บสะท้านแดด ลองหาสีผมที่ใช่แล้วตามเกรดดี้มาดูสีผมสุดฮิตของปี 2015 กันได้เลย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าปีที่ผ่านมาเกรดดี้ทำผมสีแดงมาตลอดทั้งปีที่แล้ว จนเริ่มรู้สึกว่าควรจะพักการทำสีผมบ้าง จึงตัดสินใจทำผมสีเข้มเกือบดำไปเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
หลังจากทำไปได้สักเดือนกว่าก็เริ่มรู้สึกว่านี้มันไม่ใช่ตัวตนของฉัน ถึงจะหลอกตัวไปเองวันๆ ว่าทำผมสีเข้มแล้วดูผมสวยสุขภาพดีไม่แห้งแตกปลาย แต่เมื่อส่องกระจกแล้วดูหน้าหมองคล้ำ เวลาม้วนผมก็ดูสูงวัยจนแทบรับตัวเองไม่ได้
ว่าแล้ว! ก็ถึงเวลาหาข้อมูลว่าร้านไหนเด็ด ร้านไหนดัง เพราะสีผมเกรดดี้มันเข้มมาก การจะเปลี่ยนเป็นเฉดสีอ่อนดั่งฝันคงทำได้ไม่ง่าย
หลังจากดูรีวิวหลายต่อหลายร้าน ตัดสินใจเลือก Phoenix at ONE ร้านทำผมที่โด่งดังในโลกออนไลน์ และมีความโดดเด่นเรื่องการทำสี มีดาราเซเลบตบเท้าเดินเข้าร้านเป็นว่าเล่น อย่าง นิว-จิ๋ว , ฝ้าย แอมไฟน์ , เก๋ ชลลดา แต่ละคนนี้เป็นเจ้าแม่ทางด้านสีผมทั้งนั้น
เมื่อถึงที่ร้านได้เจอกับช่างบอล เมื่อช่างได้สัมผัสกับสภาพเส้นผมของเกรดดี้ พูดเลยว่าเคสนี้ค่อยข้างยาก แค่สีผมเข้มที่เห็นอยู่จะเปลี่ยนเป็นสีบลอนด์ก็ยากอยู่แล้ว ยังมีสีแดง แม่สีที่เข้มชัด ถ้าทำสีบลอนด์ทับโอกาสด่างสูงมาก บวกกับสภาพผมก่อนทำที่แตกปลายและชี้ฟู ถ้าจะฟอกสีผมทั้งหัวก็เกรงว่าผมจะพังต้องตัดผมสั้นเป็นพลอย เฌอมาลย์ ซึ่งสาวหน้ากลมอย่างเกรดดี้คงต้องขอบาย....
ด้วยความโชคดีที่มีช่างเก่งประดับเทพมาดูแล ช่างบอลให้คำแนะนำว่า "เทรนด์สีผมที่เหมาะกับช่วงซัมเมอร์ปีนี้คือสีบลอนด์สว่างประกายเขียวหรือจะ เป็นสีเทาหม่นๆ ที่นอกจากสวยฮิตติดเทรนด์แล้วยังช่วยขับผิวให้ดูขาว แต่อาจจะไม่เหมาะกับสาวๆ ที่ไม่ชอบแต่งหน้า เพราะการทำผมสีนี้อาจจะทำให้ผิวคนเอเชียโทนขาวเหลืองดูซีดหรือที่สาวๆ ชอบพูดว่าดูป่วยนั้นเอง"
แต่นี้ไม่ใช่ปัญหาของเกรดดี้ เพราะเป็นชะนีที่ขาดลิปสติกสีสดไม่ได้อยู่แล้ว ว่าแล้วก็มาเริ่มทำกันได้เลยค่ะ


ขั้นตอนที่แรก ลงไฮโลท์ทั้งหัว โดยช่างบอลบอกว่าเกรดดี้เป็นคนผมเส้นเล็ก ถ้าต้องฟอกทั้งหัวอาจจะทำให้ผมขาดได้ จึงใช้วิธีทำไฮไลท์สีเทาหมอกให้ทั่ว เมื่อทำครบแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีนี้แค่ขึ้นตอนแรกก็ตื้นเต้นแล้วอ่ะ

ขั้นตอนที่สอง หลังจากสระผมเสร็จแล้ว ใช้ไดร์เป่าแค่ ช่วงโคนให้ผมแห้งแล้วค่อยลงสีบลอนด์ เทคนิคที่ช่วยถนอมปลายผม ช่างบอลบอกว่าสีที่ลงให้เกรดดี้จะมีทั้งสีเขียวและสีเทา เพื่อให้ดูเข้ากับเทรนด์ซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ค่ะ (ดูจากรูปยังไม่ต้องตกใจนะคะ เดี๋ยวลงสีบลอนด์ทับแล้วไฮไลท์จะดรอปลงค่ะ)

ขั้นตอนที่สาม ลงสีบลอนด์ที่โคนผมและไล่ลงมาจนถึงปลายผม ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วค่อยล้างออก ก่อนล้างทางร้านได้ทำทรีทเมนท์ เพื่อให้เส้นผมนุ่มไม่แห้ง เป็นการช่วยให้สีสวยติดทน (ทรีทเมนท์ที่นี้หอมมาก ขนาดไม่สระผม 3 วันหลังทำยังหอมอยู่เลยค่ะ)

ขั้นตอนสุดท้าย ตัดปลายผมเสียออกและม้วนผมให้ดูมีวอลลุ่ม เมื่อการม้วนผมพองสวยมีวอลลุ่มแล้ว เทคนิคที่จะช่วยให้ผมเป็นลอนไม่คลายอยู่ที่ขั้นตอนการฉีดสเปรย์ แนะนำให้ก้มศีรษะแล้วฉีด ผมจะพองสวยไม่ลีบแบนตลอดทั้งวันเลยค่ะ
เสร็จพร้อมโชว์แล้วค่ะ สำหรับผม สีบลอนด์สว่างประกายเขียวไฮไลท์สีเทาหมอก เรียกได้ว่าเป็นการทำไฮไลท์จัดเต็มที่แซ่บที่สุดของเกรดดี้เลยนะคะ



สาวๆ ที่กำลังคิดว่าจะทำสีผมโทนไหนดีเกรดดี้แนะนำให้เลือกสีที่ชอบและให้ช่างแนะ นำว่าสีนั้นเหมาะกับเราหรือไม่ สิ่งสำคัญต้องเลือกร้านทำผมที่มีมาตรฐาน เห็นรีวิวจากการลูกค้าจริงๆ เพราะหากเรื่องร้านผิด จากผมสวยกลายเป็นผมพัง คงจะเศร้าน่าดูจริงมั๊ย?

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

งานแต่ง ลิเดีย แมทธิว รักมั่นคง 10 ปียังหวานอยู่

งานแต่ง ลิเดีย แมทธิว รักมั่นคง 10 ปียังหวานอยู่
งานแต่ง ลิเดีย แมทธิว
"แมทธิว" หมั้น "ลีเดีย" สุดหวาน พลอย เฌอมาลย์ , ปู ไปรยา, แอริน ร่วมกั้นประตูเงินประตูทอง
เป็นงานวิวาห์ที่หลายคนรอคอย ในที่สุดเมื่อความรักสุกงอม หลังจากคบหาดูใจกันนานกว่า 10 ปี พระเอกหนุ่ม "แมทธิว ดีน ฉันทวานิช" กับ นักร้องสาวฉายาเจ้าหญิงอาร์แอนด์บี "ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา" ถือฤกษ์ดีเข้าพิธีหมั้น พร้อมจดทะเบียนสมรส และรดน้ำสังข์ ณ ห้องบอลรูม โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา

บรรยากาศ ภายในงานอบอวลไปด้วยความเรียบหรู และความหวานของดอกไม้สีขาว พร้อมตกแต่งด้วยสีทองนวล โดยพิธีหมั้นเริ่มขึ้นในช่วงเช้า ซึ่งฝ่ายเจ้าสาวมี พล.อ.วินัย - คุณศศิณี ภัททิยกุล ผู้ใหญ่ที่ฝ่ายเจ้าสาวให้ความเคารพนับถือเป็นเถ้าแก่ พร้อมด้วย คุณไชยยันต์ วิสุทธิธาดา และ คุณศันสนีย์ วนะไชยเกียรติ พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาว ส่วนฝ่ายเจ้าบ่าว มี คุณสมเกียรติ - คุณลินดา ฉันทวานิช ผู้มีศักดิ์เป็นลุงของเจ้าบ่าวเป็นเถ้าแก่เจรจาสู่ขอ พร้อมด้วย คุณคริสโตเฟอร์ ดีน และ คุณส่องศรี ฉันทวานิช พ่อแม่ฝ่ายเจ้าบ่าว
งานแต่ง ลิเดีย แมทธิว
จากนั้นฝ่ายชายเริ่มต้นขบวนขันหมาก ประกอบไปด้วยเพื่อนเจ้าบ่าวที่ยกแก๊งกันมา นำโดย คู่รัก ซี ศิวัฒน์-เอมี่ กลิ่นประทุม, เติ้ล-ตะวัน, ธัญญ์ ธนากร และ อธิป นานา ที่พร้อมใจส่งเสียง โห่ ฮิว โห่ อิ้ว พร้อมสิ่งของมงคล อาทิ เงิน – ทอง – ผลไม้ – ขนมมงคล ฯลฯ ฝ่าด่าน ประตูเงิน ประตูทองทั้ง 8 ประตูที่มีเพื่อนเจ้าสาว นำโดย นางเอก พลอย เฌอมาลย์, ปู ไปรยา, แอริน ยุกตะทัต และ ดั๊กกี้ ศรัณย์พร ยืนรอจัดเต็ม
ด้านเจ้าบ่าวทุ่มไม่อั้น ทั้งแจกซอง บอกรัก หรือแม้แต่เต้นชักกระตุก เพื่อเป็นพิสูจน์ความรักที่มีต่อเจ้าสาว จนเพื่อนเจ้าสาวใจอ่อนยอมให้เจ้าบ่าวรับตัวเจ้าสาว เพื่อทำพิธีสวมแหวนหมั้นในเวลา 8.49 น. งานนี้ทำเอาเจ้าบ่าวถึงกับน้ำตาคลอเลยทีเดียว

จากนั้นเป็นพิธีทานขนม อี้ตามธรรมเนียมจีน เชื่อว่าการทานขนมอี๊ จะทำให้คนทั้งสองนั้นรักใคร่กลมเลียว เหนียวแน่น โดยมีสาว พลอย เฌอมาลย์ เป็นผู้ถือถาดขนม จากนั้นเป็นพิธีหลั่งน้ำ พระพุทธมนต์และประสาทพร ซึ่งสาว ปู ไปรยา และ แอริน ทำหน้าที่ถือสังข์ โดยมี อาจารย์วันชัย รวยอารี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี และมี หญิง-กัญญา ไรวินท์ ทำหน้าที่พิธีกร
นอกจากนี้ยังมีแขกผู้มีเกียรติ และศิลปิน นักแสดง ร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ สมศักดิ์ เทพสุทิน, พลตำรวจเอก ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง, ดวงดาว จารุจินดา, พลากร สมสุวรรณ, โดม ปกรณ์ ลัม – คุณแม่แหม่ม รัตนาภรณ์, ไรอัน เจทท์, อีฟ พุทธิดา, ธนวลัย วัชรพล, อณิชา อรรถสกุลชัย, กระแต ศุภักษร, เอมมี่ มรกต, คริส หอวัง และ เจี๊ยบ ชมพูนุช เป็นต้น
งานแต่ง ลิเดีย แมทธิว
เจ้า สาว “ลีเดีย” เผยความรู้สึกว่า “ตื่นเต้น เป็นงานที่เพื่อนๆ ตั้งแต่สมัยเรียน บินกลับมาจากต่างประเทศกันหมด เพื่อมาร่วมงาน ดีใจมากๆ เพราะอยู่กันพร้อมหน้าทั้งเพื่อนๆ และครอบครัว ส่วนการเริ่มต้นชีวิตคู่ ก็มีความสุขค่ะ ไม่ได้กังวลเลยค่ะ”

ด้านเจ้าบ่าว แมทธิว เปิดเผยว่า “รู้สึกประทับใจในตัวเจ้าสาว เป็นคนน่ารัก เข้าใจกันทุกเรื่อง คือหลงรักในตัวตนของลีเดีย ความร่าเริง ทำให้โลกของผมทุกวันมีความสุข และลีเดียทำให้ผมดีขึ้นได้ทุกๆวัน”
สำหรับเพื่อนๆ เจ้าบ่าว-เจ้าสาว อย่าง “คริส หอวัง” กล่าวว่า “เจ้าสาวสวยมาก ดีใจที่เห็นแมทธิวและลีเดียได้แต่งงานกัน เพราะเจอทุกครั้งเราจะเห็นความหวานจากคู่นี้ตลอด”
สำหรับพิธีฉลองมงคลสมรสระหว่าง หนุ่ม แมทธิว กับ สาว ลีเดีย จัดขึ้น ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ในวันที่เสาร์ที่ 21 มีนาคม 2558

10 ไอเท็มที่สาวชิคควรพกติดกระเป๋าไว้เติมความสวยซัมเมอร์นี้

          ซัมเมอร์นี้ ชวนสาวๆ มาจัดกระเป๋าเครื่องสำอางกันใหม่ โละสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป แล้วมาพก 10 ไอเท็มเหล่านี้ไว้เพื่อเติมสวยได้ทุกสถานการณ์ รับรองว่าซัมเมอร์นี้สาวชิคต้องสวยแซ่บกว่าใครแน่นอน จะมีอะไรบ้างมาดูพร้อมๆ กันเลยค่า
1. ครีมกันแดด
ร้อนนี้คงไม่มีอะไรสำคัญเท่าครีมกันแดดอีกแล้วนะสาวๆ จำให้แม่นเลยว่าไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือออกไปลันล้า ยังไงก็ต้องทาครีมกันแดด ไปไหนก็ควรพกติดตัวไปด้วยเสมอนะจ๊ะ

2. รองพื้นคุชชั่น
กำลังมาแรงเลยทีเดียวกับรองพื้นคุชชั่น (cushion) ที่ทั้งปกปิด บำรุง และกันแดด ในรูปแบบตลับพกพาสะดวก มาพร้อมพัฟฟ์และกระจกบานใหญ่ในตัว ตบหน้าได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ แต่งหน้าได้แบบไม่ต้องเลอะมือแบบนี้ บอกเลยได้ใจไปเต็มๆ ค่ะ

3. ครีมบลัช/ทินท์ทาแก้มและปาก แบบ 2 in 1
ซัมเมอร์นี้ต้องอะไรง่ายๆ อย่างครีมบลัช หรือ ทินท์ แบบ 2 in 1 ที่เติมความสวยได้ทั้งแก้มและปาก สะดวกและไม่ต้องพกอะไรเยอะแยะให้รกกระเป๋าเครื่องสำอางค่ะ
4. ลิปบาล์มกันแดด
อากาศร้อนแบบนี้ต้องดูแลริมฝีปากเป็นพิเศษเชียวนะ เพราะยิ่งร้อนร่างกายก็ยิ่งสูญเสียน้ำมากขึ้น ทำให้เกิดอาการปากแห้ง แล้วไหนจะแสงแดดอีก ถ้าไม่ปกป้องด้วยลิปบาล์มกันแดดแล้วละก็ ปากแห้งปากคล้ำมาเยือนแน่นอนจ้ะ

5. แปรงคาบูกิแบบพกพา
หากไม่อยากพกอะไรที่ยุ่งยากและหนักกระเป๋า ลองเปลี่ยนจากแปรงแต่งหน้าแบบครบเซ็ต แล้วพกแค่แปรงคาบูกิแบบพกพา แปรงสารพัดประโยชน์ที่ใช้ได้ทั้งปัดแก้ม ปัดแป้ง คอนทัวร์ อันเดียวก็พอจ้ะ

6. กระดาษซับมัน
บอกลาหน้ามันเยิ้มระหว่างวันด้วยสิ่งนี้เลยจ้า ร้อนนี้อย่าปล่อยให้หน้ามันย่องกันนะสาวๆ แล้วอย่าลืมซับเบาๆ มือล่ะ เดี๋ยวเมคอัพสวยๆ จะพังเอานะ

7. สเปรย์น้ำแร่
ไอเท็มสุดเริ่ดสำหรับปลุกผิวให้สดชื่น แค่สเปรย์ลงไปแล้วซับน้ำส่วนเกินออก ผิวหน้าก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที ร้อนๆ แบบนี้บอกเลยต้องมีสิ่งนี้นะ

8. น้ำหอมจิ๋ว
เหงื่อและเหนียวเหนอะหนะ อาจทำให้น้ำหอมที่สาวๆ ฉีดก่อนออกจากบ้านกลิ่นจืดจางอยู่ไม่ถึงเย็นได้นะ แต่ถ้าพกน้ำหอมกลิ่นโปรดแบบขวดจิ๋ว หรือจะใส่ขวดแบ่งเล็กๆ เอาไว้ เท่านี้สาวๆ ก็สามารถเติมความหอมและความมั่นใจได้ตลอดวันแล้วล่ะ

9. ยาทาเล็บสีจี๊ดๆ
ซัมเมอร์กับสีสันสดใสมักเป็นของคู่กัน ลองเลือกยาทาเล็บสีที่สาวๆ ชอบสักขวดแล้วพกติดกระเป๋าเอาไว้ เติมความแซ่บให้ปลายเล็บได้ทุกเมื่อค่ะ

10. ทิชชู่เปียก/เจลล้างมือ
ร้อนนี้เรื่องสุขอนามัยนั้นสำคัญมากนะ ดังนั้นไอเท็มสุดท้ายขอยกให้ทิชชู่เปียก/เจลล้างมือ ไปเลย เพราะอากาศร้อนทำให้เกิดเหงื่อไคลและความสกปรกง่ายขึ้น มือที่สาวๆ หยิบจับก็อาจเจอเหงื่อและเชื้อโรคได้ง่าย ไม่อยากจะคิดต่อเลยว่าหากสาวๆ เอามือมาแต่งหน้าเติมสวยแล้วผิวจะต้องเจอเชื้อโรคอะไรบ้าง ดังนั้นก่อนจะทำอะไรก็ตามที่ต้องจับผิวหน้า อย่าลืมเช็ดมือให้สะอาดก่อนนะคะ

5 ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง ใช้ดีแล้วอยากบอกต่อ!

         แนะนำ 5 ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง ใช้ดีแล้วอยากบอกต่อ คือมันดีจริงๆ นะ ไม่ได้โม้ ^^
นอกจากใบหน้าที่แน่นด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดัง และสกินแคร์ตัวโปรดหลากหลายชนิดแล้ว เหนือสิ่งอื่นใดกว่าสิ่งเหล่านี้ทั้งปวง คือ การดูแลผิวหน้า ด้วยการทำความสะอาดอย่างเกลี้ยงเกลาค่ะ
สิ่งประทินผิวต่างๆ ที่คุณฉาบ เอ้ย! ทาลงบนใบหน้า ทุกตัว ทิชชี่เชื่อว่า คุณสาวๆ เลือกสรรมาใช้เป็นอย่างดี เครื่องสำอางบางตัวยังติดแน่น ทนทาน ชนิดเอาน้ำมาสาดในช่วงวันสงกรานต์ หน้าก็ยังสวยเลอค่าประหนึ่งเทพีนางสงกรานต์นั่งอยู่บนเสลี่ยงไม่สะทกสะท้านอยู่
การประโคมสิ่งต่างๆ ลงบนใบหน้าซะหนา จริงๆ ก็มีข้อดี ก็คือ ใบหน้าสวยปิ๊ง หน้าเด้งดึ๋งดั๋ง ออร่าเกิด แต่หากล้างหน้าเพียงอย่างเดียวใบหน้าของคุณคงยังสะอาดไม่พอ คุณสาวๆ บางคนอาจลืม หรือมองข้ามขั้นตอนนี้ไป นั่นก็คือ การเช็ดเครื่องสำอางก่อนการล้างหน้าค่ะ
จุดนี้หากล้างหน้าไม่เกลี้ยง นอกจากเครื่องสำอาง หรือสกินแคร์แพงๆ จะไม่ช่วยอะไรได้แล้ว ยังทำให้หน้าคุณพังก่อนวัยอันควรด้วย
อย่างที่บอกไว้ การแต่งหน้าให้สวยที่ว่าสำคัญแล้ว การเช็ดหน้าทำความสะอาดนั้นสำคัญยิ่งกว่า แต่จะมี "ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง" ตัวไหนที่ใช้แล้วโดนใจ โดนหน้าบ้าง ทิชชี่ มีตัวเด็ด ตัวดี และ ราคาเบาๆ มาบอกต่อกันค่ะ
ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง
เริ่มที่ตัวแรก "Cussons baby oil" ตัวนี้สารพัดประโยชน์มากๆ ทิชชี่ใช้มาตั้งแต่วัยใสๆ ใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ชอบมากๆ เบบี้ออยล์ มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่อ่อนโยน ตัวเดียวเอาอยู่ ก่อนอาบน้ำใช้หมักผม ทิ้งไว้สัก 15-30 นาที ระหว่างรอ นำ "เบบี้ออยล์" มาหยดลงบนสำลี แล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้า เช็ดได้ทั้งดวงตาและปาก ไม่รู้สึกแสบแต่อย่างใดเลยค่ะ เช็ดแล้วหน้านุ่ม ฉ่ำขึ้นด้วย จากนั้น ก็อาบน้ำ สระผมให้สะอาด หลังอาบน้ำ ยังไม่ต้องเช็ดตัว เท "เบบี้ออยล์" ใส่ฝ่ามือ แล้วลูบไล้ให้ทั่วร่าง ผิวของคุณจะชุ่มชื้น นุ่มนิ่ม ประหนึ่งตูดเด็กเลยค่ะ
แต่สำหรับสาวๆ ที่หน้ามันง่าย ต้องระวังนะคะ ตัวนี้อาจจะไม่เหมาะ หน้าคุณอาจมันเยิ้ม จนนำไปทอดไข่ได้เลยก็ได้
ขนาด : 100 มล.
ราคา : ไม่เกิน 60 บาท (ทีเด็ดอยู่ที่ตรง มักมีโปรโมชั่น 1 แถม 1 อยู่เสมอค่ะ)
ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง
"Maybelline Make Up Remover Eye & Lip" ตัวนี้เป็นสูตรน้ำมันกึ่งน้ำ ก่อนใช้ควรเขย่าขวดก่อน นอกจากราคาไม่แพงแล้ว ยังล้างพวกเครื่องสำอางกันน้ำได้ดีมากๆ เช็ดคราบเครื่องสำอางได้สะอาด ไม่ระคายเคือง หรือแสบตา แต่หลังใช้ทิ้งความมันไว้บนใบหน้าเบาๆ แต่ทิชชี่ไม่แคร์ เพราะยังไงก็ต้องล้างหน้าด้วยโฟมซ้ำอยู่ดี จึงไม่ค่อยมีปัญหาอะไรค่ะ สิวไม่มาตามหลอกหลอนด้วย ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคามากๆ หาซื้อง่าย ชอบมีโปรโมชั่นลดราคามาล่อใจ ให้ซื้อไว้ตุนอยู่เสมอค่ะ
ขนาด : 150 มล.
ราคา : 199 บาท ขนาดใหญ่ (ซื้อตอนลดราคาค่ะ)
ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง
"Bifesta Cleansing Express Cleansing Lotion" สูตร Bright Up ตัวนี้พุ่งตัวเข้าไปสอยเพราะข้างขวด เขียนเต็มๆ ว่า "ช่วยผิวกระจ่างใส" ค่ะ บอกเลยหมดไปหลายขวดแล้วเช่นกัน คุณสมบัติก็แสนดี คือ ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวเรียบเนียนใส ช่วยสมานผิว เติมความชุ่มชื้น ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม และที่สำคัญ อ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่ายด้วยค่ะ
ตัวนี้ ใช้ง่าย สะดวก เป็น "หัวปั๊ม" ชนิดน้ำ เช็ดเบาๆ คราบเครื่องสำอางหลุดออกอย่างง่ายดาย หลังเช็ด หน้าไม่มัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ ตัวนี้ข้างขวดระบุว่า ไม่จำเป็นต้องล้างน้ำออก หรือล้างด้วยน้ำธรรมดา น้ำอุ่น โดยไม่ต้องขัดถูใบหน้า แต่เพื่อความสะอาดแบบชัวร์ๆ ทิชชี่แนะนำให้ล้างหน้าด้วยโฟมตามปกติ จะดีที่สุดค่ะ

ขนาด : 300 มล.
ราคา : 350 บาท
ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง
"Bioderma" สูตร crealine TS H20 ตัวนี้โด่งดังมากๆ เลยต้องไปสอย ลองมาโดนความเด็ดกันสักหน่อยค่ะ บอกตรงๆ ไม่ได้มีความต่างกันมากเท่าไหร่กับของยี่ห้ออื่น จะมีความโดดเด่นที่คุณสมบัติในการความสะอาดผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขจัดคราบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกต่างๆ ได้อย่างหมดจด ปราศจากสิ่งตกค้างที่อาจก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขนโดยไม่ต้องล้างหน้าด้วย น้ำซ้ำ อ่อนโยนต่อผิวมากยิ่งขึ้น ช่วยเติมความมชุ่มชื่นหลังทำความสะอาด ผิวจึงเนียนนุ่ม ไม่แห้งตึงค่ะ ตัวนี้ใช้ได้นาน ขวดใหญ่ ราคาแพงสุดเทียบกับแบรนด์อื่นที่ทิชชี่เคยใช้มา แต่ถามว่าซื้อต่อไหม ถ้ามีโปรเด็ดๆ ซื้อแน่นอนค่ะ คิคิ
ขนาด : 500 มล.
ราคา : 700 บาท (ตัวนี้ราคาถูกกว่าที่ไทย เพราะสั่งพรีออเดอร์มาค่ะ)
ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง
"Bifesta Tightening Cleansing Sheet" ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางแบบแผ่น ตัวนี้หลักๆ ที่ทิชชี่ปลื้มเลยก็คือ พกพาสะดวกเวลาไปลันลาต่างจังหวัดค่ะ นอกจากเช็ดเครื่องสำอางได้ค่อนข้างดีแล้ว เวลาที่ใบหน้าต้องออกไปสู้แดด โดนฝุ่น หรือเหงื่อไหลไคลย้อย หยิบตัวนี้ออกมาเช็ค จะรู้สึกได้ถึงความสะอาดของใบหน้าทันที ส่วนคุณสมบัติก็ไม่ได้ต่างอะไรมาก กัน "Bifesta" แบบขวด คือ ไม่มีกลิ่น สี น้ำหอม แต่มีส่วนประกอบของ Alcohol อยู่นิดหน่อย แต่ทิชชี่ใช้แล้วไม่แพ้ หรือแสบแต่อย่างใดนะคะ
ข้อดีคือ 1 แผ่น เช็ดได้ทั่วใบหน้า เพราะมีขนาดใหญ่มาก แต่เพื่อความชัวร์ เช็ดซ้ำอีกสัก 1 แผ่น ก็จะรู้สึกได้ถึงความสะอาดยิ่งขึ้นค่ะ

ขนาด : 1 แพ็ค มี 46 แผ่น
ราคา : 380 บาท


วิธีเช็ดเครื่องสำอางหมดจด (ที่ทิชชี่ทำอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใดก็ตาม)
เท ผลิตภัณฑ์ให้ชุ่ม ทั่วสำลี ไม่ต้องกลัวหมด กลัวเปลือง ถ้าอยากหน้าดี๊ดี ไปตลอด จากนั้น ค่อยๆ เช็ดให้ทั่วใบหน้า หากเป็นบนเปลือกตา ทิ้งไว้สักครึ่งนาที เช็ดไปในแนวเดียวกัน ห้ามถูไปถูมา เพราะจะทำให้ดวงตาเกิดริ้วรอยได้ง่ายค่ะ หากเครื่องสำอางแน่นเต็มแผ่นสำลี ให้เปลี่ยนแผ่นใหม่ทันที แล้วเช็ดซ้ำจนสำลีหมดคราบสกปรกค่ะ

เครื่องสำอางแต่ละตัว ย่อมเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกันไป ตัวนี้ทิชชี่ใช้แล้วดี แต่คุณใช้แล้วอาจไม่ดีก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะฉะนั้นลองหาตัวที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณที่สุด ตัวไหนดี ตัวไหนเด็ด มาแชร์กันได้นะคะ ^^

วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558

นางแบบท้อง ก็มีโอกาสขึ้น แคตวอล์ก แล้วนะ!!!

นางแบบท้อง ก็มีโอกาสขึ้น แคตวอล์ก แล้วนะ!!!คอลัมน์ สรรหา มาเล่า
โดย raikorn@hotmail.com
ถือเป็นการช่วยสนับสนุน ช่วยกันสร้าง "ความหลากหลาย" ให้กับวงการแฟชั่น ที่ปัจจุบันมีกระแสส่งเสริม ผลักดัน ให้มีการนำเสนอความสวยงามให้หลากหลายรูปแบบ โดยที่ผ่านมาก็มีหลายแคตวอล์กที่นำเสนอนางแบบที่มีรูปร่างเหมือนชาวบ้านทั่ว ไป ไม่จำเป็นต้องมีรูปร่างผอมเพรียวเหมือนนางแบบเท่านั้น หรือแม้แต่เด็กสาวที่ป่วยเป็นอัมพาต แต่สามารถต่อสู้กับโรคร้ายได้อย่างกล้าหาญ ก็มีโอกาสได้รับเชื้อเชิญให้ขึ้นแคตวอล์กกันมาแล้วเมื่อเร็วๆ นี้

แล้วล่าสุด ดอลเช่ แอนด์ แกบาน่า (Dolce and Gabbana) แฟชั่นแบรนด์เนมดังของอิตาลี ก็ขอร่วมด้วยช่วยกันอีกแรงหนึ่งในการสร้างความหลากหลายให้กับวงการแฟชั่น ด้วยการนำนางแบบที่กำลังตั้งครรภ์มาเป็นส่วนหนึ่งของเหล่านางแบบ ที่ขึ้นโชว์เสื้อผ้าของดอลเช่ แอนด์ แกบาน่า ในคอลเล็กชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2015 ในงานสัปดาห์แฟชั่นที่เมืองมิลาน อิตาลี เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ในแฟชั่นโชว์เซตนี้ ดอลเช่ แอนด์ แกบาน่า ใช้ชื่อโชว์ว่า "Viva la mamma" หรือ "ไชโย สำหรับคุณแม่ทั้งหลาย" ที่ต้องการนำเสนอความงามของผู้หญิงที่ เป็นแม่หลากหลายช่วง ทั้งช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือช่วงที่มีลูกเล็กๆ แล้ว ซึ่งในแฟชั่นโชว์ก็มีนางแบบที่จูงลูกเล็กขึ้นบนเวทีด้วย
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการนำเสนอนางแบบที่กำลังตั้งครรภ์บนแคตวอล์ก ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว คาร์ล ลาเกอร์เฟลด ก็ปิดฉากแฟชั่นโชว์ของชาแนล ด้วยการเดินควงแขนนางแบบที่กำลังจะเป็นคุณแม่ขึ้นเวที
หรือย้อนไปเมื่อปี 2553 มิแรนด้า เคอร์ ซุปเปอร์โมเดลชาวอเมริกันก็สร้างความตื่นตะลึงในงานสัปดาห์แฟชั่นที่กรุง ปารีส ฝรั่งเศส เมื่อเธอขึ้นโชว์เสื้อผ้าให้กับบาเลนเซียก้า หลังจากคลอดลูกชายได้เพียง 3 เดือน
หรือย้อนไปในงานสัปดาห์แฟชั่นที่นครเซา เปาโล ประเทศบราซิล เมื่อปี 2555 ที่อเลสซานดร้า แอมโบรซิโอ้ นางแบบสาวสวยชาวบราซิล และนางแบบของวิคตอเรีย′ส ซีเคร็ต ที่ขึ้นแคตวอล์กให้กับเสื้อผ้าแฟชั่นของ Colcci ขณะกำลังตั้งท้อง 5 เดือน
จากกระแสความเปลี่ยนแปลงที่มีให้เห็นกันเรื่อยๆ เราเชื่อว่า ในวงการแฟชั่นยังจะมีอะไรดีๆ ออกมาให้เห็นกันอีกแน่นอน

เป็นสิวทำทรีทเม้นท์ได้มั้ย

เป็นสิวทำทรีทเม้นท์ได้มั้ย
Hospital Healthcare : คอลัมน์ Beauty station
ซอนย่า ซี


หลายท่านที่กำลังกลุ้มใจเรื่องสิว รักษาสิวก็อยากหายไวๆ อยากหน้าใส แต่กังวลใจว่าเป็นสิวแล้วจะกระตุ้นการเกิดสิวเพิ่มอีกไหม? พญ.นิภาพรรณ ผลบุญ (หมอโบว์) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงามจาก เศรณีคลินิก อธิบายว่า จริงๆ แล้วคนเป็นสิวสามารถทำทรีทเม้นท์ได้ นอกจากการรักษาด้วยยาทาและยากิน แต่ต้องเป็นทรีทเม้นท์ที่เหมาะสมและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด จะช่วยให้สิวและรอยแผลหลังเกิดสิวหายได้เร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความรุนแรงของสิว ในกรณีผิวแพ้ สิวเห่อมาใหม่ๆ ไม่ควรทำทรีทเม้นท์ที่รบกวนผิวหน้าหรือใช้ยาที่ระคายเคืองมากนัก เพราะการกระตุ้นหน้ามากเกินไปมีผลทำให้สิวเห่อได้เช่นกัน ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความเหมาะสมในการเลือกทำทรีทเม้นท์
ทรีทเม้นท์คนเป็นสิวมีกี่ประเภท
ทรีทเม้นท์ผลัดเซลล์ผิว (Facial Peeling) เป็นการทาตัวยาที่สกัดจากกรดผลไม้เช่น AHA BHA และ Chemical peeling อื่นๆ วิธีนี้ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำหรือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และร่างกายไม่สามารถผลัดออกไปได้ให้ค่อยๆ หลุดออกไปอย่างช้าๆ ช่วยลดการเกิดสิวอุดตัน ทำให้รูขุมขนกระชับ ลดความมันบนใบหน้า ลดเลือนรอยด่างดำ และริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
แต่ปัญหาที่พบได้บ่อยคือ สารผลัดเซลล์กลุ่มนี้มักก่อให้เกิดการระคายเคืองจึงต้องพึงระวังโดยเฉพาะใน ผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย หรือหากทาทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานหรือความเข้มข้นของตัวยามากเกินไป ก็อาจทำให้ผิวแสบไหม้ได้ ดังนั้นการทำทรีทเม้นท์กลุ่มนี้จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เท่านั้น
และนอกจากการทาสารสกัดจากกรดผลไม้ที่ทำโดยทั่วไปแล้ว ยังมีน้ำยาสูตรเฉพาะอีกประเภทหนึ่ง คือ Seranee Deep Peeling ซึ่งเป็น Peeling ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ลงลึกกว่า Chemical Peeling ทั่วไป จึงสามารถช่วยได้ทั้งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดการอักเสบของสิวเดิม ลดรอยดำจากกระ ฝ้า อีกทั้งยังช่วยลดเลือนและชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้อีกด้วย โดยทั่วไปแล้วในเคสคนไข้สิว หมอจะไม่แนะนำให้ทำ Microdermabrasion Treatment ซึ่งเป็นการกรอผิวหน้าด้วยผงเกล็ดอัญมณีที่มีขนาดเล็กมาก เนื่องจากจะทำให้ผิวหนังของคนไข้บาง เกิดการระคายเคืองได้ง่าย และยังกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบเพิ่มขึ้นอีกด้วย
PDT Blue light เป็นเทคโนโลยีการฉายแสงเพื่อฆ่าเชื้อสิว พิสูจน์แล้วว่าช่วยลดเชื้อ P. acnes สาเหตุของการเกิดสิวอย่างได้ผล นอกจากนี้ความพิเศษของการรักษาสิวที่เศรณีคลินิกนั้นจะมีการทาน้ำยาสูตร เฉพาะชนิดหนึ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการฉายแสงรักษาสิว เป็นตัวยาที่จำเป็นอย่างมากในการรักษาสิว ซึ่งที่อื่นๆ จะตัดขั้นตอนในการทาน้ำยาตัวนี้ไป ส่งผลให้การรักษาไม่ได้ผล และสิวไม่หายในที่สุด ปกติการรักษาด้วย PDT Blue Light นั้นเหมาะกับคนไข้สิวทุกประเภทเนื่องจากไม่รบกวนหรือกระตุ้นผิวหน้าแต่อย่าง ใด
เลเซอร์ / IPL การใช้พลังงานจากแสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ เพื่อการรักษาหรือปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น โดยส่งพลังงานแสงไปยังเซลล์เป้าหมายบนผิวหนัง ช่วยเสริมสร้างเซลล์ที่ดีและทำลายเซลล์ที่มีปัญหาแบบจำเพาะเจาะจง จึงส่งผลต่อเซลล์อื่นที่อยู่ข้างเคียงน้อยมาก นอกจากนี้การเสริมสร้างเซลล์ที่ดีจะช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ ชะลอวัย ลดการเกิดรอยเหี่ยวย่น และยังสามารถนำมาใช้ในการรักษาสิวอักเสบ รอยแดงและรอยดำได้อีกด้วย ภายหลังการทำเลเซอร์หรือ IPL ควรให้ความชุ่มชื้นกับผิวเพิ่มขึ้น และปกป้องผิวจากแสงแดดมากเป็นพิเศษประมาณ 5-7 วัน
การบำรุงผิวด้วยเครื่องมือที่ช่วยผลักตัวยาและน้ำยาทรีทเม้นท์ โดยปกติจะแนะนำให้ทำเมื่อสิวเริ่มสงบแล้ว เป็นการบำรุงเพิ่มสารอาหารแก่เนื้อผิวเพื่อให้แผลสิวได้รับการซ่อมแซมให้หาย ได้เร็วขึ้น อีกทั้งช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิวอีกด้วย แต่ต้องพึงระวังตัวยาหรือวิตามินบางตัวที่อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ได้ ฉบับต่อไปเราจะมาติดตามกันต่อว่า การบำรุงผิวด้วยเครื่องมือ มีเทคนิคสำคัญอย่างไรบ้าง

ดื่มน้ำมะเขือเทศช่วยให้ผิวขาวจริงหรือ? ดื่มมากไปจะเป็นอันตรายหรือเปล่า?

น้ำมะเขือเทศ ตัวช่วยเรื่องผิวขาวที่ผู้หญิงหลาย คนยกให้เป็นตัวเลือกชั้นยอด เพราะทั้งถูกและดี กับความเชื่อที่ว่ายิ่งดื่มน้ำมะเขือเทศยิ่งทำให้ผิวขาว เห็นสาวๆในโลกออนไลน์แห่กันไปซื้อน้ำมะเขือเทศดอยคำมาดื่มกัน มีทั้งชอบดื่มเป็นประจำอยู่แล้ว กับพวกปิดจมูกกลั้นใจดื่ม หวังจะได้อานิสงค์ผิวขาวอมชมพูสุขภาพดี แต่ที่จริงแล้ว น้ำมะเขือเทศที่ว่านี้จะมีสรรพคุณช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้จริงหรือ วันนี้ ChicMinistry พามาพิสูจน์กันค่ะ


ความจริงของน้ำมะเขือเทศ
การที่ผิวคนเราจะขาวขึ้นได้ ต้องเกิดจากการลดเม็ดสีเมลานีนในชั้นผิวหนังให้ได้เสียก่อน ในน้ำมะเขือเทศมี สารไลปีน ช่วยปกป้องคลอลาเจนในชั้นผิว เพราะคลอลาเจนมีส่วนช่วยให้ผิวพรรณเกิดความชุ่มชื้น ช่วยเสริมความเรียบตึงให้กับผิวหนัง และยังช่วยทำให้ผิวดูเรียบเนียนกระชับ เมื่อดื่มน้ำมะเขือเทศแล้ว สารไลโคปีนจะทำให้ ผิวเนียนละเอียด และสว่างกระจ่างใสขึ้น
ดังนั้น น้ำมะเขือเทศ จึงเป็นตัวช่วยในเรื่อง ทำให้ผิวใส ไม่ได้ช่วยทำให้ผิวขาวแต่อย่างใดนะคะ

หลายคนยังเข้าใจผิดคิดว่ายิ่งดื่มน้ำมะเขือเทศมากเท่าไหร่จะยิ่งทำให้ผิวขาว มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วการดื่มน้ำมะเขือเทศในปริมาณที่มากเกินไปก็มีผลเสียกับร่าง กายที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกันนะ
5 ข้ออันตรายหากดื่มน้ำมะเขือเทศมากจนเกินไป

 1. เลือดกำเดาไหล

 
2. ปัสสาวะบ่อย
 
3. เหนื่อยง่ายหายใจหอบ
 
4. ปัสสาวะขุ่นหรือมีกรวดทราย
 
5. ผมร่วง
อาการทั้งหลายเหล่านี้เกิดจากการที่ร่างกายเราได้รับวิตามินซีและโซเดียม ในปริมาณที่มากเกินไปนั่นเอง รู้อย่างนี้แล้วสาวๆคนไหนอยากมีผิวสวยควบคู่กับสุขภาพที่ดีแนะนำให้ดื่ม มะเขือเทศแค่หนึ่งกล่องต่อวัน หรือใครซื้อกล่องใหญ่มาก็ดื่มเพียง 1 แก้ว ต่อวัน ก็เพียงพอแล้วนะคะ

วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558

“เอิ้น พิยะดา” คุณหมอนักแต่งเพลง หัวใจเกษตร

         คุณหมอผู้รักการเขียนเพลง เคยสร้างให้หลายต่อหลายเพลงติดอยู่ในหัวใจของคนฟัง อาทิ ‘เพื่อนรัก’ เอิน-กัลยากร, ‘เจ็บซ้ำซ้ำ’ แอน-ธิติมา, ‘รักเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ’ ลูกปัด, ‘คำถาม’ ท๊อฟฟี่ หรือแม้แต่เพลงที่สื่อถึงความเข้าใจโลกอย่าง “เจ็บจนเข้าใจ” โดย พี่ตู่ นันทิดา
เอิ้น พิยะดา
วันนี้ของ คุณหมอเอิ้น เว้นวรรคจากงานแต่งเพลง หันมาจับงานบริหาร ”เลยพาวิลเลี่ยน” ธุรกิจโรงแรมของครอบครัวในจังหวัดเลย โดยเธอเลือกที่จะเข้าใกล้ธรรมชาติให้มากที่สุด เพราะใช้การเกษตรแบบพึ่งพาควบคูไปกับการบริหารงานโรงแรม

จากงาน ‘คุณหมอจิตแพทย์’ และ ‘นักแต่งเพลง สู่งานบริหารโรงแรมแบบเกษตรพึ่งพา
“ช่วง หนึ่งปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเอิ้นเยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะเรื่องงานและความรับผิดชอบ ซึ่งพอมารับผิดชอบงานที่นี่ทำให้เอิ้นได้มองเห็นว่าจริงๆ แล้วมันทำอะไรก็ได้ เรามีศักยภาพถ้าเราจะทำ สองปีที่หายไปจากการแต่งเพลงซึ่งถือว่าเป็นงานที่เอิ้นรักมาก และไม่คิดว่าจะห่างจากเขาได้นานขนาดนี้

มาทำงานโรงแรมมีสิ่งที่ต้อง รับผิดชอบมากขึ้น จากที่ไม่เคยมีลูกน้องก็ต้องมี ต้องรับผิดชอบ ชีวิตความเป็นอยู่ของคนจำนวนมาก ซึ่งเอิ้นต้องดูตั้งแต่การสัมภาษณ์ รับเข้ามา การฝึกอบรม

เอิ้นมองว่ามีหลายร้อยหลายพันคนที่เขาเก็บเงิน ทั้งชีวิตเพื่อที่จะทำอะไรสักอย่างที่เป็นกิจการของตัวเอง แต่ว่าในเมื่อพ่อแม่เราให้ทรัพย์เรามาแล้ว และในฐานะที่เราเป็นลูก เอิ้นมองว่าเป็นหน้าที่หนึ่งด้วยนะคะที่เราจะทำให้สิ่งที่พ่อแม่ให้มาเจริญ งอกงาม ต่อยอดสิ่งที่พ่อแม่ให้ เลยเลือกที่จะทำต่อ
เอิ้น พิยะดา

โรมแรม – ศูนย์การเรียนรู้ด้านเกษตรแบบพึ่งพา
”เอิ้น เกิดในครอบครัวเกษตร คุณพ่อเป็นอาจารย์เกษตร คุณตาคุณยายเป็นเกษตรกรหมด ในรุ่นคุณแม่ถึงจะมาเป็นครู ซึ่งเราได้รับการซึมซับมาตั้งแต่เด็ก เรารู้สึกว่านี่คือวิถีความสุขที่แท้ เอิ้นคิดว่าเราจะต้องผูกโยงความเป็นตัวเรา เป็นสิ่งที่เราชอบเข้ามาด้วย เป็นสิ่งที่เราอยู่กับเขาแล้วเรามีความสุขไปด้วย เป็นความสุขทางใจค่ะ

เราอยากให้ที่นี่เป็นมุมๆ หนึ่งในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ ซึ่งก่อให้เกิดกิจกรรมสร้างสรรค์ เรามีแปลงเกษตร พอวันแม่วันพ่อเรา ก็มาดูทำอย่างไรให้ครอบครัวเกิดความสัมพันธ์ หรือทำอย่างไรให้เด็กๆ รู้คุณค่าของคุณแม่ พระคุณของน้ำนมคุณแม่ไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้เรื่องของข้าว เราก็ทำกิจกรรมปลูกรักวันแม่ เอาลูกๆ กับคุณแม่ คุณพ่อมาทำกิจกรรมด้วยกัน และก็ลงท้ายด้วยการปลูกข้าว

เอิ้น จะไม่มีความสุขและไม่สนุกเลย กับสิ่งที่เราทำแล้วเราไม่รู้ว่าเราทำเพื่ออะไร คือรู้ว่าเราทำไปเพียงแค่ว่าได้ตัวเงินมาเยอะ แต่ว่าเราขาดซึ่งจิตวิญญาณ เราขาดซึ่งคุณค่าในคุณธรรม ฉะนั้นเราก็เลือกที่จะให้คุณค่ากับสิ่งที่เราทำส่วนหนึ่ง รายได้ส่วนหนึ่ง เรื่องผลต่อสังคมมันเป็นเรื่องผลพลอยได้ที่ออกมา”

ผลิตภัณฑ์เกษตรใช้ควบคู่กับโรงแรม
“วิสัยทัศน์ของโรงแรมคือ Eco and Health เป็นโรงแรมที่รักษ์โลกด้วยรักสุขภาพด้วย เลยคิดว่าเราจะเน้นไปที่หลักกสิกรรม ธรรมชาติ เศรษฐกิจพอเพียง ข้าวของเครื่องใช้ที่จึงทำเอง ก่อนหน้านี้รายจ่ายต่อเดือนเฉพาะค่า สบู่ แชมพู น้ำยาซักผ้า ประมาณหนึ่งหมื่นแปดพัน ตอนนี้เหลือประมาณห้าพัน

สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือ พอเครือข่ายชาวบ้าน หรือหน่วยราชการบางหน่วยเขารู้ว่าเราทำ เขาก็เชิญให้เราไปเป็นวิทยากรซึ่งเอิ้นจะให้แม่บ้าน ให้พี่ที่ดูแลสวนไปร่วมเป็นวิทยากร เขาเองก็เกิดความภูมิใจ ว่าเขาไม่ได้เป็นแม่บ้านอย่างเดียวแล้วนะ แต่ยังเป็นครูที่ได้สอนคนอื่นได้ด้วย อันนี้คือสิ่งสำคัญที่สุด ค่ะ”

เทรนด์แต่งหน้ารับหน้าร้อน เขียนอายไลเนอร์อย่างไร ห้ามพลาด!

         ลมร้อนเริ่มพัดเข้าหน้าแบบเต็มๆ แล้ว เชื่อว่าสาวๆ คงไม่อยากออกจากบ้านไปไหน เพราะกลัวหน้าสวยๆ ผิวใสๆ จะหมองคล้ำไปในชั่วพริบตา เอาเป็นว่า หากคุณสาวๆ ยังไม่มีโปรแกรมไปไหน มาอัพเดทเทรนด์แต่งหน้ารับหน้าร้อน ให้สวยปัง หน้าไม่พังกันดีกว่าค่ะ

"พี่เค กฤษณะ มโนหาญ" ตำแหน่ง CREATIVE ARTTIRT DIRECTOR จาก Bsc Cosmetology พร้อมแล้วที่จะแนะนำสาวๆ ให้สวยอินเทรนด์ พร้อมสู้แดดกัน
"เทรนด์การแต่งหน้าปีนี้ ที่เห็นเด่นชัด โดดเด่น สาวๆ ชอบคือ การเขียนอายไลเนอร์ที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น เน้น "แคทอาย" ยังคงมาแรงอยู่ ส่วนของสีตาจะเน้นของโทนที่เป็นธรรมชาติ สีพาสเทล มีการใช้สโมคกี้อายบ้างเป็นบางโอกาส ส่วนเรื่องของผิวจะเน้น ผิวโกลว์ สว่างใส เป็นธรรมชาติมากที่สุด สีแก้ม สีชมพูนมๆ จะมาแรง ลิปสติกจะหลากหลาย เน้นสีสด ชมพู และม่วง ค่อนข้างจะมาแรงที่สุด
ส่วนเทรนด์ซัมเมอร์ สีตา โทนพาสเทล กับการเล่นอายไลเนอร์ จะมาแรงมาก แต่งตาให้โดดเด่น แปลกๆ ไม่ว่าจะเป็น ซุปเปอร์แคทอาย ดับเบิ้ลวิงขึ้นมา มีอายไลเนอร์เส้นบนเส้นล่างที่เขียนเฉียงขนานกันไป ใช้อายไลเนอร์ 2 สี เล่นอายไลเนอร์หลากหลาย ทรงไม่ฟิกเลยค่ะ สีสันลิปสติกก็ห้ามขาด เน้นความหลากหลายของลิปสติกสีสดใสเป็นหลัก

เทคนิคการเขียนอายไลเนอร์ให้เป๊ะ
หาอายไลเนอร์ที่ ถนัดมือ เช่น "อายไลเนอร์ ออโต้เพน" ที่เป็นปากกาเมจิก จะแห้งเร็ว ได้เส้นที่คมชัด เรียบเนียน ถ้าอยากเขียนอินเนอร์ข้างใน ก็ต้องใช้อายไลเนอร์แบบดินสอจะทำให้ไม่ระคายเคืองตา ซึ่งแต่ละคนจะเขียนอายไลเนอร์ไม่เหมือนกัน เป็นการแก้ไขรูปทรงตาของแต่ละคนด้วย ถ้าคุณมีชั้นเปลือกตาเยอะ ให้เขียนเส้นเล็ก ชิดขนตามากที่สุด แล้วลากหางออกมา ถ้าคุณมีตาเล็ก ให้เขียนอายไลเนอร์เส้นใหญ่ และใช้อายไลเนอร์สีขาวเขียนเพิ่มด้านใน ตาจะได้ดูโต เป็นการเปิดตาให้กว้างขึ้นได้ค่ะ
แต่งหน้าหน้าร้อนอย่างไรให้เครื่องสำอางติดทน
ตัว รองพื้นสำคัญที่สุด ต้องเลือกเนื้อที่ทนความร้อน ทนแดดได้ดี ที่สำคัญมี SPF ผสมด้วย เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด คนผิวธรรมดา และผิวแห้งจะค่อนข้างได้เปรียบ เพราะทารองพื้นแล้วไม่หลุดง่าย คนผิวมันควรใช้ไพรเมอร์ช่วยลดมันลงก่อน แล้วค่อยลงรองพื้น หรือแป้งตามค่ะ
หน้าร้อนสาวๆ ที่อยากสนุกในการแต่งหน้า ควรเลือกให้เหมาะกับตัวเอง จะได้เปลี่ยนตัวเองได้ ไม่ว่าจะเล่นสีตา สีคิ้ว แต่ง่ายเห็นชัดที่สุด คือการเล่นสีลิปสติก ลองเปลี่ยนสีเดิมๆ เปลี่ยนสีให้สว่างสด หน้าจะได้ดูมีสีสันยิ่งขึ้นค่ะ

ส่วน "คุณบุษบง มิ่งขวัญยืน" ตำแหน่ง : SENIOR GROUP BRAND MANAGER ผู้บริหาร Bsc Cosmetology ได้ให้คำแนะนำสาวๆ เพิ่มเติมว่า
เทรนด์การแต่งหน้าปีนี้ เน้นผิวใสๆ เบาๆ เน้นที่ตา กรีดอายไลเนอร์ในรูปแบบต่างๆ อายไลเนอร์เป็นสิ่งที่ผู้หญิงขาด ไม่ได้ และลิปสติกสีจะสดใส เน้นการดูแลริมฝีปากด้วย ต้องมีมอยเจอร์ไรเซอร์ในตัว ของ "BSC orchid color make up" เราใช้สารสกัดจากกล้วยไม้ไทยเข้ามา บนแพคเกจจะ เป็นภาพวาดสีน้ำมันกล้วยไม้ ซึ่งฝรั่งจะชอบมากๆ มันไม่ได้มีแค่ความสวย แต่มีสารอาหารสำคัญ ต่อต้านริ้วรอย ผสมผสานแนวคิดของกล้วยไม้กับคุณประโยชน์ของกล้วยไม้พร้อมสีสัน มาบรรจุไว้อยู่ในผลิตภัณฑ์ชุดนี้
คิดว่าเครื่องสำอางแบรนด์ไทยของเรามีจุดต่างจากแบรนด์อื่นยังไง
ใน ความเป็นไทยของเราคือความเป็นไทยสู่สากล เรามีแนวคิดของความเป็นไทย เราดึงความโดดเด่นของไทยออกมาสู่ชิ้นงานผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ หรือตัวบรรจุภัณฑ์ คุณค่าตรงนี้มันทำให้เกิดการยอมรับได้ เราเอาเรื่องเทรนด์เข้ามาผนวกด้วย อยากให้คนไทยได้เห็นคุณค่า เพราะ BSC ไม่ได้เป็นเบรนด์ไทยอย่างเดียว เรายังเป็นเบรนด์ไทยแบบอินเตอร์เนชั่นแนล เราก้าวสู่ระดับสากล ส่งออกไปหลายประเทศ อยากฝากให้คนไทยภูมิใจในแบรนด์ชั้นนำของประเทศเรา สินค้าเราผลิตมาเพื่อคนเอเชีย และมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดค่ะ

เครื่องสำอางตัวเด็ดของ BSC ขายดีเกินคาด
1 คือ "แป้งเค้ก" เราทำรีเซิร์ชเพื่อผิวคนไทยโดยเฉพาะ เรื่องแป้ง คนจะคิดถึง BSC เป็นอันดับหนึ่ง เรามีสีแป้งให้เลือกหลากหลายมาก ตั้งแต่รุ่นที่ราคาไม่แพง ราคากลาง ไปจนถึงราคาแพงหน่อย แต่ถูกกว่าแบรนด์อื่นค่ะ

2 ดินสอเขียนคิ้ว มีสีให้เลือก 4 สี ราคาเราไม่แพง และใช้ได้นาน คุ้นค่าคุ้มราคามากๆ  สีติดอยู่ทนด้วย

3 ลิปสติก ก็ขายดี รุ่น "ไบโอเพอร์เฟ็คท์" เพราะ เนื้อสีแน่น เรียบเนียน และล้างออกง่าย


สำหรับ สาวๆ ที่อยากสวยไม่ตกเทรนด์ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับตัวเอง หรือเดินตรงเข้าไปปรึกษา ไปลองผลิตภัณฑ์ ตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางได้เลยนะคะ เพราะแต่ละแบรนด์ยินดีให้คำปรึกษาสาวๆ ให้สวยสมใจแน่นอนค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558

สวยเก่งฉลาดครบสูตร มาดามแป้ง นวลพรรณ

สวยเพอร์เฟคจริงๆ สำหรับความสวย-เก่งรอบด้านของ "แป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ที่เรารู้จักเธอเป็นอย่างดีในฐานะ 'นางฟ้าวงการฟุตบอล' ในบทบาททางธุรกิจ เธอนั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทย ประกันภัย (MTI)


แต่เวลานี้ หลายคนกลับรู้จักและคุ้นชื่อเธอในนาม "มาดามแป้ง" กับการรับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย นอกจากนี้ล่าสุดสาวแกร่งคนนี้ ยังสร้างความฮือฮาให้กับวงการลูกหนังไทย ด้วยการเป็นประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี


ผลงานสุดไฉไล ด้วยการพาทีมแม่เนื้อนิ่มทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ ที่เมียนมาร์เมื่อปี 2013 ก่อนจะสร้างชื่อครั้งใหญ่ ด้วยการพาทีมชาติไทย ไปลุยศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2015 ที่ แคนาดา ทำให้ชื่อของเธอคนนี้ฮิตติดลมบน และ หลายคนต้องหันมามองชื่อของ นวลพรรณ ล่ำซำ  
ล่าสุด เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศของกระทรวงการต่างประเทศ โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงนามประกาศตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. กรณีการแต่งตั้ง นางนวลพรรณ ล่ำซำ เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐลิทัวเนีย ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีใจความว่า
ด้วยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกอนุมัติบัตรรับรอง นางนวลพรรณ ล่ำซำ เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐลิทัวเนีย ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมทั่วราชอาณาจักรไทย ประกาศ ณ วันที่ 7 ม.ค. 58

นอกจากความสามารถที่พิสูจน์ให้คนทั้งประเทศได้เห็นแล้ว เรื่องความสวยของเธอนั้นช่างเลอค่า ดูไม่ออกเลยว่าอายุอีก 2 ปีจะขึ้นเลข 5 แล้วนะคะ สำหรับสาวๆ ที่กำลังติดตามผผลงานพร้อมชื่นชอบความสวยของ แป้ง นวลพรรณ  ดูแล้วจะต้องบอกเลยว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ

ดูแลช่องปากวันนี้เพื่อสุขภาพดีวันหน้า

ดูแลช่องปากวันนี้เพื่อสุขภาพดีวันหน้า

รู้หรือไม่ว่า สุขอนามัยของช่องปากเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเอาใจใส่ดูแลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคในช่องปาก เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์ที่รุนแรงซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงร่วมกับหลายโรคในกลุ่มโรคไม่ ติดต่อเรื้อรัง หรือกลุ่มโรค NCDs (Non-Communicable Diseases) ซึ่งได้แก่ โรคเบาหวาน, โรคหลอดเลือดสมอง และหัวใจ, โรคถุงลมโป่งพอง, โรคมะเร็ง, โรคความดันโลหิตสูง, โรคอ้วนลงพุง เป็นต้น หากคุณไม่ใส่ใจรักษาสุขภาพของช่องปากจนแบคทีเรียที่อยู่ในปากก่อตัวเป็นคราบ หรือไบโอฟิล์มอันเป็นต้นเหตุของ ฟันผุ เหงือกอักเสบ รวมถึงโรคปริทันต์ที่รุนแรง มันจะกลายเป็นช่องทางสำคัญให้เชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคไม่ติดต่อ เรื้อรังหลากหลายชนิดเข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ของร่างกายในที่สุด

หนึ่งในวิธีง่ายๆ ที่จะลดโอกาสเสี่ยง และความรุนแรงในการเป็นกลุ่มโรค NCDs ก็เพียงรักษาดูแลอนามัย และความสะอาดในช่องปาก แต่ไม่ใช่เพียงแค่แปรงฟันเพียงอย่างเดียว เพราะผิวฟันเป็นเพียง 25% ของพื้นผิวทั้งหมดในช่องปากจึงเท่ากับว่า การแปรงฟันจะช่วยเราดูแลความสะอาดในช่องปากได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ในขณะที่แบคทีเรียยังคงแฝงตัวอยู่ทุกแห่งในปากของเราทั้งฟัน เหงือก กระพุ้งแก้ม เพดานปาก และพร้อมที่จะก่อตัวเป็นไบโอฟิล์มได้ทันทีหลังแปรงฟันเสร็จ ดังนั้นการใช้น้ำยาบ้วนปากผสมสารแอนตี้ แบคทีเรีย ทุกครั้งหลังการแปรงฟัน ดูจะเป็นวิธีที่สามารถช่วยกำจัดแบคทีเรียได้ดีสุด เพราะไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาน้อยไม่กี่วินาที แถมช่วยซอกซอนเพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียได้ทั่วทั้งปาก แม้ในบริเวณที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึง เพิ่มความมั่นใจในการป้องกันโรคในช่องปาก และลดโอกาสการเกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก เพื่อความสะอาด มั่นใจได้เต็มร้อย

แล้วน้ำยาบ้วนปากก็มีหลากชนิดหลายยี่ห้อ เราควรจะเลือกอย่างไหนถึงจะดีหรือเหมาะสมกับตัวเราล่ะ เรามีคำแนะนำมาฝาก หลักๆ เลยก็ดูจากสารออกฤทธิ์ และส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ ซึ่งหากต้องการกำจัดแบคทีเรียต้นเหตุของปัญหาช่องปาก เราควรเลือกน้ำยาบ้วนปากที่ผสมสารแอนตี้–แบคทีเรีย แล้วยิ่งถ้ามีสารออกฤทธิ์จากกลุ่มน้ำมันสกัดธรรมชาติที่ได้รับการพิสูจน์ แล้วว่าลดการสะสมคราบแบคทีเรียได้จริง ปลอดภัยต่อการใช้เป็นประจำก็จะยิ่งดี เพื่อการดูแลสุขภาพเหงือกอย่างได้ผล แล้วยังให้ความรู้สึกสะอาดสดชื่นเฉพาะตัว ให้ความรู้สึกแตกต่างจากน้ำยาบ้วนปากทั่วไป และที่สำคัญคือ ไม่มีประจุ หรือ non-ionic ซึ่งจะไม่ทำปฎิกิริยากับยาสีฟัน จึงสามารถบ้วนหลังแปรงฟันได้ทันที

ต่อไปนี้แปรงฟันเสร็จแล้วก็อย่าลืมบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่มี ประสิทธิภาพและส่วนผสมอย่างที่เราได้บอกไป ซึงควรทำให้เป็นนิสัย แล้วโรคภัยก็จะห่างไกลจากตัวคุณๆ