วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ปาร์ตี้ปีใหม่ แฮ้ง หรือ เมาค้าง รู้ยัง... “ไข่ต้ม”ช่วยได้


โอยๆๆๆ หัวจะระเบิดอยู่แล้ว ทำไมบ้านมันหมุนไปหมุนมาอย่างนี้...
ชีวิตค่ำคืนอันแสนสุขสนุกสนาน ต้องลงเอยด้วยเช้าที่แสนทุกข์ทรมาน ยิ่งต้องแดดยามเช้า ร่างกายราวกับถูกแผดเผา เหมือนแดร็กคิวลาเจอแสงอาทิตย์
ข้าวเช้ารึ ไม่ต้อง ขอน้ำส้มเจี๊ยบๆ ก็พอ หรือถ้าทนคะยั้นคะยอไม่ไหว ขอเป็นข้าวต้มร้อนๆ สักถ้วย
"แฮ้ง" หรือ เมาค้าง เป็นเรื่องสากลโลก สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยที่ร่ำสุราจนเกินงาม
หมอต้น-นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ อธิบายว่า อาการเมาค้างเกิดจากภาวะร่างกายขาดน้ำ ฉะนั้นเมื่อเกิดอาการแฮ้งตอนเช้าๆ สิ่งที่ควรทำคือ ดื่มน้ำมากๆ แค่น้ำสะอาดก็พอ หรือจะเป็นน้ำส้ม น้ำมะนาว เพราะวิตามินซีมีสรรพคุณช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะ และยังมีน้ำช่วยชดเชยอาการขาดน้ำ
อาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะแฮ้งหรือไม่แฮ้ง หลังจากรับศึกหนักจากเมื่อคืน ควรกินอาหารประเภทโปรตีนย่อยง่าย อย่าง เมนูไข่ จะเป็นไข่ต้ม ไข่ตุ๋น หรือไข่น้ำ ใช้ได้ทั้งนั้น
หรือจะให้ดี กินไข่ต้มสัก 2 ฟอง เป็นการเตรียมร่างกายก่อนไปงานปาร์ตี้ จะช่วยให้เมาช้าลง...จนเพื่อนๆ แปลกใจ (ฮา)

วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557

แนะ นักเดินทาง สำรองยา 3-5 วัน

ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่นี้ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) แนะนำนักเดินทางควร พกยาที่จำเป็น เช่น ยารักษาโรคประจำตัว โรคเรื้อรัง ยาจำเป็นพื้นฐานสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน โดยสำรองให้เท่ากับวันเดินทาง หรือเพิ่มอีก 3-5 วัน และขณะขับรถควรเลี่ยงยากลุ่มที่กินแล้วทำให้ง่วง

ภญ.วนิชา ใจสำราญ รักษาการผู้อำนวยการ อภ. เปิดเผยว่า การเตรียมยาในระหว่างเดินทาง ไม่ว่าจะเดินทางในประเทศหรือต่างประเทศ สำคัญที่สุดอันดับแรกคือการเตรียมยาในส่วนของผู้สูงอายุ ที่ส่วนใหญ่จะมีโรคเรื้อรังหรือโรคประจำตัว ซึ่งยาของผู้สูงอายุจะมียาที่ต้องกินเป็นประจำ ต้องเตรียมยาในปริมาณเท่ากับวันที่เดินทาง หรือสำรองเพิ่ม 3-5 วัน และควรจะติดชื่อยาไปด้วย เพราะหากยาตกหล่น สูญหายจะได้สามารถซื้อยาตัวเดิม หรือเข้าโรงพยาบาลแจ้งแพทย์ได้ว่าเดิมใช้ยาอะไร
ภญ.วนิชากล่าวว่า ส่วนยารายการอื่นๆ จะเป็นยาพื้นฐานสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน อาทิ พาราเซตามอลแก้ไข้ ทั้งชนิดเม็ดและน้ำเชื่อม ยาแก้แพ้ ซึ่งสามารถลดน้ำมูกและใช้แก้คันได้ด้วย ยาลดกรดชนิดน้ำ ซึ่งออกฤทธิ์ได้เร็วกว่าชนิดเม็ด ผงเกลือแร่ ผงถ่านกรณีท้องเสีย ยาแก้เมารถ ยาแก้ปวดเมื่อย และอุปกรณ์ทำแผล
"กรณีต้องขับรถเอง หากมีการใช้ยาในระหว่างนั้น ต้องศึกษาก่อนว่ายาที่จะกินมีตัวใดที่จะออกฤทธิ์ทำให้มีอาการง่วงนอน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเภทยาลดน้ำมูก ยาแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือยาในกลุ่มแก้ปวดไมเกรน ยาคลายกังวลบางชนิด ยากลุ่มนี้จะทำให้ง่วงนอน เป็นผลให้ความสามารถในการตัดสินใจช้าลง หากกินแล้วขับรถอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ในกรณีไม่สามารถเลี่ยงได้ ควรจอดรถนอนพักจนหายง่วง แล้วจึงขับต่อไป" ภญ.วนิชากล่าว และว่า ในช่วงดังกล่าวอาจจะมีโรคที่เกิดขึ้นบ่อย ได้แก่ ไข้หวัด เนื่องจากสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน พักผ่อนน้อย รวมถึงอยู่ในที่ที่มีคนหนาแน่น ทำให้มีโอกาสติดเชื้อทางเดินหายใจได้ง่าย และอีกโรคคือท้องเสีย ต้องเตรียมยาและผงน้ำตาลเกลือแร่สำรองเพิ่มสำหรับหลายคน
ส่วนผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ภญ.วนิชากล่าวว่า โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหารกเกาะต่ำ ในการเดินทางที่กระทบกระเทือนต้องระวังมาก หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยง และถ้าหากมีอาการปวดหรือมีไข้ฉับพลัน ให้เลือกใช้เฉพาะยาพาราเซตามอลเท่านั้น หรือหากมีน้ำมูก สามารถใช้คลอเฟนนิรามีนได้ แต่ที่สำคัญที่สุด ควรมีเบอร์โทรศัพท์ของแพทย์หรือพยาบาลที่ฝากครรภ์ไปด้วย เพื่อหากมีปัญหาจะได้โทรปรึกษา หรือหากมีเหตุสุดวิสัยให้เข้าพบแพทย์ที่สถานพยาบาลในพื้นที่นั้นๆ ทันที
นอกจากนี้ยังมีโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการเดินทางคือ โรคกระเพาะอาหาร เนื่องจากกินอาหารไม่ตรงเวลาและพักผ่อนน้อย อีกโรคที่จะพบมากสำหรับผู้หญิงคือ โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากระหว่างการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ อาจไม่สะดวกในการเข้าห้องน้ำ ทำให้ต้องกลั้นปัสสาวะ และสุดท้าย การไปเที่ยวป่าหรือน้ำตกต้องระวังในเรื่องของไข้เลือดออกหรือมาลาเรีย ถ้ามีไข้ควรรีบพบแพทย์ทันที

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เทรนด์ฮิตส่งท้ายปี แฟชั่นเสื้อกันหนาวสุดชิค

          อากาศหนาวๆ เย็นๆ เริ่มพัดผ่านเข้ามาให้สาวๆ ได้ขนลุกซูกันบ้างแล้วใช่มั๊ยล่ะคะ อย่างในวันหยุดยาวฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวรับลมหนาว ที่ใกล้จะมาถึงนี้ หลายคนคงจะกำลังเตรียมหาเสื้อผ้าต้อนรับลมหนาวกันอยู่แน่ๆ
และแฟชั่นที่สาวๆ ต้องมีตัวติดนั่นก็คือ เสื้อคลุม จะเป็น แจ็คเก็ต , สเวตเตอร์ , ไหมพรม หรือเฟอร์ขนฟรุ้งฟริ้ง ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยในการเพิ่มไออุ่นให้ร่างกาย ที่ความเก๋ได้ในเวลาเดียวกัน เพียงแค่แมทช์กับเสื้อผ้าสวยๆ ก็เริ่ดได้แล้วค่ะ
สำหรับสาวๆ คนไหนที่ยังไม่รู้ว่าหนาวนี้จะหยิบเสื้อกันหนาวแบบไหน ลองดูเทรนด์ฮิตส่งท้ายปีที่นำมาฝากกันดีกว่าค่ะ


สเวตเตอร์ตัวสั้นกับกางเกงหนังก็แซ่บนะยูว์

ใครว่าใส่สเวตเตอร์จะแซ่บไม่ได้ ลองหา สเวตเตอร์สีสดตัวสั้นมาแมทช์กับกางเกงหนังขายาว เริ่ดอย่าบอกใคร

เพิ่มความหวานด้วยปกเสื้อ
แค่เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์ธรรมดา อาจจะดูแมนไปสักนิดสำหรับสาวหวานที่อยากจะอินเทรนด์ ลองหาแบบที่ตกแต่งปกเสื้อด้วยขนนุ่มนิ่มสีขาวสดใส รับรองหวานได้แน่นอน
 
เสื้อคลุมทหารมีติดตัวไว้ยังไงก็เกิด
คุณสามารถแมทช์เสื้อลายทหารได้หลากหลายสไตล์ จะใส่คลุมเดรสขาว หรือจะใส่คู่กับกางเกงยีนส์ขายาว ขาสั้นก็ดูเข้ากันได้ดี 

 
สาวสปอร์ตเกิร์ลสุดชิค
สเวตเตอร์ตัวยาวทรง Oversize กับรองเท้าส้นตึก ด้วยความยาวของเสื้อที่ปิดกางเกงจะช่วยเพิ่มความเซ็กซี่ให้กับคุณได้ 

ยังไงก็เลือกแต่งตามใจชอบ ขึ้นอยู่ว่าจะใส่ไปที่มีอากาศหนาวประมาณไหน ยังไงก็ขอให้เที่ยวต้อนรับคริสมาสต์และปีใหม่กันให้สนุกนะคะ^^

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เครื่องดื่มคลายหนาว…แถมสุขภาพดี

          ใกล้จะปีใหม่แล้ว หลายคนเตรียมจัดทริปไปเคาท์ดาวน์กันแล้ว วันนี้เราจะพามาหาเครื่องดื่มร้อนๆ เอาไว้คลายหนาวเวลาไปเที่ยวท่องเขาขึ้นดอยกันในช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ นอกจากจะคลายหนาวแล้ว เครื่องดื่มเหล่านี้ก็ดีต่อสุขภาพด้วยนะ บอกเลย ^^


นมร้อน
เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มง่าย และยังช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารได้ทั้งโปรตีนและแคลเซียมให้กับร่างกาย และนอกจากนี้ยังคลายหนาวได้เป็นอย่างดี โดยการดื่มนมอุ่นๆ ประมาณ 37 องศาเซลเซียส หรือเท่ากับอุณหภูมิร่างกายของเราเอง จะมีผลดีมากที่สุด เนื่องจากโปรตีนและแคลเซี่ยมจากนมจะสามารถแตกตัวได้ดีกว่าการดื่มนมเย็น และยังส่งผลช่วยในการขยายหลอดเลือดฝอย ส่งผลให้สารอาหารต่างๆ ที่ลำเลียงผ่านหลอดเลือดเดินทางไปได้ดีขึ้น


โกโก้ร้อน
ของโปรดของใครหลายคน อุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย ทั้งสารต่อต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีไขมันเพียงแค่ประมาณ 0.3 กรัมเท่านั้นและเมื่อดื่มไปแล้วจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายของเรา ได้


นมถั่วเหลือง
เรียกอีกอย่างก็ น้ำเต้าหู้ นั่นล่ะ ซึ่งสามารถให้พลังงานกับร่างกายเราได้ไม่น้อยเลย แถมยังไม่อ้วนด้วย เพราะในน้ำเต้าหู้มีไขมันไม่อิ่มตัวมากถึง 63% นอกเหนือจากคุณค่าในแง่ของพลังงานแล้ว ยังมีวิตามินอีในปริมาณที่สูง โดยมีส่วนสำคัญที่ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยดูแลเนื้อเยื่อร่างกายให้เป็นปกติ ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ชะลอความแก่ ช่วยป้องการเกิดโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจล้มเหลว ท้องผูก และลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ และริดสีดวงได้อีกด้วย


ชาและกาแฟ
นี่แทบจะเรียกว่า ฮิตสุดในบรรดาเครื่องดื่มคลายหนาว นอกจากจะหาดื่มง่ายแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง อย่างกาแฟก็เป็นตัวกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางทำให้ไม่ง่วง สมาธิในการทำงานดีขึ้นและยังลดอาการปวดเมื่อยเนื่องจากไข้หวัด กระตุ้นอวัยวะของร่างกายและเป็นตัวลดน้ำหนักได้ด้วย ส่วนชาก็ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ขยายหลอดเลือด ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ป้องกันโรคหัวใจตีบตัน บรรเทาอาการเจ็บหน้าอก รักษาโรคหวัดและอาการปวดหัวได้ และในใบชายังมีสารโพลิฟินอล คาร์โบไฮเดรท และกรดอะมิโน เมื่อสารเหล่านี้ทำปฏิกิริยากับน้ำลาย ก็จะช่วยกระจายความร้อนในร่างกายออกไปพร้อมๆ กับขับสารพิษในร่างกาย


น้ำขิง
สมุนไพรที่มีฤทธิ์เผ็ดร้อน สามารถช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายและขับเหงื่อได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืดเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน รวมทั้งยังช่วยขยายช่องทางเดินของเลือดลมทั่วร่างกาย ไล่หวัด ลดอาการอักเสบ บวมตามข้อต่างๆ รวมทั้งบรรเทาอาการปวดเมื่อยเนื่องจากข้อเสื่อมด้วย

มะตูม
เครื่องดื่มสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์มาก ทั้งเป็นยาบำรุงร่างกาย รักษาธาตุ บำรุงธาตุไฟ ยาระบาย ช่วยรักษาอาการท้องร่วง ท้องเดิน โรคลำไส้ อาการท้องผูกเรื้อรัง แก้หวัด อาการไข้จับสั่น แก้ลม แก้มูกเลือด และ รักษาอาการหลอดลมอักเสบได้
เห็นไหมคะ ถ้าเราอยากจะคลายหนาว โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็มีให้เลือกเยอะแยะเลย ดื่มแล้วนอกจากจะอุ่นร่างกายแล้ว ยุ่งอุ่นใจอีกด้วยนะ เพราะว่าแต่ละอย่างอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้นเลยล่ะค่ะ ปีใหม่นี้ก็ขอให้ทุกคนเที่ยวให้สนุกนะคะ ดูแลสุขภาพกันให้ดีด้วยนะจ๊ะ ^^

วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ลายสก๊อต...แฟชั่นสุดฮิต ไม่มีเอ้าท์

แฟชั่นลายสก๊อต ลายผ้าคลาสสิกที่เราเห็นกันจนชินตา แต่บางคนก็ยังไม่มั่นใจว่าจะแมทช์ ลายสสก๊อต ออกมายังไงให้ดูชิค ไม่เชยหรือเยอะเกินไป วันนี้จะพาคุณสาวๆ ไปรู้เคล็ดลับการใส่เสื้อลายสก๊อตให้เข้ากับสาวยุคใหม่ 


สีที่ตัดกันกับขนาดตาราง มีส่วนสำคัญที่จะเป็นตัวชี้ว่าคุณจะสวยเด่นหรือดับได้ อย่าง แดง-เขียว, น้ำเงิน-ส้ม, เขียว-เหลือง หรือสีสดๆ เบรกเอาไว้ก่อน ลอง เลือกเป็นเสื้อโทนสีไล่ระดับ หรือคุมโทนจะดีกว่า ส่วนเรื่องตาราง ไม่ควรเลือกตารางที่ใหญ่มากเกินไป ให้เลือกขนาดกลางๆ เล็กๆ จะดีกว่าค่ะ 


แมทช์ลายสสก๊อตกับกางเกง รองเท้า กระเป๋าสีเรียบ ยิ่งเป็นสีดำด้วยล่ะก็ จะยิ่งช่วยเสริมบุคลิกให้คุณดูดี มีคลาส เว้นแต่ว่าคุณเป็นสาวมั่น ที่ไม่สายตาคนรอบข้าง ก็แมทช์สีเดียวกับลายสก๊อต  ถ้ากล้าก็ลองดูนะคะ!
 
ลายสก๊อตชุดแซกตัวเดียวเอาอยู่ ในวันที่คุณรีบเร่งแต่ก็ยังอยากจะอินเทรนด์ เพียงแค่หยิบชุดแซกลายสก๊อตมาใส่คู่กับรองเท้าส้นสูงหุ้ม ก็ดูเป็นสาวหวานซ่อนเปรี้ยวได้ แต่ถ้าคุณอยากจะได้ลุคใสๆ ลดวัยแมทช์กับรองเท้าผ้าใบสีขาว ง่ายๆ แค่นี้ก็เดินสวยได้แล้วค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดลับคลายความเหนื่อยล้า

           เมื่อมนุษย์ทำงานหนักมาทั้งต่อต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนล้า การดูแลรักษาร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากร่างกายอ่อนแออาจทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น

1.เข้านอนและตื่นให้ตรงเวลาทุกๆ วัน ตัวเราจะได้เคยชินและไม่ไปง่วงในเวลาอื่น
2.นอนให้ได้ประมาณ 8 ชั่วโมง หรือสังเกตดูตัวเองว่ากี่ชั่วโมงถึงพอ แล้วยึดเวลานั้นเป็นหลัก ถ้านอนไม่หลับให้หายใจเข้าออกยาวๆหรืออ่านหนังสือประเภทชวนง่วง เพื่อให้หลับง่าย
3. ไม่ปล่อยให้หิวหลายชั่วโมง เพราะจะทำให้จะรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง ให้กินอาหาร 3 มื้อแต่น้อยๆ
4.ทานอาหารขบเคี้ยวพวกผักผลไม้หรืออาหารมีประโยชน์อีก 2 มื้อย่อยระหว่างวัน
5.ทำตัวให้มีสุข ยิ้มหรือหัวเราะบ้าง เพราะ ความเครียดความเศร้าเสียใจดูดพลังงานของเราไป
6.งดดื่มชากาแฟ พวกชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มมีคาเฟอีน เพราะจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว หลับยาก
7.ลดน้ำหนักส่วนเกิน ด้วยการเดิน วิ่ง หรือขึ้นลงบันได เพราะน้ำหนักมากจะเปลืองพลังงานมากกว่าตอนที่ตัวเบาน้ำหนักน้อย
8.อย่าออกกำลังกายก่อนนอนเพราะจะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ร่างกายสดชื่น ไม่นึกอยากจะนอน
9.หมั่นตรวจสอบความเครียดว่ามากไปหรือยัง พยายามลดความเครียดด้วยการออกกำลังกาย ทำโยคะ

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เชิดหน้าไว้! ก็ฉันสวยพร้อมทุกสภาพแสง

          ไปไหนหรือทำอะไรก็ต้องเจอเพื่อนสาวชวนถ่ายรูปตลอด แถมไม่ทันได้เช็กภาพ นางก็อัพขึ้น Instagram ซะแล้ว แต่กลัวที่ไหนล่ะ ก็เมกอัพเป๊ะพร้อมทุกสภาพ ไม่มีหรอกที่จะหน้าลอย หน้าเทา อยากรู้มั้ยล่ะว่าต้องทำยังไง ไปติดตามกัน

เผชิญแสงไฟอย่างมั่นใจต้องเข้าใจเรื่องต่อไปนี้…
Base
การ ลงผลิตภัณฑ์ชนิดครีมถือเป็นด่านแรกที่จะเริ่มปรากฏสีและแสงบนใบหน้า ตั้งแต่ชั้นของครีมกันแดด ไพรเมอร์ รองพื้น รวมไปถึงคอนซีลเลอร์ หากเลือกผิดตั้งแต่ขั้นตอนนี้ก็จะแก้ไขยากแล้ว
Foundation
Foundation with SPF
ปัจจุบัน มีรองพื้นหลายยี่ห้อที่ผสมสารกันแดดมาให้ ซึ่งหากไม่ได้ออกแดดนานๆ ค่าของสารกันแดดในรองพื้นเพียง 20 ก็เพียงพอแล้ว แต่ก็อาจจะเพิ่มการป้องกันอย่างอื่นเข้าไปอย่างการกางร่มหรือหมวก ส่วนเหตุที่ต้องเว้นการทาครีมกันแดดไปนั้น เพราะสารกันแดดโดยเฉพาะชนิดสะท้อนแสงแดด จะก่อตัวเป็นแสงสีขาวเมื่อถูกแสงแฟลชหรือหลอดไฟสีขาวก็จะสะท้อนออกมาเป็นสี ขาวเช่นกัน ดังนั้น หากต้องไปเจอแสงเหล่านี้ก็ควรข้ามการลงครีมกันแดดด้วย

Mr. Right for Skin Tone
สี รองพื้นที่ใช่ช่วยทำให้ชีวิตดีได้พอๆ กับคนที่ใช่เลย เชื่อสิ ไม่ว่าจะเจอแสงแบบใด หากเลือกรองพื้นที่เป็นสีเดียวกับสีผิวแล้วยังไงก็ไม่มีปัญหาหน้าลอยแน่นอน แต่ก็มีหลายคนที่ต้องการให้ผิวดูสว่างใสขึ้น ก็เลยใช้รองพื้นที่สว่างกว่าใบหน้าซึ่งผิดมหันต์ วิธีการที่จะทำให้ใบหน้าดูสว่างยังมีอีกหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นการลงแป้งไฮไลต์ สีลิปสติก แต่ยังไงรองพื้นก็ต้องเป็นสีเดียวกับใบหน้าเท่านั้น

Primer, CC, BB (and Whatever)
ผลิตภัณฑ์ปรับพื้นผิว หรือปรับสีผิวทั้งหลายนั้นก็เป็นทางเลือกที่ดีในการแต่งหน้า ยิ่งกับสาวๆ ที่ไม่ค่อยมีปัญหาผิวหรือไม่ชอบการปกปิด จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ไม่เสียหาย เพียงแต่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับสีผิวเดิม ไม่สว่าง หรือไม่ทำให้สีผิวเพี้ยนไปจากเดิมมากนัก และที่สำคัญคือลงผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่พอเหมาะ หรือเพียงจุดที่มีปัญหาเท่านั้น ไม่เช่นนั้นผลิตภัณฑ์ที่มากหรือกระจุกตัวเกินไปจะกลายเป็นการทำร้ายผิวสวยๆ ได้
Warning! ไม่ว่าจะเลือกลงรองพื้นประเภทใด ต้องทาลงมาถึงเนินอกและหัวใหล่ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นนางหน้าลอยแหงๆ
Tip
ถึงแม้จะมีสีรองพื้นที่ตรงกับสีผิวแล้ว ควรมีรองพื้นสีเข้มและอ่อนกว่าสำรองไว้ เพราะสีผิวของเราอาจเปลี่ยนแปลง อาจคล้ำลงหรือขาวขึ้น ก็สามารถปรับผสมสีได้ตามสีผิว ณ ขณะนั้น
Powder
แป้งเป็นขั้นตอนต่อมาในการแต่งหน้าที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเทรนด์ในบ้านเรา ยังไงก็ขาดแป้งไม่ได้ ซึ่งจะตรงข้ามกับเทรนด์บิวตี้ของเกาหลีที่จะไม่นิยมลงแป้ง แต่ยังไงเสียหากเลือกจะลงแป้งก็ต้องเลือกชนิดแป้งและวิธีใช้ หากใช้ถูกก็เกิด แต่ถ้าพลาดละก็เสียหายหลายล้านเชียวล่ะ
Matt or Sheer
หลักๆ แล้วแป้งแต่งหน้าทั้งหลายจะแบ่งเป็น 2 เนื้อคือ เนื้อด้านกับเนื้อมีประกาย แล้วแต่ว่าแบรนด์จะกึ่งไปในทางไหน หรือมีการผสมรองพื้นหรือแร่ใดๆ เข้ามาเพื่อเสริมประสิทธิภาพ ดังนั้น ยังคงให้โฟกัสอยู่ที่เรื่องของสีที่ไม่ควรขาวจากผิวเดิมเกินไปอีกเช่นกัน หรือจะให้ดีสามารถเลือกใช้แป้งโปร่งแสงซึ่งจะมอบความนวลเนียน แต่ไม่ปกปิดสีผิวเดิมตามที่ได้ลงรองพื้นมา

HD Powder
หลาย แบรนด์นำศัพท์ทางการถ่ายภาพมาใช้โดยตรง เพราะกล้องถ่ายภาพในปัจจุบันนั้นแสดงรายละเอียดได้ชัดเจนมาก ปัญหาการแต่งหน้าใดๆ ที่ผิดพลาดจะถูกจับได้หมดด้วยกล้อง ฉะนั้น การแต่งหน้าก็ต้องพิถีพิถันสู้กับเทคโนโลยี ซึ่งแป้งแต่งหน้าไม่เพียงทำให้ผิวสวยเท่านั้น แต่ยังช่วยเรื่องการหักเหของแสงอำพรางจุดบกพร่อง เช่นเดียวกับการลงฟิลเตอร์ที่สาวๆ สมัยนี้คุ้นเคย

Brush Hero
อย่าง ที่บอกไปว่ากล้องถ่ายรูปสามารถจับทุกความผิดพลาดได้ ความละเอียดในการลงผลิตภัณฑ์จึงสำคัญและแปรงแต่งหน้าก็กลายเป็นสิ่งจำเป็น เพราะลำพังพัฟฟ์ที่ให้มากับตลับแป้งนั้นไม่สามารถจะเกลี่ยงผงให้นวลเนียนและ กระจายตัวทั่วใบหน้าได้

Tip
วิธีการเลือกแปรงก็ ไม่ยาก เพียงเลือกที่ปิดคางของเราได้มิด และอีกด้ามให้เล็กลงมาสักครึ่งหนึ่งเพื่อเกลี่ยในส่วนเล็กๆ อย่างซอกจมูกหรือขมับ
Setting Spray
เซ็ตติ้งสเปรย์อาจเป็นไอเท็มที่สาวๆ ยังไม่ค่อยคุ้นเคยเพราะเพิ่งจะมีมาพร้อมๆ กับกระแสใบหน้าดูโกลว์ผิวดูฉ่ำเหมือนไม่ได้ทาแป้ง ดูเงาเหมือนมีน้ำเคลือบไว้แต่ไม่เยิ้ม ซึ่งทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ถ่ายรูปออกมาแล้วดูดีงามกว่าเพื่อนคนอื่นๆ บอกเลยว่าไอเท็มนี้ช่วยได้
What is Setting Spray?
ตามหน้าที่ของ Setting Spray ก็คือเซ็ตเมกอัพให้ติดทนนานยิ่งขึ้น ซึ่งต่อมาได้พัฒนาให้มีหลายสูตร มีทั้งช่วยเพิ่มความเงางาม บางสูตรผสมประกายชิมเมอร์บางสูตรช่วยเติมความชุ่มชื่น หรือกระทั่งสเปรย์น้ำแร่ก็ใช้เป็น Setting Spray ได้ เพราะแป้งที่ดูหยาบๆ อยู่บนผิวหน้าจะดูนวลเนียนขึ้นเมื่อได้โดนน้ำเพียงนิดหน่อย
Warning! Setting Spray บางแบบมีส่วนผสมของน้ำมันเพื่อเพิ่มความเงางาม ฉะนั้น สาวๆ ที่มีปัญหาหน้ามันอยู่แล้วอาจต้องดูให้ดีๆ หรือเลือกฉีดเป็นบางจุดเท่านั้น
• Dim Light
งานดินเนอร์ใต้แสงเทียนหรืองานฉลองท่ามกลางแสงจันทร์ แม้แสงสีเหลืองจะทำให้ใบหน้าดูนวลเนียน แต่เหล่าจุดด่างดำก็ต้องกลบให้มิด ไหนจะริ้วรอยก็ต้องซ่อนเอาไว้ให้ดีๆ
• Sun Light
ไปเดตชิลล์ๆ ในสวนอย่าเผลอโปะรองพื้นจนหนา เพราะการเจอแสงธรรมชาติต้องอาศัยความบางเบาเข้าว่า แต่ก็ต้องทนเหงื่อและความมันด้วยนะ อยากจะสวยต้องเหนื่อยกันหน่อย
• Flash Light
งานปาร์ตี้ที่สาดแสงแฟลชน้อยคนที่จะรอด งานนี้ได้วัดกันว่าฝีมือเมกอัพใครจะเหนือกว่า แม้แต่เซเลบริตี้ชื่อดังก็ยังพลาดมาแล้วเมื่อต้องเผชิญกับแสงแฟลช ฉะนั้น ก่อนออกจากบ้านต้องเกลี่ยแล้วเกลี่ยอีกให้ผิวเนียนเข้าไว้
ไฟหน้ากระจกพาจบเห่?!
ภาพห้องแต่งหน้าหลังเวทีเห็นได้จากภาพยนตร์หลายเรื่องจนสาวๆ เข้าใจว่าแต่งหน้ากับเจ้าไฟนี้ฉันต้องสวยเริ่ดแบบดาราแน่เลย แต่ผิดจ้ะ! เพราะไฟในห้องแต่งหน้าสว่างวาบเพื่อให้ช่างแต่งหน้าให้เหมาะกับสปอตไลต์ที่ ดาราต้องไปเจอ ส่วนสาวออฟฟิศเช่นเราแต่งหน้ากับไฟ Fluorescent สีขาวปกติก็เพียงพอแล้ว แต่ก็ต้องไม่ลืมลุกไปเช็กกับแสงธรรมชาติด้วยว่าใบหน้าดูกลมกลืนกับฟแสงหรือ เปล่า

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557

แฟชั่นรองเท้าหน้าหนาวที่สาวๆห้ามพลาด!!

           เริ่มย่างก้าวเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว มาถึงฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวรับลมหนาว และเทศกาลส่งความสุข ไม่ว่าจะเป็นคริสมาสต์หรือปีใหม่ และหัวใจสำคัญในการนำพาเราไปสู่การท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานโดยไม่ติดขัด แถมยังเป็นแฟชั่นที่ผู้หญิงอย่างเราๆ ต้องเตรียมพร้อมรับลมหนาว นั่นก็คือ รองเท้าที่สวมใส่สบาย เก๋ไก๋ แบบสาวๆ สไตล์ชิคเกิร์ล ที่พวกเธอควรมีไว้สำหรับหน้าหนาวนี้ พกความมั่นใจในการย่างก้าว แบบสวยๆ เริศๆ โฮะๆ (หัวเราะพร้อมทำหน้าสวยตาม) ว่าละ!! พร้อมกันรึยังสาวๆ ตามไปดูกันเลยว่า ว่ารองเท้าแบบไหนที่เหมาะสม สำหรับแฟชั่นรับลมหนาวในฤดูกาลนี้จ้า

หน้าหนาวนี้สาว ๆ ควรให้ความอบอุ่นหรือสวมใส่รองเท้าที่ให้การห่อหุ้ม และสวมใส่สบาย ที่สำคัญให้ความอบอุ่นแก่เท้าของเราด้วย ปกป้องการเป็นส้นเท้าแตก ควรมองหา บู๊ทสวยๆ และ รองเท้าผ้าใบ จะแบบสั้นหรือยาว สูงหรือเตี้ย เลือกได้ตามความชอบ
เลือกที่เราใส่สบายไม่เมื่อย และเข้ากับบุคลิกของตนเอง แต่เราขอแนะนำว่าควรมีติดไว้ รองเท้า 2 คู่ เป็น บู๊ท 1 คู่ และ ผ้าใบ 1 คู่ ใส่สลับกันได้ตามความเหมาะสม แต่ถ้ามีทริปที่พวกเธอต้องลุยหิมะ หรือ เดินบนพื้นน้ำแข็ง ควรเลือกบูทพื้นแบน พื้นรองเท้าทำมาจากยางกันลื่น และแบบกันน้ำ จะเหมาะสมกว่านะจ๊ะ

รองเท้าบูทเป็นรองเท้าที่เหมาะมาก สำหรับใส่ช่วงหน้าหนาวนี้ ... อากาศหนาวเย็นแบบนี้สาวๆ อย่าลืมเลือกสวมใส่รองเท้าบูทหรือรองเท้าผ้าใบกันนะคะ เพื่อให้ความอบอุ่นกับเท้าน้อยๆของเราด้วยนะคะ
ควรเลือกซื้อตามความชอบ โอกาส และความเหมาะสม ค่ะ จะเป็นมือ 1 หรือมือ 2 ก็แล้วแต่ความสบายกระเป๋าเลย ว่าแล้ว ขอตัวไปจองตั๋วทริปท่องเที่ยวปีใหม่รับลมหนาวก่อนนะจ๊ะ สาวๆ บ๊ายยยยย!!

วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

5 ท่าบริหารเพิ่มความฟิตพิชิตพุง

          เรื่องกินเป็นเรื่องที่สาวๆโปรดปราน แต่ก็มักจะมีความกังวลเกี่ยวกับพุงตามมา แต่คุณไม่ต้องกังวลต่อไปอีกแล้ว เพราะ ChicMinistry จะมาแนะนำวิธีออกกำลังกายอย่างไรให้หน้าท้องแบนราบ ตั้งใจอ่านและดูภาพประกอบไปด้วยนะ
1. ท่าหมุนตะแคง
เริ่มจากการใช้ศอกสองข้างและปลายเท้ายันพื้น ตัวยกขึ้น จากนั้นเอียงตัว ใช้แขนหนึ่งข้างยันพื้นไว้ ในขณะที่แขนอีกหนึ่งข้างแนบลำตัว จากนั้นก็ทำเหมือนเดิมแต่เปลี่ยนข้างดังรูป

2. ท่าปีนเขา
ใช้แขนสองข้างยันพื้นไว้โดยแขนต้องตรง ส่วนปลายเท้าก็ยันพื้นไว้เช่นกัน ตัวโก่งขึ้น หลังจากนั้น ยกเข่าในลักษณะการปีนเขา สลับข้างไปมา

3. ท่าม้วนตัว
ดูจากภาพแล้วไม่ยากเลย ค่อยๆม้วนตัวขึ้นตามสเต็บ A, B และ C เลยครับ

4. ท่ามีดพับ
การออกกำลังกายในท่านี้ต้องมีลูกบอล โดยวางขาไว้บนลูกบอล และใช้มือทั้งสองข้างยันพื้นในลักษณะตรง หลังจากนั้นให้งอขาไปมาหน้าหลังโดยขายังอยู่บนลูกบอล

5. ท่าโหนราว
ท่านี้ก็ค่อนข้างง่ายครับ แค่ใช้แขนจับราวในองศาที่เหมาะสม เข่าชิดกัน หลังจากนั้นยกขาขึ้นไปมา
แต่ละท่าดูจากรูปภาพแล้วไม่น่ายากเลยใช่มั้ยครับ หากมีอุปกรณ์คุณก็สามารถทำได้ที่บ้านหลังเลิกงาน ทำทุกวันวันละ 30 นาที แค่นี้คุณก็มีหน้าท้องที่แบนราบแล้ว

วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ปวดหลังอีกแล้วใช่ไหม ?

          เป็นโรคที่แก้ไม่หาย หากเรายังใช้ผิดวิธีอยู่ จะอะไร ถ้าไม่ใช่ “อาการปวดจากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน” ปวดตั้งแต่คอ มาไหล่ มาหลัง เฮ้อ ! ทำงานไม่มีความสุขเลย ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้จะมาย้ำให้ฟังกันอีกครั้งหนึ่ง ว่าเราต้องทำอะไร แก้ไขอย่างไรบ้าง กับอาการที่เกิดขึ้นแบบนี้




คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค
เมื่อใช้ทำงานนานเกินไป ก็จะมีอาการปวดคอและไหล่ขึ้นมาได้ จึงควรใช้อุปกรณ์เสริมเมื่อต้องนั่งทำงานนานๆ เช่น ควรต่อสายคีย์บอร์ดแยกออกมา ดีกว่าใช้แป้นพิมพ์บนคีย์บอร์ดโน็ตบุ๊ค และถ้าหากหน้าจอสูงหรือต่ำกว่าระดับสายตาเกินไป ให้ใช้แท่นรองโน้ตบุ๊ค ช่วยปรับระดับ

หน้าจอคอมพิวเตอร์
ควรตั้งให้พอดีกับระดับสายตาพอดี ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะต้องก้มคอเงยคอ เป็นเวลานานจนทำให้เกิดอาการปวดได้ ระยะห่างของจอคอมพิวเตอร์จากตัวเรา อยู่ที่ประมาณ 16 นิ้ว เป็นระยะที่สายตาเราจะโฟกัสได้ดีและนั่งทำงานได้อย่างสบายตา

คีย์บอร์ด
ระดับสูงต่ำที่เหมาะสมก็คือ ขณะที่วางมือบนแป้นพิมพ์ ไหล่ต้องไม่ยกขึ้นมา ถ้าใช้เก้าอี้ที่มีพนักแขนด้วยก็จะดีมาก ช่วยรับน้ำหนักแขนขณะที่พิมพ์งานได้ และควรหัดพิมพ์แบบสัมผัส ตาและคอจะได้ไม่ต้องก้มเงยบ่อยๆ

เม้าส์
เมื่อวางมือแล้วข้อมือควรขนานกับโต๊ะ และต้องไม่กระดกข้อมือมากเกินไป ลองเลือกเม้าส์ที่ไม่อ้วนหรือใหญ่เกินไปที่รองข้อมือไม่ควรใช้แบบที่แข็งแรง เกินไป ควรใช้แบบเจลจะดีกว่า

เก้าอี้
ความสูงของเก้าอี้เมื่อนั่งแล้วควรวางขาได้พอดี นั่งท่าที่หลังตรง และขณะที่ขาและข้อพับใต้เข่านั้นก็ทำมุมฉาก 90 องศากับขาท่อนบนเช่นกัน มองไกลๆ จะเหมือนภาพขั้นบันไดสามขั้น ลดหลั่นกัน

พนักเก้าอี้
ควรมีส่วนโค้งที่รับกับบั้นเอวพอดี หลีกเลี่ยงเก้าอี้ที่มีพนักเก้าอี้เป็นแผ่นตรงๆ กล้ามเนื้อหลังจะไม่ได้พักจะเกิดอาการล้าและอักเสบในที่สุด ควรหาหมอนมารองที่แผ่นหลังและเอว อย่างวางผิดไปรองไว้ที่ก้นจะไม่ช่วยอะไร

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ทรงผมหน้าม้า แอ๊บหน้าเด็ก

           เปลี่ยนลุคให้ดูสวยแบ๊วด้วย ทรงผมหน้าม้า หนึ่งในทรงผมยอดฮิตที่จะมาเนรมิตความสดใสให้คุณสาวๆ วันนี้จะพาสาวๆ มาดู ทรงผมหน้าม้า ทรงผมสุดอินเทรนด์ที่ช่วยให้หน้าของคุณดูอ่อนกว่าวัย อย่างดาราสาวบ้านเราไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ทุกคนเคยตัดผมหน้าม้ามาแล้วทั้งนั้น บางคนถึงกับเลือกไว้ผมหน้าม้าจนกลายเป็นเอกลักษณ์กันเลยทีเดียว



พูดมาขนาดนี้ สาวๆ คงจะเริ่มใจกล้าตัดผมหน้าม้ากันแล้วใช่มั๊ยล่ะคะได้ แต่การที่คุณจะตัดผมหน้าม้าออกมาได้สวยนั้น ควรเช็ครูปหน้าและเลือกแบบหน้าม้าให้เข้ากับรูปหน้ากันก่อนดีกว่า...

สาวหน้ากลม
ใครว่าหน้ากลมไว้ผมหน้าม้าไม่ได้ ตัดได้ค่ะ เพียงแต่หน้าม้าที่ควรตัด ต้องเป็นหน้าม้าโค้ง หรือหน้าม้าปาดข้าง จะช่วยอำพรางให้หน้าของคุณดูเรียวขึ้นได้ สิ่งสำคัญไม่ควรตัดหน้าม้าตรงๆ แทนที่จะดูแบ๊วจะกลายเป็นการทำให้ใบหน้าดูสั้น กลมกว่าเดิมนะคะ

สาวหน้าเหลี่ยม
ตัดหน้าม้าให้มีระดับความยาวเลยส่วนคิ้วลงมาเล็กน้อย โดยตัดไล่ระดับลงไปที่ด้านข้าง ไม่ควรตัดหน้าม้าตรงเสมอกัน เพราะจะยิ่งทำให้ทุกสายตามาสะดุดที่กรามของคุณ

สาวหน้าสามเหลี่ยม หรือหน้ารูปหัวใจ
ผมหน้าม้าปัด หนา เหมาะกับคุณที่สุดค่ะ โดยตัดไล่ระดับความยาวไปที่ด้านข้าง ส่วนที่สั้นที่สุดของผมม้าควรอยู่ที่ หางคิ้ว ส่วนที่ยาวที่สุดควรจะอยู่ที่บริเวณหางตาค่ะ

สาวรูปไข่
ใบหน้าที่มีสาวๆ ปรารถนามากที่สุด คุณสามารถเลือกตัดหน้าม้าได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะหน้าม้าตรง ปาด เต๋อ เรียกว่าโชคดีมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพียงแค่เลือกความยาวของทรงผมหน้าม้า ให้ยาวกว่าระดับคิ้ว เป็นระดับที่หน้าม้าของคุณจะสวยแลละพอดีที่สุดค่ะ

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ขจัดปัญหาแฟนนอนกรน !

         คุณสาวๆ เคยเผชิญกับภาวะนอนไม่หลับเพราะคนข้างๆ นอนกรนกันบ้างไหม. . . บางทีนอกจากจะเป็นปัญหาสุขภาพของเขาแล้ว ยังเป็นปัญหาสุขภาพของเราได้ด้วยนะ ก็จะอะไรล่ะ .. เรานี่แหล่ะ ที่พักผ่อนไม่พอเลย





“การนอนกรน” มาจากหลากหลายสาเหตุ ทั้งเกิดจากพันธุกรรม การเข้าสู่วัยกลางคนที่ทำให้หลอดลมแคบขึ้นและกล้ามเนื้อในการเปล่งเสียงลดลง ยิ่งผู้ชายมีหลอดลมแคบกว่าผู้หญิง จึงมีโอกาสนอนกรนมากกว่า รวมไปถึงอาการแพ้ต่างๆ นอกจากนั้นก็คือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก เกิดมีเนื้อเยื่อไขมันมากกว่าเนื้อเยื่อในการเปล่งเสียง การสูบบุหรี่ก็ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและอุดตันทางเดินลมหายใจ และการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือยาบางชนิด จะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและนำไปสู่การนอนกรน สุดท้ายก็คือท่านอน โดยการนอนหงายแบนราบบนที่นอนทำให้กล้ามเนื้อในหลอดลมผ่อนคลายและขัดขวางทาง เดินอากาศในหลอดลม

วิธีแก้ปัญหานอนกรน
การแก้ปัญหาของการนอนกรน ถึงแม้ผู้หญิงอย่างเราจะไม่ได้นอนกรน ก็ควรศึกษาหาข้อมูลไว้เพื่อไปบอกแฟน หรือคนรักที่นอนอยู่ข้างๆ คุณ เพื่อให้ทั้งตัวเขาและเรา ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาการนอนกรนที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณนั่นเองนะคะ

- ลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักได้ผลดีสำหรับผู้ที่มีอาการนอนกรนอ่อนๆ การลดน้ำหนักเพียงเล็กน้อยช่วยลดเนื้อเยื่อบริเวณด้านหลังของลำคอและอาการ นอนกรนได้

- นอนตะแคง
ถ้าคุณนอนหงายและมีการกรนเบาๆ การนอนตะแคงจะเป็นการช่วยรักษาอาการนอนกรนไปในตัว

- หนุนหัวให้สูงขึ้น
พยายามยกศีรษะให้สูงด้วยการปรับหัวเตียงให้สูงขึ้น เพื่อให้อากาศไหลเวียนได้อย่างสะดวก หรือดันลิ้นและคางให้ยื่นไปข้างหน้า หรือใช้หมอนที่ออกแบพิเศษที่ทำให้กล้ามเนื้อที่คอไม่ย่น

- งดเว้นการดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานยา และอาหารบางอย่าง
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาบางอย่าง เช่น ยานอนหลับ ยาแก้แพ้ ทำให้เกิดการผ่อนคลายของลิ้นและกล้ามเนื้อที่คอ ซึ่งอาจทำให้เกิดการนอนกรนได้ ผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันสูงและน้ำนมถั่วเหลืองทำให้เกิดเมือกหรือมีเสมหะในลำ คอซึ่งอาจทำให้เกิดการนอนกรนได้เช่นกัน

- ทำความสะอาดทางเดินหายใจ
การอุดตันของทางเดินอากาศทำให้หายใจได้ลำบากขึ้น และทำให้เกิดสุญญากาศในลำคอ ซึ่งเป็นสาเหตุของการนอนกรน การลดการอุดตันในจมูกช่วยให้สามารถหายใจได้สะดวกยิ่งขึ้นในขณะที่นอนหลับ ยาแก้แพ้ต่างๆ อาจช่วยรักษาหลายๆ โรคได้ แต่ทำให้กล้ามเนื้อที่คอมีการผ่อนคลายและเป็นสาเหตุของการนอนกรน

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557

รองเท้าส้นสูง ช่วยผู้ชายใจอ่อน

รองเท้าส้นสูงนอกจากจะช่วยให้ผู้หญิงดู "สูงขึ้น" ยังช่วยให้ผู้ชายดู "มีน้ำใจ" สูงขึ้นด้วยนะเธอ!!!

ข้อมูลนี้ได้มาจากความสงสัยใคร่รู้ของนักศึกษาสาวฝรั่งเศส วัย 19 ปี นางหนึ่ง ที่ลองพิสูจน์ด้วยการเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือจากผู้ชายให้ช่วยตอบแบบสอบ ถามให้หน่อย
และจากผู้ชายที่เธอสุ่มเดินเข้าไปหา90คนเธอก็พบว่าตอนที่เธอใส่รองเท้า ส้นสูง3.5 นิ้ว มีผู้ชายยินดีช่วยตอบแบบสอบถามถึง 82% แต่ตอนเธอสวมรองเท้าพื้นแบน มีผู้ชายช่วยตอบแบบสอบถามแค่ 42%
นอกจากนั้น เวลาผู้หญิงสวมส้นสูงแกล้งทำ "ถุงมือหล่น" ปรากฏว่า...จากผู้ชายที่โดน "ลองใจ" 180 คน มีผู้ชายรีบวิ่งตาม นำถุงมือมาคืนให้ถึง 93% แต่ถ้าเป็นผู้หญิงสวมรองเท้าพื้นแบน มีแค่ 62%
โถ..."หลงเข้าใจผิด" มาตั้งนาน? ที่แท้ เป็นเพราะ "รองเท้า(เรา)" นี่เอง!!!

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สวยรับลมหนาว แบบหัวจรดปลายเท้า

           เมื่อโลกหมุนเปลี่ยนฤดูกาล ในหนึ่งปีประเทศไทยอาจมีช่วงฤดูหนาวเพียงแค่ไม่กี่เดือนก็จริง แต่การเตรียมพร้อมผิวให้สวยใส ชุ่มชื้น เพื่อต้อนรับลมหนาวก็ จำเป็นไม่น้อย เพราะอากาศหนาว ๆ เย็นสบายแบบนี้นี่แหละที่เป็นตัวทำลายผิวพรรณรวมถึงเส้นผมและหนังศรีษะให้ แห้งเสีย จนหมดความมั่นใจกันเลยทีเดียว

บำรุงผิวกระจ่างใสชุ่มชื้น
ตื่นเช้าๆ อากาศเย็น การล้างหน้าด้วยโฟมหรือสบู่นั้นอาจจะไม่จำเป็นด้วยซ้ำไป แค่เพียงล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรือโฟมที่มีฟองน้อย ๆ ก็พอ เพราะการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นอาจจะทำให้ผิวหน้ายิ่งแห้งและเกิดอาการคันได้ ง่าย ดังนั้นการล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมหรือสบู่ควรล้างตั้งแต่ตอนเย็นหรือหัวค่ำ ก็เพียงพอแล้ว และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการทาครีมบำรุงผิวหน้าที่ เหมาะกับสภาพผิวในช่วงอากาศหนาว แต่ถ้าจะให้ดีการมาส์กหน้าด้วยโยเกิร์ตรสธรรมชาติ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะกรดแลคติกมีความอ่อนโยนต่อผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้มากขึ้นอีกด้วย

ดูแลผิวกายให้ชุ่มชื้นตลอดวัน
สภาพผิวกายในช่วงฤดู หนาวเช่นนี้ การอาบน้ำอุ่นขอให้ตัดออกไปจากระบบเลยจะดีกว่า แล้วลองฝึกอาบน้ำเย็นดูบ้าง ส่วนสบู่ที่ใช้ก็ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวแห้ง เมื่ออาบน้ำเสร็จในระหว่างที่ผิวเปียกหมาด ๆ ให้รีบทาครีมทันทีเพราะจะช่วยให้ครีมซึมซับเข้าสู่ผิวหนังได้ดี แต่ครีมที่เลือกใช้ควรเป็นครีมกันแดด เพราะอากาศหนาวกับแดดในช่วงนี้ คือตัวการที่ทำให้ผิวหมองคล้ำได้ง่ายที่สุด นอกจากนี้การเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันบ้างเพื่อเสริมให้ชั้นผิวหนังมี ความอิ่มฟู และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวสาว ๆ ก็สำคัญ สำหรับอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน เน้นดื่มชาหรือน้ำผลไม้แทน จากนั้นลองหาเวลาวันละประมาณ 15-30 นาที หรือสัปดาห์ละ 3 วัน ออกกำลังกายเพื่อให้เลือดเกิดการหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มความเปล่งปลั่งให้ผิวพรรณสำหรับสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการดื่มน้ำ ปริมาณมากกว่าปกติ

หมดกังวลกับริมฝีปากแห้งแตกเป็นขุย
สำหรับสาวคนไหน ที่มีปัญหาริมฝีปากแห้งแตกเป็นประจำควรรีบหาลิปบาล์ม วาสลีน ลิปมัน หรือขี้ผึ้ง ติดตัวไว้ทาระหว่างวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นป้องกันความแห้งแตก แต่ถ้าริมฝีปากเป็นขุยจนไม่น่าดู หลังจากแปรงฟันเสร็จให้ใช้แปรงสีฟันที่สะอาดขัดเบา ๆ เพื่อลอกส่วนที่เป็นขุยออก ส่วนสาว ๆ ที่ชอบทาลิปสติกที่มีสีสันฉูดฉาด ก่อนล้างหน้าให้นำน้ำผึ้งหรือวาสลีนทาที่ริมฝีปาก ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วเช็ดออกด้วยผ้าสะอาดที่ชุบด้วยน้ำร้อน แค่นี้ริมฝีปากก็จะชุ่มชื้นเนียนสวยตลอดทั้งวัน

เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผมแห้งชี้ฟู
ในช่วงอากาศหนาว การสระผมทุกวันอาจเป็นอันตรายต่อสภาพเส้นผมได้ เพราะผมจะขาดน้ำมันในการหล่อเลี้ยง จนเกิดการแห้งฟู และหนังศรีษะลอกเป็นขุย หรือกลายเป็นรังแคขึ้นมาได้ ทางที่ดีควรปล่อยให้หนังศรีษะได้มีเวลาผลิต
น้ำมัน เพื่อหล่อเลี้ยงเส้นผมและหนังศรีษะบ้าง แล้วลองเปลี่ยนมาสระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งแทน นอกจากนี้ทุกครั้งที่สระผมควรใช้ครีมนวดผมด้วยเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น แต่ถ้าผมแห้งมากเกินไป หลังสระผมลองชโลมน้ำมันมะกอกเพียงเล็กน้อยเพื่อลดปัญหาผมแห้งชี้ฟูระหว่าง วัน และสิ่งที่ไม่ควรทำ คือการใช้หวีเล็กซี่ถี่หวีผม เพราะจะทำให้ผมเกิดการเสียดสีหรือไฟฟ้าสถิต จนกลายเป็นผมแห้งแตกปลายได้ง่าย ๆ
ลดปัญหามือแห้งระหว่างวัน
ผิวหนังบริเวณมือเป็นอีก หนึ่งสิ่งที่ไม่ควรละเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะมือเป็นส่วนที่ค่อนข้างบอบบางกว่าส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย สาว ๆ จึงควรพกครีมทามือติดตัวไปด้วยทุกครั้ง เพราะทุกครั้งที่ล้างมือผิวหนังจะแห้งกร้านและมีอาการคันมือได้ง่าย นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการล้างมือด้วยสบู่แรง ๆ และอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยได้ คือ แช่มือในนมอุ่น ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ทำให้ผิวบริเวณมือได้คลายเครียดไปในตัว

ป้องกันการเกิดเท้าแห้งแตก
ถึงเท้าจะเป็นจุดที่สาว ๆ เห็นความสำคัญน้อยที่สุดก็ตาม แต่อากาศหนาว ๆ แบบนี้จะไม่ใส่ใจก็คงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ การดูแลเท้าจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นทุกครั้งก่อนเข้านอนควรสวมถุงเท้าทุกครั้ง เพื่อลดอาการหนาวและแห้งแตก และควรหาเวลาแช่เท้าในน้ำเย็นที่ผสมด้วยน้ำมันมะกอกประมาณ 2-3 หยด หรือใช้มะนาวบีบและขัดเบา ๆบริเวณส้นเท้าที่แตก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และลดอาการแห้งตึง

ลดปัญหาตาแห้งจากอากาศเย็น
ลม หนาวที่พัดแรงเช่นนี้ ดวงตาคู่สวยอาจจะต้องมีอาการตาแห้งกันบ้าง ดังนั้นน้ำตาเทียมจึงเป็นอีกสิ่งที่ควรพกติดกระเป๋าไว้เช่นกัน ส่วนสาว ๆ คนไหนที่ต้องการออกท้าลมหนาว การใส่แว่นกันแดดก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพื่อทะนุถนอมดวงตาให้สดใสแวววาวตลอดเวลา

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

หมดปัญหากลิ่นอับ คราบสกปรก ด้วยเบคกิ้งโซดา

          ปัจจุบันคนส่วนมากนิยมใช้น้ำหอมเพื่อดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่บางครั้งน้ำหอมอาจไม่ใช่ทางเลือกที่จะนำ มาดับกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่าง กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นอับจากเหงื่อ และอื่น ๆ อีกมากมาย เพราะอาจไปทำ ให้กลิ่นรุนแรงมากยิ่งขึ้น เราจึงควรขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ตั้งแต่ซักผ้าครั้งแรก

กลิ่นเหม็นจากควันบุหรี่
กลิ่นเหม็นจากควันบุหรี่ เป็นกลิ่นที่ขจัดได้ยากเมื่อติดอยู่บนเสื้อผ้า ต่อให้ซักทำความสะอาดหลายครั้ง กลิ่นก็ยังคงติดอยู่อย่างถาวร ซึ่งวิธีที่ช่วยในการขจัดกลิ่น คือ นำน้ำเปล่า 1 กะละมัง ผสมเบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวง แล้วนำเสื้อผ้ามาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15นาที จากนั้นนำไปซักตามปกติ กลิ่นก็จะจางหายไป

กลิ่นเหม็นอับจากคราบเหงื่อ
กลิ่นเหม็นอับจากเหงื่อ หากหมักหมมไว้นานจะก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นเปรี้ยว หรือกลิ่นฉุนรุนแรง วิธีแก้ไขคือ นำเบคกิ้งโซดาผสมน้ำเปล่าเล็กน้อยพอให้เป็นเนื้อครีม แล้วนำไปป้ายเสื้อผ้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 5นาที จากนั้นนำไปแช่ในน้ำเปล่าที่ผสมเบคกิ้งโซดา 1/2ถ้วยตวง อีกครั้งและนำไปซักตามปกติ

ขจัดคราบซอสมะเขือเทศด้วยเบคกิ้งโซดา
เมื่อซอส มะเขือเทศเลอะบนเสื้อผ้าจะทำความสะอาดยาก วิธีแก้ คือ นำน้ำเปล่าผสมกับเบคกิ้งโซดาคนให้ละลายเข้ากัน แล้วนำไปทาบริเวณคราบซอสมะเขือเทศ หรือใส่ขวดสเปรย์ แล้วฉีดพ่นลงบนคราบซอสมะเขือเทศให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นนำเสื้อผ้าไปล้างด้วยน้ำเย็นและนำไปซักตามปกติเพียงเท่านี้คราบซอส มะเขือเทศก็จะหายไป

กลิ่นเหม็นจากสารเคมี
เมื่อเสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นจาก สารเคมีเช่น กลิ่นก๊าซบางชนิด กลิ่นน้ำมัน หรือกลิ่นเคมีอื่น ๆ ให้นำเบคกิ้งโซดาเทลงไปในถุงพลาสติกขนาดใหญ่ จากนั้นนำเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็นจากสารเคมีใส่และปิดปากถุงให้แน่น ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน แล้วนำมาซักตามปกติ หรือหากไม่มั่นใจให้นำเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็นจากสารเคมีไปแช่กับน้ำเบคกิ้ง โซดาอีกครั้งก็ได้

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ใช้ไมโครเวฟให้ปลอดภัย ต้องปรุงอาหารให้ถูกวิธี

            ยุคนี้บ้านไหนๆ ก็มี “ไมโครเวฟ” กันแล้วทั้งนั้น เพราะช่วยให้ชีวิตที่เร่งรีบดูง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่การใช้ไมโครเวฟนั้นก็ไม่ได้ง่ายเสมอไป เพราะยังต้องคำนึงถึงภาชนะที่ใช้ใส่อาหารและข้อควรระมัดระวังด้วย ซึ่งวิธีง่าย ๆ ก็เพียงสังเกตฉลาก สัญลักษณ์รูปไมโครเวฟ และการใช้คำ Microwave Safe, Oven Safe, Dishwasher Safe ที่อยู่ด้านข้าง และไม่ควรใช้ภาชนะที่มีส่วนประกอบของโลหะ เพราะอาจทำให้เกิดประกายไฟได้ ซึ่งภาชนะที่ใช้กับไมโครเวฟได้มี ดังนี้


ภาชนะที่ทำด้วยแก้ว (Glass) เป็นภาชนะที่นำเข้าไมโครเวฟได้ดีและปลอดภัยที่สุด เพราะแก้วมีทรายเป็นองค์ประกอบหลัก โดยผ่านกระบวนการหลอมในอุณหภูมิที่สูงมาก จะทำให้แก้วโปร่งใสและไม่มีรูพรุน เมื่อนำมาใช้กับไมโครเวฟภาชนะแก้วจึงไม่ดูดซึมน้ำและสารอาหาร หากภาชนะแก้วที่มีคุณภาพดี เนื้อหนา ก็นำมาใส่อาหารแช่เย็นและนำเข้าไมโครเวฟได้ทันที ทั้งนี้ภาชนะแก้วจะต้องไม่ตกแต่งขอบหรือลวดลายด้วยสีทองและสีเงิน

เซรามิก (Ceramic) เป็นภาชนะที่เหมาะจะใช้กับไมโครเวฟได้เป็นอย่างดีและปลอดภัย แต่ต้องเลือกใช้ภาชนะเซรามิกที่มีคุณภาพดี เพราะภาชนะเซรามิกมีอย่หู ลายประเภทมีทั้งที่ทนความร้อนได้สูงจนถึงต่ำ ตามแต่กระบวนการผลิต ทั้งนี้ไม่ควรเลือกใช้ภาชนะเซรามิกที่ตกแต่งลวดลายบนเครือบด้วยสีสันต่าง ๆ เพราะจะทำให้สารตะกั่วและแคดเมียมละลายออกมาปนเปื้อนกับอาหาร

พลาสติกเมลามีน (Melamine) เป็นภาชนะที่ใช้งานได้กับไมโครเวฟเพียงแค่อุ่นอาหารเท่านั้น และอาหารจะต้องมีความชื้นสูง เช่น แกงส้มก๋วยเตี๋ยว อุ่นในอุณหภูมิที่ไม่เกิน 60 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-3 นาทีหากใช้พลาสติกเมลามีนปรุงอาหาร หรือใช้ในอุณหภูมิสูงและนานเกินอาจทำให้พลาสติกเมลามีนแตกและไหม้ได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่ออาหารที่จะรับประทาน ทั้งนี้ต้องดูคุณภาพของพลาสติกเมลามีน

ภาชนะที่ทำด้วยกระดาษ รวมทั้งกระดาษที่เคลือบด้วยแวกซ์ นำมาใช้กับไมโครเวฟได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงภาชนะกระดาษที่มีลวดลายตัวอักษรต่างๆ เพราะความร้อนจะทำให้สารที่อยู่ในตัวหมึกพิมพ์ปนเปื้อนกับอาหาร และควรเลือกใช้ระดับอุณหภูมิให้เหมาะสม






ทดสอบภาชนะใส่อาหารก่อนเข้าไมโครเวฟ : การทดสอบภาชนะที่นำมาใช้ให้มั่นใจอีกครั้งด้วยวีธีง่าย ๆ คือ นำภาชนะเปล่าและแก้วน้ำที่มีน้ำอยู่ 250 มิลลิลิตร โดยวางใกล้ ๆ กันในไมโครเวฟ ใช้ความร้อนสูงสุด ประมาณ 1 นาที จากนั้นตรวจดูภาชนะและแก้วน้ำ หากภาชนะเปล่าร้อนแต่น้ำในแก้วอุ่น ๆ แสดงว่าภาชนะดูดกลืนคลื่นไมโครเวฟ จึงไม่เหมาะที่จะนำไปใช้กับไมโครเวฟ เพราะจะทำให้อาหารสุกช้า และสิ้นเปลืองพลังงานทั้งนี้ควรเลือกภาชนะที่ทนความร้อน ทนการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ดี

อาหารสุกไม่ทั่ว : การปรุงอาหารด้วยไมโครเวฟ คือการทำอาหารให้สุกด้วยความร้อนในช่วงเวลาสั้น ๆ จึงอาจทำให้อาหารสุกไม่ทั่ว ดังนั้นในการปรุงอาหารเราไม่ควรเลือกใช้วัตถุดิบที่มีชิ้นหนา หรือใหญ่จนเกินไป เพราะจะทำให้ความร้อนเข้าไปไม่ถึงตรงกลางของอาหาร นอกจากนี้การจัดอาหารก็ควรจัดให้กระจายห่างกัน ไม่ควรรวมเป็นกระจุกเดียว บางครั้งอาจต้องปรุง 2 รอบเพื่อกลับด้านให้อาหารสุกทั่วกัน แต่หากปริมาณอาหารมีน้อยจนเกินไปก็จะส่งผลเสียต่อไมโครเวฟ เพราะเมื่ออาหารมีน้อย พื้นที่ในการดูดซับคลื่นไมโครเวฟก็มีน้อยด้วย จึงทำให้คลื่นไมโครเวฟส่วนที่เหลือสะท้อนกลับ ทำให้ไมโครเวฟร้อน และเสียหายได้

ระเบิดน้ำ : การต้มน้ำในไมโครเวฟ อาจทำให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้งานได้ เพราะการต้มน้ำในไมโครเวฟเมื่อถึงจุดเดือดจะไม่มีฟองอาการผุดขึ้นมาเพื่อ ช่วยลดความดัน และช่วยลดอุณหภูมิให้อยู่ที่จุดเดือดปกติ จึงทำให้น้ำที่ต้มในไมโครเวฟมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ และเมื่อถูกรบกวน เช่น นำภาชนะออกมาจากเตา ใส่กาแฟ หรือถุงชาลงไป อาการน้ำเดือดก็จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน หรือที่เรียกว่า “ระเบิดน้ำ” แต่หากต้องการต้มน้ำในไมโครเวฟควรใส่แท่งไม้สำหรับคนกาแฟหรือถุงชา ลงไปด้วยเพื่อกระจายพลังงาน หรือต้มน้ำไม่เกิน 2 นาที และหลังจากต้มเสร็จแล้วควรรอประมาณ 30 วินาที ก่อนนำออกจากไมโครเวฟ หรือก่อนใส่อะไรลงไปในน้ำร้อน

ฟอยล์ห่ออาหาร : ในปัจจุบันฟอยล์ห่ออาหารมักทำมาจากอะลูมิเนียมบาง ๆ เมื่อนำเข้าไมโครเวฟจึงทำให้ลุกไหม้ได้ง่าย ดังนั้นก่อนนำอาหารเข้าไมโครเวฟทุกครั้งควรนำฟอยล์ที่ห่อหุ้มอาหารอยู่ออก ให้หมดเสียก่อน จึงนำเข้าไมโครเวฟ

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

DIY ไอเดียเก๋ เปลี่่ยนเสื้อผ้าเก่าให้ดูสดใส

ช่วงนี้งานแฮนด์เมด งานไอเดีย งานชิ้นเดียวในโลกต้องมา! ที่ต้องพูดแบบนี้ก็เพราะว่า วันนี้ มีไอเดีย DIY เก๋ๆ ที่จะมาเนรมิตเสื้อสเวตเตอร์สีขาวธรรมดาให้เป็นสีพาสเทลสดใส ใส่ตอนรับลมหนาวที่กำลังจะถึงนี้

อุปกรณ์ที่ต้องมี

เสื้อกันหนาวสีขาว

สีอะคริลิค ที่ใช้สำหรับการเพ้นท์เสื้อผ้าได้

พู่กัน

จานรองสี

ถ้วยใส่น้ำเปล่า

ฟองน้ำ


ขั้นตอนการทำ

ใส่กระดาษแข็งไว้ด้านใน เพื่อปกป้องไม่ให้สีซึมจากด้านหน้าไปด้านหลัง
นำฟองน้ำชุบน้ำ มาทำลายให้เสือ ต้องการจะใส่สีตรงไหนก็น้ำฟองน้ำไปกดทับ
เพื่อให้สีไม่กระจายไปทั้งตัว (ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ พอนะคะ)
เมื่อได้ส่วนที่ต้องการจะใส่สีแล้ว เลือกสีที่ชอบ ถ้าจะให้ได้สีพาสเทลดังรูป ควรใช้สีฟ้า ชมพู สีม่วง แต่งเติมสีสันได้ตามสไตล์ของตัวเอง
นำกระดาษแข็งที่รองไว้ด้านในออก ตากเสื้อในที่มีลมโกรดให้แห้ง เสร็จแล้วก็สวยพร้อมใส่ เหมือนได้เสื้อตัวใหม่แล้วค่ะ

Tip

ไม่ให้สีเพ้นท์ซีดจาง ไม่ควรซักบ่อย
การแขวนเสื้อผ้าจะช่วยป้องกันไม่ให้สีแตกมากกว่าการพับ เว้นแต่ว่าคุณเพ้นท์ลายในส่วนข้อพับต่างๆ สีตรงส่วนนั้นอาจจะหลุดได้ค่ะ
คุณสามารถซักเสื้อผ้าที่เพ้นท์ได้ตามปกติ แนะนำให้ซักมือจะดีกว่าปั่นเครื่องค่ะ
สุดท้าย ห้ามรีบผ้าทับลายที่เพ้นท์โดดเด็ดขาด เมื่อสีโดนความร้อนอาจจะทำให้ละลายเลอะไม่สวยงามเหมือนเดิมได้นะคะ
ขอบคุณภาพประกอบ : http://pinterest.com/

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Jumpsuit Fashion ที่หน้าหนาวต้องมี

           หลายคนกำลังหาไอเทมสุดชิคเตรียมไปเที่ยวรับลมหนาว หรือจะเอาไว้แต่งตัวไปทำงาน ออกจากบ้านนัดมิตติ้งโดยมีอากาศเย็นเบาๆ ลองมาหา “Jumpsuit” ใส่ดูสิ รับรองชิ้นเดียวอยู่




“Jumpsuit” คืออะไร ?
หลายคนอาจจะแค่เคยเห็น แต่ก็ไม่รู้ซะทีว่ามันเรียกว่าอะไร บางคนก็เรียกแค่ว่าชุดติดกัน ชุดเอี๊ยม ประมาณนี้ สรุปแล้ว Jumpsuit ก็คือ ชุดหนึ่งชุดที่ท่อนบนกับท่อนล่างติดกัน โดยที่ท่อนล่างนั้นเป็นกางเกง ซึ่งเป็นได้ทั้งกางเกงขาสั้นและกางเกงขายาว ใส่แล้วก็จะรู้สึกคล่องตัว ดูทะมัดทะแมง ซึ่งถูกปรับมาจากชุดนักบินหรือนักแข่งรถมาก่อน และเหล่าดีไซเนอร์จึงหยิบแพทเทิร์นที่โดดเด่นมาปรับจนกลายเป็นแฟชั่นใหม่ของวงการ

“Jumpsuit” ควรแต่งแบบไหน ?
บางคนก็เข้าใจว่า ใส่ Jumpsuit ต้องใส่ชุดเดียว แต่อันที่จริงแล้วเราสามารถ Mix & Match ชุดตัวเก่งกับอย่างอื่นได้อีกด้วยนะ หากว่า เราเลือกใส่เป็นแบบทรงที่เป็นเกาะอก สายเดี่ยว แขนกุด เราก็หาเสื้อคลุมเก๋ๆ มาใส่ให้ดูเข้ากัน อันนี้ก็ชิคไม่เบา อีกอย่างท้าลมหนาวได้อย่างสบายเลย
สำหรับท่อนล่างที่เป็นกางเกง ถ้าเราเลือกใส่แบบขายาว ก็จะแฝงไปด้วยความเก๋ เป็นสาวเปรี้ยวที่ดูมีความคล่องตัว จะมีสีเรียบๆ ลายคลาสสิค หรือสีสดใสก็แตกต่างไปแล้วแต่โอกาสนั้นๆ หรือถ้าเราจะเลือกใส่แบบขาสั้น อันนี้ก็จะได้ลุคที่ดูมีความสดใส สนุก ซุกซน เปลี่ยนเป็นอีกแบบหนึ่ง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับไอเทมสุดชิคที่นำมาเสนอในวันนี้ รับรองหนาวนี้ มา Mix & Match ชุด Jumpsuit ไว้ออกไปทำงาน หรือออกเที่ยว ก็ง่าย สบาย แถมดูดีมีสไตล์อีกด้วย อ่ะ . ..

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สวยไม่เสี่ยง! ลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติ

           จากพฤติกรรมการกินอาหารแบบตะวันตก และการดำรงชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ใส่ใจดูแลสุขภาพตัว เองกันน้อยลง โดยเฉพาะพฤติกรรมการกินอาหาร หวาน มัน เค็ม ไม่กินผัก และไม่ค่อยออกกำลังกายเป็นประจำ ส่งผลหลายคนให้เกิดภาวะ โรคอ้วน ที่เสี่ยงต่อโรคภัยอย่างคาดไม่ถึง

คนไทยอ้วนขึ้นจริงๆ นะ
ต้องยอมรับว่าโรคอ้วน เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพมาแรงอันดับต้นๆ ของเมืองไทย และมีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงสูงขึ้น จนหลายหน่วยงานต้องรีบออกมารณรงค์แก้ไข ให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น

จาก ผลการศึกษาล่าสุดของกรมอนามัย พบว่า กลุ่มคนที่ทำงานออฟฟิศในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีภาวะอ้วนลงพุงเฉลี่ยร้อย 69.7 เป็นเพศชายร้อยละ 50.9 และเพศหญิงร้อยละ 75.2 เป็นผลให้คนไทยในเวลานี้ติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่มีคนอ้วนสูงสุดแถบเอเชีย-แปซิฟิก คือประมาณ 10 ล้านคนและในรอบ 5 ปีมานี้พิษของความอ้วนยังทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน และมะเร็งเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า

ขณะเดียวกัน กระแสความใส่ใจสุขภาพและความสวยความงามที่ กำลังได้รับนิยมในปัจจุบัน ก็ทำให้คนไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการลดความอ้วนมากกว่า 1,800 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 20% ในปี 2551หรือเฉลี่ยคนละ 900-2,600 บาทต่อเดือน

ความอ้วน คืออะไร

เชื่อเลยว่าทุกวันนี้สาวๆ ไม่มีใครอยากอ้วนกันใช่ไหม แต่ความอ้วนก็มักจะถามหาคนกินตามใจปากอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินเนื้อสัตว์ ของทอด ของหวานมัน และแป้งที่ขัดขาวแล้ว ความอ้วนมักเริ่มที่แก้ม พุง สะโพก ต้นขา แล้วก็ลามไปทั่วตัว ทำให้น้ำหนักค่อยๆ เพิ่มๆ ขึ้น และมีโรคภัยไข้เจ็บตามมาโดยไม่รู้ตัว

แต่ ในลำดับแรก สาวๆ ควรทำความเข้าใจก่อนว่า “ความอ้วน” คือการที่มีปริมาณไขมันในร่างกายจำนวนมากเกินจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ ปัจจุบันมีผลสำรวจรายงานว่า คนไทยประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคอ้วนมากถึง 29.7 % ของจำนวนประชากร สาเหตุของโรคอ้วนนี้มาจากหลายปัจจัยหลายประการได้แก่ กรรมพันธุ์ การเลี้ยงดู จำนวนเซลล์ไขมันในร่างกาย พฤติกรรมการบริโภคอาหาร วัย และการขาดการออกกำลังกาย ฯลฯ

ลดความอ้วนด้วยศาสตร์ธรรมชาติ
ยิ่งทุกวันนี้ กระแสค่านิยมที่ว่า ความผอม คือความสวย ทำให้สาวๆ รูปร่างตุ้ยนุ้ย พยายามหาวิธีลดน้ำหนักให้กับตัวเองสารพัดรูปแบบ ตั้งแต่วิธีการง่ายๆ อย่างการออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ไปจนจ่ายเงินเข้าคอร์สลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน หรือแม้กระทั่งซื้อยาลดน้ำหนักมากินเอง ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีอันตรายซ่อนเร้นอยู่ แต่หลายคนก็ยอมเสี่ยง เพื่อความสวย จนมีข่าวว่าหลายคนกินยาลดความอ้วนมากเกินไป จนเกิดอาการช็อก และเสียชีวิตมาแล้ว อย่างเช่นล่าสุด กรณีนักศึกษาสาวจีน มหาวิทยาลัยชื่อดัง กินยาลดความอ้วนเกินขนาดจนเกิดอาการช็อกเสียชีวิตคาห้องพัก


เราจึงรวบรวมศาสตร์ลดน้ำหนัก ที่ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพมาแนะนำกัน อาทิ

- ดลจิตลดความอ้วน หนึ่งในเทคนิคการลดความอ้วนของสาวๆ ที่ไม่ชอบออกกำลังกาย วิธีการนี้เป็นการประยุกต์ศาสตร์ด้านจิตวิทยาและโภชนาการมาควบคุมพฤติกรรม การกิน โดยโปรแกรมนี้จะใช้เวลารักษาต่อเนื่องเดือนละ 21วัน และต้องรับการรักษาให้ครบคอร์สอย่างน้อย 3 เดือนหรือ 5 เดือน

- กินช้าๆ กินอาหารช้าๆ และเคี้ยวให้นานขึ้น เพื่อให้เราไดเซึมซับรสชาติให้มากที่สุด งดอาหารหวานๆ เพราะการกินแป้งและน้ำตาลมากเกินไปจะทำให้อ้วนได้ แล้วเน้นกินอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ผักและผลไม้ และงดการกินจุบจิบในระหว่างมื้อ ให้ดื่มเปล่าเพียงอย่างเดียว ก็จะช่วยให้น้ำหนักค่อยๆ ลดลงได้

+ เล่นโยคะ หลายคนพอจะรู้อยู่แล้วว่า การเล่นโยคะ เป็นวิธีการออกกำลังกายอย่างหนึ่งที่ช่วยฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง และกระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายในต่างๆ สำหรับคนที่มีน้ำหนักเกิน การฝึกโยคะเป็นประจำก็จะช่วยให้คุณได้ออกกำลังกายมากขึ้น โดยไม่มีผลกระทบต่อกระทบกระแทกของกระดูกและข้อต่างๆ เหมือนการเต้น T 25 การเต้นแอโรบิก วิ่งมาธาราธอน หรือขี่จักรยาน

+ ฝังเข็มลดน้ำหนัก การลดน้ำหนักทางการแพทย์แผนจีน ที่ช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนต่างๆ ของร่างกาย อาทิ สะโพก ต้นขา ต้นแขน หรือหน้าท้อง เพราะการฝังเข็มจะช่วยในเรื่องดึงพลังงาน กระตุ้นพลังงานหรือเรียกว่าพลังงานลมปราณ (ชี่) ซึ่งเมื่อพลังงานวิ่งเลือดลม ก็จะวิ่งตาม และเมื่อพลังงานวิ่งดีเลือดลมก็วิ่งดีด้วย
ความอ้วนหรือน้ำหนักส่วนเกินกำลังเป็นปัญหาหนักอกหนักใจของคุณ สาวๆ ในยุคนี้ที่ต้องการกำจัดให้หมดไป ชนิดที่เรียกว่าหาทุกวิถีทางแทบพลิกแผ่นดินกันทีเดียว เพื่อและรูปร่างที่สวยงามและความมั่นใจ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ จุดมุ่งหมายปลายทางของการลดความอ้วน ไม่ใช่เพื่อความสวยหล่อเพียงอย่างเดียว แต่สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและห่างไกลจากโรคต่างหาก คือสิ่งที่ทุกคนควรใฝ่ฝันและปรารถนา
ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.istockphoto.com/

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

5 เรื่องเศร้า ของสาว นมใหญ่

            เชื่อว่าสาวๆ หลายคนอยาก “หน้าอกใหญ่” จนต้องโกย ดัน จนถึงขั้นไปศัลยกรรมอัพไซส์ แต่คุณจะรู้ไหมว่า นมใหญ่ไม่ได้ดีอย่างที่คิด!

            ใคร ที่หน้าอกหน้าใจใหญ่เกินหน้าเพื่อน จะต้องมีเสียงกรีดร้องเข้าหูอยู่เรื่อยๆว่า “อิจฉา” “อยากใหญ่แบบนี้บ้าง” “แบ่งให้บ้างสิ” แหม.. นมนะ ไม่ขนมเค้กที่จะตัดแบ่งกันได้ง่ายๆ ถ้าแบ่งให้ได้จะยกให้เลย นมใหญ่ลำบากแค่ไหน ไล่ทีละข้อเลยแล้วกัน


1. หาเสื้อผ้าใส่ยาก สาวๆคัพใหญ่ กว่าจะหาเสื้อผ้าที่ใส่แล้วสวยได้ช่างยากเย็น เพราะมัน ‘ติดนม’... เสื้อเชิ้ตกระดุมปริ คอกลมทำให้ตัน คอวีใส่แล้วโป๊ บางทีต้องใส่เสื้อโคร่งๆเพื่อให้พอดีหน้าอก กลายเป็นว่าดูอ้วนเกินจริงไปเลย

2. ยกทรงสไตล์คุณป้า สาวคัพซีขึ้นไป อย่าหวังจะได้ใส่ยกทรงลายน่ารักๆ สีสันสดใส เพราะมันไม่มี! ทางเลือกมีแค่เสื้อในสีพื้น และลายลูกไม้ ขาว ดำ และสีเนื้อ ทุกวันนี้แทบแยกไม่ออกว่าตัวไหนเสื้อไหนแม่ ตัวไหนเสื้อในเรา บอกเลยว่าเซ็ง!

3. หนัก แน่น ยาน เอาจริงๆไม่เคยชั่งนมตัวเองหรอกนะ แต่ข้อมูลบอกว่า สาวๆคัพซีขึ้นไป จะมีหน้าอกหนักข้างละ 1 กก. เท่ากับว่าจะต้องแบกน้ำหนัก 2 กก.ไปตลอดชีวิต นอนคว่ำลำบาก ปวดคอ ปวดหลัง แถมหย่อนยานง่ายอีกต่างหาก

4. ตกเป็นเป้าสายตา บางครั้งอยากจะบอกคุณผู้ชายทั้งหลายว่า “มองหน้าสิคะ อย่ามองแต่นม” บางทีแต่งหน้าทาปากมาอย่างเจิดแต่คนไม่สนใจ เพราะมัวแต่มองหน้าอกอยู่ ซึ่งมันก็เกี่ยวเนื่องกับข้อ 1 ว่าใส่อะไรก็ดูโป๊ ทั้งที่เราไม่ได้อยากโชว์ตรงนั้นซักนิด

5. ทำให้ใหญ่ง่ายกว่าทำให้เล็ก มีคนเคยพูดกว่า “ฉันยัดให้ใหญ่เท่าเธอได้ แต่เธอทำให้เล็กเท่าฉันได้ไหมล่ะ” ก็เดี๋ยวนี้มีทั้งยกทรงดูมๆ ใส่แล้วเด้งขึ้นมาทันตา แต่ถามว่าสาวนมใหญ่จะเอาที่เกินไปไว้ที่ไหน?

ถ้า เป็นแค่คนธรรมดา ไม่ต้องโชว์อึ๋ม ขายความเซ็กซี่แบบดารา ขอแนะนำว่าอย่าไปศัลยกรรมอัพไซส์ให้เจ็บตัวเลย สมัยนี้ตัวช่วยหลากหลาย ใครอยากดูมีของก็เสริมๆยัดๆ เป็นครั้งคราวไป สบายกว่าเยอะ

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

5 เมนูสุขภาพที่ต้องมีไว้ในตู้เย็น!

          ตู้เย็นมีไว้เพื่อเก็บอาหาร ไม่ใช่เครื่องสำอางนะจ๊ะสาวๆ ยิ่งเก็บอาหารเป็น เก็บของดีมีประโยชน์ วันหิวๆ เราจะขอบคุณตู้เย็นเป็นอย่างมาก แต่ของควรเก็บกับของที่ควรกินแต่แรกให้หมดก็มีนะเออ

         การจัดสรร พื้นที่ในตู้เย็นเป็นวิชาอย่างนึงที่ควรรู้ แต่อาหารที่ควรถูกจัดเก็บก็ยิ่งต้องรู้ไม่น้อยหน้ากัน เพื่อให้อาหารที่มีอยู่ได้เป็นสต็อกให้เราเตรียมทำอาหาร ที่สำคัญควรมีไว้ติดตู้เย็นเลยล่ะ เพราะรับประกันได้ว่าเมื่อวันที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น วันนั้นเราจะรอดตายแน่ๆ

1.ไข่ไก่ คนไทยชอบอยู่แล้วเพราะทำได้สารพัดเมนู จะเอามาเจียว ต้ม นึ่ง หรือเป็นอาหารเช้าแบบเร่งรัดได้แค่เอามาต้มกินกับซอส สัก 1-2 ฟองก็อิ่มไปทั้งเช้าหรือวันที่เหมือนขาดอะไรไปสักอย่างในจานพิเศษ ไข่ก็ยังนำมาผสมผสานให้น่ากินเข้าไปอีกได้ ไม่ว่าจะเป็นหม้อสุกี้ยากี้ ข้าวไข่ข้นหน้าแฮม (พอดีมีแฮมติดตู้แต่คิดเมนูไม่ออก) ไข่นี่ล่ะไม่มีไม่ได้เลย

2.นมสด เมื่อหิว หยิบนมมาดื่มสักแก้วก็อยู่ท้องแล้ว หรือวันไหนเกิดอาการปวดกระเพาะขึ้นมาก็ยังนำนมไปอุ่นดื่มได้ นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าเมนูเบสิกอย่างการกินกับซีเรียล เรื่อยไปถึงต้มยำน้ำข้น เลือกชนิดที่ไร้ไขมันก็ไม่มีใครว่าเพราะยังได้ควบคุมน้ำหนักอีกด้วย เพราะนี่ล่ะแหล่งวิตามินดีและแคลเซียมเชียวนะ

3.ธัญพืช ของ ขบเคี้ยวตระกูลถั่วนี่ล่ะ ที่ช่วยให้ช่วงเวลาระหว่างมื้อถูกเติมเต็มได้ เพราะแค่หยิบมากินตอนท้องว่างก็ทำให้อยู่ท้อง (หรือจะตบนมหรือนมถั่วเหลืองร้อนตามอีกสักแก้ว) เพราะอุดมด้วยโปรตีน นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปโรยในจานซีเรียล ข้าวโอ๊ต โยเกิร์ต ฯลฯ ก็ยิ่งทำให้อร่อยยิ่งขึ้น การเก็บในตู้เย็นยังช่วยลดกลิ่นหืนและการเกิดเชื้อต่างๆ ได้ด้วย

4.ขนมปังโฮลวีต มี เนื้อ มีโปรตีนแล้วก็ต้องมีแป้งติดไว้บ้าง ยิ่งเป็นแป้งแบบขนมปังโฮลวีตด้วยแล้ว จะยิ่งช่วยให้เราได้คุณค่าอาหารครบถ้วนขึ้น สามารถเอามาดัดแปลงเมนูง่ายๆ ได้เยอะแยะ ไม่ว่าปิ้งกินกับไข่ดาวสักแผ่นในช่วงเช้า ทำแซนด์วิชในวันที่หิวตาลาย หรือจะเอามาป่นแล้วชุบกับเนื้อสัตว์ก่อนทอด ก็ยิ่งทำให้มีสีสันน่ากินมากขึ้น ที่สำคัญไม่ต้องกลัวอ้วนด้วย

5.มะนาว นี่ล่ะอาหารชูรสภูมิปัญญาไทย เพราะไม่ใช่แค่การปรุงรสในอาหารให้ได้รสจี๊ดจ๊าด แต่ยังให้คุณค่าสารพัดประโยชน์ ไม่ว่าบีบใส่น้ำอุ่นดื่มตอนเช้าให้ถ่ายท้องง่าย ปรุงอาหารเมนูไทยให้ได้รสกลมกล่อม และยังครอบจักรวาลไปถึงงานบ้านได้ด้วย อย่างเช่น การบีบใส่คราบเหงื่อและน้ำมันชนิดต่างๆ บนเสื้อผ้าก็ช่วยให้ขจัดคราบได้ง่ายขึ้นแล้ว

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เทคนิคทำปากกระจับสวย โดยไม่ต้องศัลยกรรม

การศัลยกรรมปาก กลายเป็นหนึ่งในศัลยกรรมที่มีสาวๆ ตัดสินใจทำมากขึ้น แต่การศัลยกรรมปากแล้วปากบางไปบ้าง ปากเบี้ยวบ้าง ที่เป็นความพลาดทำให้หลายคนยังยั้งใจที่จะไม่พึ่งมีดหมอ
การศัลยกรรมปาก คือ การผ่าตัดแก้ไขปัญหารูปปากที่มีลักษณะไม่ได้รูปทรง หรือหนาและใหญ่เกินไป ซึ่งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ อุบัติเหตุ และความไม่ชอบใจส่วนตัว จึงเป็นที่มาของการศัลยกรรมปากให้ดูสวยงามเรียวบาง และเป็นกระจับมากขึ้น

วันนี้ เรามีเทคนิคทำปากกระจับสวย โดยไม่ต้องศัลยกรรม ด้วยทริคเล็กๆ ในการทาปาก คุณก็จะมีปากเรียวงามกว่าเดิมได้แล้วค่ะ

2 อุปกรณ์อัพสวย
1. ดินสอเขียนขอบปาก
2. ลิปสติก (ในภาพเลือกลิปสติกที่มาในรูปแบบแท่งเหมือนกับลิปกลอส)

จะมีขั้นตอนอะไรบ้าง ตามมาดูกันได้เลย


1.ใช้ดินสอเขียนขอบปาก วาดกระจับปากเป็นเส้นทแยง
2. เส้นที่เขียนทั้งสองเส้น มองแล้วจะคล้ายเครื่องหมายกากบาทนะคะ
3. จากนั้นใช้ดินสอเขียนขอบปากด้านบน โดยวาดให้ตรงกับรูปปาก
4. ใช้ดินสอแท่งเดิม วาดขอบปากด้านล่าง วาดจากมุมปากเข้ามาถึงกึ่งกลาง ทำแบบนี้เหมือนกันทั้งสองข้าง
5. ทาลิปสติกไม่ว่าจะเป็นแบบแท่งหรือแบบที่มาในรูปแบบลิปกลอส เริ่มทาจากด้านบน ตามลูกศรในภาพประกอบได้เลยค่ะ
6. ทาอีกข้างให้เหมือนกัน โดยทาลงตามลูกศรเหมือนขั้นตอนที่ผ่านมาเลยค่ะ
7. ทาปากด้านล่างให้ตามปกติเลยนะคะ เก็บรายละเอียดให้ดี อย่าให้ลิปสติกเลอะเกินขอบปากจนดูเหมือนคนทาปากไม่เสมอกันนะคะ


Tip : สำหรับ สาวปากบางที่อยากจะเพิ่มความหนาให้กับรูปปาก แนะนำให้เขียนเกินขอบปากบนให้เกินออกมานิดนึง เน้นนะคะว่านิดเดียว การทาแบบนี้จะช่วย
ให้ปากบางๆ ของคุณ ดูหนาและยิ้มหวานขึ้นค่ะ


 ภาพประกอบจาก http://thebeautydepartment.com/

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ดื่มน้ำอย่างไรให้ได้ผลดี

          การดื่มน้ำ ที่เขาว่ากันว่าดื่มน้ำมากๆ ก็จะดี แต่ที่จริงแล้ว ร่างกายของเราต้องมีสมดุล เพราะฉะนั้นเราจึงควรรู้จักการดื่มน้ำที่ถูกต้องเพื่อผลดีกับร่างกายเรานะคะ

          สำหรับการดื่มน้ำที่ถูกต้องนั้น ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำ 2-3 แก้วติดต่อกันในทันที หันมาใช้วิธีการดื่มไปเรื่อยๆ เพื่อให้ร่างกายได้นำน้ำเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ในส่วนต่างๆ ของร่างกายค่ะ และควรหยุดการดื่มน้ำพร้อมๆ กับการรับประทานอาหาร เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การย่อยไม่ดีได้ ควรเลือกดื่มน้ำก่อนการรับประทานอาหารอย่างมากไม่เกิน 1 แก้ว เพื่อให้น้ำย่อยมีประสิทธิภาพในการย่อยอาหารได้เต็มที่ หลังทานอาหารเสร็จแล้ว 40 นาที ค่อยดื่มน้ำตามปกติ เพื่อให้กระเพาะได้ทำการย่อยอาหารเสียก่อน

การแบ่งช่วงเวลาการดื่มน้ำ
นอกจากการดื่มน้ำที่ถูกต้องแล้ว ก็ยังต้องมีการแบ่งเวลาและปริมาณการดื่มน้ำที่ถูกต้องเพื่อให้ร่างกายได้ดูด ซับเอาไปใช้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์ เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าเราต้องดื่มน้ำเวลาไหนและปริมาณเท่าไหร่กันบ้าง…
- ตื่นนอนตอนเช้าดื่ม 1 แก้ว เพราะเป็นช่วงที่มีความเข้มข้นของเลือดสูง เลือดจะมีลักษณะขาดน้ำ
- ตอนสายๆ ประมาณ 2 แก้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีของเสียเกิดขึ้น เพราะร่างกายได้ทํางานไประยะหนึ่งแล้ว ฉะนั้นจึงควรดื่มน้ำเพื่อมาชําระของเสียเหล่านั้นออกไป
- ตอนบ่ายๆ และตอนเย็น ช่วงละประมาณ 3 แก้ว
- ก่อนนอนให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งตกค้างในลําไส้และกระเพาะอาหาร และยิ่งถ้าเป็นน้ำอุ่นด้วยแล้วจะยิ่งช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น

ดื่มน้ำอุ่นสิดี
นอกจากการดื่มน้ำที่ถูกต้อง การแบ่งช่วงเวลาและปริมาณที่เหมาะสมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญนั่นคือ การเลือกดื่มน้ำอุ่น นะคะ เพราะน้ำอุ่นนั้นดื่มง่ายกว่าน้ำธรรมดา เพื่อให้อุณหภูมิของน้ำที่ดื่มไม่ต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกาย จะได้ไม่เป็นการไปดึงอุณหภูมิร่างกายให้เย็นลง อุณหภูมิโดยปกติของร่างกายคนเรานั้นอยู่ที่ 36-37 องศาเซลเซียส ถ้าเราดื่มน้ำเย็นๆ สัก 2 องศาเซลเซียส น้ำเย็นจะต้องไปดึงความร้อนของร่างกายมาทำให้อุณหภูมิของน้ำเท่ากับร่างกาย การดูดซึมจะทำงานได้ ทำให้ร่างกายสูญเสียพลังงานและเสียเวลาในการปรับสมดุลให้คืนสู่ปกติ
ดูซิ ! แค่การดื่มน้ำเนี่ย ยังต้องมีวิธีการดื่มที่ถูกต้องและปริมาณที่เหมาะสม แต่อย่าละเลยกันเป็นอันขาดนะคะ ดูแลร่างกายเราซะตั้งแต่วันนี้ เพื่อความแข็งแรงในวันหน้าค่ะ

ติดตามเรื่องราวของผู้หญิง ได้ทาง WomanPlus Magazine
ติดตามอ่านแบบออนไลน์ได้ที่ WomanPlus Magazine Online
หรือ ติดตามอ่านฉบับ Mobile App รายละเอียดได้ที่ http://www.womanplusmagazine.com/e-magazine

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

10 เหตุผลที่ลดน้ำหนักไม่ลงสักที

ลดอาหาร ออกกำลังกาย แต่ขึ้นตาชั่งทีไรน้ำหนักก็เท่าเดิม
 
1. คุณกินชดเชยหลังออกกำลังกายใช่ไหม?
สาว ๆ หลายคนเคยชินกับการให้รางวัลตัวเองด้วยของหวานสักชิ้น หรือน้ำหวานสักแก้วหลังจากออกกำลังกายอย่างหนัก (ก็เพิ่งเบิร์นไปตั้งหลายแคลอรี่นี่นา) แต่การกินแบบนี้จะทำให้ที่คุณออกกำลังมาน่ะเหนื่อยเปล่า! แถมบางทีพลังงานที่คุณกินอาจจะมากกว่าที่เพิ่งใช้ไปด้วยซ้ำ

2. คุณอาจจะนอนไม่พอ
นอน ดึก ๆ หรือนอนน้อย ๆ ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายมีเวลาเผาผลาญพลังงานมากขึ้น แต่กลับทำให้ประโยชน์ที่ควรได้จากการออกกำลังกายลดลง และทำให้น้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้นด้วย ถ้าคุณนอนไม่พอเมตาบอลิซึม จะทำงานช้าลงตรงข้ามกับความอยากอาหารที่เพิ่มขึ้น

3. คุณเครียดเกินไปไหม?
ยิ่ง คุณเครียดมากเท่าไหร่ น้ำหนักคุณก็ยิ่งเพิ่มขึ้นง่ายเท่านั้น เวลาเครียด ๆ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาทำให้ความอยากอาหารและการกักเก็บ พลังงานในรูปไขมันเพิ่มขึ้น (พุงจะยื่นเลยล่ะ)

4. คุณกินน้อยเกินไปล่ะมั้ง
กิน น้อยได้พลังงานน้อยก็จริง แต่ถ้ากินน้อยเกินไปร่างกายจะปกป้องตัวเองตามสัญชาตญาณด้วยการลดอัตราเมตาบอ ลิซึมลง เพื่อกักเก็บพลังงานเอาไว้ (ป้องกันไม่ให้อดตาย!)

5. คุณลดไม่ต่อเนื่องหรือเปล่า?
การ ลดอาหารและออกกำลังไม่ต่อเนื่องนั้น แย่ยิ่งกว่าการกินมาก ๆ ออกกำลังกายน้อย ๆ เสียอีก เพราะจะทำให้ร่างกายของคุณปรับตัวไม่ทัน ดีไม่ดีตอนที่คุณกำลังกินอย่างเพลิดเพลิน ร่างกายอาจกำลังเร่งเก็บพลังงานไว้ใช้ตอนที่คุณลดน้ำหนักก็ได้

6. คุณไม่ได้อยากลดน้ำหนักจริง ๆ
ถาม ตัวเองให้แน่ ๆ ว่าคุณอยากจะลดน้ำหนักแบบจริงจังหรือเปล่า เพราะถ้าคุณไม่ได้ตั้งใจจริง ไม่นานคุณก็จะเบื่อและท้อ พอมีอะไรมายั่วหน่อยก็อยากกิน อาจจะเดี๋ยวทำเดี๋ยวเลิกจนไขมันพุ่งขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก

7. คุณออกกำลังไม่หลากหลายล่ะสิ
ออก กำลังกายอยู่อย่างเดียวจนเป็นกิจวัตรประจำวันนอกจากจะน่าเบื่อแล้ว ยังทำให้การเบิร์นไม่ได้ผลเท่าเดิมด้วยนะ เพราะคุณเคยชินกับมันจนเกินไปยังไงล่ะ ปรับเปลี่ยนซะบ้างนะ

8. น้ำหนักที่เห็นอาจไม่สัมพันธ์กับไขมันก็ได้
น้ำ หนักที่คุณชั่งได้มีทั้งน้ำหนักของน้ำ มวลกล้ามเนื้อ แล้วก็ไขมัน การออกกำลังกายมาก ๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นมาแทนที่ไขมันที่หายไป คุณถึงยังน้ำหนักเท่าเดิมยังไงล่ะ

9. คุณอาจใจร้อนเกินไป
ร่างกาย คนเราไม่เหมือนกัน บางคนออกกำลังแป๊บเดียว น้ำหนักก็ลดลงไปเห็น ๆ แต่บางคนอาจต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์ หรืออาจจะเป็นเดือน อย่าใจร้อน! ให้เวลากับตัวเองหน่อย ถ้าคุณพยายามเดี๋ยวก็เห็นผลเอง…ไม่ต้องรีบ

10. บางทีคุณอาจจะเป็นโรค (ที่ไม่เคยรู้)
โรค บางโรค เช่น ภาวะมีถุงน้ำที่รังไข่ (PCOS) ต่อมธัยรอยด์ผิดปกติ หรือฮอร์โมนที่ไม่สมดุล อาจจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และลดลงได้ยาก หากรู้สึกผิดปกติมาก ๆ ออกกำลังกาย และควบคุมอาหารมาเป็นเดือน ๆ น้ำหนักก็ไม่หายไปเลย ลองปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจร่างกายดู

ที่มา Women to Women
ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.istockphoto.com/

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

5 วิธีดูแลผมให้นุ่มสลวยมีน้ำหนักเงางามก่อนหน้าหนาวมาถึง

          ผู้หญิงหลายคนที่ไว้ผมยาวล้วนจะต้องรักผมด้วยกันทั้งนั้น และไม่ว่าคุณจะไว้ผมยาวหรือสั้นเพียงใด หากผมของคุณมีปัญหาหยาบกระด้างรวมถึงมีปัญหาแตกปลายกันบ่อยๆ วันนี้เรามาเร่งบำรุงผมให้สวยก่อนหน้าหนาวมาถึงกันดีกว่า จะได้รับมือไม่ให้ลมหนาวทำลายผมให้ยิ่งแห้งเสียไปมากกว่านี้นั่นเองค่ะ
5 วิธีดูแลผมให้นุ่มสลวยมีน้ำหนักเงางามก่อนหน้าหนาวมาถึง

1.หมั่นเล็มผมแตกปลายอยู่เสมอ
โดยปกติ เส้นผมของคนเราล้วนแล้วแต่จะต้องเคยผ่านการทำสี ยืด ดัดและทำทรงต่างๆ ที่ต้องผ่านการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งสิ้น ไหนจะสเปรย์จัดแต่งทรง เอาง่ายๆ แค่สาวๆ ตากแดดตากลมบ่อยๆ เพียงแค่นี้ผมก็ง่ายที่จะแตกปลายกันได้แล้วค่ะ เพราะฉะนั้น ยิ่งหากคุณเป็นสาวผมแห้งด้วยแล้ว ขอแนะนำให้หมั่นเล็มผมแตกปลายอยู่เสมอดีกว่าจะได้แก้ปัญหาผมไม่ให้แตกปลายใน หน้าหนาวหนักกว่าเดิมนั่นเอง

2.บำรุงด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ
ก่อนสระผมหรือหลังจากสระผมเสร็จแล้ว สามารถนำน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อยมาชโลมปลายผมเพื่อบำรุงกันได้ นะคะ แต่หากชโลมก่อนสระผมก็ชโลมได้เลยเต็มที่เหมือนหมักทิ้งไว้ก่อนสระนั่นเอง โดยหมักทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วจึงสระผมตามปกติ สุขภาพเส้นผมก็จะชุ่มชื้นมากขึ้นและลดปัญหาผมหยาบกระด้างได้แล้วค่ะ
5 วิธีดูแลผมให้นุ่มสลวยมีน้ำหนักเงางามก่อนหน้าหนาวมาถึง

3.ทรีทเมนท์ผมสัปดาห์ละครั้ง
หาเวลาสัก 1 ครั้งในสัปดาห์อาจจะเป็นวันหยุดงานของคุณมาหมักผมกันบ้าง โดยนำไข่แดง 1 ฟองมาผสมกับน้ำมันมะกอกหรือโยเกิร์ตก็ได้ จากนั้นหมักให้ทั่วทั้งศีรษะ 30 นาทีแล้วล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นจึงสระผมตามปกติต่อไป

4.หยุดรังแกผมด้วยสารเคมีต่างๆ
ใครที่ชอบทำสีผม ดัดผม ยืดหรือทำผมที่จะต้องผ่านการใช้สารเคมีล่ะก็ จงพยายามหยุดหรือหลีกเลี่ยงการทำร้ายผมดังกล่าวไปก่อนนะคะ เพราะเมื่อหน้าหนาวมาถึงแล้ว สภาพเส้นผมมันจะยิ่งหยาบกระด้างมากขึ้น แถมอาจจะทำให้ยิ่งล่าช้าต่อการฟื้นฟูให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้งได้ด้วย
5 วิธีดูแลผมให้นุ่มสลวยมีน้ำหนักเงางามก่อนหน้าหนาวมาถึง

5.ใช้เซรั่มบำรุงผมเพื่อป้องกันความร้อนเป็นประจำ
จริงๆ แล้ว หากสาวผมแห้งและแตกปลายหนักมาก ถ้าต้องการให้หยุดแตกปลายและมีสุขภาพผมนุ่มสลวยมีน้ำหนักเร็ว ควรเลิกทำผมด้วยอุปกรณ์ความร้อนไปก่อน แต่หากจำเป็นต้องใช้จริงๆ แนะนำให้ชโลมผมด้วยวิตามินหรือเซรั่มป้องกันความร้อนเสียก่อน แถมวิตามินหรือเซรั่มดังกล่าวยังมีอาหารผมหลายชนิดที่จะเข้าไปซ่อมแซมดูแล และบำรุงผมให้นุ่มชุ่มชื้นมีสุขภาพดีมากขึ้นได้ด้วย

          อย่างไรก็ตาม หากสาวๆ ต้องการให้สุขภาพผมดีมากกว่านี้ อย่าลืมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปกป้องแสงแดดในตัวด้วยนะคะหรืออาจจะสวมหมวกคลุม ผมหรือหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดก็ได้ค่ะ เพียงหมั่นดูแลผมเป็นประจำด้วยวิธีเหล่านี้ เมื่อหนาวหนาวมาถึงสุขภาพผมของคุณก็จะยังคงความสวยเงางามและยากต่อการถูกลม หนาวทำลายได้แน่นอน

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เมียงดง แหล่งช้อปของเกาหลีที่สาวๆ ห้ามพลาด!

           จุดน่าสนใจของประเทศเกาหลีนั้นมีหลายอย่าง แต่สำหรับชะนีรักสวยรักงามอย่างเราคงไม่พ้นเรื่องเครื่องสำอาง สกินแคร์บำรุงผิว อย่าง etude ,skinfood แบรนด์ดังที่ขายดีมากๆ ในบ้านเรา นี้แหละที่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่อยู่ในลิสต์ที่เกรดดี้ต้องเข้าไปละลายเงินวอน ก็แหม! ราคาที่เกาหลีถูกกว่าที่ไทยเห็นๆ แต่ก็เข้าใจนะคะว่าของแท้ที่ขายตามร้านในไทยนั้น เค้าต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ ค่าภาษีต่างๆ มากมายกว่าจะวางขายได้อย่างถูกต้อง ถ้าใครไม่ได้บินตรงไปเกาหลีเก็บเงินซื้อที่เคาน์เตอร์ไทย อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอนดีกว่าเสี่ยงหน้าพังเพราะเห็นแก่ ของถูกนะคะ



มาต่อกันที่แหล่งช้อปปิ้งในดวงใจที่เกรดดี้อยากแนะนำให้สาวๆ ไปเดินช้อปกันนั่นคือ ตลาดเมียงดง (Myeongdong) แหล่งช้อปปิ้งอันดับ 1 ของเกาหลีรวบรวมแฟชั่นของเกาหลี ร้านต่างๆ จะอยู่ตามถนน ในซอยต่างๆ เต็มไปด้วยร้านเครื่องสำอาง เสื้อผ้าตั้งแต่ราคาเบาๆ ไปจนถึงแบรนด์เนมชื่อดัง


          ว่าแล้วเราก็มาเริ่มต้นกันที่ร้าน Etude เลยดีกว่า เมื่อได้ก้าวเท้าเข้าไปในร้านเหมือนโดนแรงดึงดูดเงินวอนบินร่อนออก จากกระเป๋าสตางค์เลยจ้า ซื้อทั้งมาส์กหน้า แป้งตลับ และดินสอเขียนคิ้ว ราคาถูกมากคิดแล้วราคา 70 บาทไทย คุณพระ! ถูกขนาดนี้เกรดดี้จัดมาทุกสีเลยจ้า อีกอย่างที่อยากแนะนำให้สาวๆ ที่ชอบทาลิปสติก นั้นก็คือ ลิปสติกแบบแท่งหมุนๆ ที่เค้าเครมไว้ว่าเอามาเขียนตาได้ เขียนขอบปากก็เริ่ด หลังจากที่ลองใช้ส่วนตัวคิดว่าบางสีเหมาะกับการทาปากมากกว่า เนื้อลิปสติกสีสวยชัดตามสีในแท่ง ติดทนระดับหนึ่ง ไม่เป็นคราบ ดีและถูกขนาดนี้ต้องมีนะคะ!
          ต่อด้วย Skinfood ไม่ต้องพูดอะไรมาก เดินมุ่งหน้าไปที่มาส์กหน้าอย่างรวดเร็ว ทางร้านจัดโปรโมชั่นซื้อครบ 1 แสนวอนลด 20000 วอน ซื้อครบ 2 แสนวอนลดไปเลย 40000 วอน โปรโมชั่นแน่นขนาดนี้เกรดดี้ไม่พลาด จัดแป้งตลับที่เนียนเด้งรุ่น Skinfood red orange เนื้อแป้งละเอียด เนียน ไม่ขาววอกจนเกินไป เกรดดี้เหมาะกับเบอร์ 2 สำหรับ สาวผิวขาวเหลือง ราคาเบาๆ 470 บาท ต่อด้วยมาส์กข้าว มาส์กไข่ ในราคาไม่ถึง 300 บาท ราคาถูกขนาดนี้ชะนีต้องหันมาบำรุงหน้ากันบ้างแล้วค่ะ
ยังไม่จบแค่นั้นยังสะดุดตากับเครื่องสำอางแบรนด์ clio กับพรีเซนเตอร์ Lee Hyori สุดยอดราชินีแด๊นซ์ของประเทศเกาหลี ไอเทมที่อยากแนะนำให้สาวหน้ามันลองใช้ คือ อายไลเนอร์เนื้อดินสอ เนื้อ ดี สีชัด เขียนง่าย ระหว่างวันไม่ไหล ไม่เลอะ ส่วนตัวเป็นคนหน้ามันมากๆ เมื่อเจอของดีแบบนี้เกรดดี้ต้องบอกต่อในราคาเพียงแค่ 372 บาท คุณก็ตาสวยเฉียวดูน่าค้นหาได้แล้วค่ะ
           American Appare แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกาสำหรับสาวนักช้อปที่หลงรักเอวสูงอย่าง กางเกง disco pant กางเกงยีนส์ทรงต่างๆ อีกแบรนด์ที่สาวเอวสูงต้องร้องอ่อ...เรื่องราคาถูกกว่า ร้านพรีออเดอร์ในไทยแน่นอน แต่ก็ยังแพงกว่าบินตรงไปซื้อที่อเมริกานะคะ แต่ในเมื่อชะนีไทยใจกล้าไปถึงร้านทั้งที มีหรือจะไม่ลองไซส์ สุดท้ายเกรดดี้เสียเงินให้กับ กางเกง Easy Jean Short ขาสั้นเก็บทรงสวย ใครเป็นสาวกสั้นเสมอหู โหวตรุ่นนี้รับรองสวยชนะแน่นอนค่ะ
 
           เป็นอย่างไรกันบ้าง ถูกใจสาวไทยที่กำลังหาข้อมูลไปช้อปปิ้งไกลที่แดนกิมจิกันหรือเปล่า ครั้งหน้าเกรดดี้จะมารีวิวเครื่องสำอางตัวเด็ด ที่ใช้แล้วชอบมาแชร์ให้สาวๆ ได้รู้กันนะคะ ตอนนี้ขอตัวไปมาส์กหน้าให้สวยฉ่ำก่อนดีกว่าค่ะ บ๊ายยยยยยยยย!

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

5 สถานที่ปล่อยผีสุดสะพรึง หวีดร้องรับฮาโลวีน!

            ค่ำคืนปล่อยผีชวนขนลุกที่รอคอย หลายคนเริ่มคิดธีมแต่งองค์ เตรียมเอฟเฟกต์แต่งหน้าผีชวนหลอนให้สะดุ้งเล่นๆ กันแล้ว แต่ยังหาที่ปลดปล่อยความสยองเขย่าขวัญคนใจอ่อนไม่ได้ วันนี้ขอแนะนำสถานที่ เตรียมปล่อยของความน่ากลัวขนหัวลุกกันให้เต็มที่ พร้อมปาร์ตี้เอ็กคลูซีฟสุดมันส์จากเหล่าดีเจ และศิลปินมากมาย แต่ละสถานที่จะทำให้คุณกรี๊ดสนั่น มันส์ขนาดไหน ไปเปิดหลุมประสบการณ์ตื่นเต้นเลยดีกว่า

1. ตรอกข้าวสาร 
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิพของชาวต่างชาติที่ต่างหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ยิ่งปีนี้ผับใต้ดินสุดมันส์เอาใจวัยโจ๋อย่าง The Club จัดธีมรับฮาโลวีนแสบๆ คันๆ 'ผีกัดอย่ากัดตอบ' ในคอนเซปต์ผีดิบจีนแปะผ้ายันต์ที่จะมากระชากวิญญาณให้หัวใจเต้นแรงแต่แฝง ความตลกนิดๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ผีจีนแบบตลกๆ สุดฮิต ของผู้กำกับชื่อดัง 'ไมเคิล ว่อง' ด้วยคอนเซปต์ผีจีนติดผ้ายันต์ แถมงานนี้ยังได้เหล่าดีเจชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น 'DJ Marco Wong' และ 'DJ Kinetic' มาร่วมสร้างสีสันหวีดสยองด้วย สำหรับใครที่ฮาโลวีนนี้ยังไม่มีแพลนไปไหนก็เข้าร่วมงานกันได้ ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็นเป็นต้นไป หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก The Club Khaosan รับประกันความน่ากลัวปนฮาที่จะทำให้ค่ำคืนปล่อยผีของคุณสนุก และเร้าใจไม่แพ้ที่ไหนๆ เลย

เครดิตภาพ : 
เฟซบุ๊ก The Club Khaosan
 
2. Route 66 Club
ฮาโลวีนนี้ทยอยตบเท้ากันเข้ามาปาร์ตี้สุดหลอน ค่ำคืนที่จะปลุกเหล่าวายร้ายทั้งหลายให้มาร่วมปาร์ตี้กันในธีมสุดเริ่ด ' Met 107 Halloween Villain Reunion Party The Night of No Hero' งานนี้ไม่มีฮีโร่ สลัดความกลัวของคุณทิ้งไป แล้วร่วมสนุกปลุกความร้ายในตัวเองขึ้นมาแต่งตัวแปลงโฉมเป็นเหล่าวายร้ายดา ร์ก เดวิลในแบบที่คุณชื่นชอบ พร้อมปลดปล่อยความซ่าไปกับเหล่าดีเจชั้นนำมากมาย มันส์กับคอนเสิร์ต เจ เจตริน, ดีเจ Route66 ร่วมด้วยดีเจ Met107 ใครที่สนใจก็เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ mcot.net/met107 … บอกได้คำเดียวเลยว่า ห้ามพลาด !!!

เครดิตภาพ : mcot.net/met107
 
3. Mansion 7
ฮาโลวีนปีนี้กรีดร้องให้เต็มพิกัด ขีดฆ่าความสยองไปกับบ้านผีสิงชวนหลอน 'Mansion 7' (รัชดาภิเษก 14 ) ที่มาในงาน 'Halloween night party 2014 at mansion7 by absolute for you หลอนแต่สนุก!' ให้เหล่าแก๊งผีมาปาร์ตี้สุดพิเศษกับเครื่องดื่มรสเลิศอันโอชา ค็อกเทลหลากสีสัน และเอ็นจอยกับความบันเทิงเต็มรูปแบบตลอดคืนวันฮัลโลวีน ระเบิดความมันส์แบบเต็มขั้นกับเหล่าบรรดาศิลปินชื่อดัง อาทิ ทาทา ยัง, ดัง พันกร, ไนกี้ นิธิดล, สิงห์เหนือ เสือใต้, โจอี้ บอย, ตุ๊กกี้, แฟร์ กันต์ดนย์ และแขกรับเชิญอีกมากมาย งานนี้จัดเต็มความอลังการ 'ปล่อยผี' และปลดปล่อย(ความ)เครียดไปพร้อมๆ กับปาร์ตี้หลอนปนสนุกแห่งปีได้ ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็นเป็นต้นไป หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 08-7748-7778, 08-9893-2969

เครดิตภาพ : ensogo.com/halloweennightpartyatmansion7byabsoluteforyou 
 
4. HDP Café
ปาร์ตี้สุดฮิพเขย่าขวัญของเหล่า Ghost Rider ที่มาในลุคสุดสะพรึงท่องราตรีวันฮาโลวีน ในธีม 'Highway Dragster Playground Milestone Meeting – Halloween Knight' โยกไปกับดนตรีสดสุดมันส์ พร้อมเครื่องดื่มเมนูพิเศษ ‘Witch’s Brew’ จาก HDP Café ที่ปรุงขึ้นเป็นพิเศษสำหรับปาร์ตี้นี้โดยเฉพาะ แถมใครที่มาร่วมงานยังรับสิทธิ์ถ่ายภาพที่ระลึกโดยช่างภาพระดับเทพของ HDP เอากลับไปแชร์โซเซียลฯ อวดเพื่อนให้อิจฉาเล่นอีกด้วย
อย่ารอช้า … เข้าร่วมประสบการณ์ความมันส์ ดื่มด่ำความสนุกปนหลอนเบาๆ ได้ ณ ร้าน HDP Café ซอยพัฒนาการ 76 เปิดประตูความหลอน 5 โมงเย็นเป็นต้นไป !!

เครดิตภาพ : hd-playground.com
 
5. Royal Garden Plaza Pattaya
อีกหนึ่งความสะพรึงกลัวที่คุณไม่ควรพลาด ณ 'Royal Garden Plaza' เมืองพัทยา ที่ปีนี้จัดในธีม 'Ripley’s Haunted Adventure โกดังผีสิง' เปิดตำนานความสยองจากเรื่องจริงอันน่าสะพรึงกลัวของ "เกาะตุ๊กตาผี" ท้าให้คุณพิสูจน์ในเทศกาลฮาโลวีน ตอน Island of the haunted dolls อีกทั้งในงานยังพบกับ 10 ตุ๊กตาอาถรรพณ์ที่น่ากลัวที่สุดในโลก(จำลอง) พร้อมนิทรรศการ ผี AEC ของ 10 ประเทศที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน งานนี้ถึงจะไกลสักหน่อย แต่รับรองว่าคุณจะได้ขนหัวลุกและสะดุ้งโหยงไปตามๆ กัน ไม่เชื่อ … ลองดู !!

เครดิตภาพ : ripleysthailand.com
 

วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แต่งหน้าฮาโลวีน ในสไตล์ แวมไพร์ สาวพราวเสน่ห์

          แต่งหน้าฮาโลวีน ใช่ว่าจะต้องแต่งหน้าให้ดูน่ากลัว หน้าเละ สยองขวัญ เสมอไป สาวๆ สามารถแต่งหน้าสวยไปงานฮาโลวีนได้ ในสไตล์แวมไพร์สาวเจ้าเสน่ห์ ที่หนุ่มๆจะต้องหลงรักคุณตั้งแต่แรกเจอ มนต์สะกดของการแต่งหน้าลุคนี้อยู่ที่ริมฝีปากอันแสนเย้ายวนใจ ที่หนุ่มๆคงอยากมอบกายถวายชีวิตให้แวมไพร์สาวมาดูดเลือดของผมไปที ที่สำคัญคุณต้องเลือกเฉดสีลิปสติกให้เหมาะกับสีผิวของคุณสาวๆด้วยนะคะ

 
ผิวขาว แบบสาว Rooney Mara
ถ้าคุณมีผิวขาวซีดสิ่งที่ควรระวังคืออย่าใช้ลิปสติกสีเข้มจนเกินไป คุณควรมองหาลิปสติกสีแดงก่ำ หรือ สีไอวอรี่




ผิวขาวเหลือง แบบสาว Ashley Olsen
ควรเลือกลิปสติก สีไวน์แดง หรือ สีม่วงเบอร์กันดี




ผิวสีน้ำผึ้ง อย่างสาว Camilla Belle
ควรเลือกลิปสติก สีมะฮอกกานี จะเข้ากับสีผิวสีแทนมากที่สุด สีที่คุณควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่งคือสีชมพู



ผิวสีเข้ม อย่างสาว Megan fox
ควรเลือกลิปสติกเฉดเข้มๆ อย่าง สีน้ำตาลเข้ม สีม่วงเข้ม สีพลัม สีลูกเกด สีช็อกโกแลต หรือ สีแบล็คเบอร์รี่

          เสน่ห์อีกอย่างที่ชายใด สบตาจะเหมือนถูกต้องมนต์ให้หลงใหลในความงามของเธอ คือ การแต่งดวงตาแบบสโมกกี้อายที่จะทำให้ดวงตาของคุณดูโดนเด่นในยามค่ำคืนของวัน ฮาโลวีนมากๆเลยค่ะ


ไอเดีย แต่งผี ตระเวนราตรี รับ ฮาโลวีน ในต่างประเทศ

       ใครยังนึกไม่ออก ว่าจะแต่งตัวยังไงออกจากบ้าน ไปปาร์ตี้กับเพื่อน ในคืนฮาโลวีน แบบนี้เรามีตัวอย่างการแต่งตัว สไตล์ฮาโลวี แบบเก๋ๆ มาฝากสาวๆ กันจ้า ใครชอบแบบไหน ก็จัดไปเต็มที่อย่าได้แคร์ใคร








วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

รวมสูตรพอกหน้าสำหรับคนที่เป็นสิวโดยเฉพาะ

          การพอกหน้าบางสูตรที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมีคุณสมบัติในการช่วย รักษาสารพัดปัญหาสิวบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งในวันนี้จะขอพาไปรู้จักกับสูตรพอกหน้า สำหรับคนที่เป็นสิวโดยเฉพาะ ดังต่อไปนี้


            1. สูตรกล้วยหอม+น้ำมะนาว เป็น สูตรที่ช่วยลดความมันของผิว ไม่เหมาะกับคนที่ผิวแห้ง เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น นำกล้วยหอม 1 ลูก น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ปั่นผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            2. สูตรแตงกว่า+ไข่ขาว ช่วย ลดความมันส่วนเกินและกระชับรูขุมขน นำแตงกว่า 1 ผล ไข่ขาว 1 ฟอง และนาว 1 เสี้ยว ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 20นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            3. สูตรดินสอพอง+ขมิ้นชัน ช่วย บรรเทาอาการอักเสบของสิวและบำรุงผิว นำดินสอพอง 2-3 เม็ด ขมิ้นผง 2 ช้อนชา และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            4. สูตรมะขามเปียก+นมสด ช่วย ลดสิวอักเสบ สิวอุดตัน และสิวเสี้ยน นำเนื้อมะขามเปียกที่แยกเมล็ด เปลือก และกากออกแล้วประมาณ ½ ถ้วย ผสมกับนมสด 1/3 ถ้วย ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

           5. สูตรมะเขือเทศ+น้ำมะนาว ช่วย ป้องกันสิวและกระชับรูขุมขน นำมะเขือเทศไปปั่นหรือสับให้ละเอียดประมาณ ¾ ถ้วย ผสมกับน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ หรืออาจเติมน้ำเปล่าลงไปอีกเล็กน้อยเพื่อให้น้ำมะนาวเจือจางลง ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            6. สูตรข้าวโอ๊ต ช่วยในการป้องกันสิวและสมานแผล นำข้าวโอ๊ตประมาณ 1 กำมือ ผสมกับน้ำดื่มจนนิ่ม แล้วนำมาขัดวนเบาๆให้ทั่วใบหน้าเป็นประจำทุกเช้าเย็น

            7. สูตรไข่แดง ช่วย ในการกำจัดสิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวขึ้นบนใบหน้า นำไข่แดงตีให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ไปทำการพอกหน้าประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

            8. สูตรโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ช่วยในการต่อต้านสิวผด นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติมาทาลงบนใบหน้า ทำการนวดเบาๆให้ทั่วใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แหวนอาหารไซส์จิ๋ว ไอเทมน่ารักที่สาว ๆ ต้องเลิฟ

          ถึงแม้ว่าการเพ้นท์เล็บ หรือเสื้อผ้าลายอาหารและขนมจะมีออกมาให้สาว ๆ ได้กรี๊ดกันแล้ว แต่ไอเทมที่จะทำให้คุณได้กรี๊ดยิ่งไปกว่านั้นคงหนีไม่พ้น "แหวนอาหารไซส์จิ๋ว" เครื่องประดับสุดน่ารักที่ผู้หญิงคนไหนเห็นเป็นต้องเลิฟ ซึ่งการปั้นดินให้เป็นรูปอาหารและเบเกอรี่แบบนี้เรียกว่าเป็นแนว Sweet Deco ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมู่สาว ๆ ที่หลงใหลในของกะจุ๋มกะจิ๋มทั้งหลาย

          สำหรับแหวนอาหารไซส์จิ๋วนี้ ถูกทำมาจากดินญี่ปุ่นปั้นให้เป็นรูปทรงเหมือนอาหาร แล้วตกแต่งด้วยสีสันให้เกิดความน่ารักสมจริงมากขึ้น จากนั้นก็นำมาติดไว้บนแหวนเงินธรรมดา ๆ เพียงเท่านี้ก็ช่วยเนรมิตให้แหวนเรียบ ๆ ดูน่าใส่ขึ้นเป็นกองแล้ว

          เอ้า … สาว ๆ คนไหนชอบความน่ารักฟรุ้งฟริ้ง บอกเลยพลาดไม่ได้ที่จะจับจองเป็นเจ้าของแหวนอาหารไซส์จิ๋วเหล่านี้นะจ๊ะ แต่ถ้าหากคุณมีฝีมือด้านการทำงาน DIY สักหน่อยก็อาจจะลองทำใส่เองได้นะ​จ๊ะ