ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่นี้ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) แนะนำนักเดินทางควร
พกยาที่จำเป็น เช่น ยารักษาโรคประจำตัว โรคเรื้อรัง
ยาจำเป็นพื้นฐานสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน โดยสำรองให้เท่ากับวันเดินทาง
หรือเพิ่มอีก 3-5 วัน และขณะขับรถควรเลี่ยงยากลุ่มที่กินแล้วทำให้ง่วง
ภญ.วนิชา ใจสำราญ รักษาการผู้อำนวยการ อภ. เปิดเผยว่า
การเตรียมยาในระหว่างเดินทาง ไม่ว่าจะเดินทางในประเทศหรือต่างประเทศ
สำคัญที่สุดอันดับแรกคือการเตรียมยาในส่วนของผู้สูงอายุ
ที่ส่วนใหญ่จะมีโรคเรื้อรังหรือโรคประจำตัว
ซึ่งยาของผู้สูงอายุจะมียาที่ต้องกินเป็นประจำ
ต้องเตรียมยาในปริมาณเท่ากับวันที่เดินทาง หรือสำรองเพิ่ม 3-5 วัน
และควรจะติดชื่อยาไปด้วย เพราะหากยาตกหล่น สูญหายจะได้สามารถซื้อยาตัวเดิม
หรือเข้าโรงพยาบาลแจ้งแพทย์ได้ว่าเดิมใช้ยาอะไร
ภญ.วนิชากล่าวว่า ส่วนยารายการอื่นๆ
จะเป็นยาพื้นฐานสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน อาทิ พาราเซตามอลแก้ไข้
ทั้งชนิดเม็ดและน้ำเชื่อม ยาแก้แพ้ ซึ่งสามารถลดน้ำมูกและใช้แก้คันได้ด้วย
ยาลดกรดชนิดน้ำ ซึ่งออกฤทธิ์ได้เร็วกว่าชนิดเม็ด ผงเกลือแร่
ผงถ่านกรณีท้องเสีย ยาแก้เมารถ ยาแก้ปวดเมื่อย และอุปกรณ์ทำแผล
"กรณีต้องขับรถเอง หากมีการใช้ยาในระหว่างนั้น
ต้องศึกษาก่อนว่ายาที่จะกินมีตัวใดที่จะออกฤทธิ์ทำให้มีอาการง่วงนอน
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเภทยาลดน้ำมูก ยาแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
หรือยาในกลุ่มแก้ปวดไมเกรน ยาคลายกังวลบางชนิด ยากลุ่มนี้จะทำให้ง่วงนอน
เป็นผลให้ความสามารถในการตัดสินใจช้าลง
หากกินแล้วขับรถอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ในกรณีไม่สามารถเลี่ยงได้
ควรจอดรถนอนพักจนหายง่วง แล้วจึงขับต่อไป" ภญ.วนิชากล่าว และว่า
ในช่วงดังกล่าวอาจจะมีโรคที่เกิดขึ้นบ่อย ได้แก่ ไข้หวัด
เนื่องจากสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน พักผ่อนน้อย
รวมถึงอยู่ในที่ที่มีคนหนาแน่น ทำให้มีโอกาสติดเชื้อทางเดินหายใจได้ง่าย
และอีกโรคคือท้องเสีย
ต้องเตรียมยาและผงน้ำตาลเกลือแร่สำรองเพิ่มสำหรับหลายคน
ส่วนผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ภญ.วนิชากล่าวว่า
โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหารกเกาะต่ำ ในการเดินทางที่กระทบกระเทือนต้องระวังมาก
หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยง และถ้าหากมีอาการปวดหรือมีไข้ฉับพลัน
ให้เลือกใช้เฉพาะยาพาราเซตามอลเท่านั้น หรือหากมีน้ำมูก
สามารถใช้คลอเฟนนิรามีนได้ แต่ที่สำคัญที่สุด
ควรมีเบอร์โทรศัพท์ของแพทย์หรือพยาบาลที่ฝากครรภ์ไปด้วย
เพื่อหากมีปัญหาจะได้โทรปรึกษา
หรือหากมีเหตุสุดวิสัยให้เข้าพบแพทย์ที่สถานพยาบาลในพื้นที่นั้นๆ ทันที
นอกจากนี้ยังมีโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการเดินทางคือ
โรคกระเพาะอาหาร เนื่องจากกินอาหารไม่ตรงเวลาและพักผ่อนน้อย
อีกโรคที่จะพบมากสำหรับผู้หญิงคือ
โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากระหว่างการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่
อาจไม่สะดวกในการเข้าห้องน้ำ ทำให้ต้องกลั้นปัสสาวะ และสุดท้าย
การไปเที่ยวป่าหรือน้ำตกต้องระวังในเรื่องของไข้เลือดออกหรือมาลาเรีย
ถ้ามีไข้ควรรีบพบแพทย์ทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น