วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560

มัดใจสามีอย่างไร ให้ดิ้นไม่หลุด


มัดใจสามีอย่างไร ให้ดิ้นไม่หลุด


เมื่อแต่งงาน ได้สักพัก ความหวาน ความโรแมนติกที่เคยมี ก็อาจจืดจางหายไปได้บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของสามี-ภรรยาที่ต้องหมั่นเติมความรัก ความเอาใจใส่ให้แก่กัน โดยเฉพาะคุณภรรยาที่อาจต้องเพิ่มต้องเติมมากกว่าที่มีอยู่อีกสักนิด เพื่อให้คุณสามีไม่วอกแวก ไม่ออกนอกลู่นอกทางมากจนเกินไป เราต้องมีวิธีเด็ด ๆ ไว้มัดใจคุณผู้ชายค่ะ
Happy Wedding.Life มี 5 เคล็ดลับที่จะทำให้คุณสามีกลับมาตายรังอยู่ในสายตาของคุณมาฝากกันค่ะ รับรองว่าดิ้นไม่หลุดแน่นอนไม่เชื่อต้องลองทำดูนะคะ

1. อย่าหยุดสวย
เรื่องสำคัญอันดับหนึ่งของคุณผู้หญิง แม้จะมีสามีแล้วก็ตาม จงอย่าหยุดสวย อย่าปล่อยตัวปล่อยใจ ถือว่าดิฉันมีผัวแล้ว จะทำอะไรก็ได้ จะกิน จะปล่อยตัวยังไงก็ได้ ไม่ได้เด็ดขาดนะคะคุณภรรยาทั้งหลาย เดี๋ยวนี้ผู้หญิงต้องสวย ต้องดูดีตลอดเวลาค่ะ จะปล่อยตัวเป็นแม่บ้าน ทำงานงุด ๆ อยู่อย่างเดียวไม่ได้ อาจไม่ต้องสวย แค่ไม่ทำให้ดูเยินกว่าตอนก่อนแต่งงานก็เพียงพอแล้ว ไม่ใช่แต่งงานกันไปสักพัก คุณสามีเริ่มจำหน้าแฟนไม่ได้ เห็นแต่ยัยป้าตลอดเวลา แล้วแบบนี้ผู้ชายจะไม่วอกแวกได้อย่างไร
วิธีทำสวยไม่จำเป็นต้องทุ่มทุนอะไรมาก แค่ดูแลตัวเองให้เหมือนก่อนแต่งงานเป็นดีที่สุด เคยแต่งหน้า ดูแลผิวหน้าอย่างไร ก็ทำเหมือนเดิม เคยออกกำลังกายแบบไหน อย่างไร ก็คงเส้นคงวาเอาไว้ คุณผู้หญิงไม่จำเป็นต้องดูดีขึ้นก็ได้ ขอแค่ไม่แย่ลง และถ้าจะให้ดี สวยสะพรั่งขึ้นอีกนิด ก็ทำให้คุณผู้ชายกระชุ่มกระชวยขึ้นแน่นอน

2. แม่บ้านแม่เรือน ยังใช้ได้ดีเสมอ
ผู้หญิงกับงานบ้านงานเรือนเป็นของคู่กัน ทั้งความคาดหวังจากครอบครัว และสังคมภายนอก แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ คำว่าแม่บ้านแม่เรือนสมัยนี้ ไม่เหมือนแต่ก่อน ไม่จำเป็นต้องทำเองได้ทุกอย่าง แค่จัดการ ดูแลให้เรื่องต่าง ๆ ภายในบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นแค่นั้นก็เพอร์เฟคพอแล้ว
คุณผู้หญิงไม่จำเป็นต้องทำอาหารเองทุกมื้อ แต่ต้องทำบ้างเพื่อให้ต่อมเสน่ห์ปลายจวักทำงาน ไม่จำเป็นต้องทำงานบ้านแบบเอาเป็นเอาตาย แต่แค่ดูแลบ้านให้สะอาดเรียบร้อย อย่างที่ควรจะเป็นก็พอ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ทำให้ผู้หญิงที่ทำงานนอกบ้านดูดีในสายตาคุณสามีอย่างมาก เรียกว่างานบ้านงานเรือนก็ไม่บกพร่อง แถมยังเป็นเวกกิ้งวูแมนที่น่าค้นหาอีกต่างหาก แล้วแบบนี้คุณผู้ชายจะปล่อยให้คุณคลาดสายตาไปได้อย่างไร

3. ไม่งี่เง่า และปล่อยบางเรื่องให้ผ่านไปบ้าง 
เหตุผลอันดับหนึ่งที่คุณผู้ชายจะรำคาญใจมากที่สุดก็คือ ความงี่เง่าและไม่มีเหตุผลของคุณผู้หญิง เพราะฉะนั้นเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ถ้าลดระดับลงไปได้บ้างก็คงจะดีไม่น้อย หากมีอะไรที่กำลังเคลือบแคลงสงสัยก็ค่อย ๆ ไต่ถามหารายละเอียดไปเรื่อย ๆ ไม่จำเป็นต้องเค้นเอาคำตอบเดี๋ยวนั้น ยิ่งถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ควรปล่อยผ่านไปบ้าง ปิดตาสักข้างทำเป็นมองไม่เห็นจะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่นขึ้นไม่น้อย

4. ให้พื้นที่ส่วนตัวกับเขาบ้าง
ไม่ว่าใครก็อยากมีเวลาและพื้นที่ส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น แม้จะแต่งงานไปแล้วก็ตาม ทั้งคุณและสามียังต้องมีเพื่อน มีสังคมของตัวเอง เพราะฉะนั้นปล่อยให้แต่ละคนมีเวลากับเรื่องของตัวเองบ้างก็จะทำให้ชีวิตคู่ จะราบรื่นและลงตัวขึ้น หรือบางทีคุณสามีอาจหมกมุ่นกับสิ่งที่ชอบ เช่น กีฬา รถยนต์ ฯลฯ ก็อาจต้องปล่อยไปบ้าง ให้เขาได้มีกิจกรรมหรืองานอดิเรกในแบบที่ต้องการ
สามี-ภรรยา ไม่จำเป็นต้องตัวติดกันเสมอไป ระยะห่างและพื้นที่ส่วนตัวในแบบที่พอดี ยังใช้ได้เสมอ การพูดคุยด้วยความเข้าใจเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตคู่ อย่าลืมว่าทิฐิไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้น

5. เรื่องบนเตียงอย่าได้บกพร่อง
เรื่องอย่าว่าเป็นสีสันอย่างหนึ่งในชีวิตคู่ แม้ไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่เป็นสามี-ภรรยากันแล้ว คุณภรรยาย่อมต้องอยากให้สามีรักและซื่อสัตย์กับคุณเพียงคนเดียว ไม่มีที่สอง ที่สาม ให้ได้ชอกช้ำใจ ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ภรรยาต้องถูกยกเป็นคุณนายที่หนึ่งก็เพราะเรื่อง เซ็กส์ ดังนั้นใส่ใจกับเรื่องนี้บ้างก็ดี อย่าลืมว่าผู้ชายมีความต้องการทางเพศสูงกว่าผู้หญิงหลายเท่า ในคืนที่คุณอยากนอนหันหลัง แต่คุณผู้ชายอาจไม่คิดแบบนั้นก็ได้ สนองตอบอย่างกระตือรือร้นแบบเกินคาดหวังบ้าง สร้างความแปลกใหม่กับเรื่องบนเตียงบ้าง สิ่งเหล่านี้เป็นสีสันที่ทำให้คุณผู้ชายตื่นเต้นและแปลกใจกับการร่วมรักแต่ ละครั้ง

5 กลวิธีเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งทั่วไปที่จะทำให้คุณสามีไม่ออกนอกลู่นอกทาง แต่บางข้อก็อาจไม่เหมาะกับบางคน เพราะฉะนั้นสร้างกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมของคุณขึ้นมา แล้วเดินหน้าพิชิตใจสามีให้อยู่หมัดกันเถอะค่ะ

วิธีแต่งหน้าปรับลุค สวยใสเบาๆ ในวันสบายๆ


วิธีแต่งหน้าปรับลุค สวยใสเบาๆ ในวันสบายๆ

วิธีแต่งหน้าปรับลุค สวยใสเบาๆ ในวันสบายๆ

บางครั้งในวันสบายๆ อย่างเช่นวันที่อยู่บ้านเฉยๆ ไปเดินช้อปปิ้งกับเพื่อนๆ หรือไปมหาลัย ก็ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าจัดเพื่อเสริมความมั่นใจเสมอไป เพราะแค่แต่งหน้าแบบบางเบา ก็จะทำให้คุณดูดีไม่น้อย แถมยังได้ลุคแบบเป็นธรรมชาติอีกด้วย แต่เอ๊ะแล้วเราจะแต่งหน้าแบบบางเบาอย่างไรดี ให้ยังคงความมั่นใจไว้อย่างเต็มที่ เรามีขั้นตอนง่ายๆ มาแนะนำกัน

1.ทาครีมกันแดดเป็นอันดับแรก เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดและเป็นการรองพื้นไม่ให้สารเคมีในเครื่องสำอางสัมผัสกับผิวหน้าโดยตรง

2.เลือกลงรองพื้นแบบสูตรน้ำที่มีสีเข้ากับสีผิวได้ดี โดยทาแบบบางเบาเพื่อให้ผิวดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่หนาเตอะเกินไป

3.ใช้คอนซีลเลอร์โทนสีเขียวหรือสีเหลืองในการปกปิดริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้าไม่ว่าจะเป็นจุดด่างดำ รอยคล้ำใต้ตา หรือรอยสิว โดยใช้แต้มเฉพาะจุดเท่านั้น

4.เติมสีสันให้กับพวงแก้มด้วยบลัชออนชนิดครีม เพราะจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่ต้องเลือกที่เป็นสีอ่อนๆ ด้วย เช่น สีชมพูหรือสีส้มพีช โดยเน้นให้ทาบลัชออนอย่างบางเบาที่สุด เพื่อให้ได้ลุคที่สวยใสในวันสบายๆ นั่นเอง

5.เติมความโดดเด่นและความมีเสน่ห์ให้กับดวงตาอย่างมีคุณภาพ โดยเลือกใช้อายแชโดว์แบบสีน้ำตาลหรือสีชมพู เพราะจะทำให้ดูเป็นธรรมชาติและดูใสๆ มากกว่าสีอื่น

6.เติมความเด่นชัดให้กับดวงตา โดยการกรีดตาด้วยอายไลเนอร์ ซึ่งก็จะทำให้ดวงตาของคุณดูคมสวย และดูลงตัวสุดๆ แถมการดึงความโดดเด่นไปที่ดวงตา ยังทำให้ได้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และดูเป็นการแต่งหน้าที่ใสๆ เหมาะกับวันสบายๆ ที่สุด

7.ทาลิปสติกสีนู้ดหรือโทนสีชมพูอ่อน ซึ่งเป็นสีที่ไม่จัดจ้านจนเกินไป ทำให้คุณได้ลุคที่ดูหวานๆ แถมมองดูน่ารัก และริมฝีปากดูอวบอิ่ม จนแทบสะกดทุกสายตาให้จับจ้องมาที่คุณเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้อาจจะเติมความมันวาวด้วยลิปกลอสสักหน่อยก็ได้

ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ กับการแต่งหน้าเพื่อให้ได้ลุคใสๆ ในวันสบายๆ ที่ไม่จำเป็นต้องแต่งให้เข้มจัดเหมือนปกติ ก็สามารถเติมเต็มความน่ารักและความโดดเด่นให้กับคุณได้อย่างมั่นใจ แถมการแต่งหน้าแบบนี้ ก็สามารถทำให้คุณดูอ่อนเยาว์ลงได้อีกด้วย สาวๆ คนไหนที่อยากลองเปลี่ยนลุคของตัวเองดูบ้าง ก็ลองมาแต่งหน้าตามขั้นตอนเหล่านี้กันดู โดยเน้นการลงเครื่องสำอางอย่างบางเบาและเลือกสีสันที่เป็นธรรมชาติเข้าไว้ ก็จะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจแน่นอน

อวดลุคสวยท้าลมหนาว กับไอเดียเลือกผ้าพันคอแบบไม่ให้ตกเทรนด์


อวดลุคสวยท้าลมหนาว กับไอเดียเลือกผ้าพันคอแบบไม่ให้ตกเทรนด์

อวดลุคสวยท้าลมหนาว กับไอเดียเลือกผ้าพันคอแบบไม่ให้ตกเทรนด์

เสื้อผ้าหน้าหนาวก็เป็นอะไรที่จะช่วยให้สาวๆ ดูดีได้ ไม่ว่าในยุคสมัยไหนกับแฟชั่นหน้าหนาวที่ช่วยทำให้ผู้หญิงดู ดีและหรูหรามากขึ้น ก็คงหนีไม่พ้นผ้าพันคอที่เหมือนจะเป็นออพชั่นเสริมติดตัวที่สำคัญและพลาดไม่ ได้ ทั้งช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังช่วยทำให้กลายเป็นสาวเก๋นำเทรนด์ได้แบบที่ต้องการ แต่การเลือกผ้าพันคอให้เหมาะสมกับการใช้งาน และดูสวยไปพร้อมๆ กันนั้น เรามีไอเดียดีๆ มาฝากกันค่ะ
การเลือกเนื้อผ้าให้สบายก่อนเป็นอันดับแรก
ก่อนที่จะไปใส่ใจกับความเป็นแฟชั่นนำ เทรนด์ซะอย่างเดียว จะเลือกผ้าพันคอทั้งทีก็ต้องเลือกให้ใช้งานได้คุ้มค่าสักหน่อย สิ่งที่สาวๆ ควรใส่ใจก็คือการเลือกผ้าพันคอที่เนื้อผ้ามีความนุ่ม เน้นพันแล้วรู้สึกสบายไม่อึดอัด ส่วนใหญ่ทำมาจากผ้าไหม ผ้าแพร หรือผ้าแคชเมียร์
หากได้เป็นผ้าถักที่มีความนุ่มอยู่ในตัวอยู่แล้ว ยิ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มเสน่ห์และสวมใส่ได้อย่างสบายมากขึ้น นอกจากนี้ควรเลือกผ้าพันคอที่มีความยาวสักหน่อย เพื่อช่วยให้สามารถคลุมทั้งพื้นที่คอได้อย่างมิดชิดหากอากาศหนาวมากๆ แต่ก็ไม่ควรเลือกแบบที่หนาเกินไปสำหรับสาวคอสั้น เพราะนั่นจะทำให้ดูเทอะทะขึ้นมาเลยทีเดียว
การเลือกผ้าพันคอให้เหมาะกับการแต่งกาย
ผ้าพันคอสำหรับสาวนำแฟชั่น รับรองว่าผืนเดียวคงไม่พอ ดังนั้นเมื่อซื้อมาแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้มค่ากับทุกชุดเสื้อผ้าที่เลือกใส่มาก ที่สุด ใครอยากเป็นเจ้าแม่แฟชั่นหน้าหนาวสุดเก๋ล่ะก็ อันดับแรกเลยคือการเลือกผ้าพันคอที่เข้ากับชุด หากเป็นผ้าพันคอสำหรับออกงานในช่วงกลางคืน เน้นเป็นผ้าพันคอแบบปักหมุด หรือมีเลื่อมติด ซึ่งจะช่วยสะท้อนแสงไฟในยามค่ำคืน ให้ดูโดดเด่นมากขึ้น
ส่วนลวดลายของผ้า การเลือกให้เข้ากับชุดที่สวมใส่ จำเอาไว้ว่าเลือกโทนผ้าพันคอให้เป็นโทนเดียวกันกับสีชุด แต่ไม่ต้องเป็นสีเดียวกัน หากชุดเรียบๆ ก็เลือกผ้าพันคอโทนสีเหมือนกันแต่มีลวดลายเยอะหน่อย จะช่วยสร้างสีสันให้การแต่งกายดูสวยทันสมัยขึ้นมาในทันที
ข้อควรระวังอย่างหนึ่งสำหรับสาวๆ ที่มีช่วงลำตัวเล็กเตี้ย ไม่ควรเลือกผ้าพันคอที่มีความยาวมากไป และควรเป็นผ้าพันคอที่มีความกว้างไม่มากนัก แต่หากเป็นสาวตัวสูงใหญ่ ให้เลือกผ้าพันคอแบบยาวได้ แต่ระวังเรื่องของลวดลายไม่ให้เป็นลายใหญ่ แต่เน้นเป็นลายแคบๆ แบบยาวลงมาตามลำตัว ช่วยพรางสายตาให้ดูสูงโปร่งดูดีได้อย่างที่ต้องการเลยล่ะค่ะ

ลดความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด กับข้อปฏิบัติง่ายๆ ที่คุณแม่ทำได้ !



ลดความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด กับข้อปฏิบัติง่ายๆ ที่คุณแม่ทำได้ !

ลดความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด กับข้อปฏิบัติง่ายๆ ที่คุณแม่ทำได้ !

เมื่อตั้งครรภ์ทั้งที ร่างกายแม่ท้องก็มักจะเจอความเสี่ยงต่างๆ หลายอย่าง ไหนจะอาการคนท้องที่ มักเข้ามาให้เจอบ่อยๆ แต่อะไรก็อาจจะไม่น่ากังวลเท่าโอกาสเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด คุณแม่ท่านใดที่กำลังกังวลใจกับปัญหานี้อยู่ เรามีวิธีดูแลสุขภาพของแม่ท้องเพื่อลดความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดมาฝากกันแล้วดังนี้ค่ะ
1.กินอาหารบ่อยๆ
เนื่องจากนักวิจัยได้ค้นพบว่า การกินอาหารในคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ เพียงแค่ต้องกินให้ครบแค่ 5 หมู่เท่านั้น แต่การแบ่งอาหารไว้กินเป็นมื้อย่อยเล็กๆ ประมาณ 5 มื้อต่อวันก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้เช่นเดียวกัน
2.เข้าห้องน้ำทุกครั้งที่ปวดปัสสาวะ
เพราะการอั้นปัสสาวะจะส่งผลเสียทำให้เกิดการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะได้ ง่าย ยิ่งกับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วยิ่งต้องระวังอย่างมากทีเดียว ดังนั้น จึงควรรีบเข้าห้องน้ำถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่มีอาการปวด ไม่ควรอั้นไว้เด็ดขาด ไม่เช่นน้ันแล้ว ก็อาจจะก่อให้เกิดความระคายเคืองถึงมดลูกและก่อให้เกิดมดลูกบีบตัว ร่วมกับกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ค่ะ
3.ดูแลสุขภาพช่องปาก
รู้มั้ยคะว่าโรคเหงือกอักเสบเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คลอดก่อนกำหนดได้ เพราะฉะนั้น คุณแม่จึงควรดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้ดี ควรแปรงฟันให้สะอาด ใช้ไหมขัดฟันและควรพบทันตแพทย์อย่างน้อย 1 ครั้งในระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะหากเกิดปัญหาสุขภาพภายในช่องปากก็อาจนำมาสู่ปัจจัยกระตุ้นทำให้คลอด ก่อนกำหนดได้นั่นเอง
4.กินวิตามินบำรุงครรภ์
การกินวิตามินในระหว่างตั้งครรภ์จะส่งผลทำให้สุขภาพของคุณแม่และทารกใน ครรภ์มีความแข็งแรงยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสทำให้คุณสามารถอุ้มท้องได้ยาวนานจนครบถึงวันกำหนดคลอดได้ แม้ว่าการกินวิตามินจะไม่สามารถทดแทนการกินอาหารแบบครบ 5 หมู่ได้ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ทำให้คุณแม่ได้รับความสบายใจว่าสุขภาพของคุณและลูกจะได้รับ สารอาหารครบถ้วนแน่นอน โดยสามารถรับวิตามินเสริมสำหรับคนท้องจากคุณหมอที่ฝากครรภ์ได้เลยค่ะ


5.ดื่มน้ำให้มากเพียงพอ
แม้ว่าการดื่มน้ำมากๆ จะทำให้ปวดปัสสาวะบ่อย ซึ่งเป็นอาการคนท้องที่นับว่าปกติ แต่ร่างกายคุณแม่ก็ไม่ควรขาดน้ำอย่างเด็ดขาด โดยควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว เพื่อคงความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกาย และยังช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณสามารถอุ้มท้องได้นานจนถึงวันคลอดอีกด้วย เพราะหากคุณแม่ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำล่ะก็ อาจเสี่ยงต่ออาการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนดก็เป็นได้
6.ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้มากเกินไป
นอกจากอาการคนท้องที่ต้องเฝ้าระวังหลากหลายอาการเพื่อลดโอกาสคลอดก่อน กำหนดแล้ว ในเรื่องของน้ำหนักตัว คุณแม่ก็จะต้องเฝ้าระวังด้วยเช่นเดียวกัน เพราะการมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มสูงมากเกินไป อาจยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และเกิดอาการครรภ์เป็นพิษด้วยได้ โดยทั้ง 2 โรคนี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณแม่คลอดก่อนกำหนดได้นั่นเอง
ขณะเดียวกัน หากมองในด้านตรงกันข้าม ในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่พบว่ามีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ก็ยังสามารถเพิ่มโอกาสทำให้เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดด้วยได้เช่นกัน และยังส่งผลทำให้ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมีน้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่าปกติอีกด้วย เพราะฉะนั้นการดูแลควบคุมน้ำหนัก โดยให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งเฉลี่ยแล้วก็ควรอยู่ที่ 11.3-15.8 กิโลกรัม หากสามารถควบคุมได้เช่นนี้ คุณแม่ก็จะมีโอกาสคลอดทารกตรงตามกำหนด ด้วยน้ำหนักตัวที่เป็นปกติได้ค่อนข้างสูงแน่นอน
หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนที่มีโอกาสเสี่ยง คลอดก่อนกำหนด สามารถนำไปปฏิบัติเพื่อรับมือป้องกันโอกาสเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้ไม่ มากก็น้อยนะคะ และเพื่อจะให้ได้ก็อย่าลืมพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อให้สุขภาพของคุณและทารกอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์ตลอด ก็จะทำให้คุณแม่สบายใจ หายห่วงกับอาการคนท้องดังกล่าวได้มากขึ้นค่ะ

รูปร่างดูดี แถมมีความสุข เอ๊ะ…เขาทำยังไงกันนะ?


รูปร่างดูดี แถมมีความสุข เอ๊ะ…เขาทำยังไงกันนะ?

รูปร่างดูดี แถมมีความสุข เอ๊ะ…เขาทำยังไงกันนะ?

การลดความอ้วนเป็นเรื่องปวดใจของสาวๆ หนุ่มๆ ผู้รักการกินมาโดยตลอด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเชื่อผิดๆ ที่ทำให้การลดความอ้วนเป็นเหมือนสมรภูมิรบที่เราต้องฝ่าฟันด้วยความยากลำบาก ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงเราสามารถมีรูปร่างที่ดูดีแถมมีความสุขได้ วันนี้ชาเดลี่เมท ชานวัตกรรมใหม่สำหรับคนชอบดื่มชา จะมาแก้ไขความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการลดความอ้วน ซึ่งจะทำให้คุณมีกำลังใจและมีความสุขกับการลดความอ้วนเพื่อร่างกายที่ดูดี
เศร้าจังเขาว่ากันว่าลดความอ้วนต้องอดอาหาร
อย่าเศร้าไปเลย...เดลี่เมทว่าคุณไม่ ควรอดเพราะร่างกายคนเราต้องการอาหารเพื่อให้มีพลังงานไปทำกิจกรรมในชีวิต ประจำวัน คุณควรควบคุมปริมาณแคลอรีให้เหมาะสมกับร่างกายแทน ด้วยการลดปริมาณแป้ง เลือกกินโปรตีนชนิดไม่มีไขมันเช่น เนื้อปลาหรืออกไก่ที่ปรุงด้วยวิธีการต้ม นึ่ง หรือย่างแทนการใช้น้ำมัน เป็นต้น การอดอาหารอาจนำไปสู่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเพราะเมื่อร่างกายขาดพลังงาน จะโหยอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง ถ้าคุณกินโดยไม่ยับยั้งชั่งใจก็ยิ่งจะทำให้อ้วน

เบื่ออ่ะ...เขาว่ากันว่าลดความอ้วนต้องกินแต่ผักผลไม้
ยิ้มได้แล้ว…เดลี่เมทว่าคุณควรกิน อาหารประเภทอื่นนอกเหนือจากผักผลไม้ด้วยนะ ผักผลไม้นั้นไม่มีไขมันก็จริง แต่ถ้าคุณได้รับสารอาหารชนิดอื่นๆ ไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ ทางที่ดีควรกินให้ครบหมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม

อยากร้องไห้…เขาว่ากันว่าต้องออกกำลังกายหนักๆ จึงจะผอม
ไม่เอาไม่ร้องการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักมัน ไม่ได้อยู่ที่ความหนักหน่วง แต่อยู่ที่ความสม่ำเสมอและต่อเนื่องในระยะยาว เช่น วันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ต่อเนื่องไปยาวๆ ควบคู่กับการควบคุมอาหาร ไม่กินมากเกินกว่าที่เบิร์นการหักโหมมากเกินไปอาจทำให้คุณเหน็ดเหนื่อยหรือ บาดเจ็บจนขยาดไม่อยากออกกำลังกายอีก บางคนเมื่อใช้พลังงานไปมากก็เกิดความหิวโหยและกินมากจนทำให้น้ำหนักขึ้น

เซ็งจุงเบย...เขาว่ากันว่ากินขนมทำให้อ้วนขึ้น

เลิกเซ็งเถอะนะ...เดลี่เมทว่าขนม ไม่ใช่ปัญหา ชนิดของขนมต่างหากคือปัญหา หากคุณเลือกขนมที่ไขมันและน้ำตาลต่ำขนมกลับจะทำให้คุณกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า เช่น ถั่วชนิดต่างๆ ผลไม้อบแห้ง เป็นต้น

เดลี่เมทไม่สนับสนุนให้คุณต้องทนหิว ทนอด หรือต้องห้ามใจตัวเองจนหมดความสุข แต่อยากให้คุณมีวิธีการดูแลรูปร่างได้อย่างสวยงามด้วยความฉลาดเลือกตามแบบ ฉบับคนรุ่นใหม่
ใหม่ ชาเดลี่เมท…ทุกวันเพื่อตัวเอง ชาเขียวสูตรไม่มีน้ำตาล รสชาติดื่มง่าย ที่ดีกับคุณด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากถั่วขาว แอลคาร์นิทีน สารสกัดจากผลมะระขี้นก และไฟเบอร์

5 นิสัยเสียที่ควรหยุดทำก่อนเกิดริ้วรอยก่อนวัย


5 นิสัยเสียที่ควรหยุดทำก่อนเกิดริ้วรอยก่อนวัย

5 นิสัยเสียที่ควรหยุดทำก่อนเกิดริ้วรอยก่อนวัย

     “หน้าดูเด็กจัง!” คงเป็นคำทักทายที่สาวๆ ทุกคนอยากได้ยิน แต่คำทักทายแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ซะแล้วสิ ก็เพราะไลฟ์สไตล์ของสาวยุคใหม่อย่างเราที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลา นาน มีเวลาพักผ่อนน้อย แถมยังต้องผจญกับอากาศร้อน แสงแดดและมลภาวะ ซึ่งหลีกเลี่ยงได้ยาก ทำให้ผิวเสียและเกิดริ้วรอยก่อนวัย แม้ว่าจะอยากบำรุงผิวให้ริ้วรอยฟื้นตัวเองได้ แต่เราก็ไม่ควรละเลยเรื่องการดูแลผิวพรรณให้มีสุขภาพดี ไร้ริ้วรอย เพราะฉะนั้น ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เราควรลดละเลิกพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ดังต่อไปนี้โดยด่วน!

     1. แค่นอนไม่พอก็มีริ้วรอยแล้วจ้า
     ไม่ว่าจะทำงานหรือสังสรรค์จนดึกจนพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็สามารถทำให้ผิวหน้าของเราโทรม เกิดริ้วรอย แถมร่างกายอ่อนเพลียได้เช่นกัน ทางที่ดีควรนอนอย่างน้อยวันละ 7 – 8 ชั่วโมง เพราะการพักผ่อนที่เพียงพอนั้นจะช่วยลดการสูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิว ซึ่งจะช่วยลดปัญหาริ้วรอยลงได้ ทั้งยังช่วยทำให้ผิวพรรณของเราดูเปล่งปลั่ง สดใสขึ้นได้อีกด้วย

     2. ของหวานตัวดีทำร้ายคอลลาเจนในผิวทั้งนั้น
     รู้หรือเปล่าว่าของหวานทั้งหลาย นอกจากจะมีน้ำตาลในอาหารที่ทำให้อ้วนแล้ว ยังมีปฏิกิริยาจับตัวกัน และทำลายคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ความยืดหยุ่นของผิวลดลง และเกิดความเหี่ยวย่นตามมา เพราะฉะนั้นเราจึงควรกินของหวานในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและผิวหน้า

     3. อะไรนะแค่นอนคว่ำ ก็ทำให้เกิดริ้วรอย!?!
     ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ...ว่าการนอนคว่ำหน้าบ่อยๆ ทำให้ใบหน้าเราถูกกดทับ ส่วนการนอนตะแคงซ้ายหรือขวาก็สามารถเพิ่มริ้วรอยบริเวณแก้มและคางได้เช่นกัน ดังนั้นท่านอนที่ดีที่สุดคือนอนหงาย เพราะใบหน้าของเราจะไม่โดนกดทับและสัมผัสหมอน และยังเป็นท่านอนที่สบายที่สุดด้วย

     4. นั่งใกล้หน้าจอเกินไป ก็เสี่ยงเรื่องริ้วรอยอี้กกก...
     ตำแหน่งการนั่งหน้าจอทำให้เกิดริ้วรอยได้ อย่างไรน่ะหรอ? ก็การหรี่ตามองหน้าจอคอมพิวเตอร์ในระยะใกล้เป็นเวลานานทำให้เกิดริ้วรอย รอบดวงตา เพราะฉะนั้นควรนั่งห่างจากจอคอมพิวเตอร์ประมาณ 45 – 60 ซม. เพื่อช่วยให้คุณสามารถมองเห็นได้โดยที่ตาไม่ต้องทำงานหนัก รวมทั้งควรหาเวลาพักสายตาโดยการหลับตาหรือมองสีเขียวจากต้นไม้บ้าง เพื่อสุขภาพที่ดีของดวงตา

     5. ก็รู้นี่ว่าแสงแดดอันตราย แต่ไม่ยอมป้องกันผิว
     แสงแดดเป็นอีกตัวการที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้ เพราะยูวีเอและยูวีบีในแสงแดดจะกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระในผิวและทำให้เกิด การทำลายโครงสร้างผิวตามมาสะสมถึงขั้นสามารถทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ในอนาคต เลยด้วย ดังนั้น วิธีการง่ายๆ ก็คือต้องปกป้องผิวโดยการทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันรังสีอันตรายจากแสงแดด

     ใครที่เคยละเลยไม่ดูแลผิวของตัวเอง หรือมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายใน 5 ข้อที่ว่ามา ถ้าเช็คผิวหน้าแล้วเห็นว่ากำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต มีริ้วรอยต้องการการฟื้นบำรุงอย่างเร่งด่วน เรามีตัวช่วยมาแนะนำ ด้วยครีมบำรุงที่ให้ริ้วรอยฟื้นตัวเองได้ แถมเรียกความเด้งของผิวกลับมา ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยให้ริ้วรอยฟื้นตัวเองได้จากภายใน และบำรุงผิวหน้าอีกขั้น อย่าง L’Oreal Revitalift Dermalift ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูริ้วรอยบนผิวหน้าที่อุดมไปด้วยสารสกัด Centella Asiatica จากพืชที่นิยมใช้ในวงการแพทย์ทั้งประเทศจีนและอินเดีย ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นให้ริ้วรอยฟื้นฟูตัวเองจากภายใน ช่วยให้ผิวหน้า 8 จุดสำคัญมีความยืดหยุ่นตึงกระชับ และช่วยลบเลือนรอยเหี่ยวย่นบนผิวหน้า

     โดย เจ้า L’Oreal Revitalift Dermalift มาพร้อมกับตัวช่วยบำรุงผิวที่จะช่วยดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง

     ปกป้องในช่วงกลางวัน: L’Oreal Revitalift Dermalift Day Cream ใช้คู่กับ L’Oreal Revitalift Dermalift Essence เพื่อการกระชับผิว และลดเลือนริ้วรอยที่ 8 จุดสำคัญ ทั้งใบหน้าและลำคอ ช่วยให้ผิวเต่งตึง คืนความเอิบอิ่ม

     บำรุงลึกล้ำยามกลางคืน: L’Oreal Revitalift Night Cream ครีมเพื่อการกระชับผิว และลดเลือนริ้วรอยที่ 8 จุดสำคัญ ใช้สำหรับกลางคืนต่อจากเอสเซนส์บำรุงผิวหน้า โดยแตะเนื้อครีมลงบนใบหน้าทั้ง 5 จุดและลำคอ ค่อยๆ ใช้นิ้วมือเกลี่ยและนวดครีมให้ซึมซาบลงสู่ผิว

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2560

ส่อง! 7 สูตรหน้าใส ให้ผิวหน้าขาวอมชมพูดูเป็นธรรมชาติ


ส่อง! 7 สูตรหน้าใส ให้ผิวหน้าขาวอมชมพูดูเป็นธรรมชาติ

ส่อง! 7 สูตรหน้าใส ให้ผิวหน้าขาวอมชมพูดูเป็นธรรมชาติ

สาวๆ คนไหนก็อยากที่จะมีใบหน้าขาวใสเปล่งประกายกันทั้งนั้น ไม่อยากให้ลองเสี่ยงไปซื้อครีมที่มีอยู่ตามท้องตลาดมาใช้กัน เพราะเราก็ไม่รู้ว่าใช้แล้วจะเสี่ยงต่อการระคายเคือง หรือได้ผลตามโฆษณาชวนเชื่อรึเปล่า วันนี้เราก็เลยมีสูตรหน้าใสในแบบที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมาฝากกันด้วย หาง่าย ทำง่าย ได้ผลชัวร์ ! อย่ารอช้า เรามาเริ่มต้นกันเลยดีกว่า ..

สูตรหน้าใส พอกหน้าด้วยแอปเปิ้ล

วิธีทำ

ให้ สาวๆ ปอกเปลือกแอปเปิ้ล พร้อมกับนำเมล็ดออก จากนั้นนำแอปเปิ้ลที่ได้ไปบดให้ละเอียด โดยในขณะที่บดให้ผสมน้ำผึ้งลงไปด้วยเล็กน้อย เมื่อเข้ากันดีแล้ว ให้นำส่วนผสมที่ได้มาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที สุดท้ายให้นำนมสดเย็นๆ ล้างออก

สูตรหน้าใส พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง

วิธีทำ

เริ่ม ต้นด้วยการล้างหน้าให้สะอาด เสร็จแล้วเช็ดใบหน้าให้แห้ง จากนั้นให้ใช้ปลายนิ้วแตะนำผึ้งแล้วนำไปลูบไล้บนใบหน้าและลำคอเบาๆ ต่อมาให้นวดหน้าด้วยปลายนิ้วแบบไม่ต้องลงน้ำหนักมากประมาณ 5 นาที นวดจนรู้สีกว่าน้ำผึ้งมีความเหนียวนวดต่อไม่ได้ จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5 - 10 นาที ซึ่งในระหว่างที่รอนั้นให้นอนพัก โดยให้ศีรษะอยู่ต่ำกว่าปลายเท้า เพื่อให้เลือดไหลมาเลี้ยงที่ใบหน้าและลำคอได้ง่ายขึ้น เมื่อทิ้งไว้จนครบเวลาแล้วก็ให้นำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น ค่อยๆ เช็ดน้ำผึ้งออกให้สะอาดก็เป็นอันเสร็จ


สูตรหน้าใส พอกหน้าด้วยน้ำผึ้งและมะนาว

วิธีทำ

ผสม น้ำผึ้งในปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เข้ากับน้ำมะนาวในปริมาณ 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน แล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ โดยทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น


สูตรหน้าใส พอกหน้าด้วยไข่ขาว

วิธีทำ

เริ่ม ต้นด้วยการตอกไข่ไก่ 1 ฟอง แล้วแยกไข่ขาวและไข่แดงออกจากกัน จากนั้นก็ให้เทเฉพาะไข่ขาวลงในถ้วย แล้วใช้ส้อมตีให้ไข่ขาวขึ้นฟองพอสมควร ต่อมาให้เตรียมแปรงขนนุ่มมาจุ่มลงในไข่ขาว ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จนไข่ขาวเริ่มจับตัวแข็ง สุดท้ายให้ล้างออกด้วยน้ำเย็น


สูตรหน้าใส พอกหน้าด้วยแตงโม

วิธีทำ

ให้ สาวๆ ฝานแตงโมออกเป็นชิ้นบางๆ จากส่วนที่แดงที่สุด จากนั้นก็นำมาแปะให้ทั่วใบหน้า ต่อมาให้ใช้ผ้าขาวบางคลุมทับอีกชั้นทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น


สูตรหน้าใส พอกหน้าด้วยนมเปรี้ยว

วิธีทำ
สูตร นี้เหมาะมากสำหรับสาวๆ ที่มีผิวหน้ามัน โดยก่อนที่จะเริ่มใช้สูตรนี้ให้ล้างหน้าให้สะอาดก่อนที่จะนำเอานมเปรี้ยวที่ แช่เย็นจัดมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที หรือนานกว่านั้นก็ได้ เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วให้ใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ เช็ดออก ซึ่งจากผู้ที่เคยลองใช้สูตรนี้การันตีมาว่าได้ผลมากๆ โดยเฉพาะในหน้าร้อน เพราะจะช่วยทำให้ใบหน้าที่ซีดเซียวกลับมาเปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น


สูตรหน้าใส พอกหน้าด้วยมะเขือเทศ

วิธีทำ

ให้ สาวๆ เตรียมมะเขือเทศมาฝานเป็นชิ้นหนาๆ 1 ชิ้น จากนั้นก็นำมาถูให้ทั่วใบหน้าและลำคอเบาๆ โดยให้เน้นในบริเวณที่มีสิวเสี้ยน ซึ่งในมะเขือเทศนั้นจะมีวิตามินซีและกรด AHA ที่จะช่วยลอกเซลล์ผิวหน้าที่ตายแล้วให้หลุดออกได้ เมื่อเสร็จแล้วก็ให้ใช้สำลีชุบน้ำเย็นเช็ดมะเขือเทศออกให้สะอาด


สาวๆ ลองเลือกสูตรหน้าใสที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองมาทำกันดูนะ ถือว่าเป็นการสร้างความสวยให้เกิดขึ้นด้วยวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ ไม่เป็นอันตราย ไม่ต้องเสียเงินให้มาก ถ้าได้ยังผลยังไงแล้วก็อย่าลืมบอกต่อกันด้วยล่ะ …

วิธีดูแลผิวหน้าหนาว บอกลาความแห้งกร้าน เผยผิวสวยอวดท้าลมหนาวทุกวัน


วิธีดูแลผิวหน้าหนาว บอกลาความแห้งกร้าน เผยผิวสวยอวดท้าลมหนาวทุกวัน

วิธีดูแลผิวหน้าหนาว บอกลาความแห้งกร้าน เผยผิวสวยอวดท้าลมหนาวทุกวัน

หน้าหนาวมาเยือนแบบนี้.. ไม่มองหาวิธีดูแลผิวหน้าหนาวมาใช้คงไม่ได้แล้วล่ะจริงมั้ยสาวๆ เพราะผิวของเราง่ายต่อความแห้งกร้าน เนื่องด้วยอากาศที่แห้งและเย็นล้วนเป็นตัวทำลายความชุ่มชื้นของผิวให้หมดไป อย่างง่ายดาย วันนี้เราเลยไม่รอช้ากับการนำวิธีดูแลผิวหน้าหนาวมาฝาก ต้องทำยังไงบ้าง มาดูตามนี้เลยค่ะ
1.หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน
ไม่ว่าจะเป็นล้างหน้าและอาบน้ำ หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นจัดจะดีที่สุด หากจำเป็นต้องอาบเพราะทนความหนาวไม่ไหวจริงๆ แนะนำว่าไม่ควรอาบนานเกินกว่า 15 นาที เพราะน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นจะทำลายน้ำมันหล่อเลี้ยงใต้ผิว ทำให้ผิวของคุณขาดความชุ่มชื้น และแห้งแตกง่ายนั่นเอง
2.สครับผิวสัปดาห์ละครั้ง
การสครับผิวเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้ง่ายๆ แต่ในหน้าหนาวแบบนี้ ไม่จำเป็นจะต้องสครับผิวบ่อยหรอกนะคะ แนะนำให้สครับเพียงสัปดาห์ละครั้งก็พอ เพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนผิวเกินไป
3.ทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ
หน้าหนาว การเลือกครีมบำรุงผิวเราจะต้องเลือกชนิดที่มีมอยส์เจอไรเซอร์เป็นหลัก เพื่อให้ความชุ่มชื้นต่อผิว ทำให้ปัญหาผิวแห้งลดลง เมื่อผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น ไร้ความแห้งแตก ผิวก็จะสวยสุขภาพดี และลดโอกาสในการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ด้วย
4.ใช้สูตรหน้าใสจากธรรมชาติมาส์กหน้า
มองหาวัตถุดิบใกล้ตัวอย่างนมสด หรือโยเกิร์ตมาผสมกับขมิ้นเพียงเล็กน้อย แล้วนำมามาส์กหน้า สาวๆ ก็จะได้สูตรหน้าใสจากธรรมชาติ ที่จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นและยังทำให้ผิวหน้าขาวผุดผ่องได้ ด้วย และนอกจากจะนำมาพอกหน้าแล้ว สูตรหน้าใสนี้ยังสามารถนำมาพอกผิวกายให้สวยได้ด้วยเช่นกัน
5.ไม่ควรขัดผิวอย่างรุนแรง
เพราะผิวของเราในช่วงหน้าหนาว ง่ายต่อการสูญเสียน้ำมันหล่อเลี้ยงใต้ผิว ผิวจึงค่อนข้างแห้งง่ายอยู่แล้ว ดังนั้น หากจำเป็นจะต้องขัดผิวหรือสครับผิวก็ไม่ควรขัดแรงๆ เด็ดขาด ควรใช้เม็ดสครับที่ละเอียด ให้ความอ่อนโยนต่อผิวมาขัด โดยขัดเป็นวงกลมอย่างเบามือ เพื่อป้องกันการเสียดสีจนยิ่งแห้งกร้านและยังช่วยป้องกันริ้วรอยได้ด้วย
6.ทาครีมกันแดดทุกวัน
หลายคนคิดว่าหน้าหนาวมาเยือน เราอาจจะไม่ต้องทาครีมกันแดดเท่าไรก็ได้ หรือวันไหนไม่มีแดดออกก็ไม่จำเป็นต้องทา เพราะไม่มีรังสียูวี นั่นคือ ความคิดที่ผิดมหันต์เลยค่ะ เพราะแท้จริงแล้ว ไม่ว่าจะหน้าหนาวหรือหน้าฝน หากไม่มีแสงแดด ก็ยังมีรังสียูวีสาดส่องลงมากระทบผิว ทำให้ผิวของเราหมองคล้ำได้อย่างไม่รู้ตัว ดังนั้นจึงควรทาครีมกันแดดปกป้องผิวจากรังสียูวีเป็นประจำทุกวัน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ผิวของคุณคงความขาวใสได้ดังเดิมแล้ว
นอกจากวิธีดูแลผิวหน้าหนาวดังที่เราแนะนำไปเบื้องต้น ในด้านการดูแลบำรุงจากภายในก็สำคัญเช่นกันนะคะสาวๆ เพื่อให้ผิวสวยนุ่มชุ่มชื้น สาวๆ ไม่ควรปล่อยให้ผิวขาดน้ำเด็ดขาด ควรดื่มน้ำสะอาดให้มากเพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์และนอนพักผ่อนให้เต็มที่ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผิวของคุณสวยสดใส ไม่แห้งแตกในหน้าหนาวได้แล้ว

วิธีออกกำลังกายลดหน้าท้อง สลายพุงให้หมดไป หุ่นดีสมใจชัวร์



วิธีออกกำลังกายลดหน้าท้อง สลายพุงให้หมดไป หุ่นดีสมใจชัวร์

วิธีออกกำลังกายลดหน้าท้อง สลายพุงให้หมดไป หุ่นดีสมใจชัวร์

เคยเป็นกันมั้ยคะ? พยายามลดน้ำหนักจนมีรูปร่างผอมเพรียวสมใจ แต่ทำไมพุงกลับยังย้วยอยู่ล่ะ ใครที่มีปัญหาหน้าท้องยื่นย้วยออกมา อยากลดหน้าท้องให้ แบนราบ วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากกับวิธีออกกำลังกายลดหน้าท้องมาฝาก แถมยังช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงตามอย่างได้ผล ว่าแต่จะต้องออกกำลังกายด้วยวิธีไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย
1.วิธีออกกำลังกายลดน้ำหนัก ลดหน้าท้อง
- ออกกำลังกายด้วยเวทเทรนนิ่ง
สาวที่ มีรูปร่างผอม แต่ส่วนมากร่างกายมักจะขาดมวลกล้ามเนื้อ หลายคนอาจอิจฉาสาวรูปร่างแบบนี้ แต่หารู้ไม่ว่าแท้ที่จริง สาวหุ่นดีรูปร่างผอมก็แอบมีไขมันสะสมไม่น้อยเช่นกัน เพราะฉะนั้น ควรออกกำลังกายลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ด้วยการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงกระชับก็ย่อมมีผลช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานดี ขึ้นได้ด้วย ไขมันสะสมตามสัดส่วนต่างๆ โดยเฉพาะไขมันหน้าท้องก็จะสลายไปได้ด้วยนั่นเอง
- ออกกำลังกายแบบ HIIT
สาวๆ คนไหนที่ต้องการออกกำลังกายลดน้ำหนัก ลดหน้าท้องอย่างได้ผล การออกกำลังกายแบบ HIIT ก็นับเป็นวิธีออกกำลังกายที่สามารถช่วยเผาผลาญไขมันสะสมภายในร่างกายได้ อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และยังถือเป็นคาร์ดิโอที่เหมาะสำหรับคนที่มีรูปร่างดี แต่มีไขมันหน้าท้องอีกด้วย เพราะเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอสั้นๆ แต่ให้ประสิทธิภาพในการเบิร์นไขมันได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว
- ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอทุกสัปดาห์
คนที่รูปร่างผอม แต่มีพุง ควรจัดตารางการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอสัปดาห์ละ 1-2 ชั่วโมง โดยให้เล่นคาร์ดิโอไม่เกินครั้งละ 30 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดการเบิร์นไขมันมากไปจนสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ เพราะจะยิ่งทำให้ผอมลงมากกว่านี้ สำหรับการออกกำลังกายลดน้ำหนักแบบคาร์ดิโอนั้น สามารถทำได้หลายวิธี อาทิ วิ่ง จ๊อกกิ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำและกระโดดเชือก
2.ลดพุงอย่างเห็นผล ด้วยการกินอาหารอย่างเหมาะสม
นอกจากการออกกำลังกายลดน้ำหนัก ลดพุงแล้ว สาวๆ ที่อยากให้หน้าท้องแบนราบดั่งใจกว่านี้ อย่าลืมควบคุมการกินอาหารด้วยนะคะ โดยควรเลือกกินแต่อาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์ให้มากๆ เพราะไฟเบอร์จะทำให้อิ่มท้องง่าย อิ่มนาน ลดอาการหิวจุบจิบในระหว่างวันได้ดี นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ ด้วยเช่นกัน และงดกินอาหารทอดๆ มันๆ หรืออาหารที่มีแคลอรีสูง ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มก็ตาม หากทำได้แบบนี้ควบคู่กับการออกกำลังกาย พุงย้อยๆ ของคุณก็จะหายไปได้อย่างแน่นอน
รู้กันแบบนี้แล้ว จากนี้ไปก็อย่าลืมตั้งใจออกกำลังกายลดหน้าท้องดังคำแนะนำจากเรา ควบคู่กับการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ด้วยนะคะ จะได้ป้องกันไม่ให้เกิดไขมันสะสมหน้าท้องอีก งานนี้หน้าท้องแบนราบต้องมาแน่นอนค่ะ

เคล็ดไม่ลับ! มะขามเปียกขัดผิว เพิ่มออร่าให้ผิวขาวกระจ่างใส


เคล็ดไม่ลับ! มะขามเปียกขัดผิว เพิ่มออร่าให้ผิวขาวกระจ่างใส

เคล็ดไม่ลับ! มะขามเปียกขัดผิว เพิ่มออร่าให้ผิวขาวกระจ่างใส

ปัญหาผิวพรรณหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใสถือว่าเป็นปัญหาที่ใครๆ ก็ไม่สามารถเลี่ยงได้เมื่อต้องใช้ชีวิตอยูู่ในเมืองร้อนอย่างบ้านเรา ถ้าหากเป็นแต่ก่อนแสงแดดอาจไม่ได้ทำร้ายผิวของเราให้เสียหายได้มากนัก แต่หากมองในทุกวันนี้ด้วยปัญหาหลายอย่างที่เกี่ยวกับธรรมชาติ อย่าง ภาวะโลกร้อน ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เอื้อให้แสงอาทิตย์สามารถทะลุผ่านเข้ามายังโลกได้ มากขึ้นกว่าปกติ ด้วยเหตุนี้เองรังสีอัลตราไวโอเลตที่มีอยู่ในแสงอาทิตย์จึงสามารถทำลายชั้น ผิวของเราให้เสื่อมสภาพลงได้ ซ้ำร้ายยังอาจทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับผิวหนังที่เราไม่คาดคิดอีกด้วย การบำรุงจึงเป็นเรื่องที่สาวๆ ต้องทำอย่างเร่งด่วน

หนึ่งในนวัตกรรมบำรุงผิวที่ได้จากธรรมชาติ มะขามเปียก ถือเป็นอย่างแรกที่สาวๆ นึกถึง เพราะเป็นวัตถุดิบที่สามารถหาได้ทั่วไป ไม่ได้มีประโยชน์แค่ในเรื่องการนำมาปรุงอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณนั้น มะขามเปียก ก็นับว่าเป็นวัตถุดิบที่ให้ประโยชน์ อันจะเห็นได้จากความนิยมนำมาใช้บำรุงผิวพรรณของสาวๆ มาตั้งแต่ครั้งอดีต ซึ่งจากการวิจัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสมัยใหม่พบว่า ในมะขามเปียกนั้นมีสรรพคุณที่เป็นกรด เอ เอช เอ (AHA) สามารถนำมาใช้บำรุงได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายเพื่อให้มีผิวพรรณที่ผ่องใส การนำมะขามเปียกขัดผิวจะช่วยทำให้ผิวในจุดที่แห้งกร้านเนียนนุ่มและดูขาวใสขึ้นได้ หากมีการใช้อย่างถูกวิธี


เมื่อรู้ว่า มะขามเปียกขัดผิว มีประโยชน์ขนาดนี้แล้ว  เลยไม่พลาดที่นำสูตรมะขามเปียกขัดผิวเก๋ๆ ทำได้ง่ายๆ มาฝากกัน จะได้ไม่ต้องไปเสียเงินแพงๆ ให้กับครีมบำรุงผิวที่มีวางขายอยู่ตามท้องตลาดโดยที่เราก็การันตีถึงความ ปลอดภัยและผลที่จะได้รับ ถ้าพร้อมแล้วมาดูพร้อมกันเลย !

สูตรมะขามเปียกขัดผิว
สิ่งที่ต้องเตรียม- มะขามเปียก
- นมสด
- น้ำผึ้ง
วิธีทำ
- เริ่มต้น ให้เรานำนมสดที่เตรียมไว้มาอุ่น จากนั้นก็นำมาผสมเข้ากับมะขามเปียกที่เราเตรียมไว้ประมาณ 1 กำมือ ขยำให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน แล้วนำน้ำผึ้งผสมลงไป คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน เสร็จแล้วพรมน้ำบนตัวให้เปียกเพื่อเตรียมก่อนเริ่มขัดผิว

- นำส่วนผสมมะขามเปียกขัดผิวที่เราเตรียมเอาไว้มาขัดให้ทั่วทั้งตัวประมาณ 20 นาที เมื่อเสร็จแล้วจึงอาบน้ำล้างออกตามปกติก็เป็นอันเสร็จ ผิวพรรณของสาวๆ ก็จะกลับมาขาวเนียนใสอย่างแน่นอน

สำหรับการใช้สูตรมะขามเปียกขัดผิว ให้ได้ผลนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน รวมถึงความสม่ำเสมอในการดูแลผิวพรรณด้วย แต่ ! ต้องบอกเอาไว้ก่อนเลยว่าในการขัดผิวด้วยสูตรมะขามเปียกขัดผิวนี้ไม่ควรทำ เกินอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวของเราถูกรบกวนมากจนเกินไป ไม่เช่นนั้นผิวของเราอาจจะเกิดการระคายเคืองได้ เมื่อรู้ว่าดีแบบนี้แล้ว แถมยังทำง่ายอีกด้วย สาวๆ ก็ไปลองหามาทำกันดูนะ ได้ผลยังไงก็อย่าลืมมาบอกต่อกันด้วยล่ะ ...

สาวๆ สงสัย...กากกาแฟขัดผิวดีอย่างไร ?


สาวๆ สงสัย...กากกาแฟขัดผิวดีอย่างไร ?

สาวๆ สงสัย...กากกาแฟขัดผิวดีอย่างไร ?

เชื่อได้ว่าคงจะมีสาวๆ หลายคนที่ต้องเป็นคอกาแฟ หรือดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะกาแฟสด เป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่มีรสชาติละมุนลิ้นและมีกลิ่นหอมชวนหลงไหล แต่ใครจะรู้ว่านอกจากประโยชน์ดีๆ ที่มีต่อสุขภาพของ เราแล้ว กากกาแฟที่เหลือก็ยังนำมาใช้บำรุงผิวพรรณได้อีกด้วยนะ ชงเสร็จแล้วอย่างเพิ่งเอาไปทิ้ง ! เก็บกลับมาทำให้ผิวของเราขาวใสสุขภาพดีกันก่อนดีกว่า

ทำไมต้องเป็นกากกาแฟ
จะ ว่าไปแล้วการบำรุงผิวพรรณก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ทั้งการใช้สมุนไพรบ้าง ผลไม้บ้างผสมผสานกันไป แต่ทุกวันนี้ก็มีอีกหนึ่งที่ไม่ได้ถือว่าเป็นวิธีที่ใหม่มาก อย่างการใช้ กากกาแฟขัดผิว ซึ่งตามหลักการโดยทั่วไปแล้วการขัดผิวนั้นเป็นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่ตาย แล้วให้ออกไป พร้อมเผยผิวใหม่ที่ขาวใส สุขภาพดี จะนับว่าเป็นการทำความสะอาดร่างกายก็ว่าได้ โดยในกากกาแฟนั้นจะมีคาเฟอีนเป็นส่วนผสมหลักอยู่ รู้ๆ กันดีว่าสารชนิดนี้จะช่วยกระตุ้นร่างกายให้สดชื่น ทำให้เลือดสูบฉีดได้ดี เมื่อนำกากกาแฟมาใช้กับผิวหนังของเราก็เช่นกัน จะช่วยทำให้เส้นเลือดขยายตัวเนื่องมาจากเลือดสูบฉีดได้ดี ทำให้เกิดความสดชื่น ผิวพรรณก็จะดูมีน้ำมีนวลขึ้นได้นั่นเอง

ดูแลตัวเองต้องเริ่มจากภายในอย่างเดียวหรือ ?
ถ้า จะให้ตอบคำถามนี้ก็คิดว่าน่าจะมีส่วนที่ถูก เพราะถ้าเราดูแลเรื่องอาหารการกิน รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นอย่างดี ทุกอย่างก็จะถูกสะท้อนออกมาให้เห็นภายนอกได้ แต่ ! ก็มีสาวๆ บางคนเกิดขึ้นคำถามขึ้นว่า ถ้าเราหันมาดูแลตัวเองจากภายนอกล่ะจะได้ผลเช่นเดียวกันกับการดูแลภายในรึ เปล่า ? ขออธิบายเอาไว้อย่างนี้ว่า สาวๆ รู้หรือไม่ ว่ารูขุมขนของเรานั้นเป็นทางผ่านของสารเคมี หรือสารต่างๆ ได้ จึงเป็นที่เข้าใจกันว่าเราสามารถรับสารอะไรก็ได้ผ่านทางผิวหนัง ดูอย่างการเลือกใช้กากกาแฟขัดผิว ด้วยหลักการเช่นนี้จะทำให้สารต่างๆ ที่มีอยู่ในกากกาแฟซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นผลได้ชัดเจน หรืออาจเรียกว่าเป็น การดีท็อกซ์ผิว ก็ไม่ผิด เมื่อรู้มาถึงขนาดนี้แล้ว สาวๆ คนไหนที่ยังไม่เคยลองใช้ กากกาแฟขัดผิว ก็อยากจะให้ลองมาใช้ดู แต่ต้องไม่ใช่กากกาแฟที่มาจากซองนะ ต้องเป็นเมล็ดกาแฟสดที่บดด้วยเครื่องชงกาแฟเท่านั้นจึงจะถูกต้อง

w1

ประสิทธิภาพที่ได้จาก กากกาแฟขัดผิว
การจะ นำกากกาแฟขัดผิวก็ไม่ได้มีกฎข้อบังคับอะไรที่ตายตัว เราสามารถทำเองได้ ใช้เมล็ดกาแฟได้หลายสายพันธุ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณสารคาเฟอีนที่อยู่ในกากกาแฟ รวมถึงความถี่ในการใช้ แต่ ! จะสักว่าเร่งใช้อย่างเดียวก็ไม่ไหวเหมือนกัน ทุกอย่างจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความพอดีจึงจะทำให้เห็นผล ต้องค่อยเป็นค่อยไป ส่วนเมื่อเรานำกากกาแฟขัดผิวเรียบร้อยแล้วพร้อมจะล้างออก เมื่ออาบน้ำก็ให้ขัดผิวไปพลางๆ ด้วย อาจจะขัดและรอสักระยะจึงล้างออกให้หมดจดก็จะเห็นได้ว่าผิวของสาวๆ จะมีสุขภาพที่ดีขึ้น ส่วนสาวๆ บางคนก็คอมเมนต์มาเพิ่มว่าให้ลองผสมผงขมิ้นเข้าไปด้วยสิ เพราะเท่าที่รู้กันดีว่า ขมิ้น นั้นมีสรรพคุณที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส เห็นว่าดีแบบนี้แล้วก็อย่าลืมไปหามาลองทำกันดี หรืออาจจะหาสูตรตามอินเทอร์เน็ตก็ได้ มีสาวๆ มาแจกสูตรให้ลองไปทำกันเพียบเลย...