วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

5 ของขวัญปีใหม่สุดโดนใจ ที่คนพิเศษเห็นแล้วต้องปลื้ม !

5 ของขวัญปีใหม่สุดโดนใจ ที่คนพิเศษเห็นแล้วต้องปลื้ม !

5 ของขวัญปีใหม่สุดโดนใจ ที่คนพิเศษเห็นแล้วต้องปลื้ม !

ใกล้ถึงช่วงปีใหม่กันแล้ว หลายคนคงเริ่มเตรียมหาของขวัญคนพิเศษ ซึงหากคุณยังไม่รู้ว่าจะเลือกของขวัญอะไรให้โดนใจคนรักล่ะก็ เรามี 5 ของขวัญปีใหม่ที่ดีที่สุดมาแนะนำกัน ที่รับรองว่าคนรักของคุณจะต้องรู้สึกปลื้มใจกับของขวัญที่คุณมอบให้อย่างแน่นอน ว่าแต่จะมีของขวัญอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

1.ช็อกโกแลต
ช็อกโกแลต เป็นอีกหนึ่งของขวัญปีใหม่ที่ไม่มีวันตาย เพราะไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย หรือในวันสำคัญอะไร ช็อกโกแลตก็เป็นของขวัญที่คู่รักนิยมมอบให้กันมากที่สุด แถมยังมีความหมายดีๆ และช่วยเติมเต็มความรักให้เบ่งบานยิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับใครที่พอจะมีฝีมือในการทำขนมอยู่บ้าง ก็อาจแสดงฝีมือทำช็อกโกแลตสุดอร่อยด้วยตัวเองก็ได้ รับรองว่าโดนใจคนรักแน่นอน

2.แหวนเพชร
สำหรับคนที่มีงบสักหน่อย ก็เลือกซื้อแหวนเพชร เป็นของขวัญเพื่อคนพิเศษเลย ไม่จำเป็นต้องแพงมาก แค่มีความสวยงามและเข้ากับนิ้วมือของเธอพอดี ก็จะทำให้เธอรู้สึกประทับใจไม่น้อยเลยล่ะ

3.น้ำหอม
ไม่ว่าผู้หญิงหรือ ผู้ชาย ก็ล้วนชอบน้ำหอมกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้น น้ำหอมจึงเป็นของขวัญอีกสิ่งหนึ่งที่เหมาะจะมอบให้เป็นของขวัญสุดพิเศษในวัน ปีใหม่เช่นกัน โดยเลือกกลิ่นที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเขาสักนิด หรืออาจจะลองสังเกตดูว่าเขาชอบใช้น้ำหอมกลิ่นไหนมากเป็นพิเศษ เพื่อจะได้เลือกซื้อน้ำหอมที่มีกลิ่นโดนใจคนรักที่สุดนั่นเอง

4.ผ้าพันคอถักเอง
ปีใหม่เป็นช่วงที่มีอากาศหนาวจัด ผ้าพันคอจึงเป็นของขวัญสุดพิเศษที่เหมาะจะมอบให้กับคนรักเป็นอย่างมาก แต่เพื่อให้เกิดความโรแมนติกและมีความประทับใจยิ่งขึ้น แนะนำให้ถักผ้าพันคอด้วยตัวเองจะดีกว่า แม้ว่าจะไม่สวยเนี๊ยบเหมือนสินค้าที่ซื้อมา แต่ด้วยความตั้งใจในการถักของคุณ ก็เอาใจคนรักไปเต็มร้อยเลยทีเดียว

5.แพ็กเกจทัวร์สุดคุ้ม
การให้ของขวัญแบบเดิมๆ มันน่าเบื่อเกินไป ปีนี้เปลี่ยนของขวัญเพื่อคนพิเศษ มาเป็นแพ็กเกจทัวร์สุดคุ้มกันดีกว่า ซึ่งนอกจากจะทำให้คุณทั้งคู่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้ว ก็ยังเป็นการเที่ยวเพื่อความผ่อนคลายต้อนรับปีใหม่อีกด้วย

และนี่ก็คือ 5 ของ ขวัญสุดพิเศษในปีใหม่ที่จะถึงนี้ ซึ่งหากใครกำลังมองหาของขวัญที่โดนใจคนรักอยู่ล่ะก็ ลองเลือกเป็นของขวัญเหล่านี้ดูสิ ส่วนของขวัญแบบเดิมๆ เช่น นาฬิกา ตุ๊กตาขนฟูฟ่องหรือกรอบรูปสุดเก๋ โยนทิ้งไปได้เลย เพราะนั่นน่ะถือเป็นของขวัญยอดแย่ในปีใหม่นี้เชียวล่ะ

อาการปวดหลัง เพราะขับรถ


อาการปวดหลัง เพราะขับรถ

นิตยสาร Woman Plus
สนับสนุนเนื้อหา
หลายคนคงเป็นเหมือนกัน นั่นก็คืออาการปวดหลังจากการขับรถ เพราะสมัยนี้รถบนท้องถนนก็มากขึ้น ทำให้ช่วงเวลาที่เราต้องขับรถเดินทางทั้งไปและกลับบ้านนั้น ยาวนานขึ้น ส่งผลให้มีความรู้สึกปวดหลังขึ้นมา หรืออาจจะเป็นอาการปวดจากการขับรถทางไกลไปต่างจังหวัด เราจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร...

1. ไม่ควรให้ร่างกายค้างอยู่ท่าเดียวนานๆ เพราะจะทำให้เกิดอาการปวดขึ้นมา หรือหากจำเป็นต้องอยู่ท่าเดิมนานๆ นั้นควรจะอยู่ในท่าที่เรารู้สึกสบาย
2. ไม่ควรให้หลังของเรานั้น อยู่ในท่าโค้งหรือมีการบิดตัว เพราะท่าแบบนี้ กล้ามเนื้อและเอ็นด้านหลังจะถูกยืดนานๆ หมอนรองกระดูกสันหลังจะมีแรงกดมากกว่าในท่านั่งหลังตรงหรือท่ายืนตรง เพราะฉะนั้นการนั่งควรยืดหลังให้ตรง
3. สำหรับคอ ไม่ควรก้มหรือเงยมากเกินไป เพราะจะทำให้ส่วนบ่าและไหล่ ทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลไปถึงอาการปวด
4. ควรพักผ่อนสายตาเมื่อรู้สึกอ่อนล้าและลดอาการเครียด เนื่องจากความเมื่อยล้าของสายและความเครียดนั้นมีผลต่ออาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
การปรับเบาะขณะขับรถควรปรับให้เหมาะสมและตรวจดูความเหมาะสมของอุปกรณ์เหล่านี้ ทุกครั้งก่อนขับรถ โดยอาศัยหลักการดังต่อไปนี้

1. ปรับระยะนั่งใกล้-ไกล
โดย ให้ขาเหยียบคันเร่งพอดีและสามารถขยับเท้ามาเหยียบเบรกได้ง่ายและรวดเร็ว และระยะห่างนี้ต้องไม่ทำให้เข่าและสะโพกงอมากนัก เพราะการงอมากของเข่าและสะโพกจะทำให้กระดูกข้อเท้าลำบากทำให้ต้องยกขาเมื่อ ต้องขยับเท้าไปมา ขณะเดียวกันการเหยียดขามากไปจะทำให้ตัวและขาอยู่ในรูปคล้ายตัวแอล ซึ่งมีผลต่อการเหยียบเบรกและคันเร่งเช่นกัน คือแรงจะลดลง เพราะสามารถใช้ปลายเท้าเหยียบได้เท่านั้น ไม่สามารถใช้แรงจากเข่าและสะโพกได้ ร่างกายที่อยู่ในรูปตัวแอล จะมีผลทำให้หลังส่วนล่างโค้งมาก และเส้นประสาทสันหลังและขาตึงตัวมาก จะมีผลเสียคือ กล้ามเนื้อล้าง่าย ด้านหน้าของหมอนรองกระดูกมีแรงกดมากทำให้หมอนรองกระดูกมีโอกาสปลิ้นไปด้าน หลังสูง ท่านั่งนี้จึงทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ง่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงท่านั่งนี้ ที่เราอาจพบได้บ่อยในผู้ที่ใช้เก๋งเตี้ยๆ
2. การปรับความเอียงของเบาะพิงหลัง
จะมีความ สัมพันธ์กับการปรับใกล้ไกล มุมการมอง และการจับพวงมาลัย คือเมื่อปรับขาให้พอดี ตัวอาจจะห่างไป ทำให้ต้องปรับเบาะพิงชันขึ้นมา แต่การปรับเบาะชันขึ้นมาอาจมีผลทำให้หลังและขาเป็นรูปคล้ายตัวแอลดังข้อ 1 แต่ก็มีข้อดีเมื่อตัวตั้งตรงคือ ทำให้ไม่ต้องงอคอมากนัก บ่าและคอจึงไม่เมื่อย ดังนั้นความเอียงของเบาะควรอยู่ในระดับที่เมื่อขับรถแล้ว ไม่มีความรู้สึกว่าต้องใช้แรงในการยกคอและศีรษะขึ้นมาตั้งตรง
3. ปรับการเอียงของเบาะนั่ง
มีความจำเป็นอีกเช่นกัน เพราะหากเบาะนั่งให้มีการชันตัวมาก จะมีผลทำให้เกิดการกดของด้านหน้าของเบาะต่อด้านหลังเข่าของผู้ขับขี่ ซึ่งด้านหลังเข่านี้ มีหลอดเลือดและเส้นประสาทจำนวนมาก หากมีการกดทับจะทำให้เกิดอาการชา และอ่อนแรงของขาได้ ดังนั้นควรปรับให้เบาะด้านหน้าสูงพอที่ระรับน้ำหนักขาได้ โดยที่ขาไม่ลอยสูงจากเบาะ แบบลักษณะเข่าชัน และเมื่อขับรถและมีการกดคันเร่งค้างนานๆ ด้านหน้าของเบาะต้องไม่กดหลังเข่า
4. ปรับความสูงต่ำของเบาะ
โดย เฉพาะรถใหม่ๆ มักจะสามารถปรับได้ หลายๆ คนอาจมองว่าไม่เกิดประโยชน์ เพราะตัวสูงอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ที่ตัวสูงก็ต้องใช้ เพราะถ้าเบาะเตี้ยจะทำให้ต้องปรับเบาะรถห่างจากพวงมาลัยมากขึ้นส่งผลต่อการ งอของหลัง การปรับเบาะรถให้สูงขึ้นจะมีผลทำให้ท่านั่งขับรถคล้ายกับการนั่งเก้าอี้มาก ขึ้น ดังเห็นได้จากรถตู้หรือรถ MPV ที่มักต้องนั่งขับในท่าหลังตรงๆ และแน่นอนท่านี้ศีรษะและคอก็จะอยู่ในแนวตรง ไม่จำเป็นต้องงอคอขึ้นมา และในผู้ที่ตัวไม่สูง ก็สามารถ ปรับความสูงของเบาะเพื่อให้เหยียบถนัดขึ้น
5. ปรับมุมของพวงมาลัย จะขึ้นอยู่กับการปรับเบาะต่างๆ ด้วย
ให้ ปรับทุกอย่างเสร็จแล้วค่อยมาปรับพวงมาลัย แต่ถ้าปรับพวงมาลัยสุดแล้วยังรู้สึกไม่พอดี ต้องปรับจากข้อ 1 ถึง 4 ใหม่อีกครั้ง ตำแหน่งและระยะการจับพวงมาลัยมีความสำคัญมาก เพราะมีผลต่อการควบคุม พวงมาลัยของรถทำให้บังคับรถได้ง่ายหรือยากได้ ระยะและระดับที่เหมาะสมคือ ระยะที่เมื่อวางมือแล้ว สามารถหมุนพวงมาลัยได้คล่อง ไม่มีการติดขัดหรือมีความรู้สึกว่าต้องเอื้อม ขณะเดียว กัน กล้ามเนื้อบ่าและไหล่ต้องไม่เกร็งเพื่อที่จะถือแขนให้อยู่กับพวงมาลัยนานๆ
6. การปรับระยะพวงมาลัยเข้าใกล้หรือไกล
รถรุ่นใหม่ๆ อาจสามารถปรับระยะใกล้ หรือไกลของพวงมาลัยได้ คือเราสามารถดึงพวงมาลัยเข้าใกล้หรือผลักออกไปไกลได้ การปรับนี้มีข้อดี ที่เมื่อปรับระยะใกล้ ไกล และปรับพนักพิงแล้ว อาจทำให้แขนต้องเอื้อมจับหรือแขนอยู่ชิดพวงมาลัยมากเกินไป การปรับนี้จะช่วยให้เราสามารถจับพวงมาลัยได้ถนัดขึ้น
7. ปรับกระจกส่องข้างและหลัง
จะเป็นการปรับหลังสุด หลังจากปรับส่วนอื่นๆ เสร็จแล้ว โดยยึดหลักการที่ว่า เมื่อนั่งโดยไม่ต้องขยับศีรษะหรือโยกตัวเราสามารถมองเห็นในจุดที่เราต้องการ ได้ หากการมองยังมีจุดบอดแสดงว่าอาจต้องใช่อุปกรณ์ เสริม เช่น ติดกระจกส่องหลังบานใหญ่ขึ้น หรือกระจกโค้ง เพื่อให้เห็นได้ครอบคลุมขึ้น แต่อาจมีผลเรื่องการกะระยะบ้างเพราะภาพจากประจกโค้งจะหลอกตา
เทคนิคที่กล่าวมานั้นควรอยู่ภายใต้ความปลอดภัยในการขับขี่ด้วย หากปรับให้สบายตัว แต่ไม่ปลอดภัยก็ไม่ถือว่าเป็นการปรับที่ดี ที่สำคัญในการปรับนั้น ควรปรับเมื่อรถอยู่นิ่ง ไม่ควรปรับเมื่อรถวิ่งอยู่ โดยเฉพาะการเลื่อนเบาะและปรับมุมพนักพิง ที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่ได้ค่ะ

5 สิ่ง ที่บุคคลประสบความสำเร็จ ‘จะไม่ทำ’ ในตอนเช้า


5 สิ่ง ที่บุคคลประสบความสำเร็จ ‘จะไม่ทำ’ ในตอนเช้า

5 สิ่ง ที่บุคคลประสบความสำเร็จ ‘จะไม่ทำ’ ในตอนเช้า

นิตยสาร Woman Plus
สนับสนุนเนื้อหา
ทุกๆ เช้าหลังจากตื่นนอน เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเซตอัพจิตใจและร่างกาย เตรียมความพร้อมเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใสและกระปรี้กระเปร่า ในบางครั้งการกระทำบางอย่าง อาจทำให้คุณลืมไปว่า มันเป็นศัตรูตัวฉกาจในการขัดความสำเร็จในการทำงาน และทำให้สมองเปิดรับไอเดียได้ไม่เต็มที่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเหตุให้ผู้หญิงยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จจะไม่ทำมันอีกต่อไป
ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเช็กอีเมลล์เป็นอันดับแรก การเช็กอีเมลล์ก่อนสิ่งใดจะทำให้คุณลืมทำสิ่งสำคัญสิ่งอื่นๆ ที่มีค่ามากกว่าการมานั่งตอบกลับและส่งอีเมลล์ก่อนเวลาเริ่มงานจริง อาทิ ทานอาหารเช้าหรือออกกำลังกายเพื่อสร้างความสดชื่น
กด Snooze เลื่อนเวลาปลุกนาฬิกา มันคือการต่อเวลาออกไป จนคุณตื่นสายและกลายเป็นความเคยชินในการตื่น เพราะคุณไม่รู้หรอกว่าการกดเลื่อนเวลาในการตื่นออกไปเพียง 10-15 นาที อาจทำให้คุณพลาดสิ่งมีค่าในชีวิตไปก็ได้
ตัดสินใจเลือกชุดในตอนเช้า ทางที่ดีควรเตรียมเสื้อผ้าสำหรับใส่ทำงานในวันถัดไป ตั้งแต่ช่วงก่อนเข้านอน เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียเวลากับการเลือกชุดอีกในตอนเช้า
ละเลยอาหารมื้อเช้า เพราะมันสำคัญมาก ลองหาเวลาทานเพียงสักครู่ เลือกที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เพราะการรับประทานอาหารที่เหมาะสมในตอนเช้า ทำให้ได้เปรียบทางจิตใจและการเชื่อมโยงการหน่วยความจำที่ดีขึ้น พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนรู้พร้อมเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสดใส
รีบร้อน ข้อสุดท้ายนี้อาจฟังดูขัดใจใครหลายๆ คน เพราะแน่นอนว่าทุกๆเช้า เราต้องรีบออกจากบ้านเพื่อ ไปทำงานให้ทันเวลา แต่ในความเป็นจริงลองตื่นเช้ากว่าเดิมแล้วค่อยๆ ละเมียดละไมในการใช้ชีวิตเพื่อสร้างแรงบรรดาลใจและความครีเอทีฟในการทำงน ก่อนพร้อมเผชิญปัญหาและแก้ไขงานต่างๆ ได้อย่างกังวล

เคล็ดลับทา "แป้งพัฟ" ให้หน้าสวยเนียนเป็นธรรมชาติ แถมติดทนนานตลอดวัน

เคล็ดลับทา "แป้งพัฟ" ให้หน้าสวยเนียนเป็นธรรมชาติ แถมติดทนนานตลอดวัน

เคล็ดลับทา "แป้งพัฟ" ให้หน้าสวยเนียนเป็นธรรมชาติ แถมติดทนนานตลอดวัน

แป้งพัฟ หรือที่เราอาจจะเรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า แป้งตลับ เป็นแป้งที่เหมือนกับการนำเอาแป้งฝุ่นที่มีความละเอียดมากมาผ่านการอัดแข็ง เนื้อแป้งจะมีคุณสมบัติที่บางเบาและให้เนื้อที่ละเอียด มีส่วนช่วยลดความมันบนผิวหน้าและปิดริ้วรอยทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเกิดจากสิวหรือฝ้า นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยกระจายแสงให้กับใบหน้า สาวๆ  จึงนิยมพกเพื่อใช้สำหรับการซับความันระหว่างวัน
ทำให้ผิวแลดูสดใสมีสุขภาพดี ตลอดทั้งวัน แต่การใช้แป้งพัฟแบบผิดวิธี ก็อาจจะทำให้ใบหน้าหมดสวยขึ้นมาได้ ใครที่ไม่อยากให้ใบหน้าของตัวเองดูหนาด้วยแป้งจนเกินไป หรือเบื่อหน่ายกับการต้องพกตลับแป้งแล้วหยิบขึ้นมาซับอยู่บ่อยๆ ลองมาดูเคล็ดลับการทาที่จะช่วยให้ใบหน้าใสแบบธรรมชาติ แถมยังติดแน่นทนนานได้ตลอดทั้งวันอีกด้วยค่ะ
เคล็ดลับทา "แป้งพัฟ" ให้หน้าสวยเนียนเป็นธรรมชาติ แถมติดทนนานตลอดวัน
เคล็ดลับทา "แป้งพัฟ" ให้หน้าสวยเนียนเป็นธรรมชาติ แถมติดทนนานตลอดวัน
เลือกฟองน้ำพัฟที่มีคุณภาพ
เพื่อช่วยให้แป้งติดแน่นบนผิวหน้าและเกลี่ยได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่ สุด สาวๆ ควรเลือกฟองน้ำที่มีคุณภาพ แม้หลายคนอาจจะคิดว่าฟองน้ำเหล่านี้ไม่ค่อยจำเป็น คุณสมบัติว่าผิวหน้าจะสวยใสหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับแป้งที่ใช้ ซึ่งถือว่าเป็นความคิดที่ผิดอย่างยิ่ง ฟองน้ำพัฟคือ ตัวเลือกอันดับแรกที่เราจะต้องเลือกสรรให้ดี เน้นเนื้อที่อ่อนนุ่ม และเป็นชนิดที่ทำจากผ้าฝ้ายจะดีมาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเสียดสีกับผิว จนตามมาด้วยริ้วรอย แถมยังทำให้แป้งซับกับเนื้อแป้งได้ดี กดลงบนผิวหน้าแล้วไม่ทำลายรองพื้นก่อนหน้าให้หลุดลอกด้วย
เคล็ดลับทา "แป้งพัฟ" ให้หน้าสวยเนียนเป็นธรรมชาติ แถมติดทนนานตลอดวัน
เคล็ดลับทา "แป้งพัฟ" ให้หน้าสวยเนียนเป็นธรรมชาติ แถมติดทนนานตลอดวัน
ใช้วิธีการทาแบบกดซับไม่ใช้ถู
เชื่อว่าสาวๆ หลายคนยังติดนิสัยทาแป้งพัฟแบบเกลี่ยให้ทั่วใบด้วยวิธีการลากฟองน้ำแล้วกด แรงๆ ลงไปที่ผิว เพื่อให้มั่นใจว่าแป้งจะติดทนบนใบหน้าได้มากที่สุด ใครที่มีพฤติกรรมแบบนี้ให้รีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะการรูดฟองน้ำไปทั่วผิวที่มีความบอบบาง จะเสี่ยงงต่อการเกิดริ้วรอยได้ง่ายมากๆ การทาแป้งพัฟอย่าง ถูกต้องคือใช้วิธี "ซับ" ไปเรื่อยๆ เหมือนการซับหน้าด้วยผ้า และแตะแป้งในปริมาณที่พอเหมาะ จะทำให้หน้าไม่ขาวโบ๊ะ ได้ความเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด แถมยังติดทนนานได้ตลอดทั้งวันอีกด้วย
นอกจากนี้ อย่าลืมการซับแป้งบนใบหน้าด้วยแป้งพัฟบ่อยๆ จะต้องล้างทำความสะอาดผิวภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการทำงานนอกบ้านแล้ว ทุกครั้ง เพราะโอกาสที่แป้งจะเข้าไปอุดตันในรูขุมขน เกิดเป็นอาการระคายเคือง ตามมาด้วยปัญหาสิวที่ทำให้ผิวหน้าเป็นริ้วรอยอักเสบไม่เรียบเนียนขึ้นมา แบบนี้แป้งไหนๆ ก็คงไม่ช่วยให้หน้าดูสวยใสได้เป็นแน่ค่ะ

อยากลดน้ำหนักด้วยตัวเองให้ถูกวิธี ต้องหลีกหนีความเชื่อในการอดอาหาร !

อยากลดน้ำหนักด้วยตัวเองให้ถูกวิธี ต้องหลีกหนีความเชื่อในการอดอาหาร !

อยากลดน้ำหนักด้วยตัวเองให้ถูกวิธี ต้องหลีกหนีความเชื่อในการอดอาหาร !

สาวๆ มือใหม่ หันมาลดความอ้วนด้วย ตัวเอง อาจจะกำลังเกิดความข้องใจว่าอะไรผิดอะไรถูก ใครบอกอะไรมาก็เชื่อไปหมด ทำให้บางครั้งการรับเอาข้อมูลผิดๆ หรือความเชื่อที่ใช้ตรรกะของตัวเองเป็นหลักมาเป็นทางเลือกให้น้ำหนักลดลง อย่างรวดเร็ว บวกกับความใจร้อน
เราจึงได้เห็นสาวๆ หลายคนอ่านข้อมูลเรื่องการลดน้ำหนัก แล้วไปสรุปเอาเองว่า "ฉันอดอาหาร" ดีกว่า มันจะต้องลดเร็วอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคนที่กลัวการกินคาร์โบไฮเดรตเป็นอย่างมาก ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญคือการลด ไม่ใช่การอด แต่เพราะความที่การอดอาหารเห็นผลเร็ว ทำให้คิดว่ามันได้ผล โดยไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าพฤติกรรมแบบนั้น จะนำมาซึ่งความอ้วนคูณสองในอนาคต
อยากลดน้ำหนักด้วยตัวเองให้ถูกวิธี ต้องหลีกหนีความเชื่อในการอดอาหาร !
อยากลดน้ำหนักด้วยตัวเองให้ถูกวิธี ต้องหลีกหนีความเชื่อในการอดอาหาร !
การอดอาหารแบบผิดๆ ที่พบได้บ่อย
สังเกตตัวเองกันหรือไม่ว่ากำลังกินอาหารแบบผิดวิธีกันอยู่ เพราะอยากลดความอ้วนด้วยตัวเองให้ได้ผล ทำให้สาวๆ ไม่กล้าที่จะหยิบจับอะไรเข้าปาก ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า เที่ยงหรือเย็น จนลืมไปว่าร่างกายก็ต้องการพลังงานในการนำไปใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวันอย่างมากมาย แม้กระทั่งตอนเข้านอน ก็ยังมีพลังงานที่ร่างกายจะต้องเผาผลาญด้วยเช่นกัน
การอดอาหารที่พบได้บ่อย คือการกินบ้าง แต่เป็นการกินในปริมาณน้อยลงมาก อย่างเช่น คนที่เคยกินข้าว 1 จาน ก็ลดลงมาเหลือแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น หรือแทบจะไม่แตะสิ่งที่เป็นสารอาหารชนิดคาร์โบไฮเดรตเลย บางคนรู้สึกหิว ก็ใช้วิธีกินผลไม้เล็กๆ น้อยๆ แทนเนื้อสัตว์และข้าวเพื่อประทังความหิวไปวันๆ แน่นอนว่าวิธีนี้จะทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ 2-3 วันแรก แต่มันก็จะตอบแทนกลับมาด้วยภัยเงียบที่ไม่คุ้มเสี่ยงแม้แต่น้อย
อยากลดน้ำหนักด้วยตัวเองให้ถูกวิธี ต้องหลีกหนีความเชื่อในการอดอาหาร !
อยากลดน้ำหนักด้วยตัวเองให้ถูกวิธี ต้องหลีกหนีความเชื่อในการอดอาหาร !
อันตรายจากการลดความอ้วนด้วยการอดอาหาร
สิ่งที่สาวๆ จะเผชิญเมื่อลดน้ำหนักด้วยตัวเองแบบวิธีอดอาหารทุกมื้อ ความผอมที่เกิดขึ้น คือความผอมที่เกิดจากการที่ร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อไป สภาพความผอมที่เกิดขึ้นจึงดูเหมือนคนป่วยมากกว่าจะเป็นสาวสุขภาพดี แถมสิ่งที่ตามมาคือโรคขาดสารอาหาร โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตที่จำเป็นต่อร่างกาย ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย สมาธิสั้น ระบบการทำงานของร่างกายผิดปกติ ฮอร์โมนเสียสมดุล เป็นโรคกระเพาะ ระบบเผาผลาญพลังงานลดลง เมื่อนานวันเข้าก็จะยิ่งทำให้อาการต่างๆ รุนแรงมากขึ้น ไม่มีสมาธิ ความจำสั้น และระบบเผาผลาญที่ลดลง หากกลับมากินอาหารในปริมาณเท่าเดิมก่อนหน้านี้ จะทำให้อ้วนขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือที่รู้จักกันว่าภาวะ "โยโย่" นั่นเอง
ดังนั้น การลดน้ำหนักที่ถูกวิธีจึงไม่ใช่การอดอาหาร แต่เป็นการลดปริมาณอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เน้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้การลดน้ำหนักด้วยตัวเองเป็นเรื่องง่าย ได้สุขภาพที่ดี พร้อมหุ่นที่ผอมเพรียวได้อย่างที่ต้องการแน่นอนค่ะ

อยากหน้าท้องแบนราบรู้ไว้ "ฉีดเมโสแฟต" ลดหน้าท้อง อันตรายกว่าที่คิด !


อยากหน้าท้องแบนราบรู้ไว้ "ฉีดเมโสแฟต" ลดหน้าท้อง อันตรายกว่าที่คิด !

อยากหน้าท้องแบนราบรู้ไว้ "ฉีดเมโสแฟต" ลดหน้าท้อง อันตรายกว่าที่คิด !

การ "ฉีดเมโสแฟต" หรือ Meso Therapy คือการฉีดไขมันรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะสาวๆ ที่อยากลดหน้าท้องของตัวเอง กระวนการดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า Meso fat ด้วย การผลักเอาวิตามินเข้าไปสู่ชั้นด้านในของไขมัน เชื่อว่าจะช่วยลดสัดส่วนให้สาวๆ มีรูปร่างที่ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะในคนที่มีปัญหาไขมันหน้าท้อง มีพุงยื่น วิธีการดังกล่าวคือ การฉีดลดไขมัน และเซลลูไลต์เฉพาะจุด จึงเป็นที่นิยมอย่างมาก สำหรับคนที่ไม่อยากรอนาน อยากให้ตัวเองผอมเร็วขึ้น
แต่สาวๆ รู้หรือไม่ว่า การลดหน้าท้องด้วย วิธีนี้ เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างยิ่ง เพราะมีการผสมยาสเตียรอยด์เข้าไปด้วย และอีกชุดเป็นชนิดของยาที่ไม่ได้รับรองในการนำมาใช้เพื่อการฉีด ใครที่กำลังตัดสินใจใช้วิธีก้าวกระโดดแบบนี้ แนะนำว่าลองศึกษาข้อมูลกันให้ดีก่อนเสี่ยงจะดีกว่าค่ะ
อยากหน้าท้องแบนราบรู้ไว้ "ฉีดเมโสแฟต" ลดหน้าท้อง อันตรายกว่าที่คิด !
อยากหน้าท้องแบนราบรู้ไว้ "ฉีดเมโสแฟต" ลดหน้าท้อง อันตรายกว่าที่คิด !
ขอบคุณภาพประกอบจาก : pixabay.com
อันตรายที่พบได้จากการลดหน้าท้องด้วยวิธี Meso Fat
เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับสาวๆ ได้เข้าใจถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น หลักการแรกที่เข้าใจได้ไม่ยากเลยคือ ยาที่นำมาใช้ในกระบวนการย่อยสลายไขมันหน้าท้อง และส่วนอื่นๆ เฉพาะจุด จะเป็นกลุ่มยาสเตียรอยด์ ที่เราต่างก็เข้าใจกันดีว่าเป็นยาที่มีอันตรายหากไม่ได้รับการควบคุมจากผู้ เชี่ยวชาญ ยาชนิดนี้มีฤทธิ์เพื่อต้านการอักเสบเป็นหลักตามหลักทางการแพทย์ แต่ผลกระทบที่พบคือ ทำให้ไขมันสลายต่อ มีขนาดฝ่อเล็กลง ด้วยผลตรงจุดนี้ เหล่าคนฉลาดหัวใสจึงนำเอามาใช้เป็นสรรพคุณเพื่อทำหน้าที่สลายไขมันเฉพาะจุด ด้วยการฉีดเข้าสู่ร่างกาย และต้องฉีดในปริมาณมาก แน่นอนว่าเสี่ยงที่มันจะเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น การติดเชื้อ ภาวะบวมตามร่างกาย และผิวหนังบุ๋ม เป็นต้น
อยากหน้าท้องแบนราบรู้ไว้ "ฉีดเมโสแฟต" ลดหน้าท้อง อันตรายกว่าที่คิด !
อยากหน้าท้องแบนราบรู้ไว้ "ฉีดเมโสแฟต" ลดหน้าท้อง อันตรายกว่าที่คิด !
ส่วนยาอีกกลุ่ม เป็นยาที่นิยมใช้กันในต่างประเทศ เช่น Deoxycholate, L-carnitine และ Minerals  เป็นต้น เป็นยาที่ยังไม่ผ่านการรับรองจากประเทศไทย แต่ด้วยกระบวนการสลายไขมันด้วยวิธีนี้ กลับถูกนำมาใช้ในการฉีด ดังนั้นการฉีดยาเพื่อลดหน้าท้องด้วยตัวยาทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น จึงอาจเจอผลกระทบที่ไม่สามารถรับรองถึงความปลอดภัยได้แต่อย่างใด อีกทั้งการฉีดที่ไม่สะอาดเพียงพอ เสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และส่งผลข้างเคียงที่รุนแรง จนถึงขั้นเสียชีวิตกันได้เลยทีเดียว
โดยสรุปแล้วการลดหน้าท้องด้วยวิธีง่ายๆ แบบนี้ เป็นสิ่งที่การแพทย์แผนปัจจุบันไม่ได้ให้การยอมรับ และยังไม่มีการฉีดยาสลายไขมันตัวใดที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ช่วยสลายไขมันหน้า ท้องได้อย่างปลอดภัย
ทางออกที่ดีที่สุดคือ การพยายามลดอาหารที่มีไขมันสูง และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย เพียงแค่มีวินัยและใช้หลักการที่ถูกต้ออง ก็จะช่วยให้ลดหน้าท้องได้อย่างที่ต้องการแล้วล่ะค่ะ

เคล็ดไม่ลับทาลิปสติกสีนู้ด ให้สวยสุขภาพดี ไม่ดูเป็นสาวป่วย


เคล็ดไม่ลับทาลิปสติกสีนู้ด ให้สวยสุขภาพดี ไม่ดูเป็นสาวป่วย

เคล็ดไม่ลับทาลิปสติกสีนู้ด ให้สวยสุขภาพดี ไม่ดูเป็นสาวป่วย

ในยุคที่สีนู้ดของ ลิปสติกกำลังมาแรง เราเห็นนางแบบในโฆษณาทากันแล้วดูปากเอิบอิ่ม แอบเซ็กซี่กันเบาๆ จนอยากหามาจับจองเป็นของตัวเองกันสักครั้ง แต่พอซื้อมาทาเองแล้ว กลับเป็นความป่วยที่ไม่ได้เหมือนที่จินตนาการเอาไว้
เพราะสีนู้ดที่ทาลงไป ทำให้ริมฝีปากดูซีดจางเหมือนคนป่วยที่กำลังจะเป็นลมยังไงยังงั้น ทำให้การทาลิปสติกสีนู้ดกลายเป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่ ดังนั้นเราเลยมีทางออกมาแก้ปัญหา ให้สาวๆ ที่อยากมีริมฝีปากนู้ดสวยและเซ็กซี่ ดูดีได้สมใจ แถมยังช่วยเสริมเสน่ห์ให้เป็นสาวเก๋มีสไตล์เพิ่มมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
เคล็ดไม่ลับทาลิปสติกสีนู้ด ให้สวยสุขภาพดี ไม่ดูเป็นสาวป่วย
เคล็ดไม่ลับทาลิปสติกสีนู้ด ให้สวยสุขภาพดี ไม่ดูเป็นสาวป่วย
ขอบคุณภาพประกอบจาก : pixabay.com
บำรุงริมฝีปากก่อนลงลิปสติกสีนู้ด
การบำรุงริมฝีปากก่อนลงลิปสติกสีนู้ด จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาวๆ ที่มีริมฝีปากแห้งแตก เป็นขุย ลอกจนดูเหมือนดินแห้งๆ ที่แตกลายงา หากทาลิปสติกสีนู้ดลงไปก่อนบำรุง จะทำให้ดูป่วยอย่างหนัก ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือการเตรียมริมฝีปากให้พร้อม เหมือนกับการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า ด้วยการทาลิปปาล์ม หรือสครับริมฝีปากให้เรียบเนียนเสียก่อน หลังจากนั้นค่อยทาลิปสติกเป็นขั้นตอนต่อไป ซึ่งจะช่วยให้ริมฝีปากนู้ดแบบเป็นธรรมชาติและเรียบเป็นสีเดียวกัน
เคล็ดไม่ลับทาลิปสติกสีนู้ด ให้สวยสุขภาพดี ไม่ดูเป็นสาวป่วย
เคล็ดไม่ลับทาลิปสติกสีนู้ด ให้สวยสุขภาพดี ไม่ดูเป็นสาวป่วย
ลง Lip Concealer ก่อนลงลิปสติกสีนู้ด
เพื่อเป็นการช่วยให้สีปากเท่ากันอย่างทั่วถึง ควรลงคอนซีลเลอร์ปกปิดริมฝีปากให้เป็นสีเดียวกันเสียก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวๆ ที่มีปากสีคล้ำ การลงคอนซีลเลอร์จะให้ประโยชน์ช่วยปรับริมฝีปากให้เป็นสีเดียวกันอย่างสม่ำ เสมอ แล้วค่อยลงลิปสติกสีนู้ดตามลงไป จะได้ให้เป็นสีที่มีความเด่นสวยงาม และดูสดใสมากกว่าจะเป็นสาวป่วยนั่นเอง
เคล็ดไม่ลับทาลิปสติกสีนู้ด ให้สวยสุขภาพดี ไม่ดูเป็นสาวป่วย
เคล็ดไม่ลับทาลิปสติกสีนู้ด ให้สวยสุขภาพดี ไม่ดูเป็นสาวป่วย
เลือกโทนสีให้เข้ากับริมฝีปาก
เนื่องจากสาวๆ แต่ละคนมีสีผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้น ควรเลือกลิปสติกนู้ดในโทนที่เข้าได้กับสีผิวของตัวเองมากที่สุด ซึ่งวิธีที่จะช่วยให้มั่นใจว่าสีไหนเหมาะกับตัวเอง ทาแล้วดูสดใสสุขภาพดี ก็คือการลองทาก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งโดยทั่วไปที่นิยมคือสีพีชหรือสีโทนอบอุ่น ที่จะทำให้ดูนุ่มนวล เป็นสาวหวาน และดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ
เนื่องจากการทาลิปสติกสีนู้ดเป็น อะไรที่ยุ่งยากและน่าปวดหัวสำหรับมือใหม่ การเกิดข้อผิดพลาดขึ้นในช่วงแรกๆ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ การแก้ไขที่ดีคือ พยายามเลือกโทนสีที่สดใสเอาไว้ก่อน เกลี่ยริมฝีปากให้มีสีที่สม่ำเสมอกันก่อนทา แล้วเลือกสครับริมฝีปากอาทิตย์ละครั้ง เพื่อช่วยให้ผิวปากชุ่มชื้น เมื่อทาลิปสติกแล้วจะได้ดูสวยเอิบอิ่มมากขึ้นนั่นเองค่ะ

ประเภทของการ์ดแต่งงาน ไอเดียเลือกสไตล์การ์ดให้เข้ากับงานแต่งของคุณ

ประเภทของการ์ดแต่งงาน ไอเดียเลือกสไตล์การ์ดให้เข้ากับงานแต่งของคุณ

ประเภทของการ์ดแต่งงาน ไอเดียเลือกสไตล์การ์ดให้เข้ากับงานแต่งของคุณ

การ์ดแต่งงานเป็นส่วนประกอบหนึ่งของงานแต่งงานที่จะบอกสาวๆ ว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะนี้คือ หน้าตาของงานที่จะเป็นตัวแทนของคู่บ่าวสาว ลักษณะของการ์ดในปัจจุบันมีให้เลือกอย่างหลากหลาย
ใครที่ใส่ใจรายละเอียดกับงานแต่งวันสำคัญแบบนี้ ลองมาทำความเข้าใจกับการ์ดแต่งงานประเภท ต่างๆ ที่หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมมีราคาแตกต่างกันมากเหลือเกิน ซึ่งแน่นอนว่าขึ้นอยู่กับการออกแบบ รายละเอียดที่ผู้จัดงานต้องการ แล้วมาลองเลือกไอเดียที่เหมาะสม ให้เข้ากับวันงานมงคลครั้งหนึ่งในชีวิตของสาวๆ กันค่ะ
ประเภทของการ์ดแต่งงาน ไอเดียเลือกสไตล์การ์ดให้เข้ากับงานแต่งของคุณ
ประเภทของการ์ดแต่งงาน ไอเดียเลือกสไตล์การ์ดให้เข้ากับงานแต่งของคุณ
ประเภทของการ์ดแต่งงาน
โดยทั่วไปการ์ดแต่งงานจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทตามมาตรฐานด้วยกัน ได้แก่
1.การ์ดแบบสำเร็จรูป
เป็นการ์ดที่ออกแบบมาให้เรียบร้อย พร้อมจ่ายเงินซื้อกันได้แบบไม่ต้องมาเสียเวลาออกแบบ ส่วนมากแล้วจะไม่มีแบบให้เลือกมากมาย จะเป็นส่วนที่มีให้อยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นการ์ดแบบซ้ำๆ กันทั่วไป ลักษณะของการ์ดธรรมดา แต่ข้อดีคือราคาถูก พบเห็นได้มากที่สุด สาวๆ จะไม่สามารถออกแบบบด้วยตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าเป็นการ์ดที่ด้รับความนิยม กรณีที่คู่บ่าวสาวไม่ได้ต้องการความสวยงามพิเศษมากนัก ช่วยทุนงานแต่งงานไปได้ในตัว
ประเภทของการ์ดแต่งงาน ไอเดียเลือกสไตล์การ์ดให้เข้ากับงานแต่งของคุณ
ประเภทของการ์ดแต่งงาน ไอเดียเลือกสไตล์การ์ดให้เข้ากับงานแต่งของคุณ
2.การ์ดโมเดิร์นหรือแบบฟิวชั่น
การ์ดแบบฟิวชั่น โมเดิร์น คือการ์ดแต่งงานที่มีความโดดเด่นเก๋ไก๋ตามยุคสมัยมากที่สุด ง่ายๆ คือความแปลกใหม่ ที่มาพร้อมลูกเล่นไม่เหมือนใคร ให้ความพิเศษขึ้นมาในอีกระดับ ข้อดีคือสาวๆ สามารถจะเลือกรูปแบบของการ์ดแต่งงานที่สะท้อนสไตล์ความเป็นตัวเองและธีมงาน ได้มากกว่าการ์ดชนิดแรก แถมยังปรับเปลี่ยนข้อความ มีลูกเล่นเสริมต่างๆ ลงไปได้อีกด้วย
3.การ์ดที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามชอบ
การ์ดแต่งงานรูปแบบนี้จะเป็นการ์ดแต่งงานที่เน้นความทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของงานแต่งงานได้มากกว่า แต่ก็มีข้อจำกัดแล้วแต่แหล่งผลิตว่าจะสามารถเปลี่ยนรูปแบบในส่วนไหนของการ์ด ได้บ้าง ซึ่งส่วนมากจะเป็นสีของการ์ด ลูกเล่น และรูปทรงของการ์ด ส่วนราคาจะขึ้นมาอีกอยู่ในระดับกลางๆ ส่วนราคาจะแพงมากขึ้น แล้วแต่ว่าเราจะต้องการเติมอะไรเข้าไปอีก
ประเภทของการ์ดแต่งงาน ไอเดียเลือกสไตล์การ์ดให้เข้ากับงานแต่งของคุณ
ประเภทของการ์ดแต่งงาน ไอเดียเลือกสไตล์การ์ดให้เข้ากับงานแต่งของคุณ
4.การ์ดแบบเฉพาะไม่ซ้ำใคร
หรือจะเรียกว่าเป็นการ์ดงานแต่งส่วน บุคคล ซึ่งจะเป็นการ์ดที่เหมาะสำหรับคู่บ่าวสาวใส่ใจในรายละเอียดที่เห็นว่าการ์ด เหล่านี้คือการส่งมอบความมีหน้ามีตาของงานตัวเองมากที่สุด แน่นอนว่าจะเป็นการ์ดที่ไม่ซ้ำใคร มีการออกแบบเฉพาะเจาะของการ์ดมากที่สุด สะท้อนสไตล์ของธีมงานแต่งหรือตามแต่ความชอบของคู่บ่าวสาว ซึ่งการ์ดแบบนี้จะมีราคาแพง และใช้เวลาในการออกแบบและผลิตที่นาน อย่างไรก็ตาม นี่คือการ์ดที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
รู้จักกับประเภทของการ์ดแต่งงาน ที่หลากหลายกันไปแล้ว ถึงเวลาที่สาวๆ จะได้เลือกรูปแบบของการ์ดที่สะท้อนความเป็นตัวเองได้มากขึ้น เติมสีสันให้วันงานสำคัญ และยังเป็นที่ประทับใจของแขกรับเชิญอีกด้วยค่ะ

รู้วิธีเขียนคิ้วให้ถูกวิธี ช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้สวยมีเสน่ห์ได้ไม่ยาก !


รู้วิธีเขียนคิ้วให้ถูกวิธี ช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้สวยมีเสน่ห์ได้ไม่ยาก !

รู้วิธีเขียนคิ้วให้ถูกวิธี ช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้สวยมีเสน่ห์ได้ไม่ยาก !

หลังจากแต่งหน้าได้เป๊ะตามที่ตั้งใจเอาไว้ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกยันถึงขั้นตอนการทาแป้งแล้ว มาถึงส่วนที่น่าตื่นเต้นอีกจุดหนึ่งสำหรับสาวๆ นั่นก็คือ ส่วนของคิ้วที่ที่มักจะสร้างความปวดใจให้กับใครหลายคนเสียเหลือเกิน
เพราะด้วยลักษณะคิ้วที่แตกต่างกัน ทำให้สาวๆ มือใหม่ที่ยังไม่รู้แนวของตัวเอง ไม่รู้ว่าจะต้องเขียนคิ้วออกมาแบบไหน มีวิธีเขียนคิ้วอย่าง ไรให้เหมาะสมกับตัวเอง อย่าเพิ่งคิดกังวลกันไปไกลจนไปสักคิ้วให้พลาดท่า ลองมาดูหลากวิธีเขียนคิ้วต่อไปนี้ ที่จะช่วยให้ใบหน้าของสาวๆ สวยสมบูรณ์แบบได้ไม่ยากเลยล่ะค่ะ
รู้วิธีเขียนคิ้วให้ถูกวิธี ช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้สวยมีเสน่ห์ได้ไม่ยาก !
รู้วิธีเขียนคิ้วให้ถูกวิธี ช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้สวยมีเสน่ห์ได้ไม่ยาก !
วิธีเขียนคิ้วให้เหมาะกับสาวคิ้วบาง
คือเป็นสาวคิ้วบางอยู่แล้ว มันคือปัญหาที่ทำให้สาวๆ หมดความมั่นใจในตัวเองไประดับหนึ่ง ระหว่างแป้งซับหน้ามันกับดินสอเขียนคิ้ว สิ่งที่จะพกติดตัวออกไปมากกว่าก็คงจะเป็นตัวดินสอที่จะช่วยเติมสีคิ้วไม่ให้ มันหลุดล่อนจดดูบางลงในระหว่างวัน ซึ่งการเขียนคิ้วสำหรับสาวคิ้วบางเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากจะช่วยเสริมผิวหน้าให้ดูมีเสน่ห์
หลักการง่ายๆ คือ การกันคิ้วให้ได้สัดส่วนไปเลย ไหนๆ ก็มีคิ้วบางอยู่แล้ว คงไม่ต้องกังวลหากจะต้องกันคิ้วบางส่วนออกไป จากนั้นไล่ด้วยดินสอเขียนคิ้วสีอ่อนกว่าสีมของตัวเองหนึ่งเฉดเป็นตัวเริ่ม และวาดกรอบคิ้วไปพร้อมๆ กันด้วยแบบไม่ต้องหนา ให้ส่วนของหัวคิ้วมาอยู่ปลายจมูกเพื่อสร้างความมีมิติ แล้วปัดด้วยสีเขียนคิ้วแบบฝุ่นในสีเดียวกัน ตบท้ายด้วยมาสคาร่าเขียนคิ้วอีกครั้งตามรูปคิ้วที่เขียนเอาไว้ โดยระวังอย่าให้หลุดกรอบ
รู้วิธีเขียนคิ้วให้ถูกวิธี ช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้สวยมีเสน่ห์ได้ไม่ยาก !
รู้วิธีเขียนคิ้วให้ถูกวิธี ช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้สวยมีเสน่ห์ได้ไม่ยาก !
วิธีเขียนคิ้วสำหรับคนชอบคิ้วหนา
เราอาจจะเคยเห็นสาวคิ้วหนาที่ดูตลก จนแอบสงสัยว่าพวกเธอไม่ได้ส่องกระจกตอนวาดคิ้วหรืออย่างไร แต่สไตล์การวาดคิ้วแบบนี้ จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นการ แต่งหน้าที่ช่วยทำให้ตาคมสวยเด่น เป็นสาวมาดมั่น แต่ต้องเป็นลักษณะของคิ้วที่หนาได้อย่างสวยงามเหมาะสมรับกับรูปหน้า หลักการง่ายๆ คือ กันคิ้วส่วนเกินออกไปก่อน แล้วเลือกใช้ดินสอเขียนคิ้วที่เป็นสีน้ำตาลเข้ม เริ่มเขียนตั้งแต่ขอบคิ้วกึ่งกลางล่างไปถึงหางคิ้ว แล้วค่อยไล่เติมสีคิ้วไปตามเส้นขนอย่างใจเย็น จากนั้นไปเริ่มเขียนจากกึ่งกลางขอบคิ้วไปหาคิ้ว ส่วนตรงหางจะเดินเส้นเล็กน้อย เพื่อให้ดูเป็นเค้าโครงมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีวิธีเขียนคิ้วอีกหลากหลายรูปแบบที่สาวๆ สามารถทดลองปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองได้ โดยจะต้องดูปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งสีผิว สีผม และลักษณะโครงหน้าของตัวเองไปพร้อมๆ กันด้วยค่ะ

ลดน้ำหนักด้วยตัวเองไม่สำเร็จสักที อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้ก็ได้ !

ลดน้ำหนักด้วยตัวเองไม่สำเร็จสักที อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้ก็ได้ !

ลดน้ำหนักด้วยตัวเองไม่สำเร็จสักที อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้ก็ได้ !

สาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักด้วย ตัวเอง แต่พอตั้งใจทำอย่างจริงจัง กลับไม่สามารถลดได้ซักที แถมหาสาเหตุไม่ได้อีกว่าเป็นเพราะอะไร หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเพราะระบบเผาผลาญของตัวเองพัง หรือเพราะมีระบบเผาผลาญที่ไม่เหมือนคนอื่น ซึ่งจริงๆ แล้วเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ
ทว่าโดยมากมาจากความเข้าใจผิด ซึ่งเป็นความผิดพลาดของสาวๆ เองเสียมากกว่า ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความเชื่อและพฤติกรรมผิดๆ ที่หลายคนไม่รู้ตัว ลองมาสังเกตสาเหตุต่อไปนี้ ที่สาวๆ อาจจะเพิ่งรู้ตัวก็เป็นได้ค่ะ
ลดน้ำหนักด้วยตัวเองไม่สำเร็จสักที อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้ก็ได้ !
ลดน้ำหนักด้วยตัวเองไม่สำเร็จสักที อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้ก็ได้ !
ปล่อยให้ความเครียดเล่นงานบ่อยๆ
ด้วยสังคมสมัยนี้ ความเครียดกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตสาวๆ ไปแล้ว แต่อย่าลืมว่าการลดน้ำหนักด้วย ตัวเองนั้น ผลกระทบจากความเครียดมีผลในแบบที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว เพราะด้วยความเครียดที่เรื้อรัง ทำให้ช่วงเวลานั้นๆ สาวๆ ขาดสติ ขาดสมาธิ ร่างกายถูกกระตุ้นให้กินอาหารมากขึ้น บังคับตัวเองได้ยาก แถมอาหารที่กินเข้าไปนั้นยังเป็นอาหารหวานๆ มันๆ ที่ช่วยเติมความสดชื่น มาทดแทนอารมณ์เครียดให้ดีขึ้น มารู้ตัวอีกทีก็คือน้ำหนักตัวและไขมันที่เพิ่มมากขึ้นมาแล้วนั่นเอง
ลดน้ำหนักด้วยตัวเองไม่สำเร็จสักที อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้ก็ได้ !
ลดน้ำหนักด้วยตัวเองไม่สำเร็จสักที อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้ก็ได้ !
ขอบคุณภาพประกอบจาก : pixabay.com
เครื่องดื่มแก้วเล็ก แต่มากพลังงาน
พฤติกรรมสาวออฟฟิศคือการชอบดื่มชากาแฟทั้งลายแหล่ ที่แม้จะกินแค่วันละ 1 แก้ว แต่รู้ไหมว่า ในแต่ละแก้วนั้นอุดมไปด้วยไขมันและน้ำตาลที่มันจะกลายเป็นไขมันรวมๆ สะสมตัวกันอยู่ในร่างกายของเราต่อไป ยิ่งสาวๆ ที่กินแล้วต้องนั่งทำงาน ไม่ได้เผาผลาญร่างกาย ตั้งใจกินเมนูคลีนๆ แต่ดันตกม้าตายตรงเครื่องดื่มที่ให้พลังงานมากพวกนี้ ก็เป็นอะไรที่ทำให้การลดน้ำหนักพังเหมือนกันนั่นเอง
ลดน้ำหนักด้วยตัวเองไม่สำเร็จสักที อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้ก็ได้ !
ลดน้ำหนักด้วยตัวเองไม่สำเร็จสักที อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้ก็ได้ !
เข้าใจผิดคิดว่าช่วงมีประจำเดือนห้ามออกกำลังกาย
แม้จะมีประจำเดือนมา สาวๆ ก็สามารถออกำลังกายได้ ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแต่ อย่างใดเลย แถมยังไม่ส่งผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ของเรา นอกจากบางคนที่มีอาการปวดท้องไม่สบายตัว ลองเปลี่ยนมาออกกำลังกายแบบเบาๆ ดีกว่าหยุดไปเฉยๆ เพราะช่วงที่มีรอบเดือน เป็นช่วงที่ฮอร์โมนแปรปรวน อาจจะทำให้สาวๆ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ กินอาหารแบบไม่เลือกหน้า กว่ารอบเดือนจะหมดก็หลายวัน ผลที่ตามมาคือการออกกำลังกายเมื่อก่อนหน้านี้มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยนั่น เอง
ความเชื่อผิดๆ กับการลดน้ำหนักด้วยตัวเองเหล่านี้ เป็นสิ่งที่สาวๆ จะต้องสังเกตตัวเองให้ดี หากมีพฤติกรรมแบบนี้แล้วล่ะก็ ควรรีบแก้ไขโดยด่วน จะได้มีหุ่นสวยได้ดั่งใจต้องการ แถมได้สุขภาพที่ดีตามมาด้วยนั่นเองค่ะ

เลือกรองพื้นอย่างไร ให้ใช้แล้วหน้าสวยเป๊ะตลอดวัน !

เลือกรองพื้นอย่างไร ให้ใช้แล้วหน้าสวยเป๊ะตลอดวัน !

เลือกรองพื้นอย่างไร ให้ใช้แล้วหน้าสวยเป๊ะตลอดวัน !

รองพื้น เป็นเครื่องสำอางที่มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ใบหน้าเนียนใสและดูเรียบเนียนไร้จุดด่างดำหรือ ปัญหารูขุมขนกว้างมากวนใจ แถมยังเป็นตัวกำหนดความสวยเป๊ะของใบหน้าหลังจากแต่งหน้าครบเซ็ตอีกด้วย
เพราะฉะนั้น การจะเลือกรองพื้นจึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับใบหน้าของเราที่สุด และเลือกที่มีคุณภาพที่สุด ซึ่งเราก็มีวิธีเลือกรองพื้นมาฝากกัน ดังนี้
เลือกรองพื้นอย่างไร ให้ใช้แล้วหน้าสวยเป๊ะตลอดวัน !
เลือกรองพื้นอย่างไร ให้ใช้แล้วหน้าสวยเป๊ะตลอดวัน !
เลือกรองพื้นให้เหมาะกับสภาพผิว
รองพื้นแต่ละแบบ ถูกออกแบบมาให้มีความเหมาะกับสภาพผิวแต่ละประเภทโดยเฉพาะ ดังนั้นการเลือกซื้อรองพื้น จึงควรเลือกที่มีความเหมาะกับผิวของตัวเอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยสภาพผิวแต่ละแบบก็จะมีความเหมาะกับรองพื้นตามสูตร ดังนี้
  • ผิวผสม กับรองพื้นสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวโดยเฉพาะ แต่ให้เน้นใช้กับบริเวณที่เป็นผิวแห้งมากกว่า
  • ผิวมัน กับรองพื้นสูตร oil free ที่จะช่วยลดความมันบนผิว และทำให้รูขุมขนกระชับยิ่งขึ้น
  • ผิวแห้ง กับรองพื้นที่มีส่วนผสมของวิตามิน A กับวิตามิน E รวมถึงรองพื้นที่มีความชุ่มชื้นสูงด้วย
เลือกรองพื้นอย่างไร ให้ใช้แล้วหน้าสวยเป๊ะตลอดวัน !
เลือกรองพื้นอย่างไร ให้ใช้แล้วหน้าสวยเป๊ะตลอดวัน !
เลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิว
อีกวิธีเลือกรองพื้น ที่จะทำให้ใช้แล้วผิวของเราดูสวยเป๊ะ เรียบเนียนและดูขาวกระจ่างใสได้นั้น ก็คือการเลือกสีของรองพื้นให้เข้ากับสีผิวของเราที่สุด โดยมีเทคนิคในการเลือก คือ คนที่มีผิวคล้ำ จะต้องเลือกรองพื้นที่มีสีใกล้เคียงกับสีผิวที่สุด และคนที่มีผิวขาว จะต้องเลือกรองพื้นที่มีสีเข้มกว่าสีผิวจริงระดับหนึ่งนั่นเอง เพราะฉะนั้นอย่าลืมเลือกรองพื้นให้เข้ากับสีผิวของตัวเองกันด้วยนะคะ
เลือกรองพื้นอย่างไร ให้ใช้แล้วหน้าสวยเป๊ะตลอดวัน !
เลือกรองพื้นอย่างไร ให้ใช้แล้วหน้าสวยเป๊ะตลอดวัน !
เลือกตามประเภทของรองพื้น
การเลือกตามประเภทของรองพื้น จะทำให้เราได้ลองพื้นที่ใช้งานได้เหมาะกับความต้องการของตัวเองที่สุด โดยรองพื้นก็แบ่งออกเป็นประเภทได้ตามนี้
  • รองพื้นสูตรน้ำ ให้การปกปิดที่ล้ำลึกและบางเบาสุดๆ แถมยังให้ลุคใสๆ แบบเป็นธรรมชาติอีกด้วย
  • รองพื้นสูตรเนื้อครีม ให้การปกปิดดีเยี่ยม ทั้งปกปิดรูขุมขนได้ดี ให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น แต่ต้องระวังอย่าทาครีมหนาเกินไป เพราะจะทำให้ใบหน้าดูหนาเตอะ ไม่เป็นธรรมชาติได้
  • รองพื้นสูตรแป้งผสมรองพื้น ตลับเดียวจบตลอดวัน สามารถเติมแป้งให้ใบหน้าดูสวยเป๊ะได้ตลอดเวลา
ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ กับการเลือกซื้อรองพื้น สาวๆ คนไหนอยากได้รองพื้นที่ใช้แล้วโดนใจ ช่วยให้ใบหน้าดูสวยเป๊ะเรียบเนียนและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติล่ะก็ ลองเลือกซื้อรองพื้นด้วยวิธีเหล่านี้กันดูนะคะ

ข้อควรระวังในการใช้มาสคาร่า อันตรายจากการปัดขนตาที่สาวๆ อาจไม่รู้ !

ข้อควรระวังในการใช้มาสคาร่า อันตรายจากการปัดขนตาที่สาวๆ อาจไม่รู้ !

ข้อควรระวังในการใช้มาสคาร่า อันตรายจากการปัดขนตาที่สาวๆ อาจไม่รู้ !

ขึ้นชื่อว่าเครื่องสำอาง ก็ล้วนมีส่วนผสมของสารเคมี สาวๆ ที่มีความรู้ จึงนิยมเลือกซื้อเครื่องสำอางที่มียี่ห้อเชื่อถือได้ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องสารปนเปื้อนลงไปได้อย่างมากมาย แต่อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นเครื่องสำอางจากเคาท์เตอร์แบรนด์ราคาแพงที่การันตี ยอดขาย หรือจะเป็นเครื่องสำอางที่ผ่านการเคลมแล้วว่าสำหรับผิวแพ้ง่าย
แต่การใช้เครื่องสำอางที่เกี่ยวข้องกับผิวที่มีความบอบบางเสี่ยงต่อการ ระคายเคืองได้ง่าย ก็ย่อมเป็นสิ่งที่สาวๆ ต้องระมัดระวังอยู่ดี บริเวณที่เราควรใส่ใจเป็นพิเศษคือรอบดวงตา โดยเฉพาะการใช้มาสคาร่าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ยิ่งสาวๆ ที่ชอบเน้นแบบมาสคาร่าชนิดกันน้ำ ติดแน่นทนนาน เมื่อทำความสะอาดได้ยาก ทำให้เกิดการตกค้าง เสี่ยงอันตรายต่อดวงตาของเราเป็นอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ
ข้อควรระวังในการใช้มาสคาร่า อันตรายจากการปัดขนตาที่สาวๆ อาจไม่รู้ !
ข้อควรระวังในการใช้มาสคาร่า อันตรายจากการปัดขนตาที่สาวๆ อาจไม่รู้ !
ข้อควรรู้ในการใช้มาสคาร่าปัดขนตาให้สวยงอนแบบปลอดภัย
สาวๆ ที่หลงใหลความงอนงามของขนตาตัวเองด้วยการปัดมาสคาร่าแล้วล่ะก็ เพื่อความปลอดภัย ป้องกันสารเคมีที่อาจจะทำให้ตาบอดได้ ควรรู้จักการใช้อย่างถูกวิธี ด้วยคำแนะนำต่อไปนี้กันค่ะ
1.หลีกเลี่ยงมาสคาร่าที่โฆษณาว่ามียาช่วยกระตุ้นให้ขนตายาวขึ้น
ไม่มีแน่นอนค่ะสำหรับมาสคาร่าที่เพียงแค่ปัดๆ บริเวณขนตาแล้วจะช่วยให้ขนตาธรรมชาติของเรายาวขึ้น เพราะสารเคมีที่อยู่ในเครื่องสำอางชนิดนี้ไม่ใช่ยา แต่ล้วนเป็นสารเคมีอันตรายทั้งสิ้น การโฆษณาชวนเชื่อดังกล่าวหากพบ จึงควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจมีสารอันตรายปะปนมาด้วย เสี่ยงที่จะทำให้เยื่อบุลูกตาอักเสบ ตาบวม สีม่านตาเปลี่ยน จนตาบอดได้เลยทีเดียว
ข้อควรระวังในการใช้มาสคาร่า อันตรายจากการปัดขนตาที่สาวๆ อาจไม่รู้ !
ข้อควรระวังในการใช้มาสคาร่า อันตรายจากการปัดขนตาที่สาวๆ อาจไม่รู้ !
2.รู้จักทำความสะอาดแปรงปัดขนตาบ้าง
ส่วนใหญ่เราจะละเลยการทำความสะอาดแปรงปัดขนตา ซึ่งตามจริงแล้วแปรงเหล่านี้เมื่อใช้งานไปนานๆ จะทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็น หากอายุการใช้งานนานกว่า 3 เดือนขึ้นไป ควรเอามาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นบ้างเพื่อกำจัดเอาเชื้อโรคและแบคทีเรีย ที่อาจจะส่งผลให้ดวงตาระคายเคืองหลุดออกไป
3.ทดลองปัดสักเล็กน้อยก่อนเพื่อตรวจสอบอาการแพ้
สารเคมีทั้งหลายในเครื่องสำอางล้วนเป็นอันตราย เพื่อความปลอดภัยให้มั่นใจมากที่สุด ว่ามาสคาร่าของสาวๆ จะไม่ได้เป็นอันตรายต่อดวงตาเมื่อนำไปใช้ ควรทำการทดสอบให้ชัวร์ก่อนว่าตัวเองมีอาการแพ้หรือไม่ เพราะหากเกิดอาการขึ้นมาจะได้หยุดใช้ได้ทันการ ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้จนหนัก จนลุกลามยากต่อการรักษาให้กลับมาหายเป็นปกติได้
สาวๆ ที่ชอบใช้มาสคาร่าเพิ่มความสวยให้ดวงตาของตัวเอง หลังใช้แล้วอย่าลืมใช้คลีนซิ่งล้างทำความสะอาดให้หมดจรด ไม่ควรให้เหลือทิ้งเอาไว้เป็นคราบบนผิวขนตา เพราะสารเคมีเหล่านี้สามารถเข้าสู่ดวงตาทำให้เกิดการอักเสบตามมาได้นั่นเอง ค่ะ

สิ่งของเหล่านี้ แม่ท้องไม่จำเป็นต้องเตรียมเมื่อไปคลอด

สิ่งของเหล่านี้ แม่ท้องไม่จำเป็นต้องเตรียมเมื่อไปคลอด

สิ่งของเหล่านี้ แม่ท้องไม่จำเป็นต้องเตรียมเมื่อไปคลอด

เมื่อมีอาการคนท้อง ที่บ่งบอกว่าคุณแม่ใกล้จะถึงวันคลอดแล้ว ประกอบกับอายุครรภ์ที่ใกล้จะถึงกำหนดเต็มที แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ก็คงจะวุ่นกับการเตรียมของไปคลอดใช่ไหมล่ะ แต่รู้ไหมว่าสิ่งของบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมเสมอไป เพราะอาจไม่จำเป็นต้องใช้ หรือสามารถหาซื้อได้ในโรงพยาบาลนั่นเอง ว่าแต่จะมีสิ่งของอะไรบ้าง ที่ไม่ต้องเตรียมในวันไปคลอด เรามาดูกัน
หมอนรองให้นม
หมอนรองให้นมอาจเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในวันคลอด เพราะจะช่วยให้คุณแม่สามารถให้นมลูกน้อยได้อย่างสะดวกมากขึ้นนั่นเอง แต่ทั้งนี้ก็ถือเป็นสิ่งของที่ไม่จำเป็นต้องเตรียมไปให้รกกระเป๋าเหมือนกัน  เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว ทางโรงพยาบาลจะมีเตรียมพร้อมให้กับคุณแม่อยู่แล้วนั่นเอง
สิ่งของเหล่านี้ แม่ท้องไม่จำเป็นต้องเตรียมเมื่อไปคลอด
สิ่งของเหล่านี้ แม่ท้องไม่จำเป็นต้องเตรียมเมื่อไปคลอด
ของมีค่า
ของมีค่าจำพวกสร้อยคอทองคำ แหวนเพชร คุณแม่ไม่จำเป็นต้องเตรียมไปคลอดด้วย เพราะเป็นสิ่งของที่ไม่จำเป็นมาก แถมยังเสี่ยงต่อการสูญหาย ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกด้วย ดังนั้นสิ่งของจำพวกนี้ คุณแม่ควรเก็บไว้ที่บ้านให้มิดชิดจะดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกขโมย และยังเหลือที่ว่างในกระเป๋าให้ใส่ของจำเป็นได้มากขึ้นอีกด้วย
เสื้อผ้าปกติของคุณแม่
คุณแม่หลายคนอาจคิดว่าหลังคลอดปุ๊บก็จะใส่เสื้อผ้าที่เคยใส่ตามปกติตอนก่อนตั้งครรภ์ได้ แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดมาก เพราะหลังคลอดใหม่ๆ คุณแม่จะยังคงมีรูปร่างที่กลมโตจากการตั้งครรภ์ และกว่ารูปร่างของคุณแม่จะกลับสู่ภาวะปกตินั้น ก็อาจต้องใช้เวลา ประมาณ 6 สัปดาห์เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นในวันไปคลอด ก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมเสื้อผ้าปกติไปหรอก แต่ให้เตรียมเสื้อผ้าที่เคยใส่ในขณะตั้งครรภ์ไปดีกว่า
สิ่งของเหล่านี้ แม่ท้องไม่จำเป็นต้องเตรียมเมื่อไปคลอด
สิ่งของเหล่านี้ แม่ท้องไม่จำเป็นต้องเตรียมเมื่อไปคลอด
ผ้าอนามัย
ผ้าอนามัยเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก แต่การเตรียมของไปคลอดนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมผ้าอนามัยไปเลย เพราะทางโรงพยาบาลจะมีการจัดเตรียมไว้ให้พร้อมอยู่แล้ว อย่างดีก็เตรียมไปแค่ไว้ใช้ในวันใส่กลับจากโรงพยาบาลก็พอ หรือไม่ก็สามารถซื้อในโรงพยาบาลได้เลยนั่นเอง
เมื่อมีอาการคนท้องที่ บ่งบอกว่าคุณกำลังจะคลอดแล้ว ก็อย่าลืมเตรียมกระเป๋าสำหรับไปคลอดให้พร้อม แต่สำหรับสิ่งของที่ไม่จำเป็นข้างต้น ก็ไม่ต้องหยิบใส่กระเป๋าไปนะ เหลือที่ว่างในกระเป๋าไว้ใส่สิ่งของที่จำเป็นจริงๆ อย่างผ้าอ้อมเด็กจะดีกว่า
แค่นี้ก็จะไม่ทำให้คุณยุ่งยากกับ การเตรียมของเพื่อไปคลอดแล้วล่ะ แถมยังช่วยให้กระเป๋าเบาขึ้นอีกด้วย ไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมล่ะ กับการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อไปคลอดเนี่ย

อยากให้สามีติดใจ สาวๆ ควรรู้ไว้ “สิ่งใดที่ผู้ชายต้องการ?”

อยากให้สามีติดใจ สาวๆ ควรรู้ไว้ “สิ่งใดที่ผู้ชายต้องการ?”

อยากให้สามีติดใจ สาวๆ ควรรู้ไว้ “สิ่งใดที่ผู้ชายต้องการ?”

เพื่อชีวิตรักที่เร่าร้อนและเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น สาวๆ ควรฝึกฝนตัวเองด้วยการเรียนรู้เรื่องบนเตียงกับเซ็กส์ที่ผู้ชายติดใจ ทำให้เขารู้สึกชื่นชอบและประทับใจในตัวคุณ
นอกจากจุดเสียวต่างๆ บนร่างกายที่จะเปรียบเสมือนตัวช่วยสร้างอารมณ์แห่งความสุขให้ลุกโชนมากขึ้น แล้ว ยังมีสิ่งที่สาวๆ ควรรู้ไว้ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ว่าเหล่าผู้ชายชอบอะไรเป็นพิเศษ เรื่องแบบนี้ทำให้เองแบบไม่ต้องมาคอยบอก ยิ่งช่วยทำให้สาวๆ กลายเป็นคนที่จะกำราบชายหนุ่มคาเตียงกันได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยล่ะค่ะ
อยากให้สามีติดใจ สาวๆ ควรรู้ไว้ “สิ่งใดที่ผู้ชายต้องการ?”
อยากให้สามีติดใจ สาวๆ ควรรู้ไว้ “สิ่งใดที่ผู้ชายต้องการ?”
ความเงียบสร้างอารมณ์
รู้หรือไม่ว่าจากการศึกษาทำความเข้าใจกับเหล่าผู้ชายส่วนใหญ่ พวกเขาชอบการมีเซ็กส์ใน บรรยากาศที่โรแมนติก ซึ่งมันช่วยสร้างอารมณ์ได้ง่าย เพราะไม่มีอะไรมาดึงสมาธิของพวกเขาให้หลุดลอยออกไปนอกจากเรือนร่างของสาวตรง หน้า ความเงียบกลายเป็นเซ็กส์ที่ผู้ชายติดใจ เพราะมันทำให้เข้ามั่นใจว่านี่จะอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว สามารถปลดปล่อยตัวเองได้อย่างที่ต้องการมากที่สุด แถมยังชวนให้ตื่นเต้นไปกับการแสดงออกของฝ่ายหญิงที่จะเกิดขึ้นต่อไปใน ระหว่างทำกิจกรรมอีกด้วย
อยากให้สามีติดใจ สาวๆ ควรรู้ไว้ “สิ่งใดที่ผู้ชายต้องการ?”
อยากให้สามีติดใจ สาวๆ ควรรู้ไว้ “สิ่งใดที่ผู้ชายต้องการ?”
ความสุขภายนอกสำคัญมากกว่าการถึงจุดสุดยอด
หากไม่นับผู้ชายที่อยากให้ตัวเองเสร็จๆ อยู่คนเดียว ผู้ชายที่ใส่ใจกับความรู้สึกของหญิงสาวที่เขารักแล้วล่ะก็ รู้หรือไม่ว่าเซ็กส์ที่จะทำให้เขาพึงพอใจไม่ใช่เพียงแค่การทำให้ตัวเองถึง จุดสุดยอดเท่านั้น แต่การเริ่มเล้าโลมฝ่ายหญิงให้มีอารมณ์ร่วมได้มากที่สุด การสร้างความโรแมนติกระหว่างกันก่อนหน้านี้ คือความสุขที่ทำให้เขารู้สึกว่าได้มีอารมณ์ร่วมกัน ส่วนจุดสุดยอดนั้นเป็นเรื่องรองลงมา จะดีไปกว่านี้อีกหากเขาสามารถทำให้ฝ่ายหญิงถึงจุดสุดยอดได้ก่อนหรือขึ้น สวรรค์ไปพร้อมๆ กัน
อยากให้สามีติดใจ สาวๆ ควรรู้ไว้ “สิ่งใดที่ผู้ชายต้องการ?”
อยากให้สามีติดใจ สาวๆ ควรรู้ไว้ “สิ่งใดที่ผู้ชายต้องการ?”
ตื่นเต้นกับการทดลองสิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอ
เซ็กส์ที่ผู้ชายติดใจคือความไม่ซ้ำซากจำเจ อะไรที่เขาอยากลองทำใหม่ๆ และฝ่ายหญิงเต็มใจให้ได้ลองทำ จะทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและพยายามหาไอเดียแปลกใหม่มานำเสนออยู่ทุกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้รสรักระหว่างคนสองคนมีสีสันและไม่น่าเบื่อ สาวๆ จึงควรปฏิบัติตัวด้วยการรับฟังไอเดียเหล่านั้น แม้บางครั้งมันอาจจะดูสัปดนไปบ้าง แต่หากไม่ได้เป็นอันตรายหรือแปลกประหลาดมากเกินจะทนไหว การร่วมรักด้วยสิ่งที่คาดไม่ถึงไปพร้อมๆ กัน จะกลายเป็นความสุขขั้นสุดยอดที่ลงตัวเลยทีเดียว
เมื่อเซ็กส์เป็นส่วนหนึ่งของ ชีวิตคู่แล้ว ส่วนใหญ่ผู้ชายจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก สาวๆ ที่อยากทำให้มีเซ็กส์ที่ผู้ชายติดใจ ลองหาความแปลกใหม่ เรียนรู้พฤติกรรมของพวกเขา และกล้าที่จะแสดงออกในเรื่องนี้อย่างไม่เขินอายกันดูค่ะ