วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

3 วิธีเร่งผมยาวที่สาวๆ ชาวญี่ปุ่นท้าให้ลอง!


3 วิธีเร่งผมยาวที่สาวๆ ชาวญี่ปุ่นท้าให้ลอง!

3 วิธีเร่งผมยาวที่สาวๆ ชาวญี่ปุ่นท้าให้ลอง!

นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้สาวๆ มีผมที่ ยาวเร็วขึ้นนอกเหนือจากการที่ต้องไปผ่านกระบวนการต่างๆ ทางเคมี หรือการใช้สมุนไพรเพื่อเร่งให้ผมยาว โดยทั้ง 3 วิธีที่จะได้รู้ต่อไปนี้ได้รับคำยืนยันมาจากสาวๆ ชาวญี่ปุ่นแล้วว่าเห็นผล ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาอยู่สักหน่อย แต่ก็ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเราและสุขภาพผมของเราอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องปรับพฤติกรรมบางอย่างเท่านั้นเอง  ก็เลยหยิบยกมาฝากให้สาวๆ ได้ลองไปทำตามกัน จะได้ไม่ต้องหงุดหงิดอีกว่า ทำไมนะ ทำไมกันนะ ผมของเราถึงได้ยาวช้าจริงๆ …

โดยปกติแล้ว การเจริญเติบโตของเส้นผมนั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพหนังศีรษะและสุขภาพของแต่ละ บุคคลไม่เหมือนกัน ซึ่งเฉลี่ยในแต่ละเดือนผมของเราจะยาวขึ้นประมาณ 1 เซนติเมตร อีกทั้งจากการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า เส้นผมของชาวญี่ปุ่นนั้นจะมีความยาวเฉลี่ยใน 1 วัน เพียง 0.3 - 0.4 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม สุขภาพ รวมถึงฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นปัจจัยสำคัญด้วย

วิธีเร่งผมยาวอย่างที่ 1 : ไม่เครียด
สาวๆ อย่าเพิ่งตั้งคำถามกันไปซะก่อน มันแน่นอนอยู่แล้วว่าในแต่ละวันนั้นเราอาจจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเครียด ที่เกิดขึ้นได้ แต่เราสามารถที่จะควบคุมและทำให้ความเครียดที่เกิดขึ้นค่อยๆ ลดลงไปจนหายไปได้ ความเครียดไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปถึงเส้นผมของเราด้วย ฉะนั้น เรื่องเครียดอะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดมันทิ้งออกไปเสียเถอะ

วิธีเร่งผมยาวอย่างที่ 2 : ให้ความสำคัญกับการนอน
การพักผ่อนให้เพียงพอจะทำให้เกิดผลดีต่อการเจริญเติบโต เห็นได้จากเด็กๆ ที่นอนเร็วจะมีส่วนสูงที่เพิ่มมากขึ้น สุขภาพก็จะดีขึ้น สมองปลอดโปร่ง เพราะได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ เส้นผมก็เช่นกัน การที่คุณสาวๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้การเจริญเติบโตของเส้นผมดี ขึ้น ผมยาวเร็วขึ้น เนื่องจากเมื่อในขณะที่เรานอนหลับ จะมีการหลั่ง Growth Hormone ที่เป็นฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโตออกมาได้อย่างเต็มที่ มีส่วนช่วยในกระบวนการเติบโตของเส้นผมได้ด้วย แล้วแบบไหนล่ะ ? ที่เรียกว่าเป็นการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ...
การนอนแต่หัวค่ำ : เพื่อให้ Growth Hormone สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00 น. - 02.00 น. จะเป็นช่วงของการหลั่งฮอร์โมนชนิดนี้ออกมาได้อย่างเต็มที่ ฉะนั้น แนะนำนำว่าเป็นช่วงเวลาที่สาวๆ ควรจะเข้านอนโดยไม่เกินช่วงเวลา 22.00 น.
การอาบน้ำช่วยให้การนอนหลับพักผ่อนดียิ่งขึ้น : การแช่น้ำอุ่นก่อนนอนจะเป็นการเข้าไปปรับอุณหภูมิในร่างกายให้สูงขึ้น ส่งผลดีให้สาวๆ นอนหลับได้อย่างสบายและเต็มอิ่ม อีกทั้งช่วยกระตุ้นการหลั่งของ Growth Hormone ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
งดใช้เครื่องมือสื่อสารก่อนเข้านอนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง : พฤติกรรมของสาวๆ ที่ชอบอยู่หน้าจอเครื่องมือสื่อสารก่อนเข้านอน รู้หรือไม่ว่าการทำเช่นนั้นอาจไม่เป็นผลดี เพราะจะเป็นการไปรบกวนการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ ดูได้จากแสงที่มาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ หรือหน้าจอแท๊ปเล็ตจะเป็นตัวที่เข้าไปกระตุ้นการทำงานของสมอง เข้าไปรบกวนการหลับลึก ดังนั้น แนะนำว่า 1 ชั่วโมงก่อนหลับให้หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดจะดีมากที่สุด

วิธีเร่งผมยาวอย่างที่ 3 : ดูแลเรื่องอาหารการกิน

ใครว่าการดูแลเรื่องอาหารการกินไม่สำคัญ ยิ่งการเลือกรับประทานอาหารให้สัมพันธ์กับการดูแลเส้นผมยิ่งเป็นสิ่งที่สาวๆ ต้องทำและละเลยไม่ได้ การรับประทานอาหารให้ครบหมู่และเหมาะกับสัดส่วนร่างกายที่ต้องได้รับก็เป็น อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเร่งผมยาวได้ ยิ่งไปกว่านั้น สาวๆ ควรได้รับแร่ธาตุสะสังสีที่มีอยู่ในอาหารแต่ละวันประมาณ 7 - 9 มิลลิกรัม จะช่วยทำให้ผมยาวเร็วและทำให้เส้นผมมีสุขภาพที่ดี เส้นผมเงางามมากขึ้นอีกด้วย

เห็นรึเปล่าว่า 3 วิธีเร่งผมยาวที่นำ มาฝากทำได้ไม่ยากเลย เพียงแต่จะต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างให้ถูกต้องและเป็นไปในทางที่ ควรจะเป็น นอกจากจะได้สุขภาพที่ดีและมีผมที่เงางามแล้ว สุขภาพร่างกายของสาวๆ ก็จะดีตามไปด้วย ลองเอาไปทำกันดูนะ

เคล็ดลับดูแลทรงผมให้ดูดี เติมความมั่นใจให้สาวๆ สวยตลอดวัน


เคล็ดลับดูแลทรงผมให้ดูดี เติมความมั่นใจให้สาวๆ สวยตลอดวัน

เคล็ดลับดูแลทรงผมให้ดูดี เติมความมั่นใจให้สาวๆ สวยตลอดวัน

การจัดแต่งทรงผมสำหรับสาวๆ เป็นอีกหนึ่งความใส่ใจที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ตัวเองดูดีได้ไม่แพ้การแต่งหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ ทรงผมที่ ดีอาจจะไม่ใช่ทรงผมที่ถูกจัดแต่งให้ดูเวอร์หรือใช้เวลาในการจัดทรงนานเกินไป จนเสียเวลา ดังนั้นการที่จะทำให้ผมดูสวย เติมเสน่ห์ให้กับผิวหน้าดูมีออร่ามากขึ้น คือการดูแลสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรง บำรุงด้วยลีฟออน แชมพูและครีมนวดผมที่เหมาะสม รับรองว่าผมสาวๆ จะสามารถจัดทรงสวยได้อย่างที่ต้องการแน่นอนค่ะ

ผมเส้นเล็กบางกับปัญหาจัดทรงผม
ผมเส้นเล็กบางมักจะเป็นปัญหาสำหรับสาวๆ ได้อย่างมากมาย โดยเฉพาะการจัดแต่งทรงผมที่ไม่ได้ดั่งใจ ผมเส้นเล็กบาง จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลให้มีสุขภาพดี โดยเฉพาะการทำให้เส้นผมมีน้ำหนัก ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเคราติน หรือแพนทีนอล ซึ่งจะช่วยป้องกันเส้นผมเมื่อสัมผัสกับแสงแดด และสายลม หากได้รับการดูแลที่ดีแล้ว เส้นผมของสาวๆ จะดูหนาขึ้น พร้อมสำหรับจัดแต่งทรงผมกันได้แล้ว

เลือกใช้สเปรย์ฉีดผมให้อยู่ทรง
หากจำเป็นต้องออกไปพบปะผู้คนข้างนอก การสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองด้วยการทำทรงผมให้ดูมีเสน่ห์สวยงาม ไม่ถูกลมพัดจนเสียทรง เป็นตัวเลือกจัดทรงผมที่จะช่วยให้เราดูดีได้ในระยะสั้นๆ กรณีที่ไม่สามารถจัดแต่งทรงผมให้ดูดีได้ในระยะเวลาที่กระชั้นชิดแบบนี้ สเปรย์ฉีดผม ทางเลือกที่จะทำให้เส้นผมดูดี ได้ทรงอย่างที่ต้องการ แนะนำสำหรับสาวๆ ให้เลือกใช้เป็นสเปรย์ที่ฉีดแล้วอยู่ทรงได้ตลอดทั้งวัน โดยฉีดจากด้านข้างและด้านล่างไล่ขึ้นมาตามแนวผมที่ต้องการ


เพิ่มวอลลุ่มให้เส้นผมด้วยโรลม้วนขนาดใหญ่
ตัวช่วยนี้เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีเส้นผมยาวแค่ระดับหัวไหล่ และเป็นผมลีบแบน หรือผมเส้นเล็ก หลักการจัดทรงผมเพิ่มความมั่นใจ หลังจากสระผมและไดร์จนผมหมาดๆ ให้ฉีดสเปรย์ชนิดเพิ่มวอลลุ่ม แล้วม้วนผมด้วยโรลจัมโบ้ จากนั้นไดร์อีกครั้ง ปล่อยให้ผมเย็น แกะโรลออก สางๆ ผมให้กระจายตัวจากกันเพื่อความเป็นธรรมชาติก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

นอกจากนี้สาวๆ อย่าลืมเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นตัวช่วยเพิ่มสารอาหารที่ช่วยบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่ทำลายเส้นผมมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำยายืดผม ครีมเปลี่ยนสีผม การใช้ไดร์เป่าผมที่มีความร้อนจัด การหวีผมขณะที่ผมกำลังเปียก พฤติกรรมเหล่านี้จะเป็นตัวทำลายเส้นผม ทำให้การจัดแต่งทรงผมไม่ได้ดั่งใจตามมา

5 สมุนไพรเร่งผมยาว ช่วยให้ผมยาวไวไม่ต้องกังวล !


5 สมุนไพรเร่งผมยาว ช่วยให้ผมยาวไวไม่ต้องกังวล !

5 สมุนไพรเร่งผมยาว ช่วยให้ผมยาวไวไม่ต้องกังวล !


หลายครั้ง สาวๆ ก็อยากลองเปลี่ยนลุค เปลี่ยนจากการไว้ผมยาวมาเป็นสาวผมสั้นดู บ้าง แต่แล้วเรื่องราววุ่นๆ ก็เกิดขึ้น เมื่อร้านตัดผมดันตัดออกมาแล้วได้ทรงที่ไม่ค่อยจะถูกใจสักเท่าไหร่ ตัดผิดแผกไปจากแบบบ้าง ตัดสั้นเกินไปบ้าง จนทำให้สาวๆ เกิดอาการหงุดหงิด อยากจะให้ผมยาวเร็วๆ เพื่อที่จะได้ไปตัดทรงใหม่ให้ถูกใจมากกว่านี้ ครั้นจะเข้าร้านทำผมใช้สารเคมีสำหรับเร่งผมยาวก็อาจไม่ค่อยดี วันนี้ก็เลยมีวิธีที่ธรรมช๊าตธรรมชาติมาฝาก เป็นการเร่งผมยาวด้วยการใช้สมุนไพร นอกจากจะไม่ทำอันตรายต่อหนังศีรษะของคุณผู้หญิงแล้ว ก็ยังไม่มีสารตกค้างอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกัน !

สมุนไพรเร่งผมยาวชนิดที่ 1 - ไข่ + น้ำมันมะกอก
เท่าที่เห็นส่วนผสมแวบแรกอาจจะดูแปลกไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นสูตรที่ได้ผลเชียวล่ะ วิธีทำก็ง่ายๆ เพียงนำเอาน้ำมันมะกอกประมาณ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้ากับไข่ไก่ที่ตอกแล้วประมาณ 2 ฟอง ตีให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นก็นำมาหมักผม ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาแล้วก็ให้สระผมออกได้ตามปกติ ทำเป็นประจำ 1 - 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยทำให้ผมยาวเร็ว อีกทั้งยังทำให้ผมนุ่มขึ้นได้อีกด้วย

สมุนไพรเร่งผมยาวชนิดที่ 2 - ดอกอัญชัญ
รู้หรือไม่ว่าในดอกอัญชัญนั้นมีสารชนิดหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียน ของโลหิต ทำให้เลือดสามารถไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างดีมากขึ้น วิธีทำก็ง่ายๆ เพียงนำดอกอัญชัญมาคั้นเอาเฉพาะน้ำที่มีสีน้ำเงินอมม่วงมาหมักผม ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จะช่วยให้ผมดูดกดำ เงางาม แถมยังเร่งให้ผมยาวเร็วขึ้นอีกด้วย


สมุนไพรเร่งผมยาวชนิดที่ 3 - ชาเขียว
ชาเขียว นับว่าเป็นสมุนไพรที่มีสารพัดประโยชน์ รวมถึงสรรพคุณที่ช่วยเร่งให้ผมยาวเร็วอย่างได้ผล การหาแชมพูที่มีส่วนผสมของชาเขียวมาใช้ก็ช่วยเร่งให้ผมยาวเร็วขึ้นได้ แต่หากสาวๆ คนไหนต้องการที่จะรับสารอาหารจากขาเขียวโดยตรงแบบเพียวๆ ก็อาจใช้น้ำชาเขียวมาชโลมลงบนเรือนผม โดยหมักทิ้งไว้ประมาณ 5 - 10 นาที เมื่อครบเวลาจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด แนะนำให้ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้งจะช่วยให้เห็นผลได้เร็วขึ้น

สมุนไพรเร่งผมยาวชนิดที่ 4 - น้ำมันเมล็ดองุ่น
ชนิดที่ 4 นี้อาจจะหาซื้อมาใช้ยากเสียหน่อย แต่ก็ช่วยให้ผมยาวเร็วได้อย่างทันตา เพียงนำเอาน้ำมันเมล็ดองุ่นมาชโลมลงบนหนังศีรษะให้ทั่ว แล้วนวดเบาๆ เพื่อให้น้ำมันซึมซาบลงสู่หนังศีรษะได้ดี แนะนำให้ทำเป็นประจำก่อนนอนสัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง จะช่วยเร่งให้ผมยาวเร็วขึ้น

สมุนไพรเร่งผมยาวชนิดที่ 5 - มะเขือเทศ
มาถึงสมุนไพรเร่งผมยาวชนิดสุดท้ายกันแล้ว มะเขือเทศ นอกจากจะมีสรรพคุณที่ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวพรรณแล้ว ก็ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผมของสาวๆ ยาวเร็วขึ้นได้อีกด้วย วิธีการก็ง่ายๆ เพียงนำมะเขือเทศมาปั่นให้ละเอียด จากนั้นก็นำมาหมักทิ้งไว้หลังสระประมาณ 5 - 10 นาที เสร็จแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแบบนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ผมของสาวๆ ยาวเร็วขึ้นได้แบบปลอดภัย ไร้สารเคมี

เป็นยังไงกันบ้างกับสมุนไพรเร่งผมยาวทั้ง 5 ชนิด ที่นำ มาฝากกัน เพราะเห็นว่าทั้งดีและปลอดภัยเลยอยากจะบอกต่อ อย่าเพิ่งหงุดหงิดไปถ้าเกิดว่าช่างจะเปลี่ยนลุคทรงผมให้เราไม่ถูกใจ ทุกปัญหามีทางแก้ไข ใครที่ลองเอาสูตรที่เราบอกไปใช้แล้วได้ผลยังไง ก็อย่าลืมเอาแชร์กันด้วยน้า

7 สูตรกำจัดสิวเสี้ยน! ผิวสวยใสธรรมชาติแถมยังประหยัดงบและหาง่ายสุดๆ!



7 สูตรกำจัดสิวเสี้ยน! ผิวสวยใสธรรมชาติแถมยังประหยัดงบและหาง่ายสุดๆ!

7 สูตรกำจัดสิวเสี้ยน! ผิวสวยใสธรรมชาติแถมยังประหยัดงบและหาง่ายสุดๆ!

อยากผิวใสเนียน แต่ตอนนี้จมูกเป็นสตรอเบอร์รี่ มันแล้วสิวเสี้ยนก็ขึ้นเต็มไปหมด ทำเท่าไหร่ก็ไม่หาย ลอง 7 สูตรนี้ดู! ทั้งประหยัดทั้งดีต่อผิวจริงๆ

1 MILK


นมนั้นมีส่วนช่วยในการกำจัดสิวเสี้ยนได้อย่างเร็วเลยล่ะ สูตรง่ายมากกก!
ส่วนผสม:
1.) เกลือ 1 ช้อนชา
2.) น้ำเลม่อน 1 ช้อนโต๊ะ
3.) นมในปริมาณที่สามารถเช็ดได้ทั้งหน้า
ขั้นตอน: นำสำลีแผ่นชุบส่วนผสมที่ทำไว้แล้วเช็ดให้ทั่วหน้า เน้นบริเวณที่มีสิวเสี้ยน ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างด้วยน้ำเปล่า

2 HONEY SUGAR SCRUB



สาวๆ รู้มั้ยคะว่าน้ำตาล เป็นตัวช่วยกำจัดสิวเสี้ยนได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อีก ซึ่งสูตรนี้จะช่วยกำจัดแบคทีเรียบริเวณจมูกและยังกำจัดน้ำมันส่วนเกินได้อีก ด้วย
ส่วนผสม:
1. น้ำตาลทราย
2. น้ำผึ้ง
ขั้นตอน: นำน้ำตาลและน้ำผึ้งผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาสครับบริเวณจมูกเบาๆ รอจนกว่าสครับจะแห้ง หรือทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วเช็ดออก

3 RICE SCRUB


รู้มั้ยว่าข้าวบ้านเราเนี่ย นำมาใช้เป็นสครับและช่วยกำจัดสิวเสี้ยนได้!
ส่วนผสม:
1. ข้าวสาร
2. น้ำเปล่า
ขั้นตอน: แช่ข้าวสารในน้ำสัก 4-5 ชั่วโมง หลังจากนั้นให้บดข้าวจนเละ แล้วนำมาสครับบริเวณจมูก 5-10 นาที เพื่อที่จะกำจัดเซลล์ผิวที่เสียรวมไปถึงสิวเสี้ยนด้วย แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

4 BAKING SODA


เบคกิ้งโซดาเป็นไอเท็มฮอตฮิตมาก เพราะมันสามารถช่วยให้หน้าใสได้ แต่ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และทำเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้นนะจ้ะ
ส่วนผสม:
1. เบคกิ้งโซดา
2. น้ำเปล่า
ขั้นตอน: หลังจากล้างหน้าให้สะอาดแล้ว ไม่ต้องเช็ดน้ำออก นำเบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำเปล่าจนได้เนื้อที่ข้น แล้วทาลงบนจมูก ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

5 YOGURT


โยเกิร์ตที่เราชอบกินกันเนี่ย มีสรรพคุณในการฆ่าแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยบำรุงให้ผิวใสขึ้นอีกด้วย
ส่วนผสม:
1. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
2. olive oil 3-4 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอน: ผสม olive oil กับโยเกิร์ตให้เข้ากัน แล้วทาบริเวณจมูก ปล่อยทิ้งไว้จนกว่าจะแห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

6 TOOTHPASTE


ยาสีฟัน! หลายคนอาจจะงงว่ามันช่วยได้จริงๆหรอ? ใช่แล้วล่ะค่ะ มันช่วยกำจัดสิวเสี้ยนได้จริง! แต่ต้องเลือกเป็นแบบยาสีฟันสีขาวล้วนเท่านั้น!
ขั้นตอน: หลังจากล้างหน้าให้สะอาด ป้ายยาสีฟันสีขาวบริเวณจมูก ถูวนประมาณ 1 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

7 STEAMING


รู้มั้ยคะ ว่าความร้อนสามารถช่วยในการลดการอุดตันของผิวได้ เพราะมันทำให้รูขุมขนขยายออก พวกสิ่งสกปรกน้ำมันที่อุดตันในผิว ก็จะหลุดออกมาง่ายขึ้น วิธีนี้ง่ายมาก จริงๆ ไม่ต้องไปหาซื้อเครื่องอบไอน้ำอะไรให้เปลืองตัง ใช้น้ำร้อนที่บ้านนี่แหละจ้า
ส่วนผสม:
1. น้ำร้อน
2. ชามหน้ากว้างหรือกระทะ
3. ผ้าขนหนู
ขั้นตอน:
นำน้ำร้อนเดือดรินใส่ชามหรือกะทะ อังหน้ารับไอร้อนสัก 10 นาที ควรกางผ้าขนหนูไว้ด้วยเพื่อบังไม่ให้ไอร้อนระเหยไปที่อื่น หลังจากนั้นล้าง หน้าตามปกติด้วยน้ำเย็น

รับรองว่า 7 สูตรนี้สาวๆ จะช่วยให้สาวๆคลายกังวลกับสิวเสี้ยนได้แน่นอน! ส่วนใครที่ทำทุกวิถีทางแล้วรูขุมขนยังอุดตันแถมกว้างอีก

เรียวคิ้วของสาวๆ สามารถบอกคาแร็กเตอร์ของแต่ละคนได้ด้วย!


เรียวคิ้วของสาวๆ สามารถบอกคาแร็กเตอร์ของแต่ละคนได้ด้วย!

เรียวคิ้วของสาวๆ สามารถบอกคาแร็กเตอร์ของแต่ละคนได้ด้วย!

เรียวคิ้วของ Cara Delevingne ยังคงเป็นหนึ่งในไอคอนต้นแบบของทรงคิ้วยุคใหม่ที่สาวๆ ชื่นชอบ คือมีความเท่สไตล์ แมสคิวลินแต่ผ่านการกรูมมิ่ง ให้ดูเนี้ยบขึ้นโดยกำจัดขนคิ้ว ส่วนเกิน เล็มส่วนที่ยาว และจัดแต่งให้ โค้งตรงจุดโก่งเล็กน้อย ส่วนหางคิ้วเน้นให้เป็นเส้นตรง ไปทางใบหู ไม่ควรตกลงมา ทางปาก นอกจากนั้น เรียวคิ้วสไตล์นี้ยังบ่งบอกถึงคาแร็กเตอร์ และนิสัยของพวกเธอได้ด้วย มาดูกันดีกว่าว่าทรงของขนคิ้วจะบอกอะไรในตัวคุณ ได้บ้าง...



Bushy Eyebrows
คิ้วดกหนา: กระฉับกระเฉง เป็นนักคิด รักอิสระ รักธรรมชาติ พลังเยอะ

Straight Eyebrows
คิ้วเป็นเส้นตรง: นิสัยออกแมนๆ พูดจริงทำจริง น่าเชื่อถือ ก่อนตัดสินใจทำอะไรจะคิดให้รอบคอบก่อน

Angled Eyebrows
คิ้วมีความโค้งตรงจุดโก่ง: มีความเป็นผู้หญิง มีโลกส่วนตัว เซนซิทีฟ ดื้อเป็นบางครั้ง

Even Eyebrows
คิ้วดกหนาเท่ากันหมด: เก็บรายละเอียดทุกเม็ด มีความรอบคอบ

6 เคล็ดลับแต่งหน้าสดใสให้เด็กลงอีก 10 ปี!


6 เคล็ดลับแต่งหน้าสดใสให้เด็กลงอีก 10 ปี!

6 เคล็ดลับแต่งหน้าสดใสให้เด็กลงอีก 10 ปี!

อายุไม่ใช่เรื่องสำคัญ มันเป็นเรื่องของความ young at heart! ก่อนจะไปดูแต่ละลุค เราต้องจำไว้ว่า.. เมคอัพลุคหน้าเด็กนั้น จะต้องคง CONCEPT ความ "LIGHT"เข้าไว้ ง่ายๆ คือ "เบาไว้ก่อน" เรามาดู Tips & Trick แต่ละจุดกันเลยดีกว่า

TIPS #1 SOFT NATURAL & STRAIGHT BROW
งานคิ้ว เป็นงานละเอียด เขียนไม่ดีหน้าพังได้นาจา งานนี้เราเน้นคิ้วสี soft ไม่โก่งเกิน ไม่ตรงเกินจนผิดธรรมชาติ และต้องให้ความยาวของคิ้วพอดีกับรูปหน้าด้วยนะคะ



วิธีวัดความสมดุลของคิ้วกับรูปหน้า
ให้นำดินสอหรือไม้บรรทัดวัดตั้งฉากจากหัวคิ้วลงมาที่ปีกจมูก แล้ววัดเฉียงขึ้นไปตามแนวหางตาจนถึงปลายคิ้ว จะได้รูปคิ้วที่พอดี เหมาะกับรูปหน้า




TIPS #2 LIGHT EYE MAKEUP
การแต่งตา สำหรับลุคเบบี้เฟซแบบนี้ ถือว่าง่ายเลยค่ะ ไม่ต้องเน้นอะไรมาก ข้อแนะนำคือเลือกอายแชโดว์สีอ่อนโทนชมพู ส้ม หรือจะเป็นอายแชโดว์ที่มีชิมเมอร์อ่อนๆ ก็ได้




ส่วนอายไลน์เนอร์​แนะนำให้ใช้เป็นแบบดินสอหรือเจลสีน้ำตาล ถ้าวาดเป็น wing เล็กๆ ก็จะได้ลุคน่ารักแบ๊วๆไปอีกแบบ หรือหากจะใช้อายไลน์เนอร์สีดำ แนะนำให้เขียนชิดขอบตาไปเลย อย่าวาดเส้นหนามาก จะดูไม่ธรรมชาติ




ปิดขั้นตอนสุดท้ายด้วยมาสคาร่า แนะนำให้ใช้แบบปัดแล้วได้ลุคเรียงเส้นเบาบางแบบธรรมชาติค่ะ


TIPS #3 LIGHT COVERAGE FOUNDATION

จริงๆแล้ว ถ้าอยากได้ลุคหน้าเด็กสุดๆ แนะนำให้ใช้เป็นCushion เนื้อบางเบา, CC Creamหรือ Tinted moisturizerแทน เพราะจะทำให้ผิวหน้าดูเป็นธรรมชาติกว่าใช้รองพื้นปกติเยอะเลยค่ะ 
ส่วนใครมีรอยแดง รอยสิว! ไม่ต้องกังวลค่ะ เราสามารถใช้ Correctorร่วมด้วยได้ เพียงแต้มบริเวณที่มีปัญหา รอยพวกนี้ก็จะหายไปแล้ว!
TIPS #4 PINKISH/ ORANGE/ PEACH CHEEK


สำหรับพวงแก้มนั้น สำคัญไม่ต่างกับส่วนอื่นบนใบหน้าเลย ใครอยากได้ลุคหน้าเด็ก ต้องใช้โทนสีสดใส อย่างโทนชมพู ส้ม พีชเป็นต้น ส่วนลักษณะการปัดให้ปัดเป็นวงกลมบริเวณกลางโหนกแก้ม เทคนิคง่ายๆคือการยิ้ม แล้วปัดบริเวณโหนกแก้มนูนๆ นั่นเอง~ (ปัดแก้มพอนะจ้ะ ไม่ต้องคอนทัวร์เสริมน้ะ!)
TIPS #5 TINTED LIPS



ลิ ปแมทเก็บไปก่อน งานนี้ต้องลิปทินต์เท่านั้น! สีที่แนะนำจะเป็นสีชมพู แดง ส้ม และควรบริเวณ inner lips ให้ได้ลุค gradient lip ฉ่ำๆ รับรองว่าจุดนี้จะทำให้หน้าดูเด็กลงขึ้นเป็นกอง!  Related article:3ce Tattoo Lip Tint ลิปทินต์ใหม่ติดทนสุดฤทธิ์ แถมให้ลุคสาวเกาหลีจริงอะไรจริง!
TIPS #6 LOOSE POWDER





สุดท้ายแล้ว! แป้งฝุ่นที่เลือกใช้ควรจะเป็นชนิดที่ไม่ผสมรองพื้น บางเบา เอาไว้เซ็ตเมคอัพให้คงทนนั่นเอง
หลังจากรู้เคล็ดลับทั้ง 6 แล้ว เราไปดูฮาวทูแต่งหน้าให้เด็กลงกันเลย!

รวม 7 ท่าโพสต์ถ่ายรูปที่ช่วยให้ขาดูเพรียวขึ้น!



รวม 7 ท่าโพสต์ถ่ายรูปที่ช่วยให้ขาดูเพรียวขึ้น!

รวม 7 ท่าโพสต์ถ่ายรูปที่ช่วยให้ขาดูเพรียวขึ้น!

เป็นคนขาใหญ่ ช่วงล่างใหญ่ แต่อยากถ่ายรูปให้ดูผอม ขาเพรียว? ต้องยืนยังไงแบบไหน ไปดู 7 ท่านี้เลยค่ะ!
#1 THE CLASSIC CROSS



ท่าไขว้ขานี่เป็นอะไรที่คลาสสิกมากๆ บางคนเวลาทำท่านี้อาจจะตัวแข็งทื่อจนผิดธรรมชาติไปสักนิด ลองปล่อยตัวให้เป็นธรรมชาติสบายๆ ยิ่งขึ้น หรือจะเท้าเอวก็ได้ แล้ว keep ขาไขว้เข้าไว้ แค่นี้ก็จะดูขาเพรียวขึ้นแล้วค่ะ





#2 KEEP WALKING


จินตนาการว่าเธอกำลังจะเดินไปข้างหน้า ก้าวขาออกมาอย่างธรรมชาติ แล้วให้เพื่อนกดชัตเตอร์ให้รัวๆ เท่านี้ขาก็จะดูยาวขึ้นละค่ะ






#3 THE PYRAMID







ยืนแหกขาเลยค่ะคุณขา มั่นหน้าไว้ โพสต์ท่าประหนึ่งเธอกำลังถ่ายแบบอยู่จริงๆ

#4 BLOW A KISS


ตามชื่อเลยค่ะ ท่านี้ให้โก่งสะโพกไปด้านหลัง แล้วโน้มอก โน้มหัวมาด้านหน้า ท่านี้เวลาถ่ายจากด้านหน้าจะทำให้ขาดูเพรียวเล็กลงไปทันตาเห็นเลย

#5 ONCE YOU KISS ME 


เวลาโพสท่านี้ คิดซะว่าตัวเองกำลังอยู่ในฉากในหนังแล้วกำลังโดนพระเอกจูบ..!! ฟินไปสิค๊ะ!!!




#6 SIDE POSE




แค่หันข้าง จอบอ. (จบจริงๆ) 555 คือท่านี้ขอให้ยืนตัวตรง หันข้าง ใครมีเนื้อต้นแขนหน่อยก็อาจจะยกขึ้นมาเท้าเอวไว้แบบนี้ก็ได้ งานเพรียว งานโมเดลก็มาค่ะ





#7 THE TOE POINT 



 "พอยท์เท้า" คำนี้น่าจะเป็นคำที่เราคุ้นหูกันดี วิธีโพสง่ายอีกตามเคย ยืนเหยียดขาตรงหนึ่งข้าง ส่วนอีกข้างให้จิกไปที่พื้น แล้วแต่ความพอใจว่าจะจิกเบาหรือจิกแรง






ไปลองโพสท่าถ่ายรูปกันดูนะคะสาวๆ รับรองว่าถ่ายรูปออกมาแล้วขาดูเพรียวขึ้นแน่นอนจ้า~

10 วิธีแก้รอยผิวแตกลาย สำหรับคนที่ไม่อยากเลเซอร์!


10 วิธีแก้รอยผิวแตกลาย สำหรับคนที่ไม่อยากเลเซอร์!

10 วิธีแก้รอยผิวแตกลาย สำหรับคนที่ไม่อยากเลเซอร์!

ผิวแตกลาย เป็นรอยเห็นชัดจากการที่น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ เร็วเกินไป แต่ไม่อยากเลเซอร์ อย่าเพิ่งท้อ 10 วิธีนี้ช่วยได้!
1 LEMON JUICE


น้ำเลม่อน มีความเป็นกรดที่ช่วยรักษารอยแตกลายรวมถึงแผลเป็นอื่นๆอีกด้วย ส่วนวิธีทำนั้นง่ายมากๆ หั่นเลม่อนครึ่งลูก แล้วนำมาถูบริเวณผิวที่มีผิวรอยแตกลาย ทิ้งไว้สัก 10 นาทีให้น้ำเลมอนซึมเข้าสู่ผิว แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แนะนำให้ทำสัปดาห์ละครั้งค่ะ


2 EGG WHITES



รู้หรือไม่ ว่าไข่ขาวสามารถช่วยลดรอยแตกได้ด้วย! ทั้งนี้ก็เพราะมันมีกรดอะมิโนและโปรตีนที่ช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิวได้อย่าง มีประสิทธิภาพนั่นเอง
ส่วนขั้นตอนการเตรียมการนั้น ตอกไข่สองใบแล้วแยกไข่ขาวออกจากไข่แดง ตีให้เข้ากัน แล้วใช้ "แปรง" หรือ "นิ้ว" ทาบนผิวบริเวณที่มีรอยแตก แล้วรอให้แห้งประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นก็เป็นอันเสร็จ สำหรับวิธีนี้สามารถทำได้ทุกวันเลยค่ะ :)


3 ALOE VERA



อาโลฮ่า~ อะโลเวร่า~ หรือว่านหางจระเข้นั่นเอง ซึ่งความเย็นและสรรพคุณในการช่วยบรรเทาผิวของมันจะช่วยให้รอยแตกลายของผิว จางลงได้ แนะนำให้ใช้แบบสดๆ จากใบนะคะ นำใบว่านหางจระเข้มาถูบริเวณผิวที่มีรอยแตกประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น สามารถทำได้ทุกวันเช่นกันค่ะ

4 SUGAR SCRUB



SUGAR~ YES PLEASE! Put it down on me รัวๆ เลยค่ะ งานนี้เราใช้น้ำตาลมาสครับผิวแก้รอยแตกลายได้! texture ของน้ำตาล สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและทำให้รอยแตกจางลงได้
วิธีทำสครับน้ำตาล:
1. ตักน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะใส่ในชาม
2. หยดน้ำเลม่อนและน้ำมันอัลมอนด์ลงในน้ำตาล คนให้เข้ากัน
หลังจากนั้น ให้ทาวนสครับบนบริเวณผิวแตกลายที่ต้องการประมาณ 3-5 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วเช็ดให้แห้ง ทำติดต่อกันทุกวันเป็นเวลาหนึ่งเดือนจะเห็นผลชัดเจนขึ้นค่ะ

5 POTATO JUICE



ฟังดูแปลก แต่ช่วยได้จริง "มันฝรั่ง" ที่เรานำมาทอดกินเป็นเฟร้นช์ฟรายส์นี่แหละค่า สามารถช่วยลดรอยแตกลายได้เช่นกัน เพราะในน้ำมันฝรั่งมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่จะช่วยเร่งในการฟื้นฟูเซลล์ ผิวด้วย ส่วนขนาดของมันฝรั่งนั้น แนะนำขนาดกลางๆค่ะ แล้วตัดเป็นแผ่นหนาๆ จากนั้นก็นำมาถูวนบริเวณผิวที่มีรอยแตกลายประมาณ 3-5 นาที ปล่อยให้น้ำมันฝรั่งค่อยๆ แห้งซึมไปกับผิว แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

6 OLIVE OIL



น้ำมันมะกอกนี่สารพัดประโยชน์มาก ช่วยบำรุงได้ทั้งเรื่องผมและ ผิวพรรณ และด้วยความที่น้ำมันมะกอกนั้นมีฤทธิ์เย็น ชุ่มชื้น และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีก มันเลยเหมาะที่จะใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวมากๆ ส่วนวิธีใช้นั้น ให้นำน้ำมันมะกอกอุ่นในไมโครเวฟให้พออุ่น ไม่ต้องถึงขั้นร้อนจัด เดี๋ยวจะลวกผิวนะจ้ะ จากนั้นค่อยๆทาลงบนบริเวณที่มีรอยแตกโดยไม่ต้องล้างออก นอกจากนั้น ความอุ่นของน้ำมันจะช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีและผิวยังนุ่มขึ้นอีกด้วย

7 STRETCH MARK CREAM/ MOISTURIZING LOTION



เราอาจจะเห็น Stretch mark cream หรือครีมลดรอยแตกลายขายมากมาย ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีส่วนผสมและ texture ที่แตกต่างกันออกไป คำแนะนำของ Fav คือการลองเท่านั้น เนื่องจากสภาพผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนใช้แล้วได้ผล บางคนใช้แล้วไม่ได้ผล มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมไปถึงความสาหัสของบริเวณผิวที่แตกด้วย
ส่วนใครที่อยากประหยัด แนะนำให้ใช้โลชั่นที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ค่ะ สามารถใช้ได้เช่นกัน การที่ผิวแตกหย่อนคล้อยก็มีสาเหตุมาจากการที่ผิวขาดความชุ่มชื้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นเลือกประเภทของครีมที่เหมาะสมกับตัวเองนะจ้ะ

8 RETINOL CREAM


เรตินอลหรือกรดวิตามินเอนั้น จะถูกนิยมนำมาใช้ทางด้านความงาม ทั้งเรื่องสิว หรือ anti-aging รวมไปถึงการลดรอยแตกลายของผิวอีกด้วย แต่ทั้งน้ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ต้องจำไว้ว่าสภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และหากมีอาการแพ้ แสบแดง ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ทันที

9 DRINK WATER!!



เรื่องง่ายที่หลายๆ คนอาจทำไม่ครบสักที คือการดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8-10 แก้ว การทำให้ร่างกายชุ่มชื้นตลอดเวลาจะส่งผลให้ผิวพรรณชุ่มชื้นด้วย

10 GOOD DIET & EXERCISE





หากทำมาหมดทั้ง 9 ข้อแล้วแต่มาตายเอาข้อ 10 คือยังคุมเรื่องโภชนาการไม่ได้ก็จบ การหักโหมลดน้ำหนักเร็วเกินไปก็จะยิ่งทำให้ผิวพรรณหย่อนคล้อยและแตกลายได้ หรือบางคนอาจเลือกที่จะทานยาลดความอ้วน ซึ่งบางตัวก็ทำให้เกิด effect ต่อผิวพรรณได้เช่นกัน ดังนั้น ทางที่ดีคือการหาบาลานซ์ระหว่างการทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม กับร่างกาย และหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่หนักไป เบาไป เพียงเท่านี้รับรองว่าคุณจะเห็นผลที่เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน!