วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

กิ๊บดำ มากกว่าแค่ติดผม เป็นได้สารพัดนึกนะ รู้ยัง!

          เห็นตัวเล็กๆ แต่ประโยชน์เพียบเลยนะจ๊ะ สำหรับ "กิ๊บดำ" ที่ใช้กันตั้งแต่เด็ก ยัน แก่ ที่สำคัญใช้ได้ทั้งผู้หญิง และ ผู้ชาย จริงๆ นะ
อ้า! แปลกใจละซิ ว่า "ผู้ชายนะฮ่ะ" หรือเปล่าที่ใช้ "กิ๊บดำ" เป็นตัวช่วย งานนี้บอกเลย ผู้ชายทั้งแท่ง ก็สามารถใช้ได้ค่ะ เพราะ "กิ๊บดำ" ราคาเพียงไม่กี่บาท มีประโยชน์มากกว่าแค่ นำไปติดผมคุณสาวๆ ให้อยู่ทรงอีกนะ
หากอยากรู้ประโยชน์อันทรงคุณค่าของ "กิ๊บดำ" กันแล้ว หยิบ "กิ๊บดำ" มาให้พร้อม แล้วมาทำอะไรเก๋ๆ ไปพร้อมกันเลยค่ะ

กิ๊บดำ
ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.cremedelacraft.com/
กิ๊บดำ
ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.brit.co/
แปลงร่างเป็นเครื่องประดับแสนเก๋ ไม่ว่าจะเป็น ต่างหู หรือ สร้อยคอ ก็สามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ค่ะ โดยหยิบ "กิ๊บดำ" มาลงสี แต่งไอเดียตามชอบใจ แล้วจัดมาห้อย มาแขวนซะ แค่นี้ก็สวยไม่ซ้ำใครแล้ว
กิ๊บดำ
ขอบคุณภาพประกอบ : http://entretenimento.r7.com/
ช่วยเติมสีสัน บนเรียวเล็บเล็กๆ ของคุณสาวๆ ให้กลายเป็นลาย polka dot สุดฮอตในเวลาไม่กี่วินาที
กิ๊บดำ
ขอบคุณภาพประกอบ : http://rudeface.tumblr.com/
แว่นขยาย + เลนส์กล้องมือถือ สุคชิค ลองนำเลนส์เก่าๆ มาทำตามขั้นตอนด้านบนดูสิ คุณจะได้มุมมองของภาพถ่ายใหม่ๆ ที่คุณภาพต้องร้องว้าวเลยนะ

กิ๊บดำ
ขอบคุณภาพประกอบ : https://www.etsy.com/
นำ "กิ๊บดำ" มาตกแต่งให้น่ารัก ตามชอบใจ พกไว้เหน็บความรุงรังของเส้นผมแล้วยังทำเป็นที่ขั้นหนังสือได้ด้วยนะคะ
กิ๊บดำ
ขอบคุณภาพประกอบ : http://simplemamaathome.blogspot.com/
บีบหลอดยาสีฟันอย่างคุ้มค่า ใช้กันแบบประหยัดสุดๆ ด้วยการนำ "กิ๊บดำ" มาหนีบไล่ตามหลอดยาสีฟันที่ใกล้จะหมด บอกเลยคุ้มค่ามากๆ ค่ะ
กิ๊บดำ
ขอบคุณภาพประกอบ : http://simplemamaathome.blogspot.com/
รักษาความกรุบกรอบของขนม หรืออาหารให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ ง่ายๆ เลยแค่หนีบ "กิ๊บดำ" ก็จบแล้วจ้า
ลองนำไอเดียง่ายๆ เหล่านี้ไปใช้ดูนะ แล้วคุณจะรู้ว่า การใช้ชีวิตคุณง๊าย ง่าย ประหยัดขึ้นเยอะเลยค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558

โฉมหน้าผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลก ปี 2014

          ความรวยไม่เข้าใครออกใคร บางคนรวยมาจากรุ่นบรรพบุรุษ บางคนรวยได้เพราะขยันสร้าง ทำมาหากิน และต่อไปนี้คือ "โฉมหน้าผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลก ปี 2014" ค่ะ
            จากผลการสำรวจเมื่อปี 2014 พบว่าโลกนี้มีคนที่เป็นมหาเศรษฐีแสนล้านอยู่ประมาณ 2,325 คน เป็นผู้หญิงเพียงร้อยละ 12 หรือ 286 คนของจำนวนทั้งหมด และในจำนวนนั้น คนที่หาทรัพย์สินมาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองมีเพียงร้อยละ 17 เท่านั้น
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีอภิมหาเศรษฐินี ผู้หาเงินมาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองอาศัยอยู่มากที่สุด ส่วนมากมักจะมีอายุราว 61 ปี และกว่าร้อยละ 65 ที่ร่ำรวยมาจากการทำงานในบริษัทนานาชาติ
เว็บไซต์ Edition.CNN.com นำเสนอไว้แล้ว โดยทั้งหมดจะจัดแบ่งหมวดหมู่ตามภูมิภาคในโลก พวกเธอที่ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในโลก จะเป็นใครมาจากไหน หน้าตาเป็นเช่นไร ตามมาดูกันเลยค่ะ

คริสตี้ วอลตัน (Christy Walton) ผู้หญิงที่รวยที่สุดในอเมริกาเหนือ
อดีต ภรรยาของจอห์น วอลตัน ลูกชายของแซม วอลตัน เจ้าของห้างสรรพสินค้าวอล-มาร์ทในสหรัฐฯ ต้องกลายเป็นหม้ายเพราะสามีเสียชีวิตในปี 2548 เธอได้รับมรดกทั้งหมด $37.9 billion


ลีลีอาน เบตตองกูร์ (Liliane Bettencourt) ผู้หญิงที่รวยที่สุดในยุโรป
เธอ คือทายาทของบริษัทผลิตเครื่องสำอางค์ดัง ลอรีอัลปารีส ของฝรั่งเศส โดยตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี เธอเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจการของพ่อ ด้วยการเป็นเด็กฝึกงาน มาจนวันนี้ เธอมีมรดกถึง $31.3 billion



จีน่า รายน์ฮาร์ต (Gina Rinehart) ผู้หญิงที่รวยที่สุดในออสเตรเลีย
นิตย สารฟอร์บส์ของอเมริกาตั้งฉายาให้เธอว่า "เจ้าแม่ธุรกิจค้าเหล็ก" เพราะเธอควบคุมดูแลบริษัท ฮันค็อก พรอสเพ็คติ้ง ซึ่งเป็นบริษัททำเหมืองอยู่ และรวมแล้วมีมูลค่าถึง $14.8 billion นอกจากนี้จีน่ายังหาช่องทางขยับขยายรายได้ ด้วยการถือหุ้นในองค์กรสื่อของออสเตรเลียด้วย


วาเนสซ่า มาเรีย และโยฮันนา สลิม (Vanessa, Maria and Johanna Slim) ผู้หญิงที่รวยที่สุดในอเมริกาใต้
3 สาวนี้เป็นลูกของคาร์ลอส สลิม เศรษฐีแสนล้านชาวเม็กซิกัน ตั้งแต่เมื่อปี 2546 แล้วที่พวกเธอได้รับมรดกจากเขา จนวันนี้มีรวมกันทั้งหมดเกือบ $19 billion


(ภาพประกอบ : http://imgkid.com/yang-huiyan-billionaire.shtml)
หยาง ฮุยหยาน (Yang Huiyan) ผู้หญิงที่รวยที่สุดในเอเชีย
ชาว จีนวัย 33 ปี ลูกสาว นายหยาง ฮุ่ยเหยียน เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีน โดยเมื่อปี 2550 เธอได้รับส่วนแบ่งหุ้นร้อยละ 70 จากคันทรี่ การ์เด้น บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของพ่อ จนทุกวันนี้มีเงินราว $6.3 billion เป็นผู้หญิงที่รวยที่สุดและอายุน้อยที่สุดในเอเชีย


ซารี อริสัน (Shari Arison) ผู้หญิงที่รวยที่สุดในตะวันออกกลาง
หลัง จากได้รับมรดกจากเท็ดอริสัน พ่อและผู้ก่อตั้งบริษัทเดินเรือ คาร์นิวัล คอร์เปอเรชั่นแล้ว เธอมีทรัพย์สินราว $4.2 billion ทำหน้าที่เป็นผู้ถือหุ้นของธนาคารฮาโปลิม และนอกจากนี้ยังไปลงทุนในบริษัทขายน้ำชื่อมิยาอีกด้วย

โฟโลรันโช อาลัคจา (Folorunsho Alakija)  ผู้หญิงที่รวยที่สุดในแอฟริกา
เป็น เศรษฐินีอันดับที่ 40 ของโลก แต่รวยที่สุดในแอฟริกา ผู้เริ่มต้นวัยทำงานด้วยการตัดเย็บเสื้อผ้า วันนี้ เธอเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจน้ำมัน, แฟชั่น และการพิมพ์ของไนจีเรีย มีทรัพย์สินราว $1.2 billion

ขอบคุณข้อมูล : Edition.CNN.com
ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.gettyimages.com/

วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

รู้ยัง? 10วิธีปลุกสมองให้ตื่น

         เคยไหม ที่ไม่ว่าจะเข้านอนเร็ว ตื่นเช้าหรือสายแค่ไหน ก็รู้สึกไม่สดชื่น สมองไม่ค่อยทำงาน แต่สัปดาห์นี้ เรามีวิธีปลุกสมองให้ตื่น เติมพลังให้เช้าวันใหม่มาฝาก เทคนิคการปลุกสมองให้ตื่นง่ายๆ ไว้ 10 ประการ ว่า

"ดื่มน้ำ" การดื่มน้ำหนึ่งแก้วทันทีหลังจากตื่นจะช่วยทำให้กระบวนการเผาผลาญร่างกายดีขึ้น และยังทำให้สมองสดชื่นด้วย

"อย่างีบหลับ" เพราะการงีบหลับหลังตื่นนอนจะทำให้รู้สึกขี้เกียจ และทำให้ไม่มีแรงบันดาลใจจะต่อสู้กับสิ่งที่เจอในแต่ละวัน ทางที่ดีคือต้องไม่ตั้งเวลาตื่นเผื่อไว้สำหรับการงีบต่อ และไม่สายจนเกินไปก็พอแล้ว

"หันหน้าเข้าหาแสงสว่าง" แสงอาทิตย์ส่งผลต่อการทำงานของสมองโดยตรง หากไม่ได้รับแสงอาทิตย์เลยอาจทำให้สมองมึนงงได้ ออกไปรับแสงแดดช่วยกระตุ้นสารแห่งความสุขในตอนเช้ากันดีกว่า

"ออกกำลังกายตอนเช้า" การออกกำลังกายตอนเช้าอาจดูเป็นเรื่องแปลกสำหรับใครหลายคนแต่การออกกำลังกาย จะช่วยเพิ่มพลังในแต่ละวันมากขึ้น ลองใส่ชุดกีฬาเข้านอนสักหน่อย ก็จะยิ่งหมดข้อแก้ตัวที่จะออกกำลังในตอนเช้า

"เปิดเพลงให้ดัง" การเปิดเพลงเพิ่มจังหวะจะช่วยให้สดใสในตอนเช้า จากการศึกษาในเครื่อง PET สแกน พบว่าดนตรีจะช่วยกระตุ้นไฟในสมอง ทำให้สารต่างๆ อย่างโดฟามีน ออกมากระตุ้นอารมณ์ต่างๆ และแรงจูงใจดีๆ ได้

"อาบน้ำเย็น" เพราะแม้จะแย่ แต่ก็ช่วยได้จริงในการปลุกสมองให้ตื่น

"อย่าดื่มกาแฟให้เยอะเหมือนเป็นยา" อย่าดื่มกาแฟให้เยอะเหมือนที่เคยเพื่อให้ไม่ง่วง ควรจะลดจำนวนแก้วกาแฟต่อวันลงบ้าง หากง่วงหรือจำเป็นจริงๆ ก็เลือกดื่ม "ชาเขียว" แทนดีกว่า

"รับประทานอาหารเช้า" วลีที่ว่า อาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของวัน ยังคงเป็นเรื่องจริงเสมอ เพราะจะช่วยให้สารอาหารที่จำเป็นต่อสมอง ตลอดทั้งวัน และช่วยให้อารมณ์สดใสตลอดวันด้วย ลองทานอาหารไดเอตเล็กๆ น้อยๆ หากกลัวอ้วนก็ไม่ใช่เรื่องยาก

"คุยกับใครสักคน" การคุยกับสมาชิกในครอบครัวเล็กๆ น้อยๆ เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงานในตอนเช้า จะช่วยให้การเริ่มต้นวันใหม่ไม่กลายเป็นซอมบี้อีกต่อไป

"เล่นเกมฝึกสมอง" การเล่นเกมส์ฝึกสมองเล็กๆ น้อยๆ ในสมาร์ทโฟนตอนเช้า จะช่วยออกกำลังสมองให้สามารถตอบสนองต่ออารมณ์และเหตุผลได้เฉียบคมมากขึ้น

พร้อมหรือยังกับวันใหม่.....

วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

6 สิ่งที่ไม่ดูแลไม่ได้แล้ว

           ขึ้นชื่อว่าว่าเป็นอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ที่เราใช้บ่อยๆแล้ว ย่อมมีเชื้อโรคติดอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และสิ่งต่างๆ 6 ชนิดที่จะนำเสนอต่อไปนี้ เรียกได้ว่าเป็นตัวเพาะเชื้อโรคชั้นดี ไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง

1. คอมพิวเตอร์ส่วนรวม
ศ.ดร. Charles Gerba ผู้เชี่ยวชาญจุลชีวิวิทยาจากมหาวิทยาลัย Arizona กล่าวว่าสิ่งต่างๆที่เราใช้มือและนิ้วสัมผัสโดยตรงมีแนวโน้มที่จะสัมผัส เชื้อโรค เช่นการสัมผัสเม้าส์และคีบอร์ด จากนั้นใช้นิ้วสัมผัสอวัยวะในร่างกายเราเช่นตา จมูก หรือปาก สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดโรคทั้งนั้น ทางที่ดีควรเช็ดอุปกรณ์เหล่านี้ด้วยแอลกอฮอล์บ่อยๆนะครับ

2. ที่เปิดตู้เย็น
ตู้เย็น ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือ ที่ทำงานต่างก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อทั้งนั้น เนื่องจากที่เปิดตู้เย็นมักมีเศษอาหารติด แบคทีเรียและไวรัสจึงเกิดการสะสมเพิ่มขึ้น พยายามใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อโรคอาทิตย์ละครั้งนะครับ หลังจากฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อ ให้เช็ดโดยผ้าโดยเฉพาะตามซอกเล็กๆบริเวณที่เปิดตู้เย็นนั้นเพื่อป้องกันการ แพร่เชื้อนะครับ

3. ในรถยนต์
ใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดบริเวณแผงหน้าปัดรถยนต์สัปดาห์ละครั้ง ซึ่งบริเวณนี้เป็นที่ที่สะสมเชื้อโรคเพราะมีฮีทเตอร์และแอร์เป็นตัวกระจาย เชื้อโรค นอกจากนั้นแล้วี่วางแก้วก็ยังเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดีอีกด้วยเพราะมีเศษ อาหารที่มองไม่เห็นติดอยู่ หากภายในรถมีที่นั่งเด็กด้วย ก็อย่าลืมทำความสะอาดนะครับ เพราะเด็กย่อมไวต่อเชื้อโรค

4. รีโมท คอนโทรล
ดร. Gerba กล่าวว่าเจ้ารีโมทนี่แหละเป็นที่สะสมเชื้อโรคโดยเฉพาะในโรงแรม หรือแม้แต่ในบ้านของคุณเอง รีโมทเรียกได้ว่าเป็นตัวเพาะเชื้อชั้นดีเลยล่ะครับเพราะหลายคนต้องสัมผัส แม้แต่เวลากินข้าวซึ่งนำไปสู่การแพร่เชื้อแบคทีเรียและไวรัส พยายมทำความสะอาดด้วยอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์และแอลกอฮอล์อาทิตย์ละครั้งนะ ครับ

5. กระเป๋าสะพายข้างของคุณผู้หญิง
ไม่ว่าคุณจะสัมผัสบริเวณถือหรือสายสะพาย แต่หลังจากที่คุณได้ไปสัมผัสสถานที่ต่างๆเช่นห้องน้ำ เค้าเตอร์ แล้วมาจับกระเป๋า ก็จะก็ให้เกิดเชื้อโรคขึ้นได้ง่าย หลังจากที่ถึงบ้านแล้ว พยายามสเปรย์ทำความสะอาดกระเป๋าและเช็ดตามด้วยผ้าบางๆนะครับ

6. โทรศัพท์มือถือ
มาถึงอย่างสุดท้ายแล้วนะครับ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เราต้องหยิบจับอยู่ทุกวันและเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดีเลยล่ะ
อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ก็ไม่ควรประมาทนะครับ รู้อย่างงี้แล้วก็ควรจะระวังไว้นะครับ เพื่อป้องกันอาการเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆ

Source: http://www.womenshealthmag.com/

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

7 เทคนิคคลายเครียดจากการทำงาน

          การมุ่งมั่นตั้งใจทำงานถือเป็นสิ่งดีที่ทุกคนควรทำ แต่ถ้าทำแล้วเกิดความเครียดจนเกินไปก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควร และเมื่อมีความเครียดเกิดขึ้น นอกจากจะไม่ได้งานแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพของ คุณอีกด้วย อาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย ความสุขลดน้อยลง ฉะนั้นการผ่อนคลายความเครียดเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะทำให้สุขภาพจิตดี และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วย อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าวิธีคลายเครียดทำได้อย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปปฏิบัติกันเลย

1. การปรับเปลี่ยนความคิด ความเครียดส่วนหนึ่งมาจากความคิดของคนเรานั่นเอง ถ้ารู้สึกว่าตัวเองคิดมากคิดสับสนวนเวียนหาทางออกไม่ได้ ควรหยุดคิดสักพักเปลี่ยนอิริยาบถไปทำอย่างอื่นก่อน เมื่อรู้สึกดีขึ้น ค่อยกลับมาคิดใหม่ เช่น คิดอย่างใช้เหตุผล คิดหลายๆ แง่มุม ลองคิดอย่างที่คนอื่นเขาคิด คิดเรื่องดีๆ และคิดถึงคนอื่นบ้าง อย่าเอาแต่หมกมุ่นกับตัวเองมากเกินไป การคิดแบบใหม่ๆ จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น และหายเครียดได้

2. การสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ ทำได้โดยการสร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง ให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอว่า ‘เราต้องทำได้’ ต้องเข้าใจชีวิต ให้ถ่องแท้ว่าไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรยั่งยืนจะได้ไม่ยึดติดกับลาภ ยศ สรรเสริญ และต้องใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด ไม่ติดอยู่กับอดีตหรือวิตกกังวลกับอนาคตให้มากเกินไป อย่าลืมที่จะสร้างความอบอุ่นในครอบครัวจะเป็นกำลังใจช่วยให้เราต่อสู้กับ ปัญหาและอุปสรรคได้อย่างดีที่สุด

3.การแสดงอารมณ์อย่างเหมาะสม ควรฝึกควบคุมอารมณ์ คิดก่อนทำ และทำอย่างเหมาะสมจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ และไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมา เมื่ออารมณ์ดี ควรยิ้มแย้มทักทาย พูดเล่น ฮัมเพลง จะทำให้ผู้ใกล้ชิดรู้สึกดีตามไปด้วย เมื่ออารมณ์ไม่ดี อย่าเพิ่งพูดหรือทำอะไรลงไป ให้หลบออกจากสถานการณ์สักพัก หายใจเข้าออกช้าๆ สัก 4-5 ครั้ง หรือนับ 1-10 ในใจ พยายามคิดถึงผลเสียที่จะเกิดตามมา จะทำให้ มีสติและแสดงออกได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่น ดีขึ้นและเครียดน้อยลง

4.การพักผ่อนหย่อนใจ หลังเลิกงานแล้วควรจะได้พักผ่อนบ้างเพื่อผ่อนคลายจิตใจ ทำให้พร้อมที่จะกลับไปทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้งหนึ่ง กิจกรรมการพักก็มีให้เลือกอยู่มากมาย ควรเลือกที่ตรงข้ามกับงานประจำ เช่นงานประจำต้องนั่งโต๊ะทั้งวัน ยามว่างควรทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย หรือถ้างานประจำต้องให้บริการผู้อื่น ยามว่างควรไปให้ผู้อื่นบริการบ้าง เพื่อให้ชีวิตสมดุลและผ่อนคลาย

5.การบริหารเวลา ควรทบทวนดูว่าในแต่ละวันได้ใช้เวลาไปกับเรื่องใดบ้าง เสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมากน้อยแค่ไหน จากนั้นจัดแบ่งเวลาเสียใหม่ รีบทำงานสำคัญและเร่งด่วนให้เสร็จก่อน แล้วจึงทำงานอื่นภายหลัง ลดการคุยเล่น เดินไปเดินมา กินขนม ฯลฯ ให้น้อยลงก็จะประหยัดเวลาและได้งานมากขึ้น หากบริหารเวลาอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเวลาเหลือเพียงพอสำหรับการพักผ่อนส่วนตัว และมีเวลาให้ครอบครัวอย่างเพียงพอ ทำให้ความเครียดน้อยลง

6.การพูดอย่างสร้างสรรค์ จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ควรหมั่นพูดคำว่าสวัสดี, ไม่เป็นไร, ขอโทษ และขอบคุณให้ติดปาก เพราะจะแสดงถึงความมีมารยาท มีน้ำใจ ให้อภัย และรู้คุณค่าการกระทำของ ผู้อื่น เป็นเสน่ห์แก่ผู้พูดและผู้ฟังก็สบายใจด้วย ควรหมั่นพูดชมเชย ให้กำลังใจ ไต่ถามทุกข์สุข ประสานความเข้าใจกัน บางเรื่องไม่ควรพูดก็อย่าพูดจะช่วยตัดปัญหาและลดความเครียดลงได้มาก

7.การแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี ถ้าแก้ปัญหาอย่างใช้อารมณ์ไม่มีเหตุผลจะทำให้เครียดมาก เพราะบางทีปัญหาเก่าก็ยังแก้ไม่ได้แต่กลับสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาอีก ควรเริ่มต้นแก้ปัญหาที่สาเหตุแล้วแก้ตรงนั้น ถ้าตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาก็ต้องแก้ไขที่ตัวเราด้วย ถ้าคิดแก้ปัญหาเองไม่ได้ ก็ไม่ควรอายหรือกลัวว่าจะเสียหน้าที่จะปรึกษาหารือและขอความช่วยเหลือจากผู้ อื่น เมื่อรู้วิธีแก้ไขปัญหาแล้วก็ควรลงมือทำทันที เมื่อแก้ปัญหาได้สำเร็จ ก็จะหายเครียดไปเอง

วันจันทร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2558

7 วัน 7 วิธี เคล็ดลับสุขภาพดี รับปี 2558

          เริ่มต้นปีใหม่กันอีกแล้ว นอกจากการเฉลิมฉลองในเทศกาลแห่งความสุขแบบนี้ การดูแลสุขภาพร่าง กายให้ดี ให้แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ไข้ ยังถือเป็นกุญแจสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้ชีวิตเรามีความสุข ตลอดปี - ตลอดไปอีกด้วย สำหรับคนที่ดูแลสุขภาพตัวเองมาตลอดก็ถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว แต่คนที่ยังละเลยไม่เคยดูแลตัวเองเลย เริ่มต้นใหม่ในปีนี้ยังไม่สาย ว่าแต่จะเริ่มกันยังไงดีล่ะ?
เคล็ดลับ 7 ข้อ ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ถ้าคุณทำได้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนคุณให้สุขภาพดีได้แน่ๆ ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1) ทานอาหารอย่างเหมาะสม ทานให้ตรงเวลาครบ 3 มื้อ โดยเฉพาะในมื้อเช้าซึ่งเป็นมื้อสำคัญอย่าลืมเด็ดขาด แล้วไปลดมื้อเย็นให้ท้องเบาสบาย ไม่ทานอาหารเย็นในช่วงดึกดื่น ที่สำคัญ ในแต่ละมื้อควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างเหมาะสม อย่าลืมเสริมผัก ผลไม้ให้ได้เกลือแร่และวิตามินครบถ้วน และต้องทานอาหารให้ตรงเวลา โรคกระเพาะจะได้ไม่ถามหา นอกจากนี้การปล่อยให้ตัวเองหิวจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมา หรือที่เรียกว่าโมโหหิว เราจึงไม่ควรปล่อยให้ท้องว่างนานและควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลาและครบ 3 มื้อในปริมาณที่พอเหมาะ
สำหรับการทานอาหารเสริมควรพิจารณาเป็นรายบุคคล โดยเฉพาะในวัยเด็กที่ต้องเน้นให้ครบทุกหมู่ ผู้ปกครองควรพิจารณางดของขบเคี้ยว อาหารจังก์ฟู้ดส์ ขนมหวาน อาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต เพราะในปัจจุบันมีข้อมูลว่าเด็กเป็นโรคอ้วนซึ่งนำไปสู่โรคร้ายต่างๆ ตามมาได้ง่าย ในวัยกลางคน หรือ ผู้สูงอายุ เน้นอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ เพิ่มแคลเซียมจากการดื่มนม (ในรายที่แพ้นมวัวแนะนำให้เลือกดื่มนมถั่วเหลือง) ควบคู่ไปกับการทานอาหารหลากหลายที่มีแคลเซียมสูง เช่น ปลาเล็กปลาน้อย และผลิตภัณฑ์จากนมอื่นๆ รวมถึงเต้าหู้ก้อน ผักใบเขียว ถั่วงา ช่วยเสริมความแกร่งให้กับกระดูกจะได้แข็งแรงอยู่คู่ร่างกายของเราไปอีกนานๆ

2) อย่าลืมดื่มน้ำให้พอ การดื่มน้ำอย่างพอเหมาะ โดยเฉลี่ยประมาณ 8 แก้ว / วัน จะช่วยให้การเผาผลาญ การไหลเวียนของเลือดซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ เช่น กระตุ้นการทำงานของหัวใจและระบบไตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้ปริมาณไขมันในร่างกายลดลง เป็นการลดความอ้วนโดยไม่เสียสตางค์ การดื่มน้ำที่เพียงพอยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้มีความสดใสจากภายในสู่ภายนอกเหมาะกับคนที่รักสุขภาพอย่างมาก

3) ฟิตแอนด์เฟิร์ม อย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที นอกจากผลที่ได้ทันทีคือความกระปรี้กระเปร่า สดใส แล้ว การออกกำลังกายในระยะยาว ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ปอด หัวใจ แถมยังช่วยลดน้ำหนักอีกด้วย ซึ่งการออกกำลังกายที่ดีควรใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ อย่างน้อย 1 ใน 6 ส่วนของร่างกาย กีฬาที่แนะนำสำหรับเสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อสำหรับสาวๆ ออฟฟิศ เช่น พิลาทิส โยคะ เต้นแอโรบิก วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือฟิตเนส เป็นต้น ส่วนหนุ่มๆ นอกจากกีฬาหนักๆ ที่ชื่นชอบแล้วการเล่นฟิตเนส การวิ่ง และว่ายน้ำ ยังเป็นการออกกำลังกายง่ายๆ ที่ทำให้รูปร่างสมาร์ท ดูดี ไม่แก่เร็ว

4) พักผ่อนให้เพียงพอ คนทำงานมักเลือกการแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนๆ เป็นการผ่อนคลาย แต่หากเกิดขึ้นบ่อยๆ แน่นอนว่ามันย่อมทำให้ร่างกายทรุดโทรมได้ง่ายๆ เหตุนี้ จึงควรหาเวลานอนหลับพักร่างกายอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง จะช่วยให้คุณเริ่มต้นวันใหม่อย่างแจ่มใส หรืออาจหาเวลาท่องเที่ยวพักผ่อนช่วงวันหยุด ช่วยชาร์จแบตเตอรี่ให้ร่างกายพร้อมกลับมาลุยงานได้อย่างเต็มที่

5) ลด ละ เลิก พฤติกรรมที่บั่นทอนสุขภาพ บางครั้งก็ห้ามกันไม่ได้ สำหรับพฤติกรรมที่ถือเป็นไลฟ์สไตล์ของคนทำงาน แต่คุณอาจจัดสรรเวลาเพื่อสุขภาพได้หากไม่เลิกก็ควร ลด ละ เหล้า บุหรี่ ลงบ้าง เพราะใครๆ ก็รู้ดีว่าพฤติกรรมที่บั่นทอนสุขภาพนั้นไม่ดีแน่นอนเพราะมันเป็นเหมือนการ เติมสารพิษให้ร่างกาย ถ้าใครมีต้นทุนสุขภาพที่ดีก็ดีไป แต่หากใครมีร่างกายที่ไม่แข็งแรง เมื่อเติมสารพิษเข้าไปย่อมทำให้เสี่ยงต่อโรคต่างๆ โดยเฉพาะมะเร็งตับ มะเร็งปอด รวมทั้งโรคอื่นๆ

6) สุขภาพจิตก็สำคัญ นอกจากสุขภาพร่างกายแล้ว การมีสุขภาพจิตที่ดีย่อมทำให้ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้ด้วย รู้แบบนี้หาเวลาดีท็อกซ์ความเครียดจากการออกกำลังกาย ทำงานอดิเรกที่ชอบ ท่องเที่ยว ฯลฯ ที่สำคัญหาเวลาปฏิบัติธรรม อ่านหนังสือธรรมะ ทำจิตใจให้แจ่มใส นั่งสมาธิ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้ตลอดปี

7) แบ่งเวลาให้ครอบครัว อย่าคร่ำเคร่งกับงานจนลืมใส่ใจคนที่เรารัก ทั้งพ่อ แม่ ญาติสนิทมิตรสหาย และคนรู้ใจ เพราะความสุขส่วนหนึ่งมาจากจุดเล็กๆ เหล่านี้ นอกจากงานคนจำนวนไม่น้อยในปัจจุบัน ยังเพลิดเพลินไปกับโลกโซเชียลจนเกินพอดี ด้วยเหตุนี้ อย่ามัวเพลิดเพลินกับโลกเสมือนเหล่านี้จนลืมคนที่คุณรักไปล่ะ

เป็น 7 วิธีที่จะเปลี่ยนให้คุณสุขภาพดีในปีแพะ

วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2558

“น้ำมะพร้าว”เครื่องดื่มเพื่อคุณผู้หญิงทุกประเภท

มะพร้าวมีประโยชน์มหาศาล จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน ใครๆ ก็รู้ แต่ประเด็นที่ว่า มะพร้าวเกิดมาเพื่อคุณผู้หญิง อาจมีใครบางคนยังไม่รู้


ผู้หญิงขี้ลืม : น้ำมะพร้าวช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ หรือ ความจำเสื่อมโดยเฉพาะในสตรีวัยทอง
ผู้หญิงซุ่มซ่าม : น้ำมะพร้าวจะช่วยสมานแผล ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น
ผู้หญิงรักสวยรักงาม : น้ำมะพร้าวช่วยบำรุงผิวพรรณสวยงาม ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
ผู้หญิงรักการออกกำลังกาย : น้ำมะพร้าวให้ร่างกายสดชื่น ลดความอ่อนเพลียหลังการออกกำลังกาย
ผู้หญิงรักการดื่ม : น้ำมะพร้าวช่วยแก้เมา แก้แฮ้ง แก้เมาค้าง หลังการดื่ม
ผู้หญิงที่กำลังจะเป็นคุณแม่ : น้ำมะพร้าวจะทําให้การสร้างไขตัวเด็กได้สีค่อนข้างขาว ซึ่งจะทำให้เห็นว่าเด็กที่คลอดออกมานั้นมีตัวที่สะอาด
ผู้หญิงมีประจำเดือน : น้ำมะพร้าวมีสารอาหารแบบเดียวกับฮอร์โมนเพศ ซึ่งอาจจะมีผลต่อประจำเดือน เช่น อาจทำให้ประจำเดือนหยุด
รู้แล้วสินะว่า บ้านหลังใหม่จะปลูกต้นอะไรดี

วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

เรื่องเล็บ…เรื่องเล็ก

หลายคนมีปัญหากับการทาเล็บ เรียกได้ว่าอยากสวยต้องยอมเสียเงินเข้าร้านทำเล็บแพงๆ ไม่กล้าที่จะแต่งเล็บทาเล็บด้วยตัวเอง แต่อันที่จริงแล้ว การทาเล็บเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว . .. เพียงแค่ต้องมีเทคนิคการทาเล็บสักเล็กน้อยค่ะ จะง่ายแค่ไหน มาดูกันเลยยยยย !!!

เทคนิคการทาเล็บ
- บีบน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูลงในอ่างน้ำ ทิ้งไว้สักพัก แล้วนำมือลงไปแช่ จะช่วยให้เล็บอ่อนนุ่มขึ้น
- ใช้น้ำยารองพื้นทาเล็บในชั้นแรก เพื่อเป็นการดูแลเล็บขั้นต้น เพราะหากเราทาเล็บสีจัด จะทำให้เล็บเหลืองได้
- การลงสีทาเล็บ ไม่ควรป้ายเกิน 3 ครั้ง เพราะสีจะจับเป็นก้อนไม่เรียบเสมอกัน และอย่าลงสีเล็บเกิน 2 ชั้นเพราะจะดูหนาจนเกินไป
- หลังจากลงสีทาเล็บเรียบร้อยแล้ว ควรปิดท้ายด้วยการทาน้ำยาเคลือบเล็บ เพราะจะช่วยเพิ่ม ความเงางาม วิบวับให้กับเล็บ และยังป้องกันสีเล็บจางจากแสงแดดได้
Tips
การเก็บน้ำยาทาเล็บที่ดี ให้อยู่กับเราได้นานๆ จะต้องปิดฝาให้สนิท และเก็บไว้ในที่เย็น ห่างไกลแสงแดด อย่างเช่น ช่องเล็กในตู้เย็น การเลือกยาทาเล็บ ควรดู ส่วนผสมด้วย นั่นคือ ยาทาเล็บที่ดีไม่ควรมีแอลกอฮอล์ เพราะว่าแอลกอฮอล์จะเป็นตัว ทำให้ผิวเล็บแห้ง และเปราะง่าย
การเลือกสียาทาเล็บให้เหมาะกับสีผิว
สาวผิวขาวอมเหลือง : เหมาะกับยาทาเล็บสีชมพูอมส้ม สีน้ำตาลทองสว่าง หรือสีสดๆ
สาวผิวขาวอมชมพู : เหมาะกับยาทาเล็บสีชมพูอมน้ำตาล สีชมพูอมม่วง หรือสีโทนเย็น
สาวผิวคล้ำอมเหลือง : เหมาะกับยาทาเล็บสีน้ำตาลทองเข้ม สีแดงสดหรือสีทอง
สาวผิวคล้ำหรือดำแดง : เหมาะกับยาทาเล็บสีแดงเข้ม สีชมพู

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2558

10 สุดยอดปาร์ตี้ชายหาดฉลองปีใหม่รอบโลก

เว็ปไซต์ Cheapflights.com ได้จัดอันดับชายหาดที่ขาปาร์ตี้ต้องไปทั่วโลก เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับพวกเขาเลยทีเดียว เราจะพาไปดูว่ามีหาดอะไรบ้างที่ชาวชิคเห็นแล้วจะต้องอยากไปปาร์ตี้แน่นอน
1. Ibiza, Spain
เกาะ Ibiza เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงมากในการเข้าผับปาร์ตี้กับดนตรีแนวเฮ้าส์สุดมัน ซึ่งเหล่านักปาร์ตี้สามารถเต้นสุดเหวี่ยงกันได้ทั้งคืนเลยล่ะครับ

2. South Beach, Miami
South Beach ก็เป็นอีกหนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหัฐฯ โดยจะรู้จักกันดีในเรื่องของอลังการงานศิลป์ เกย์คลับ และค่ำคืนแห่งความครึกครื้น และยังมีบาร์ที่หลากหลายที่ติดชายหาดเช่น Nikki Beach และ Mansion ส่วนใหญ่จะดูหรูทั้งนั้น แต่งตัวให้ดูดีเข้าไ ว้นะครับถ้าไปเที่ยว

3. White Beach, Boracay, Philippines
White Beach เป็นหาดที่มีชื่อเสียงด้านการปาร์ตี้สุดเหวี่ยง ในช่วงตอนกลางคืนจะมีการการแสดง เล่นไฟ วงดนตรีสด และดีเจแนวเฮ้าส์ทั้งคืนเลยล่ะครับ

4. Gordon Beach, Tel Aviv, Israel
Tel Aviv เป็นเมืองที่ถือว่าเป็นอีกเมืองในตะวันออกกลางที่เก๋ไม่น้อยเลยล่ะ อีกอย่างคนที่นี่ก็บ้าปาร์ตี้ด้วย ที่เมืองนี้มีชายหาดทั้งหมด 16 แห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีการจัดงานปาร์ตี้อย่างยิ่งใหญ่สำหรับเพศที่สามด้วย

5. Nissi Beach, Ayia Napa, Cyprus
โดยปกติแล้ว Nissi Beach จะจัดปาร์ตี้โฟม ปาร์ตี้บิกินี และคนที่ชอบดื่มสังสรรค์และแดนซ์สุดเหวี่ยงกับเหล่าดีเจรับเชิญ เตรียมตัวให้พร้อมกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งในการปาร์ตี้

6. Kuta Beach, Bali, Indonesia
ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวหลายพันคนแห่แหนกันมาปาร์ตี้ที่ Kuta Beach โดยในเกาะนี้เหมาะแก่การปาร์ตี้เพราะบรรยากาศอันครึกครื้น ดนตรีเสียงดัง เครื่องดื่มมากมาย และเหล่านักเที่ยวหน้าตาดี น่าไปใช่มั้ยล่ะครับ

7. Haad Rin Beach, Koh Phangan, Thailand
มาถึงคิวของเมืองไทยเราบ้างนะครับ ที่นี่ก็ไม่น้อยหน้ากว่าที่อื่น เพราะมีฟูลมูนปาร์ตี้ ซึ่งจะจัดขึ้นในทุกคืนที่พระจันทร์เต็มดวงที่เกาะพงัน จังหวัดสุราษณ์ธานี ฟูลมูนปาร์ตี้ที่นี่จะเป็นคืนที่เต็มไปด้วยเสียงดนตรี เครื่องดื่มที่ราคาไม่แพงมาก และเหล่าขาปาร์ตี้ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

8. Psarou Beach, Mykonos Island, Greece
Psarou Beach เป็นหาดที่คนไม่รู้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการปาร์ตี้ที่นี่จะไม่สนุกนะครับ คนที่มาจะเป็นพวกที่ชอบการปาร์ตี้อย่างแท้จริงโดยเริ่มตั้งแต่บ่ายจนกระทั่ง เช้าของอีกวัน และทุกวันก็จะเป็นแบบนี้ เพลงที่นี่จะเป็นแนวเฮ้าส์ แหม่! ปาร์ตี้กันหนักแบบนี้ เอาแรงมาจากไหนเนี่ย

9. Zrće Beach, Novalja, Croatia
การปาร์ตี้บนชายหาดในประเทศโครเอเชียเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น โดยเฉพาะบนหาด Zrće Beach การปาร์ตี้เริ่มตั้งแต่ตอนกลางวันยันกลางคืน คุณสามารถแต่งตัวตามใจชอบได้ด้วยล่ะครับ

10. Palolem Beach, Goa, India
Goa มีชื่อเสียงในปาร์ตี้เล่นไฟสนุกสนานกันทั้งคืน ลักษณะเด่นของหาด Palolem Beach คือทุกคนจะใส่หูฟังของแต่ละคนแล้วเต้น ดูแปลกใช่มั้ยล่ะครับ แต่ก็จัดขึ้นบ่อยนะ
เป็นยังไงกันบ้างครับ พอมีไอเดียหรือยัง ถ้าใครอยากลองแนะนำให้ไป Full Moon Party ที่เกาะพงัน เพราะเราสามารถไปได้ง่าย แล้วคุณจะได้สัมผัสการปาร์ตี้สดเหวี่ยงระดับโลกเลยล่ะครับ