วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สังเกต “ริมฝีปาก” บอกโรค


สังเกต “ริมฝีปาก” บอกโรค

สังเกต “ริมฝีปาก” บอกโรค

     หันไปมองริมฝีปากของคนข้างตัวสิคะ สีและลักษณะแตกต่างกันใช่ไหม นั่นเป็นเพราะสภาวะสุขภาพของ แต่ละคนทำให้เป็นอย่างนั้นค่ะ ดังนั้นอย่าช้าเลย วันนี้เรามีวิธีสังเกตลักษณะริมฝีปากเพื่อบ่งชี้ระบบการทำงานในร่างกายให้ คุณทราบกัน …ไปฟังพร้อมๆ กันเลย
    ริมฝีปากอิ่ม สีชมพูสดใส ไม่เหี่ยวย่น แน่นอนว่าแสดงถึงสุขภาพที่แข็งแรงดีค่ะ

    ปากสีซีด มักเกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายที่ทำงานไม่สมบูรณ์ อาจมีอาการความดันโลหิตต่ำ ไปจนถึงภาวการณ์มีบุตรยาก นอกจากนี้ยังอาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ ได้ เช่น โรคไอเรื้อรัง อาการปวดท้อง หรือเสียน้ำจากการท้องเสีย เป็นต้น
    ปากสีเขียวคล้ำ เป็นลักษณะของการขาดออกซิเจนค่ะ บ่งบอกถึงระบบไหลเวียนเลือดติดขัด ที่อาจมีสาเหตุมาจากโรคเกี่ยวกับตับ ขณะที่หากเกิดในเด็กอาจบ่งบอกถึงอาการชัก หรืออาการก่อนชัก
    ปากแดงจัด ไม่ใช่สัญญาณที่ดีนะคะ เพราะกำลังหมายถึงร่างกายสะสมความร้อนมากเกินไป
    ปากแดงจัดแต่แห้ง แสดงว่าร่างกายกำลังสูญเสียน้ำ ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้น หากเกินในช่วงท้องเสียควรดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือแร่ด้วย

เคล็ดลับหุ่นดี พร้อมโฉมใหม่ ตีญ่า The Face 2 หลังโดนล้อมีพุง

เดี๋ยวสวยให้ดู! ′ตีญ่า The Face 2′ เข้าคลินิกลดน้ำหนักแล้ว หลังโดนล้อมีพุง!!
เดินหน้าลดพุงเต็มที่ หลังถูกเเซวออกอากาศในรายการ The Face Thailand 2 ว่าพุงป่องเพราะฟาดเรียบมื้อกลางวันหนักไปหน่อย จากคณะกรรมการกูรูเรื่องแฟชั่น ม้า อรนภา สำหรับสาวสวย ตีญ่า หทัยชล ดูร์มาซ ลูกทีมของเมนเทอร์ ลูกเกด เมทินี มิหนำซ้ำยังถูกชาวเน็ตตัดต่อภาพล้อเลียนโฆษณานมเพื่อคุณแม่มือใหม่อีกด้วย
ล่าสุดมีภาพของสาวตีญ่า ขณะเข้าคลินิกฝากไขมันและลดความอ้วน ควบคู่กับการออกกำลังกาย ออกมาให้ได้เห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าในเร็ววันสาวตีญ่าคงพารูปร่างสวยเพรียวไร้พุงออกมาให้ได้เห็นเพื่อ ลบคำสบประมาทก่อนหน้านี้แน่นอน


นวด เมคเลิฟ เสิร์ฟรัก


นวด เมคเลิฟ เสิร์ฟรัก

นวด เมคเลิฟ เสิร์ฟรัก

นิตยสาร Woman Plus
สนับสนุนเนื้อหา
หาก แฟนหนุ่มของคุณกำลังเครียดเพราะปัญหาน้ำท่วมที่ไม่คลี่คลายเสียที คุณคงอยากมีส่วนที่จะช่วยให้เขาคลายเครียดได้บ้าง จะชวนให้เขาเล่นเกมรักด้วยกัน เขาก็อาจจะเครียดเกินกว่าจะมาร่วมสนุกกับคุณ หลายๆ ครั้งเกมรักก็ไม่ใช่ทางออกเสมอไปเมื่อเกิดความเครียด เพียงแค่การนวดธรรมดาๆ ก็สามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดี และยิ่งเป็นการนวดแบบ WP ด้วยแล้ว จะให้นวดอย่างธรรมดาคงไม่ได้ วันนี้เรามีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก ซึ่งหากสาวๆ นำไปปฏิบัติ รับรองได้เลยว่านอกจากจะหายเครียดแล้ว ยังจะได้รับสิ่งดีๆ กลับมาด้วยอย่างแน่นอน
1. สัมผัสอย่างถูกจุด ไม่ต้องถึงขั้นนวดปุ๊บหายปั๊บ อย่างหมอนวดมืออาชีพ เพียงแต่คุณควรจะรู้ว่าจุดไหนที่เขาจะรู้สึกดีเวลาที่ถูกสัมผัส คุณก็เปลี่ยนจากการสัมผัสธรรมดาเป็นการกด หรือคลึงด้วยน้ำหนักที่ไม่เบาหรือหนักจนเกินไป อีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือบริเวรขมับของเขา ให้คุณนวดจากด้านหลัง ใช้นิ้วหัวแม่โป้งคลึงวนไปวนมา พลางกระซิบด้วยคำหวานที่ข้างหู เท่านี้รับรองว่าเขาจะไม่ต้องการหวังพึ่งหมอนวดมือทองที่ไหนอีกต่อไป

2. กลิ่นหอมช่วยได้ ลอง เลือกใช้น้ำมันนวดที่มีกลิ่นหอมหรือที่เขาชอบมาช่วย จะช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายได้มากยิ่งขึ้น หรือหากคุณไม่เป็นคนไม่ชอบความเหนียวเหนอหนะของน้ำมันนวด ก็อาจจะเลือกเป็นเทียนหอมเพื่อสร้างบรรยากาศรอบๆ แทนก็ได้

3. มือพิเศษ วิเศษสุด ระหว่าง นวดอย่าใช้เพียงแต่มืออย่างเดียวเท่านั้น ขณะนวดพยายามให้ร่างกายของคุณแนบชิดเขาให้มากที่สุด โดยเฉพาะส่วนหน้าอก สัมผัสอันอ่อนนุ่มจากหน้าอกของคุณนี่แหละที่จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้หาย เมื่อยได้ดีกว่ามือพิเศษใดๆ ในโลก

4. ผลัดให้เขาเป็นฝ่ายนวดเราบ้าง อย่าให้เขาเอาเปรียบคุณฝ่ายเดียว เมื่อ คุณเป็นฝ่ายนวดจนทำให้เขาหายเครียด จนอารมณ์กระเจิงไปแล้ว ลองบอกให้เขาเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายนวดคุณบ้าง รับรองเมื่ออารมณ์ของเขามาถึงขั้นนี้แล้วเขาจะไม่มีทางปฏิเสธคุณ และเกมรักสุดพิเศษของคุณก็จะถูกปลุกขึ้น ณ บัดนั้นทันที

Tips ระหว่าง นวดคุณอาจจะค่อยๆ ถอดเสื้อของคุณและของเขาออกทีละชิ้น เพื่อความตื่นเต้น และให้ร่างกายของคุณทั้งคู่แนบชิดกันให้มากที่สุด จะช่วยทำให้ทั้งความผ่อนคลาย และอารมณ์ของคุณทั้งคู่เพิ่มขึ้นได้อย่างน่ามหัศจรรย์

สุดยอดเทคนิคในการจูบที่ดี


สุดยอดเทคนิคในการจูบที่ดี

สุดยอดเทคนิคในการจูบที่ดี

นิตยสาร Woman Plus
สนับสนุนเนื้อหา
คุณจำจูบแรกของคุณได้ไหม ไม่ว่าใครก็ต้องมีจูบแรกแน่นอน เพราะการจูบเป็นการแสดงความรักอีกรูปแบบหนึ่งที่ดูนุ่มนวล แต่จะจูบแบบไหนให้จับใจ และไม่น่าเบื่อ มาดูเคล็ดดีๆ ที่ womanplusmagazine นำมาเสนอเลยค่ะ ที่ จริงแล้วทฤษฎีเกี่ยวกับจูบ การจูบ และวิธีการจูบ มีอยู่มากมายหลายทฤษฎีเป็นการวิเคราะห์ หลายทฤษฎีเป็นบทความทางวิชาการ แต่ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีไหน ส่วนใหญ่เราก็เอามาประยุกต์ในชีวิตประจำเตียง (ประจำวัน) ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นครั้งนี้ลองมาศึกษาทฤษฎีจูบจากประสบการณ์จริงกันหน่อยดีกว่า  
1. จูบด้วยความแผ่วเบาและนุ่มนวล ผู้เชี่ยวชาญ ที่มากประสบการณ์บอกว่าการจูบด้วยความแผ่วเบาและนุ่มนวล มักจะทำให้สาวเจ้าเคลิบเคลิ้มได้ง่ายกว่าการจูบแบบรุนแรงปานจะกลืนกิน เพราะจูบแผ่วเบาให้ความรู้สึกถึงการทะนุถนอมมากกว่าการจูบแบบรุนแรง แต่ก็ใช่ว่าการจูบแบบรุนแรงจะไม่มีประโยชน์เลยเสียทีเดียว เพราะถ้าหากอยากเปลี่ยนบรรยากาศเมื่อไหร่ ก็กระหน่ำจูบเธอให้เต็มรักไปเลย 
2. อย่ากลัวที่จะเป็นผู้นำ อย่าตกใจถ้าได้เป็นผู้ตาม โดย ธรรมชาติแล้วหนุ่มๆ ควรเป็นฝ่ายเริ่มต้น เพราะการเป็นผู้นำสำคัญสำหรับหนุ่มๆ ในการเป็นผู้ควบคุมเกมการจูบ ดังนั้น คุณจึงต้องนำเธอด้วยการสัมผัสริมฝีปากกับริมฝีปาก หรือไม่ก็นำเธอด้วยการใช้ลิ้นสัมผัสกับลิ้น แต่ในบางกรณีที่สาวๆ เป็นฝ่ายนำคุณบ้าง ตั้งแต่เธอเริ่มนำจูบไปจนถึงนำใช้ลิ้น ก็อย่าได้ตกใจ เล่นไปตามเกมเถอะ รับรองว่าจะดีเอง 
3. หลับตาแล้วพาใจล่องลอย ที่จริง แล้วไม่เคยมีใครบอกว่าเราควรลืมตาหรือหลับตาขณะจูบ เพราะโดยธรรมชาติแล้วเวลาที่เรากำลังดูดดื่มกับรสจูบขอใคร เราก็มักจะหลับตาพริ้มแล้วปล่อยใจให้ล่องลอยไปด้วยเสมอ ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณเผลอลืมตาจูบ เชื่อว่าคุณน่าจะได้พบความจริงบางอย่างว่าใบหน้าโคลสอัพของอีกฝ่ายอาจจะไม่ ได้น่าภิรมย์นัก ดังนั้นหลับตาซะ 
4. อย่าปล่อยมือไว้ให้ว่างหรือวางเฉย มือ สำคัญสำหรับกิจกรรมการจูบ เพราะมือเร่งเร้าความรู้สึกระหว่างกันได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้เชี่ยวชาญและเจนสนามรบ ตำแหน่งของมืออาจจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเขานัก แต่สำหรับมือใหม่หัดจูบ ตำแหน่งของมือถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้พวกเขากังวลอยู่ไม่น้อย ผู้เชี่ยวชาญของเราบอกว่า เมื่อปากจูบไปก็ลองใช้มือลูบไล้เรือนผมของเธอ หรือไม่ก็สัมผัสแผ่วเบาที่ต้นคอ จะทำให้เธอเคลิบเคลิ้มขึ้นได้ แต่ถ้าคุณกำลังร้องขอมากกว่าการจูบ ก็ให้ลูบไล้ที่สะโพกเธอ 
5. สร้างเทคนิคการจูบใหม่ๆ ให้ตัวเอง การ สร้างเทคนิคใหม่ๆ ในการจูบให้กับตัวเองและคู่รักเป็นสิ่งจำเป็น เพราะนอกจากจะสร้างความวาบหวิวในกรณีที่คุณมีเทคนิคที่แพรวพราวมากขึ้นได้ แล้วเทคนิคใหม่ยังแก้เบื่อได้ดี เรามีแนวทางมานำเสนอ
จูบแบบทีเล่นทีจริง จูบแบบทีเล่นทีจริงเป็นการจูบแบบ หยอกเอิน การจูบแบบหยอกเอินเป็นการสร้างความกุ๊กกิ๊กให้ชีวิตคู่ หนุ่มๆ ลองบรรจงจูบแล้วหยุด ทำทีเหมือนจะจูบอีกครั้งแต่ไม่จูบ รับรองว่าสาวเจ้าจะต้องเร่งเร้าด้วยการรุกจูบเองทันที
จูบแบบเย้ายวน การจูบแบบเย้ายวนสร้างเสน่หาให้แก่กัน และกันได้ แน่นอนว่ามันเป็นการจูบที่คาดหวังกิจกรรมต่อเนื่อง ก่อนจะนำลิ้นเข้าไปสำรวจภายในช่องปากของสาวๆ หนุ่มๆ ลองใช้ลิ้นสัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากของเธอดูสิ รับรองว่าจะเคลิบเคลิ้มกันได้ดีทีเดียว
จูบเย้ยจันทร์ เราไม่แนะนำให้คุณจูบเย้ยใคร เพราะวัฒนธรรมของไทยไม่อำนวยต่อการจูบต่อหน้าธารกำนัล ดังนั้นถ้าอยากจูบต่อหน้าสักขีพยานจงจูบเย้ยจันทร์ การจูบกันในสถานที่เปิดโล่งให้ความรู้สึกที่ดีไม่แพ้การจูบในที่รโหฐาน เผลอๆ อาจจะตื่นเต้นมากกว่าเสียอีก ว่าแล้วเดินจูงมือไปจูบเย้ยจันทร์กันที่สวนหน้าบ้านหน่อยเป็นไร

ซื้อเพชรลดหย่อนภาษีได้ไหม?

เมื่อคุณลุงตู่ออกนโยบายใจดี กับการชอปช่วยชาติ แล้วนำใบกำกับภาษีไปหักค่าลดหย่อน ระหว่าง 25-31 ธันวาคม 2558 ก็ทำให้เกิดคำถามมากมายว่างานนี้จะหักยังไง มากน้อยแค่ไหน ได้เงินคืน 15,000 จากใคร และตกลงอะไรหักได้ อะไรหักไม่ได้
คุณหมอจึงต้องขอออกมาช่วยลุงตู่ชี้แจง ว่าการซื้อเพชรนั้นก็หักค่าลดหย่อน 15,000 บาทกับเค้าได้ด้วยนะ

เพราะทองคำและเพชรที่มีลักษณะ การเสียภาษีที่แตกต่างกัน ดังนั้นทองคำแท่ง ไม่สามารถหักลดหย่อนได้ ส่วนทองรูปพรรณนั้น หักได้เฉพาะค่ากำเหน็จ  ซึ่งก็ถูกต้องตามหลักการ เพราะระบบการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มของทองนั้น เป็นลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนกับสินค้าประเภทอื่น ทำให้ “ทองคำ” ไม่สามารถนำมาหักลดหย่อนได้
แต่ไม่รวมถึง “ทอง” ในส่วนของ “ตัวเรือนเครื่องประดับเพชร” ซึ่งในกรณีนี้ ผู้ประกอบการรายไหนอยู่ในระบบภาษีมูลค่า ก็สามารถขอใบกำกับภาษีจากร้านประจำ เพื่อหักลดหย่อนได้เลย
ก่อนซื้อเพชรในระหว่างวันที่ 25-31 ธันวาคมนี้ก็สอบถามว่าร้านเพชรเจ้าประจำก่อนว่าสามารถออกใบกำกับภาษีให้ได้ หรือไม่ ถ้าออกได้ก็เตรียมสอยแหวนเพชรที่เล็งไว้ได้เลย อ้อ…. อย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดของใบกำกับให้ถูกต้องตามรายละเอียดนี้ด้วยนะจ๊ะ

ส่วนจะลดหย่อนได้มากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับฐานรายได้ของแต่ละบุคคลที่ แตกต่างกัน ซึ่งก็คิดง่ายๆเหมือนเราได้ “ส่วนลด” เพิ่มจากการซื้อสินค้าชิ้นนั้นๆ และสามารถคำนวณคร่าวๆได้จากตารางนี้เลยจร้า

ได้รายละเอียดครบถ้วนสบายใจกันไปแล้ว อีกไม่กี่วันที่เหลือนี้ก็อย่าลืม ออกไปชอปช่วยชาติกันอย่างถูกต้อง จะได้ประโยชน์จากการได้รับภาษีคืนกันแบบเต็มๆ

ผมพันจนยุ่งเหยิง ทำยังไง ?

นอกจากใบหน้าจะเป็นจุดสำคัญที่ช่วยดึง ดูดความสนใจจากคนรอบข้างแล้ว การดูแลเส้นผมก็ควรให้ความสำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะหากสาวๆ มีเส้นผมที่ไร้ซึ่งความเงางามเป็นธรรมชาติ มิหนำ ซ้ำยังพันกันจนยุ่งเหยิง ทำให้ขาดความน่าสนใจคงจะเป็นเรื่องน่าเศร้าไม่น้อย คราวนี้จึงขอนำเคล็ดลับการดูแลเส้นผมไม่ให้พันกันจนยุ่งเหยิงแบบง่ายๆ มาฝาก

หลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่น ควรหันมาทำความสะอาดด้วยน้ำเย็นแทน เพราะน้ำเย็นจะช่วยปิดเกล็ดผมเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ให้เส้นผมได้เป็น อย่างดีช่วยให้เส้นผมดูลื่นและเงางาม แต่ทั้งนี้หากใช้น้ำอุ่นกับเส้นผมจะทำให้น้ำมันตามธรรมชาติที่มีอยู่ในเส้น ผมหลุดออกไปได้ง่ายๆ จนเกิดการสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้เส้นผมหยาบและสากได้
บำรุงผมด้วยคอนดิชันเนอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้หลังจากการสระผมเพราะมีส่วนช่วยเพิ่มความ ชุ่มชื้นให้กับเส้นผมมากยิ่งขึ้น โดยคอนดิชันเนอร์สมัยนี้มีให้เลือกทั้งแบบล้างออกขณะสระผมและลีฟออนคอน ดิชันเนอร์แบบไม่ต้องล้างออก เหมาะสำหรับการจัดแต่งทรงผม ส่วนการใช้คอนดิชันเนอร์หมักผมควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และการใช้ให้ถูกวิธีควรเน้นบริเวณปลายผมให้มากที่สุด

การหมักผมด้วยวัตถุดิบที่ได้จากธรรมชาติ ถือเป็นวิธีที่ช่วยลดการเกิดสารตกค้างจากสารเคมีที่ถูกสะสมอยู่ในเส้นผมเป็น เวลานานได้ แถมยังช่วยลดปัญหาผมชี้ฟู จัดทรงยากได้เช่นกัน โดยวัตถุดิบที่แนะนำ ได้แก่ น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว ไข่ไก่ น้ำผึ้ง ผลมะกรูด ฯลฯ
เมื่อผมเปียกไม่ควรขมวดผม หรือนอนโดยทันที หลัง จากสระผมเสร็จ ทุกครั้งควรบีบน้ำออกจากเส้นผมด้วยมือเปล่าก่อน และใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้งมากที่สุด ที่สำคัญห้ามใช้ผ้าขนหนูขมวดหรือบิดเส้นผมไปพร้อมกัน เพราะจะทำให้เส้นผมขาด และเกิดการแตกปลายได้ง่ายกว่าปกติ เนื่องสภาพเส้นผมจะอ่อนแอที่สุดในช่วงเวลาผมเปียก นอกจากนี้การนอนทั้งๆ ที่เส้นผมยังไม่แห้งจะส่งผลให้ผมเกิดความอับชื้น และอาจเกิดเชื้อราได้ง่ายๆ

บอกลาหวีแปรง แล้วเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ เพราะหวีแปรงเป็นอีกหนึ่งตัวการทำให้เส้นผมขาดง่าย จนส่งผลให้เกิดการหยิกฟูได้ง่าย ซึ่งหวีที่ขอแนะนำให้หามาใช้ ได้แก่ หวีซี่ห่างกับหวีซี่ถี่ โดยหวีซี่ห่างควรใช้กับผมเปียกหรือแห้งหมาดๆ และค่อยๆ หวีไปเรื่อยแบบไม่ต้องดึงปมเส้นผมให้ขาด จากนั้นจึงค่อยหวีตามด้วยหวีซี่ถี่ เพื่อทำให้เส้นผมดูเรียบลื่นสวยงาม ซึ่งแน่นอนว่าหวีแปรงไม่สามารถทำได้เลย
ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมพันกันอีกหนึ่งทางออกที่ดี ซึ่งมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น เซรั่ม สเปรย์ หรือ ครีม โดยคุณสมบัติในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ มักช่วยเพิ่มความแข็งแรงและรักษาความนุ่มลื่นให้เส้นผมได้ตลอดทั้งวัน แต่สิ่งสำคัญควรเลือกซื้อผลิตที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ เพราะอาจเป็นตัวทำให้เส้นผมหยาบกร้าน และพันกันได้ง่ายกว่าเดิม แต่หากใครไม่มั่นใจก็สามารถทำสเปรย์ได้ง่ายๆ โดยนำคอนดิชันเนอร์ที่ใช้เป็นประจำ 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงไปในขวดเปล่าที่มีหัวฉีดแล้วเติมน้ำให้เต็ม นำมาเขย่าให้เข้ากัน แค่นี้เราก็มีสเปรย์ใช้กันแล้ว
ปลอกหมอนผ้าไหม ชุดเครื่องนอนก็สำคัญไม่แพ้กัน หลายคนอาจมองข้ามการเลือกใช้ปลอกหมอนผ้าไหมไปอย่างไม่รู้ตัว แต่คุณรู้หรือไม่ว่านอกจากผ้าไหมจะทำความสะอาดได้ง่ายแล้ว ผ้าไหมยังช่วยลดการเสียดสีของเส้นผมจนทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตในขณะที่นอนได้ด้วย อีกทั้ง ผ้าไหมจะไม่ดูดซึมความชุ่มชื้นใดๆ ไปจากเส้นผมเด็ดขาด
เตรียมตัวก่อนนอน และพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับสุดเบสิคที่มีความสำคัญมากๆ เพราะนอกจากร่างกายจะต้องการพักผ่อนแล้ว เส้นผมเองก็ต้องการพักผ่อนเช่นกัน แต่หากใครกลัวเส้นผมพันกันระหว่างนอน ลองมาม้วนผม
หรือถักเปียก็สามารถช่วยลดการพันกันของเส้นผม นอกจากนี้สาวๆ อาจได้ทรงผมสวยๆ เป็นของแถมด้วยนะคะ

ข้าวจี่เชียงคาน ร้อนๆ… มาแล้วจ้าาาาา

สวัสดีทุกคน ค่าาา เมื่อเร็วๆนี้จิงมีโอกาสไป จ.เลย และได้พบเพื่อนชาว จ.ขอนแก่น เพื่อนคนนี้ทำอาหารเก่งมากกกกก เพราะเป็นครูสอนทำอาหารด้วย

จิงเลยมีของกินเล่นมาฝากกันนิดหน่อย และนั่นก็คือ “ข้าวจี่เชียงคาน” นั่นเองงงงงง

อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าชื่อเป็นข้าวจี่ ที่ต้องเอามาปิ้งหรือนาบกับเตาร้อนๆ แต่เอาจริงเพื่อนกลับทอดให้กินเฉยเลย 55555 เค้าบอกว่าส่วนผสมเหมือนกัน ก็เลยเรียกชื่อนี้ได้ และที่สำคัญคือต้องใส่ไข่เยอะๆๆ ก็เลยใส่ไข่ 10 ฟองต่อข้าวเหนียว 1 กิโล เพื่อให้เวลาทอดแล้วไข่ฟูฟ่องลอยออกมาสวยงาม
แต่ตอนนั้นไข่หมดพอดี มีแค่ 3-4 ฟอง ก็เลยทำเท่าที่เหลือ พอทอดเสร็จข้าวจี่เลยไม่ฟูฟ่องอย่างที่ใจหวัง แต่รสชาติอร่อยแและกินเพลินมากๆๆๆ
ใครที่ชอบข้าวจี่ ข้าวเหนียว หรือข้าวทอด ขอแนะนำแรงๆเลยค่าาาา แซ่บฝุดๆ อิอิ ><
ส่วนผสม
ข้าวเหนียวหุงสุก 1 กิโลกรัม
ไข่ไก่ 10 ฟอง
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
นมข้นจืด 1 กระป๋อง
น้ำมันพืช สำหรับทอด
(ถ้าไข่หรือนมข้นจืดน้อยกว่านี้ อย่าลืมลดเกลือและน้ำตาลลงด้วยด้วยน๊าาา ^^)
อุปกรณ์เพิ่มเติม
ช้อน 2 คัน / กระทะ / ทัพพีโปร่ง / กระชอน / กระดาษซับน้ำมัน / ถาดรอง
jingerbread small2

ถ้าใครพร้อมแล้วก็เริ่มเลยค่าาาาา ^^

V
V
1. ผสมไข่ไก่กับนมข้นจืด เกลือ และน้ำตาล เสร็จแล้วใส่ข้าวเหนียวลงไปแช่พักไว้ 3 ชั่วโมง
(ตอนเพื่อนทำถ่ายไม่ทัน  มาเห็นอีกทีก็ผ่านไป 3 ชั่วโมงแว้วววว)
ตอนนี้ข้าวเหนียวจะนิ่มเพราะส่วนผสมซึมเข้ากันดีแล้ว ><
kawchee01
2. ใช้ช้อนกินข้าวตามในภาพ 2 คัน มาปั้นให้เป็นก้อนคล้ายลูกชิ้นปลารักบี้
โดยเวลาปั้นให้ตักขึ้นมาขนาดพูนช้อนเล็กน้อย แล้วก็กดริมช้อนตวัดเข้าหากันไปมาเร็วๆ ข้าวจะเริ่มเป็นรูปร่างแบบนี้
เดาว่าที่ไม่ใช้มือปั้นเพราะจะทำให้ข้าวแน่นเกินไป ไม่อร่อย
แต่จิงลองปั้นดูด้วยค่ะ พอได้อยู่ แค่ทรงไม่สวย (แต่ยังอร่อยเหมือนเดิม อิอิ)
kawchee02 kawchee033. ตั้งน้ำมันไฟกลาง รอให้ร้อนแล้วใส่ลงทอดเลยค่าาาา
kawchee04
4. เสร็จแล้วก็ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน (อันที่ไม่สวยคืออันที่ปั้นด้วยมือแหละค่ะ แหะๆ)
kawchee05
แล้วก็พักในกระดาษซับมัน เพื่อให้น้ำมันออกมากที่สุด จะได้กรอบและไม่อมน้ำมัน
kawchee06
V
V
ทะแล๊นนนน เสร็จแล้วค่าาา  ~
พอเอามาใส่ใบตองแล้วน่ากินมากๆๆๆๆๆ
(แต่ตอนถ่ายเหลือไม่กี่ชิ้นแล้วนะคะ เพราะกินกันเกือบหมดแระ 555555)
kawchee09
อย่าลืมเอาไปลองทำดูนะค้าาา ง่ายและอร่อยฝุดๆๆๆๆ ><
kawchee07
ขอบคุณครูหวานผู้น่ารัก สำหรับสูตรข้าวจี่เชียงคานแสนอร่อยด้วยนะคะ
นอกจากทำอาหารอร่อยแล้วยังใจดีอีกด้วย เป็นตาฮักหล๊ายยยยยย >///<
ไว้คราวหน้าจิงจะมีเมนูหรือของอร่อยที่ไหนมาฝาก อย่าลืมติดตามกันนะค้าาาา

รีวิว แว๊กซ์คิ้วปรับใบหน้าให้สว่าง แถมประหยัดเวลาเขียนคิ้วไปเยอะ!

     ฮาโหลลลล ...~ สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้ถูกเชิญให้ไปแว๊กซ์คิ้วกับทาง Benefit ที่ Benefit Brow bar สาขา เซนทรัสชิดลมค่ะ ซึ่งการแว๊กซ์คิ้วนั้น จะช่วยให้ใบหน้าของเราดูสะอาด ไม่รก กำจัดขนส่วนเกินที่ไม่ได้รูปออก จะมีขั้นตอนการทำยังไง เจ็บหรือเปล่านะ! มาดูกันเลยยยยย ^^

    ทำความเข้าใจกันก่อนว่า การแว๊กซ์คิ้วนั้น สามารถทำได้กับทุกสภาพผิวนะ แต่! ต้องไม่ผ่านการทำเลเซอร์ผิวหน้ามาอย่างน้อย 1 - 2 อาทิตย์ค่ะ และเมื่อทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะอยู่ได้ 5 -6 สัปดาห์โดยประมาณขนคิ้วก็จะขึ้นมาใหม่
   อันนี้คืออุปกรณ์ในการทำ ก็จะมีไม้ปาดขี้ผึ้ง ใช้แค่ ปาด 1 ครั้ง แล้วทิ้งเปลี่ยนใหม่เลย แผ่นแว๊กซ์ แหนบดึงขนคิ้ว กรรไกรไว้สำหรับตัดขนคิ้วที่ยาวๆ สำหรับขี้ผึ้งที่ใช้แว๊กซ์เป็นแบบใช้เฉพาะผิวหน้าเท่านั้น คนละส่วนผสมกับที่ใช้แว๊กซ์ขนตามตัว

    ขั้นตอนแรกเลย ต้องทำความสะอาดบริเวณคิ้วกันก่อนเลย ไม่ต้องกลัวนะว่า เช็คคิ้วออกไปแล้ว แว๊กซ์เสร็จ ฉันจะทำยังไง คิ้วฉันต้องโหลนกลับบ้านไหม!! ไม่ต้องกังวลเลย เพราะทาง Benefit จะทำการเขียนคิ้วให้ใหม่ พร้อมกับสอนดูมุมหน้าให้เข้ากับการเขียนคิ้ว (อย่า ตกใจว่านี้เช็ดคิ้วออกแล้วหรออออ!! ขวัญทำการสักคิ้วมาค่ะ ดังนั้นแล้ว ทาง Benefit จะไม่สามารถเปลี่ยนรูปทรงคิ้วให้ได้ ทำได้แค่เพียงแว๊กซ์ส่วนเกินจากทรงคิ้วออกให้ดูสะอาดขึ้นค่าาาา >.< )

นี้อีก 2 สาว พี่ Thichy และ พี่ Graddy สำหรับพี่เกร็ดดี้นั่นทำการสักคิ้วมาเช่นเดียวกันค่ะ

       จากนั้นก็ทำการวัดส่วนหักมุม 3 จุด หัวคิ้ว มุมยกสูงรับกับใบหน้า และปลายคิ้วค่ะ

      ขั้นตอนในการแว๊กซ์ ก็จะใช้ไม้จุ่มขี้ผึ้ง แล้วมาปาดบริเวณขน จากนั้นก็ใช้แผ่นแว๊กซ์ดึงออก ความรู้สึกคือ ไม่เจ็บนะ คันๆ ดี แต่หลังจากนั้นก็จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคนว่า จะมีอาการแดงง่ายไหม แต่ไม่เป็นอันตรายใดๆ ค่ะ

      เสร็จเรียบแล้วทาง Benefit ก็จะทำการเขียนคิ้วให้ค่ะ เทคนิคเขียนคิ้วของ Benefit จะมี 3 สเต็ป ยกมุมคิ้วชัดหน่อย เพื่อเน้นให้กรอบหน้าชัดเจนค่ะ
         เสร็จแล้วเรียบร้อยยย เทียบให้ดูก่อนกับหลัง ว่าก่อนทำคิ้วจะดูฟุ้งๆ รกและเกินกรอบคิ้วมา หลังจากทำแล้วหน้าจะสว่างขึ้น และดูสะอาด ง่ายต่อการเขียนคิ้วค่ะ

     อีกหนึ่งไฮไลท์ของทาง Benefit คือการติดเพชรที่คิ้วววว !!! เขาเรียกกันว่า Bling brow บริการตกแต่งคิ้วด้วยคริสตัลแท้จาก Swarovski ที่จะทำให้ใบหน้าดูสวยเปล่งประกาย จะมีสีให้เลือก สีดำ สีม่วง สีน้ำเงิน และสีทอง

Tips : แอบมีเทคนิคมาฝากด้วยแหละ! สำหรับขนคิ้วที่ขึ้นมาแล้วเราต้องการใช้แหนบในการดึงออก เพียงแค่ทำผิวตึงๆ แล้วใช้แหนบดึงตามทิศทางขน จับใกล้ๆ โคนจะช่วยให้ง่ายและเจ็บไม่มากค่ะ
    เป็นยังไงบ้างคะสาวๆ ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถมีใบหน้าที่สะอาด แถมยังดูหน้าสว่างขึ้นอีกด้วย หลังจากนี้อาจจะมีอาการแดงบริเวณที่ทำการแว๊กซ์ หรือคันนิดหน่อย ห้าม!!! เกาแรงนะ ไม่อย่างนั้นแล้ว ผิวได้ทะลอกแน่ สำหรับสาวๆ คนไหนที่อยากปรึกษาทรงคิ้ว แว๊กซ์ให้ได้รูป และง่ายต่อการเขียนคิ้ว สามารถไปได้เลยที่ Benefit ที่มีเคาน์เตอร์ Brow bar ทุกสาขาค่ะ

รวมดาราโครงหน้าไม่เริ่ด! แต่แต่งแล้วปังมาก

    ถ้าพูดถึงดารานักแสดงในบ้านเราแล้ว แต่ละคนก็มีความสวย ความเป๊ะ แตกต่างกันไปตามสไตล์ และคาแรคเตอร์ของแต่ละคนค่ะ ใช่ว่าจะต้องหน้าเรียว รูปไข่เสมอไป วันนี้รวบรวมดาราที่มีโครงหน้าไม่ได้เริ่ดมาก แต่แต่งออกมาแล้วสวยปัง ปัง ปัง!!!! จะมีใครบ้างนั่นมาดูกันค่ะ
โอปอล์ ปาณิสรา

     จะไม่พูดคงเป็นไปไม่ได้ สำหรับสาวโอปอล์ ปาณิสรา พิธีกร นักร้อง นักแสดงฝีมือดีที่มีสไตล์ที่ชิค ลงตัว ถึงแม้จะโครงหน้าไม่เริ่ด แต่บอกเลยว่า มาแล้วเกิด เกิด เกิด เป๊ะ ปัง! สุดพลัง
หญิง รฐา

     ถ้าย้อนกลับไปแต่ก่อนต้องบอกเลยว่า หญิง รฐา นั้นสวยมาไกลมาก เพียงแค่เธอดูแลตัวเอง แต่งหน้าทำผมดีๆ ก็ทำให้เธอสวยปังได้แล้วละค่ะ
เบนซ์ พรชิตา

    อยู่ในวงการมานานหลายปีแล้วค่ะ เชื่อได้ว่าสาวๆ ต้องรู้จักและเห็นหน้าเธออยู่เสมอๆ แต่! ที่สังเกตได้เลย คือ ใบหน้าที่ยังคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง อาจจะไม่ได้ดูเป๊ะ ปังมาก แต่แต่งหน้าทำผมออกมาก็สวย หวานเลยทีเดียว
จอย รินลณี

    อีกหนึ่งนักแสดง พิธีกรฝีมือเก่ง ที่มีรอยยิ้ม รูปปากเป็นเอกลักษณ์เลยก็ว่าได้ แต่งหน้าทาปากปุ๊บ สวย เป๊ะเลยนะ
ไอด้า ไอรดา

    หนึ่ง Single Mom ที่แข็งแกร่ง สำหรับสาวอินดี้ ไอด้า ไอรดา สาวที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง ทั้งรูปหน้าและการแต่งตัว พอเลือกทุกอย่างให้ลงตัว ก็เท่ ชิคสุดๆ ไปเลยล่ะ
ตุ๊กกี้ ชิงร้อย

   สาวอารมณ์ดีที่ทุกๆ คนรู้จัก อย่าง ตุ๊กกี้ นั้น บอกเลยแค่เห็นหน้าก็สามารถสร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้แล้ว แต่เวลาแต่งหน้า แต่งตาดีๆ นะ ก็สวย เริ่ดเหมือนกันนะ

แต่งหน้าปาร์ตี้ปีใหม่ ให้โดดเด่นแบบไม่จำเป็นต้องเขียวแดง

สวัสดีค่าาา
วันนี้อีฟมาทำ How to ในลุคไปปาร์ตี้ Christmas , New Year กันนะคะ
จริงๆแล้วเราไม่จำเป็นต้องแต่งสีเขียว-แดงก็ได้ค่ะ หยิบสีอื่นๆมาเล่นบ้างก็สนุกดีเอาให้เข้ากับเรา
ก็พยายามเลือกสีสันให้สดใสเข้าไว้นะคะ เผื่อใครปากแดงมา เราจะได้ไม่แพ้ ฮ่าๆๆๆ
ไปดูกันเลยดีกว่า ^^
 

หรือมาดูแบบภาพนิ่งกันทางนี้ก็ได้ค่ะ

Before-After ช่วงนี้ผิวหายจากการเป็นสิวแล้ว ^^ (บวกกับไฟด้วยเลยดูหน้าใส 55555555)

เครื่องสำอางที่ใช้นะก๊ะ

  1. Mei linda – BB Cream fairy blink #01
  2. Mei linda – Chou cream sponge
  3. Sola – primer teint concealer
  4. Nario Llarais – loose powder
  5. Mei linda – Cocktail night gel liner pencil waterproof #Irish coffee, #Blueberry Vodka, #Blue Hawaii
  6. Mei linda – The Tuxedo super long wear eyeliner pen
  7. Urban Decay – Heavy Metal glitter eyeliner
  8. Mei linda – The book of lashes #09
  9. Mei linda – Miracle my brown 3D gel
  10. Mei linda – Trio brow kit eyebrow #02
  11. M.A.C – Mineralize Blush #Just a wisp
  12. Mei linda – Miracle color fit lip liner #Tiramisu , #Nude
  13. Catrice – Made to stay highlighter pen #010

ขั้นแรกลง BB Cream ให้ทั่วใบหน้า โดยใช้ฟองน้ำไข่กดๆให้ทั่ว

บีบีตัวนี้ทำให้หน้าดูบริ๊งๆขึ้น ดูผิวมีน้ำมีนวล ไม่แมทสนิท ให้การปกปิดปานกลาง-ดี
สามารถทาบิ้วท์เพิ่มในบางจุดที่ต้องการปดปิเพิ่มเติมได้

ทาคอนซิลเลอร์ใต้ตาบางๆ และใช้ฟองน้ำไข่กดๆเพื่อไม่ให้เป็นคราบ

ทาแป้งฝุ่นให้ทั่วใบหน้า

ทาตาให้ดูคมเข้มและโดดเด่น
  1. จะใช้ดินสอเขียนขอบตา สีน้ำตาลเข้ม เขียน Inner liner ทั้งขอบตาบนและขอบตาล่าง
  2. จากนั้น ใช้ดินสอเขียนขอบตาสีน้ำเงิน เขียนขอบตาล่างด้านนอก
  3. และใช้ดินสอเขียนขอบตาสีฟ้าพาสเทล เขียนที่หัวตา ให้ดูสดใส
  4. เติมอายไลน์เนอร์แบบกลิตเตอร์ที่หัวตา ให้เล่นกับแสงไฟ
  5. กรีดอายไลน์เนอร์สีดำทับที่ขอบตาบนเพื่อไม่ให้ไหลเยิ้มเป็นแพนด้า
  6. สุดท้ายติดขนตาปลอม

จากนั้นก็มาเขียนคิ้วค่ะ จะใช้ที่เขียนคิ้วแบบเจล เพื่อให้สีคมเข้ม
จะเขียนที่หางคิ้วก่อน และค่อยๆไล่มาที่หัวคิ้ว จุ่มสีนิ๊ดดดเดียวเองนะคะ ใช้เขียนได้ทั้งคิ้วเลย

ใช้แบบฝุ่น สีเข้มเขียนที่หางคิ้ว และใช้สีอ่อนสุดไล้ที่หัวคิ้วบางๆ

ใช้ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น สีน้ำตาลกลาง และสีน้ำตาลอ่อน มาไล้ดั้ง และกรอบหน้า
เวลาถ่ายรูปมาจะได้มีมิติ หน้าไม่แบนเน๊อ

ปัดแก้มด้วยสีชมพูวาวๆ ให้แก้มดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี ผิวเงาๆ

ทาปากค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะทาสีแดง ให้มันดูปาร์ตี้ปีใหม่ แต่มันจะดูตั้งใจเกินไป 5555
ตอนนี้สีนู๊ดอมน้ำตาลแดงๆกำลังฮิต เลยใช้สีโทนนี้แทน ใช้ดินสอเขียนขอบปากสี Tiramisu ทาด้านใน
และใช้สี Nude ทาด้านนอก จากนั้นใช้นิ้วเบลนๆ กดๆเกลี่ยๆให้เข้ากัน

ทา Highlight ที่จงอยปากนิสนุง
เป็นอันเสร็จค่า !!

Strong!!

Smile อ่อนๆก็ได้นะ 555


ลุคที่ได้ประมาณนี้ค่ะ ปีใหม่ใครทาเขียว แดง เราไม่ทา 5555 เพราะรู้สึกว่าสีนี้เข้ากับตัวเองมากกว่า ^^
แต่ก็ยังเน้นสีสันให้ดูสดใสอยู่
ใครจะไปเที่ยวปีใหม่แต่ยังไม่มีไอเดีย ลองนำลุคนี้ไปแต่งดูนะคะ ดูง่ายๆแต่มีอะไร
หวังว่าเพื่อนๆจะชอบลุคนี้กันนะคะ ^^
Merry x’mas & Happy New Year ทุกคนล่วงหน้า มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงกันทุกคนค่า

บายยย