เมื่อโลกหมุนเปลี่ยนฤดูกาล
ในหนึ่งปีประเทศไทยอาจมีช่วงฤดูหนาวเพียงแค่ไม่กี่เดือนก็จริง
แต่การเตรียมพร้อมผิวให้สวยใส ชุ่มชื้น เพื่อต้อนรับลมหนาวก็
จำเป็นไม่น้อย เพราะอากาศหนาว ๆ
เย็นสบายแบบนี้นี่แหละที่เป็นตัวทำลายผิวพรรณรวมถึงเส้นผมและหนังศรีษะให้
แห้งเสีย จนหมดความมั่นใจกันเลยทีเดียว
บำรุงผิวกระจ่างใสชุ่มชื้น
ตื่นเช้าๆ อากาศเย็น
การล้างหน้าด้วยโฟมหรือสบู่นั้นอาจจะไม่จำเป็นด้วยซ้ำไป
แค่เพียงล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรือโฟมที่มีฟองน้อย ๆ ก็พอ
เพราะการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นอาจจะทำให้ผิวหน้ายิ่งแห้งและเกิดอาการคันได้
ง่าย
ดังนั้นการล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมหรือสบู่ควรล้างตั้งแต่ตอนเย็นหรือหัวค่ำ
ก็เพียงพอแล้ว และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการทาครีมบำรุงผิวหน้าที่
เหมาะกับสภาพผิวในช่วงอากาศหนาว
แต่ถ้าจะให้ดีการมาส์กหน้าด้วยโยเกิร์ตรสธรรมชาติ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะกรดแลคติกมีความอ่อนโยนต่อผิว
ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้มากขึ้นอีกด้วย
ดูแลผิวกายให้ชุ่มชื้นตลอดวัน
สภาพผิวกายในช่วงฤดู
หนาวเช่นนี้ การอาบน้ำอุ่นขอให้ตัดออกไปจากระบบเลยจะดีกว่า
แล้วลองฝึกอาบน้ำเย็นดูบ้าง
ส่วนสบู่ที่ใช้ก็ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวแห้ง
เมื่ออาบน้ำเสร็จในระหว่างที่ผิวเปียกหมาด ๆ
ให้รีบทาครีมทันทีเพราะจะช่วยให้ครีมซึมซับเข้าสู่ผิวหนังได้ดี
แต่ครีมที่เลือกใช้ควรเป็นครีมกันแดด เพราะอากาศหนาวกับแดดในช่วงนี้
คือตัวการที่ทำให้ผิวหมองคล้ำได้ง่ายที่สุด
นอกจากนี้การเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันบ้างเพื่อเสริมให้ชั้นผิวหนังมี
ความอิ่มฟู และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวสาว ๆ ก็สำคัญ
สำหรับอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน
เน้นดื่มชาหรือน้ำผลไม้แทน จากนั้นลองหาเวลาวันละประมาณ 15-30 นาที
หรือสัปดาห์ละ 3 วัน
ออกกำลังกายเพื่อให้เลือดเกิดการหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น
และช่วยเพิ่มความเปล่งปลั่งให้ผิวพรรณสำหรับสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการดื่มน้ำ
ปริมาณมากกว่าปกติ
หมดกังวลกับริมฝีปากแห้งแตกเป็นขุย
สำหรับสาวคนไหน
ที่มีปัญหาริมฝีปากแห้งแตกเป็นประจำควรรีบหาลิปบาล์ม วาสลีน ลิปมัน
หรือขี้ผึ้ง ติดตัวไว้ทาระหว่างวัน
เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นป้องกันความแห้งแตก แต่ถ้าริมฝีปากเป็นขุยจนไม่น่าดู
หลังจากแปรงฟันเสร็จให้ใช้แปรงสีฟันที่สะอาดขัดเบา ๆ
เพื่อลอกส่วนที่เป็นขุยออก ส่วนสาว ๆ ที่ชอบทาลิปสติกที่มีสีสันฉูดฉาด
ก่อนล้างหน้าให้นำน้ำผึ้งหรือวาสลีนทาที่ริมฝีปาก ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15
นาทีแล้วเช็ดออกด้วยผ้าสะอาดที่ชุบด้วยน้ำร้อน
แค่นี้ริมฝีปากก็จะชุ่มชื้นเนียนสวยตลอดทั้งวัน
เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผมแห้งชี้ฟู
ในช่วงอากาศหนาว
การสระผมทุกวันอาจเป็นอันตรายต่อสภาพเส้นผมได้
เพราะผมจะขาดน้ำมันในการหล่อเลี้ยง จนเกิดการแห้งฟู และหนังศรีษะลอกเป็นขุย
หรือกลายเป็นรังแคขึ้นมาได้ ทางที่ดีควรปล่อยให้หนังศรีษะได้มีเวลาผลิต
น้ำมัน
เพื่อหล่อเลี้ยงเส้นผมและหนังศรีษะบ้าง แล้วลองเปลี่ยนมาสระผมสัปดาห์ละ 2-3
ครั้งแทน
นอกจากนี้ทุกครั้งที่สระผมควรใช้ครีมนวดผมด้วยเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
แต่ถ้าผมแห้งมากเกินไป
หลังสระผมลองชโลมน้ำมันมะกอกเพียงเล็กน้อยเพื่อลดปัญหาผมแห้งชี้ฟูระหว่าง
วัน และสิ่งที่ไม่ควรทำ คือการใช้หวีเล็กซี่ถี่หวีผม
เพราะจะทำให้ผมเกิดการเสียดสีหรือไฟฟ้าสถิต จนกลายเป็นผมแห้งแตกปลายได้ง่าย
ๆ
ลดปัญหามือแห้งระหว่างวัน
ผิวหนังบริเวณมือเป็นอีก
หนึ่งสิ่งที่ไม่ควรละเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เพราะมือเป็นส่วนที่ค่อนข้างบอบบางกว่าส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย สาว ๆ
จึงควรพกครีมทามือติดตัวไปด้วยทุกครั้ง
เพราะทุกครั้งที่ล้างมือผิวหนังจะแห้งกร้านและมีอาการคันมือได้ง่าย
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการล้างมือด้วยสบู่แรง ๆ และอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยได้
คือ แช่มือในนมอุ่น ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2
ครั้ง ทำให้ผิวบริเวณมือได้คลายเครียดไปในตัว
ป้องกันการเกิดเท้าแห้งแตก
ถึงเท้าจะเป็นจุดที่สาว ๆ
เห็นความสำคัญน้อยที่สุดก็ตาม แต่อากาศหนาว ๆ
แบบนี้จะไม่ใส่ใจก็คงจะไม่ดีสักเท่าไหร่
การดูแลเท้าจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ
ดังนั้นทุกครั้งก่อนเข้านอนควรสวมถุงเท้าทุกครั้ง
เพื่อลดอาการหนาวและแห้งแตก
และควรหาเวลาแช่เท้าในน้ำเย็นที่ผสมด้วยน้ำมันมะกอกประมาณ 2-3 หยด
หรือใช้มะนาวบีบและขัดเบา ๆบริเวณส้นเท้าที่แตก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
และลดอาการแห้งตึง
ลดปัญหาตาแห้งจากอากาศเย็น
ลม
หนาวที่พัดแรงเช่นนี้ ดวงตาคู่สวยอาจจะต้องมีอาการตาแห้งกันบ้าง
ดังนั้นน้ำตาเทียมจึงเป็นอีกสิ่งที่ควรพกติดกระเป๋าไว้เช่นกัน ส่วนสาว ๆ
คนไหนที่ต้องการออกท้าลมหนาว การใส่แว่นกันแดดก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
เพื่อทะนุถนอมดวงตาให้สดใสแวววาวตลอดเวลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น