ไปไหนหรือทำอะไรก็ต้องเจอเพื่อนสาวชวนถ่ายรูปตลอด แถมไม่ทันได้เช็กภาพ
นางก็อัพขึ้น Instagram ซะแล้ว แต่กลัวที่ไหนล่ะ ก็เมกอัพเป๊ะพร้อมทุกสภาพ
ไม่มีหรอกที่จะหน้าลอย หน้าเทา อยากรู้มั้ยล่ะว่าต้องทำยังไง ไปติดตามกัน
เผชิญแสงไฟอย่างมั่นใจต้องเข้าใจเรื่องต่อไปนี้…
Base
การ
ลงผลิตภัณฑ์ชนิดครีมถือเป็นด่านแรกที่จะเริ่มปรากฏสีและแสงบนใบหน้า
ตั้งแต่ชั้นของครีมกันแดด ไพรเมอร์ รองพื้น รวมไปถึงคอนซีลเลอร์
หากเลือกผิดตั้งแต่ขั้นตอนนี้ก็จะแก้ไขยากแล้ว
Foundation
Foundation with SPF
ปัจจุบัน
มีรองพื้นหลายยี่ห้อที่ผสมสารกันแดดมาให้ ซึ่งหากไม่ได้ออกแดดนานๆ
ค่าของสารกันแดดในรองพื้นเพียง 20 ก็เพียงพอแล้ว
แต่ก็อาจจะเพิ่มการป้องกันอย่างอื่นเข้าไปอย่างการกางร่มหรือหมวก
ส่วนเหตุที่ต้องเว้นการทาครีมกันแดดไปนั้น
เพราะสารกันแดดโดยเฉพาะชนิดสะท้อนแสงแดด
จะก่อตัวเป็นแสงสีขาวเมื่อถูกแสงแฟลชหรือหลอดไฟสีขาวก็จะสะท้อนออกมาเป็นสี
ขาวเช่นกัน ดังนั้น หากต้องไปเจอแสงเหล่านี้ก็ควรข้ามการลงครีมกันแดดด้วย
Mr. Right for Skin Tone
สี
รองพื้นที่ใช่ช่วยทำให้ชีวิตดีได้พอๆ กับคนที่ใช่เลย เชื่อสิ
ไม่ว่าจะเจอแสงแบบใด
หากเลือกรองพื้นที่เป็นสีเดียวกับสีผิวแล้วยังไงก็ไม่มีปัญหาหน้าลอยแน่นอน
แต่ก็มีหลายคนที่ต้องการให้ผิวดูสว่างใสขึ้น
ก็เลยใช้รองพื้นที่สว่างกว่าใบหน้าซึ่งผิดมหันต์
วิธีการที่จะทำให้ใบหน้าดูสว่างยังมีอีกหลายทางเลือก
ไม่ว่าจะเป็นการลงแป้งไฮไลต์ สีลิปสติก
แต่ยังไงรองพื้นก็ต้องเป็นสีเดียวกับใบหน้าเท่านั้น
Primer, CC, BB (and Whatever)
ผลิตภัณฑ์ปรับพื้นผิว หรือปรับสีผิวทั้งหลายนั้นก็เป็นทางเลือกที่ดีในการแต่งหน้า
ยิ่งกับสาวๆ ที่ไม่ค่อยมีปัญหาผิวหรือไม่ชอบการปกปิด
จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ไม่เสียหาย
เพียงแต่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับสีผิวเดิม ไม่สว่าง
หรือไม่ทำให้สีผิวเพี้ยนไปจากเดิมมากนัก
และที่สำคัญคือลงผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่พอเหมาะ
หรือเพียงจุดที่มีปัญหาเท่านั้น
ไม่เช่นนั้นผลิตภัณฑ์ที่มากหรือกระจุกตัวเกินไปจะกลายเป็นการทำร้ายผิวสวยๆ
ได้
Warning! ไม่ว่าจะเลือกลงรองพื้นประเภทใด ต้องทาลงมาถึงเนินอกและหัวใหล่ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นนางหน้าลอยแหงๆ
Tip
ถึงแม้จะมีสีรองพื้นที่ตรงกับสีผิวแล้ว
ควรมีรองพื้นสีเข้มและอ่อนกว่าสำรองไว้ เพราะสีผิวของเราอาจเปลี่ยนแปลง
อาจคล้ำลงหรือขาวขึ้น ก็สามารถปรับผสมสีได้ตามสีผิว ณ ขณะนั้น
Powder
แป้งเป็นขั้นตอนต่อมาในการแต่งหน้าที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเทรนด์ในบ้านเรา
ยังไงก็ขาดแป้งไม่ได้
ซึ่งจะตรงข้ามกับเทรนด์บิวตี้ของเกาหลีที่จะไม่นิยมลงแป้ง
แต่ยังไงเสียหากเลือกจะลงแป้งก็ต้องเลือกชนิดแป้งและวิธีใช้
หากใช้ถูกก็เกิด แต่ถ้าพลาดละก็เสียหายหลายล้านเชียวล่ะ
Matt or Sheer
หลักๆ
แล้วแป้งแต่งหน้าทั้งหลายจะแบ่งเป็น 2 เนื้อคือ เนื้อด้านกับเนื้อมีประกาย
แล้วแต่ว่าแบรนด์จะกึ่งไปในทางไหน หรือมีการผสมรองพื้นหรือแร่ใดๆ
เข้ามาเพื่อเสริมประสิทธิภาพ ดังนั้น
ยังคงให้โฟกัสอยู่ที่เรื่องของสีที่ไม่ควรขาวจากผิวเดิมเกินไปอีกเช่นกัน
หรือจะให้ดีสามารถเลือกใช้แป้งโปร่งแสงซึ่งจะมอบความนวลเนียน
แต่ไม่ปกปิดสีผิวเดิมตามที่ได้ลงรองพื้นมา
HD Powder
หลาย
แบรนด์นำศัพท์ทางการถ่ายภาพมาใช้โดยตรง
เพราะกล้องถ่ายภาพในปัจจุบันนั้นแสดงรายละเอียดได้ชัดเจนมาก
ปัญหาการแต่งหน้าใดๆ ที่ผิดพลาดจะถูกจับได้หมดด้วยกล้อง ฉะนั้น
การแต่งหน้าก็ต้องพิถีพิถันสู้กับเทคโนโลยี
ซึ่งแป้งแต่งหน้าไม่เพียงทำให้ผิวสวยเท่านั้น
แต่ยังช่วยเรื่องการหักเหของแสงอำพรางจุดบกพร่อง
เช่นเดียวกับการลงฟิลเตอร์ที่สาวๆ สมัยนี้คุ้นเคย
Brush Hero
อย่าง
ที่บอกไปว่ากล้องถ่ายรูปสามารถจับทุกความผิดพลาดได้
ความละเอียดในการลงผลิตภัณฑ์จึงสำคัญและแปรงแต่งหน้าก็กลายเป็นสิ่งจำเป็น
เพราะลำพังพัฟฟ์ที่ให้มากับตลับแป้งนั้นไม่สามารถจะเกลี่ยงผงให้นวลเนียนและ
กระจายตัวทั่วใบหน้าได้
Tip
วิธีการเลือกแปรงก็
ไม่ยาก เพียงเลือกที่ปิดคางของเราได้มิด
และอีกด้ามให้เล็กลงมาสักครึ่งหนึ่งเพื่อเกลี่ยในส่วนเล็กๆ
อย่างซอกจมูกหรือขมับ
Setting Spray
เซ็ตติ้งสเปรย์อาจเป็นไอเท็มที่สาวๆ
ยังไม่ค่อยคุ้นเคยเพราะเพิ่งจะมีมาพร้อมๆ
กับกระแสใบหน้าดูโกลว์ผิวดูฉ่ำเหมือนไม่ได้ทาแป้ง
ดูเงาเหมือนมีน้ำเคลือบไว้แต่ไม่เยิ้ม ซึ่งทำให้ใบหน้าดูมีมิติ
ถ่ายรูปออกมาแล้วดูดีงามกว่าเพื่อนคนอื่นๆ บอกเลยว่าไอเท็มนี้ช่วยได้
What is Setting Spray?
ตามหน้าที่ของ Setting Spray ก็คือเซ็ตเมกอัพให้ติดทนนานยิ่งขึ้น
ซึ่งต่อมาได้พัฒนาให้มีหลายสูตร มีทั้งช่วยเพิ่มความเงางาม
บางสูตรผสมประกายชิมเมอร์บางสูตรช่วยเติมความชุ่มชื่น
หรือกระทั่งสเปรย์น้ำแร่ก็ใช้เป็น Setting Spray ได้ เพราะแป้งที่ดูหยาบๆ
อยู่บนผิวหน้าจะดูนวลเนียนขึ้นเมื่อได้โดนน้ำเพียงนิดหน่อย
Warning! Setting Spray
บางแบบมีส่วนผสมของน้ำมันเพื่อเพิ่มความเงางาม ฉะนั้น สาวๆ
ที่มีปัญหาหน้ามันอยู่แล้วอาจต้องดูให้ดีๆ หรือเลือกฉีดเป็นบางจุดเท่านั้น
• Dim Light
งานดินเนอร์ใต้แสงเทียนหรืองานฉลองท่ามกลางแสงจันทร์
แม้แสงสีเหลืองจะทำให้ใบหน้าดูนวลเนียน แต่เหล่าจุดด่างดำก็ต้องกลบให้มิด
ไหนจะริ้วรอยก็ต้องซ่อนเอาไว้ให้ดีๆ
• Sun Light
ไปเดตชิลล์ๆ ในสวนอย่าเผลอโปะรองพื้นจนหนา
เพราะการเจอแสงธรรมชาติต้องอาศัยความบางเบาเข้าว่า
แต่ก็ต้องทนเหงื่อและความมันด้วยนะ อยากจะสวยต้องเหนื่อยกันหน่อย
• Flash Light
งานปาร์ตี้ที่สาดแสงแฟลชน้อยคนที่จะรอด
งานนี้ได้วัดกันว่าฝีมือเมกอัพใครจะเหนือกว่า
แม้แต่เซเลบริตี้ชื่อดังก็ยังพลาดมาแล้วเมื่อต้องเผชิญกับแสงแฟลช ฉะนั้น
ก่อนออกจากบ้านต้องเกลี่ยแล้วเกลี่ยอีกให้ผิวเนียนเข้าไว้
ไฟหน้ากระจกพาจบเห่?!
ภาพห้องแต่งหน้าหลังเวทีเห็นได้จากภาพยนตร์หลายเรื่องจนสาวๆ
เข้าใจว่าแต่งหน้ากับเจ้าไฟนี้ฉันต้องสวยเริ่ดแบบดาราแน่เลย แต่ผิดจ้ะ!
เพราะไฟในห้องแต่งหน้าสว่างวาบเพื่อให้ช่างแต่งหน้าให้เหมาะกับสปอตไลต์ที่
ดาราต้องไปเจอ ส่วนสาวออฟฟิศเช่นเราแต่งหน้ากับไฟ Fluorescent
สีขาวปกติก็เพียงพอแล้ว
แต่ก็ต้องไม่ลืมลุกไปเช็กกับแสงธรรมชาติด้วยว่าใบหน้าดูกลมกลืนกับฟแสงหรือ
เปล่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น