การดื่มน้ำ
ที่เขาว่ากันว่าดื่มน้ำมากๆ ก็จะดี แต่ที่จริงแล้ว
ร่างกายของเราต้องมีสมดุล
เพราะฉะนั้นเราจึงควรรู้จักการดื่มน้ำที่ถูกต้องเพื่อผลดีกับร่างกายเรานะคะ
สำหรับการดื่มน้ำที่ถูกต้องนั้น ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำ 2-3
แก้วติดต่อกันในทันที หันมาใช้วิธีการดื่มไปเรื่อยๆ
เพื่อให้ร่างกายได้นำน้ำเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ในส่วนต่างๆ ของร่างกายค่ะ
และควรหยุดการดื่มน้ำพร้อมๆ กับการรับประทานอาหาร
เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การย่อยไม่ดีได้
ควรเลือกดื่มน้ำก่อนการรับประทานอาหารอย่างมากไม่เกิน 1 แก้ว
เพื่อให้น้ำย่อยมีประสิทธิภาพในการย่อยอาหารได้เต็มที่
หลังทานอาหารเสร็จแล้ว 40 นาที ค่อยดื่มน้ำตามปกติ
เพื่อให้กระเพาะได้ทำการย่อยอาหารเสียก่อน
การแบ่งช่วงเวลาการดื่มน้ำ
นอกจากการดื่มน้ำที่ถูกต้องแล้ว
ก็ยังต้องมีการแบ่งเวลาและปริมาณการดื่มน้ำที่ถูกต้องเพื่อให้ร่างกายได้ดูด
ซับเอาไปใช้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์ เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
ว่าเราต้องดื่มน้ำเวลาไหนและปริมาณเท่าไหร่กันบ้าง…
- ตื่นนอนตอนเช้าดื่ม 1 แก้ว เพราะเป็นช่วงที่มีความเข้มข้นของเลือดสูง เลือดจะมีลักษณะขาดน้ำ
-
ตอนสายๆ ประมาณ 2 แก้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีของเสียเกิดขึ้น
เพราะร่างกายได้ทํางานไประยะหนึ่งแล้ว
ฉะนั้นจึงควรดื่มน้ำเพื่อมาชําระของเสียเหล่านั้นออกไป
- ตอนบ่ายๆ และตอนเย็น ช่วงละประมาณ 3 แก้ว
-
ก่อนนอนให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว
เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งตกค้างในลําไส้และกระเพาะอาหาร
และยิ่งถ้าเป็นน้ำอุ่นด้วยแล้วจะยิ่งช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น
ดื่มน้ำอุ่นสิดี
นอกจากการดื่มน้ำที่ถูกต้อง การแบ่งช่วงเวลาและปริมาณที่เหมาะสมแล้ว
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญนั่นคือ การเลือกดื่มน้ำอุ่น นะคะ
เพราะน้ำอุ่นนั้นดื่มง่ายกว่าน้ำธรรมดา
เพื่อให้อุณหภูมิของน้ำที่ดื่มไม่ต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกาย
จะได้ไม่เป็นการไปดึงอุณหภูมิร่างกายให้เย็นลง
อุณหภูมิโดยปกติของร่างกายคนเรานั้นอยู่ที่ 36-37 องศาเซลเซียส
ถ้าเราดื่มน้ำเย็นๆ สัก 2 องศาเซลเซียส
น้ำเย็นจะต้องไปดึงความร้อนของร่างกายมาทำให้อุณหภูมิของน้ำเท่ากับร่างกาย
การดูดซึมจะทำงานได้
ทำให้ร่างกายสูญเสียพลังงานและเสียเวลาในการปรับสมดุลให้คืนสู่ปกติ
ดูซิ ! แค่การดื่มน้ำเนี่ย
ยังต้องมีวิธีการดื่มที่ถูกต้องและปริมาณที่เหมาะสม
แต่อย่าละเลยกันเป็นอันขาดนะคะ ดูแลร่างกายเราซะตั้งแต่วันนี้
เพื่อความแข็งแรงในวันหน้าค่ะ
ติดตามเรื่องราวของผู้หญิง ได้ทาง WomanPlus Magazine
ติดตามอ่านแบบออนไลน์ได้ที่ WomanPlus Magazine Online
หรือ ติดตามอ่านฉบับ Mobile App รายละเอียดได้ที่ http://www.womanplusmagazine.com/e-magazine
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น