วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รู้และเข้าใจ “วัยทอง” ของผู้หญิง



รู้และเข้าใจ “วัยทอง” ของผู้หญิง

รู้และเข้าใจ “วัยทอง” ของผู้หญิง

พอพูดถึง “วัยทอง” ผู้หญิงทุกคนแทบจะอยากหยุดเวลาเอาไว้ ไม่อยากก้าวเข้าสู่การเป็นวัยทอง. . . แล้วทำไมเราจะต้องกลัวขนาดนั้น วัยทอง...จะทำให้เราต้องเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน มาทำความเข้าใจ

พร้อมๆ กันเลยค่ะวัยทอง คืออะไร ?

“วัย ทอง” ก็คือช่วงอายุหนึ่งของชีวิต เป็นวัยที่รังไข่สร้างฮอร์โมนออกมาน้อยและไม่สม่ำเสมอทำให้มีประจำเดือนไม่ สม่ำเสมอ วัยทองรังไข่ทำงานน้อยลงทำให้สร้างฮอร์โมนออกมาน้อยลง ทำให้บางท่านอาจจะมีประจำเดือนมากขึ้นบางคนน้อยลง บางคนประจำเดือนห่างบางคนก็มาถี่ ฮอร์โมนนี้จะช่วยในการมีประจำเดือน การตั้งครรภ์ ความแข็งแรงของกระดูก ลดระดับ Cholesterol
วัยทอง เริ่มอายุเท่าไหร่ ?

ผู้หญิงที่อายุ ตั้งแต่30 ปีขึ้นไปจน 50ปีสามารถเกิดวัยทองได้ โดยเฉลี่ยคืออายุ 51 ปี สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่จะเกิดวัยทองได้เร็วกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ ผู้ที่ตัดรังไข่ก็สามารถเกิดวัยทองได้ทันทีหลังตัดรังไข่
วัยทอง มีอาการแบบไหน ?
- ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอเช่นมาเร็ว มาช้า มามาก มาน้อย มานาน
- มีอาการร้อนตามตัว หรือมีเหงื่อออก และหนาวสั่นในเวลากลางคืน อาการนี้จะเป็นนาน 1-5 นาที
- มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรือปวดตามข้อและกระดูก ไปจนถึงปวดศีรษะ ความจำลดลง
- มีอาการนอนหลับยาก ตื่นเร็ว อาจจะตื่นกลางคืนและเหงื่อออกมาก
- มีอาการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์เร็ว เครียดง่าย หงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ โกรธง่าย ใจน้อย ควบคุมอารมณ์ได้ยาก บางคนหลงลืมง่าย เวียนศีรษะ ซึมเศร้า
- เส้นผมจะหยาบและบางลง หลุดร่วงง่าย รวมไปถึงผิวหนังก็จะบางและแห้งลงด้วย เกิดอาการแพ้ได้ง่าย
- รูปร่างจะเปลี่ยนไป เอวหนาขึ้น ไขมันเพิ่มขึ้น
- การคุมกำเนิด ควรคุมกำเนิดอย่างน้อย 1 ปีหลังประจำเดือนครั้งสุดท้ายผู้ป่วยบางคนจะมีความรู้สึกทางเพศลดลงแต่บาง รายมีความรู้สึกทางเพศสูงขึ้น
- ปัญหาเกี่ยวกับช่องคลอดและกระเพาะปัสสาวะ เนื่องจากระดับ estrogen ลดลงทำให้เยื่อบุช่องคลอดแห้งและบางลงผู้ป่วยจะมีอาการปวดขณะร่วมเพศ และมีการติดเชื้อในช่องคลอดบ่อยขึ้น อาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะเล็ดเวลาจามหรือไอ วัยทอง ต้องรับมืออย่างไร ?
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเน้นการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม โยเกิร์ต พืชตระกูลถั่ว เต้าหู้ งาดำ ปลาเล็กปลาน้อยที่รับประทานพร้อมก้าง ผักใบเขียว เป็นต้น
- งดรับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง และเลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดิน การวิ่งเหยาะๆ เต้นรำ รำมวยจีน เต้นแอโรบิค
- ฝึกการควบคุมอารมณ์ให้มีความคิดในทางบวก และทำจิตใจให้แจ่มใสเบิกบาน
- ตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ปีละ 1 ครั้ง ตรวจเช็คความดันโลหิต ตรวจเลือดหาระดับไขมัน ตรวจภายใน เช็คมะเร็งปากมดลูก ตรวจหามะเร็งเต้านม และตรวจหาความหนาแน่นของกระดูก เป็นต้น
- ลดปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ รวมไปถึงการเลิกบุหรี่และแอลกอฮอล์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น