สำหรับสาวๆ
ที่นิยมตามแฟชั่นการแต่งกาย
แน่นอนว่าจะต้องใส่ใจในเรื่องของการแต่งกายเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะแฟชั่นรองเท้าที่ช่วงนี้นิยมการใช้รองเท้าเปิดส้น ดังนั้น
ปัญหาส้นเท้าแตกจึงเป็นดั่งปัญหาโลกแตกของสาวๆ กลุ่มนี้เลยก็ว่าได้
วันนี้เราขอเอาใจสาวกลุ่มนี้ด้วยการแบ่งปันเนื้อหาดีๆ มากมาย
ซึ่งเกี่ยวกับข้อควรทำและไม่ควรทำ
เพื่อการรักษาส้นเท้าแตกในหน้าหนาวให้ได้ลองทำตามกันดูดังนี้ค่ะ
สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อส้นเท้าแตก
- ไม่ควรปล่อยให้ร่างกายมีน้ำหนักที่มากจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้ส้นเท้าต้องรับน้ำหนักมากจนอาจทำให้ส้นเท้าแตกมากกว่าเดิม
- ไม่ควรให้ส้นเท้าแตกโดนน้ำบ่อยๆ เพราะจะยิ่งทำให้รอยแผลที่ส้นเท้าหายได้ยาก
- ไม่ควรอยู่ในห้องหรือสถานที่ที่มีอากาศเย็นมากเกินไป เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นมากจะทำให้ผิวแห้งง่าย
- ไม่ควรยืนเป็นเวลานานบนพื้นที่มีความแข็ง อย่างพื้นซีเมนต์ เพราะจะทำให้ส้นเท้าแตกเพิ่มขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นเปิดทุกครั้งที่จะต้องเดินบนพื้นเย็นๆ
เป็นประจำทุกวัน
เพราะรองเท้าประเภทนี้จะทำให้ส้นเท้าไปสัมผัสกับพื้นได้ง่ายและอาจทำให้ส้น
เท้ายิ่งแตกมากขึ้น
วิธีการรักษาส้นเท้าแตกในหน้าหนาว
- นำเปลือกกล้วยมาถูในบริเวณส้นเท้าแตก จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที
จึงค่อยล้างออก
โดยสารอาหารที่มีอยู่ในเปลือกกล้วยจะช่วยสมานส้นเท้าแตกได้เป็นอย่างดีเลยที
เดียว
- เลือกใส่รองเท้าหุ้มส้นและเลือกรองเท้าที่พื้นภายในมีความนุ่ม
และหมั่นใส่รองเท้าลำลองทุกครั้งที่เดินอยู่ภายในบ้าน
ที่สำคัญควรใส่ถุงเท้าทุกครั้งที่ต้องใส่รองเท้าเพื่อไปไหนมาไหนด้วยเช่นกัน
- ในแต่ละวันให้แช่เท้าในน้ำสบู่ประมาณ 10-15 นาที
เพื่อให้ผิวบริเวณส้นเท้าที่แห้งแตก
และมีความหยาบกร้านนิ่มลงและเนียนนุ่มมากขึ้น
จากนั้นให้นำหินมาขัดถูในบริเวณส้นเท้า
- ใช้ครีมนวดทาส้นเท้าให้ทั่ว
เพื่อให้ครีมที่ใช้สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวในบริเวณส้นเท้าไปอย่างทั่วถึงจน
ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นอีกครั้ง
- กลับจากการทำงาน ให้หมั่นทำความสะอาดและบำรุงส้นเท้าเสมอ
โดยนำเท้ามาแช่น้ำอุ่นที่ผสมสบู่ประมาณ 10-15 นาที
แล้วตามด้วยเช็ดเท้าให้พอหมาด
จากนั้นทาครีมสูตรพิเศษที่ผสมระหว่างวาสลีนและมะนาวครึ่งลูก
ชโลมลงบนผิวบริเวณส้นเท้า จะช่วยรักษาส้นเท้าแตกได้เป็นอย่างดี
- สร้างความอ่อนนุ่มให้บริเวณผิวส้นเท้าแตกด้วยกลีเซอรีนและน้ำกุหลาบ วิธีนี้จะเห็นผลได้เร็วเมื่อทำเป็นประจำทุกวัน
หน้าหนาวแบบนี้
ปัญหาส้นเท้าแตกถือเป็นเรื่องปกติที่หลายคนต้องเจอ
ดังนั้นคุณจึงควรรับมือกับมันให้ดี
เพื่อรักษาผิวบริเวณส้นเท้าให้เนียนสวยไม่แห้งแตกได้อีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น